ในห้วงแห่งรัก(NC+)

ตอนที่ 69 ความคลุมคลั่งบนหลังม้า 2



ตอนที่ 69 ความคลุมคลั่งบนหลังม้า 2

เมื่อปิยะไม่ได้ปฏิเสธ ภูผาก็ยิ่งมีความกล้ามากขึ้น เขาจับยก ปิยะขึ้นมานั่งเบื้องหน้าของเขา โดยเธอนั่งบนขาของเขา ขณะที่ เชื่อมต่อกัน ทั้งสองคนก็ส่งเสียงฟินยาวๆออกมา

“พี่สาว พี่นอนพิงบนหลังม้าเถอะ จะได้ไม่เหนื่อยมากเกินไป

ภูผาให้ปิยะนอนพิงบนหลังม้า ส่วนเอวของเขาโยกย้ายตาม จังหวะการเดินของม้า

“ภูผา…

ปิยะนอนพิงบนหลังม้าพร้อมเอามือลูบหัว และจ้องมองดวงดาว และดวงจันทร์จากบนท้องฟ้าอันริบหรี่ ขณะเดียวกันภูผาก็เข้าๆ ออกๆในร่างกายของเธอ วินาทีนี้คิดไม่ถึงว่าจะสวยงดงามเช่นนี้

เมื่อมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของปิยะ ภูผาก็ยิ้มแย้มด้วยความ เบิกบานใจ และยกขาเรียวยาวทั้งสองข้างของปิยะทาบบนไหล่ ของเขา เพื่อทำให้การหลวมรวมยิ่งลึกกว่านี้

“พี่สาว อยาก วิ่งร่อน”เมื่อครั้งที่แล้วไหม?”

ปิยะสะดุ้ง จากนั้นเมื่อนึกถึงฉากที่ภูผากอดเธอพลางทำพลาง ใบหน้าก็แดงระเรื่อ และพูดว่า : “ตามใจคุณเลย ครั้งนี้พี่เชื่อฟัง คุณ”

เมื่อภูผาได้ยินก็เบิกบานใจ รีบยกปิยะอุ้มไว้ ทำให้แนบชิดกับ หน้าอกของเขา “ผมจะเริ่มวิ่งร่อนแล้วนะ” ขณะที่พูดก็ตีบนท้องม้าจนเกิดเสียงสูงดังขึ้น จากนั้นมาก็เพิ่ง ฝีเท้าทั้งสี่ขา และรีบวิ่งร่อนตรงไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว

“ฮา!”

ปิยะกรีดร้องด้วยความตกใจ มือทั้งสองข้างคล้องคอของภูผา ขาทั้งสองข้างเกี่ยวตรงเอวของภูผา เพราะม้าวิ่งเร็วสั่นสะเทือน ทำให้ความรู้สึกครั้งนี้คลุ้มคลั่งและตื่นเต้นกว่าครั้งที่แล้วมาก

“พี่สาวชอบแบบนี้ไหม?

มือข้างหนึ่งของภูผาจับอานม้า ส่วนอีกมือจับสะโพกอันขาว เนียนของปิยะ และตะโกนถามขึ้น

“ช…ชอบ…”

ปิยะถูกสั่นสะเทือนจนร้องออดอ้อนออกมา

“พี่สาวอยู่ที่นี้เป็นเมียของผมเถอะนะ!”

ภูผารู้สึกดีใจอย่างมากที่สุด จนเผลอเอ่ยปากพูดถึงความในใจ ของตัวเองออกมา

คนบนเขาล้วนเรียกภรรยาว่าเมีย

ปิยะที่เคลิกเคลิ้มกับการบินร่อน เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็ดึงสติก ลับมา และเงยหน้าจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาของภูผา จากนั้นก็ อ้าปากอยู่สักพักใหญ่ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ

จู่ๆภูผาก็หวาดกลัวคําตอบของปิยะ เลยยิ้มและพูดว่า : “พี่สาว ผมแค่ล้อเล่น เดี่ยวผมจะยิ่งเพิ่มความเร็วนะ

เมื่อปิยะได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็โล่งอกทันที ขณะเดียวกันก็รู้สึก เศร้าใจ แต่ด้วยความเร็วในการสั่นสะเทือน ทำให้เธอลืมเรื่องนี้ไป เลย ค่ำคืนนี้เธอหายไปจากความคลุ้มคลั่งของภูผาไป…

ไม่กี่วันต่อมา หลังจากที่ฟ้ามืดชิด ภูผาก็จะพาปิยะไปขี่ม้าอีก ปิยะยินยอม เพราะเธอเริ่มหลงรักภูผาและความรู้สึกคลุ้มคลั่งบน หลังม้าแบบนี้ เกือบทุกครั้งที่คิดอยากปฏิเสธ แต่ขาทั้งสองข้าง กลับเดินตามภูผาไปโดยไม่รู้ตัว

เป็นเช่นนี้มาหนึ่งสัปดาห์ อาการบาดเจ็บของนิทัศน์ก็ดีขึ้นมาก วันนี้เริ่มจัดเก็บกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวจากหมู่บ้านชาลาไป ปิยะเอง ก็อยากกลับไปด้วยเหมือนกัน

หลังจากที่ภูผารู้ ทั้งตัวก็แข็งทื่อ เหมือนกับถูกทิ้งไว้ในถ้ำน้ำแข็ง หมื่นปี ถึงแม้ว่าเขาจะทำใจมาก่อนว่าปิยะต้องจากไป แต่เมื่อวันนี้ มาถึงจริงๆ เขากลับยอมรับไม่ได้

เมื่อไม่มีเวลารอให้ถึงกลางคืนก็เลยฉวยโอกาสทุกคนกินข้าว เสร็จและจัดเตรียมของ ภูผาพาปิยะออกมาอีกครั้ง ทั้งสองคนขี่ม้า ตัวหนึ่งวิ่งร่อนตรงไปภูเขาใหญ่หลังหมู่บ้าน

หลังจากมีประสบการณ์หลายวันมานี้ ภูผาก็กอดปิยะไว้อย่าง แน่น จากนั้นเอาเสื้อคลุมขนาดใหญ่ปกคลุมไว้ข้างหน้าร่างกาย ของทั้งสอง จากนั้นร่างกายส่วนล่างก็เริ่มเชื่อมติดต่อกัน

ภูผา แบบนี้ไม่ดีนะ ตอนนี้ยังกลางวันอยู่…

ปิยะพยายามขยับเขยื้อน อยากเข้าบริเวณร่างกายของภูผา ออกมา

“พี่สาว ให้บริเวณนั้นของผมค้างในร่างกายของพี่เถอะนะ ตอน บ่ายพี่ก็จะไปแล้ว ผม…ทำใจไม่ได้

ภูผากอดปิยะจากข้างหลัง ส่วนหัวก็วางลงบนหลังคอของปิยะ น้ำตาร้อนอุ่นไหลลงบนผิวหนังของปิยะ

ปิยะรู้สึกประทับภูผามาก ถึงแม้ตอนกลางวันอาจจะมีชาวบ้าน สัญจรไปมา แต่เพราะใจอ่อน เธอเลยพลิกมือลูบบนใบหน้าอัน หล่อเหลาของภูผา และพูดอย่างอ่อนโยนว่า : “ตกลง พี่จะอยู่เป็น เพื่อนกับความคลุ้มคลั่งครั้งสุดท้ายของน้องนะ”

กลับไม่รู้เลยว่าในตอนนี้ ปาลีกับดนุพลกำลังเก็บเห็ดและผักป่า บนภูเขาอยู่

วันที่อัพต่อ 2019-11-08


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ