ตอนที่390 ถูกส่งไป

ที่จริงตอนนั้นในเรื่องของจิรนาถ คนที่มีโทษมากที่สุด คือธนัท เพราะเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเขาวางแผนและ ดำเนินการทั้งหมด และทวิติยาก็แค่ช่วยเขาไปบางส่วน เท่านั้น และคนที่จิรนาถควรลงมือจัดการนั้นต้องเป็น ธนัทถึงจะถูก

แต่เวลาที่ธนัทอยู่บ้านมันน้อยมาก ถ้าไม่ใช่อยู่ที่ ทํางานก็คือมีงานเลี้ยง และธนัทคนนี้ก็ไม่ชอบคนอื่นไป แตะต้องของของเขามาก และห้องนอนและห้องหนังสือ ของเขาล้วนล็อกอยู่ตลอด แม้ทวิติยาก็ไม่มีกุญแจ ดัง นั้นปาลีก็เข้าใจจิรนาถมากที่เธอไม่มีโอกาสไปลงมือจัด การธนัท ฉนั้นความสนใจของเธอเลยย้ายมาที่ทวิติยา ก่อน

เห็นทวิติยาโดนจัดการปาลีก็ควรดีใจไปด้วย แต่วิธี ของจิรนาถยิ่งโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆ เธอเลยดีใจไม่ออก ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของดนุพลไป ด้วย

ดูท่าจะให้จิรนาถอยู่ต่อไม่ได้อีกแล้ว

ตลอดหลายวัน บรรยากาสในบ้านตระกูลกันตพัฒน์ ล้วนมีแต่ความกดดัน อย่างที่ปาลีคิดไว้ไม่ผิด ไอริณไม่ ได้กลับมาบ้านตระกูลกันตพัฒน์อีกแล้ว

ปาลีไม่รู้ธนัทได้คุยอะไรกับทวิติยา หลายวันนี้ทวิติยา ไม่ได้โวยวายว่าจะไปรับไอริณกลับมา เพียงแต่ครั้งที่แล้วที่เธอเป็นลมไป ร่างกายเธอก็ดูไร้พลังอย่างมาก

และดนุพลก็ไม่พูดถึงไอริณอีก แต่คิ้วที่ขมวดอยู่ ตลอดของเขาก็แสดงให้เห็นถึงความเบื่อหน่ายและ ความโกรธในใจของเขา

และในช่วงเวลานี้ ภาสวรและอิงดาวก็เคยกลับมาหนึ่ง ครั้ง เพียงแต่กินข้าวมือเดียวเสร็จพวกเขาก็ไปแล้ว

ดังนั้นเลยไม่มีคนไปสืบว่างูตัวนั้นจะไปอยู่ในห้องของ ได้ยังไง จิรนาถแอบสังเกตสีหน้าของทุกคนไปหลายวัน จากนนั้นเธอจึงค่อยๆวางใจลง ดูท่าไม่มีใครสงสัยในตัว เธอแล้ว

แต่มีแต่ปาลีรู้ว่าคนของตระกูลกันตพัฒน์ล้วนไม่ใช่ คนธรรมดา ทุกเรื่องพวกเขาจะไม่คิดที่ภาพภายนอก เท่านั้น ตอนนั้นที่พวกเขาไม่ได้ไปสืบเรื่องของงูตัวนั้น ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่สงสัยแต่เป็นเพราะงูตัวนั้นได้ ลากฐานะแท้จริงของไอริณออกมา และตอนนี้เรื่องนี้ เป็นเรื่องห้ามพูดถึงของพวกเขา และพวกเขาก็ยังไม่ สามารถยืนยันได้ว่าเรื่องนี้เป็นเธอทำหรือเป็นจิรนาถทำ

ปาลีมีแต่ถอนหายใจอย่างจนใจ การกลายเป็นผู้ต้อง สงสัยของพวกเขาเธอก็เดาถึงเรื่องนี้ได้นานแล้ว เพราะ ในบ้านตระกูลกันตพัฒน์มีแต่เธอและจิรนาถมีแรงจูงใจ ไปทำเรื่องนี้ และจิรนาถก็แสดงด้านอ่อนแอของเธอ ออกมาตลอด เกรงว่าตอนนี้คนที่พวกเขาสงสัยมาก ที่สุดไม่ใช่จิรนาถแต่เป็นเธอต่างหาก
ปาลีก็อยากจะอธิบายกับดนุพล ที่คนอื่นเข้าใจผิดเธอ เธอไม่สน แต่มีแค่ดนุพลไม่ได้

ตอนนั้นปาลีมองสายตาของดนุพลและพูดอย่าง จริงจังว่า“ดนุพล เรื่องนั้นไม่ใช่ฉันทำ”

ปาลีไม่ได้พูดชัดเจนว่าเรื่องนั้นคือเรื่องอะไร แต่ดนุ พลเข้าใจว่าที่ปาลีพูดนั้นเป็นเรื่องอะไร เขากอดปาลี แล้วพูดว่า “ฉันเชื่อเธอ ตอนนี้สิ่งที่เธอพูด ฉันล้วนเชื่อ หมด”

เขาเชื่อเธอจริงๆ ขอแค่ปาลียอมอธิบายกับเขาเขาก็ จะเชื่อเธอ เพราะเขาไม่อยากให้เรื่องสีปีก่อนได้เกิดขึ้น อีกครั้ง

ปาลียิ้มอย่างดีใจ เพียงแค่เขาเชื่อเธอก็พอแล้ว

กี่วันต่อมา

บนโต๊ะอาหาร จู่ๆดนุพลก็พูดว่าอยากจะส่งจิรเมธ ไปรักษาที่เมืองS บอกว่าคือโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของ เมืองSได้เชิญหมอชื่อดังคนหนึ่งจากต่างประเทศมา และหมอคนนั้นก็เชี่ยวชาญในด้านโรคหลอดเลือดสมอง ในผู้สูงอายุ ดนุพลใช้ความพยายามอย่างมากถึงได้ จ้องตำแหน่งหนึ่งให้คุณปู่ และเขาก็ได้เตรียมพร้องทุก อย่างที่นั่นแล้ว

เมื่อได้ฟังเสร็จ ธนัทและทวิติยาก็ไม่ปฏิเสธแน่นอน ยังไงบ้านเขาก็ไม่ขาดเงินอยู่แล้ว อย่าว่าแต่ไปเมืองSไปรักษาที่ต่างประเทศบ้านเขาก็มีเงินจ่าย อีกทั้งหลังทำ แบบนี้พวกเขาก็ยังได้ชื่อเสียงมีความกตัญญูไป มีแต่ ได้กับได้ จะไม่ทำได้ไง

และจิรเมธได้ยินอย่างก็ตกลงอย่างดีใจทันที

แม้ช่วงนี้ภายใต้การดูและของจิรนาถ อาการของจิร เมธได้ดีขึ้นเรื่อยๆแต่ยังไม่ได้หายดี เมื่อก่อนไม่มีจิร นาถอยู่ เขาจะดีหรือเลวเขาเองก็ไม่สนสักเท่าไหร่ แต่ ตอนนี้เขายังกลับไปแข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน และให้ ตนเองสามารถคู่ควรกับเธอได้

และช่วงนี้บ้านตระกูลกันตพัฒน์ก็เกิดเรื่องมากมาย คนฉลาดอย่างจิรเมธจะไม่รับรู้เรื่องบางอย่างได้ไง แต่ เขาก็เข้าใจความทุกข์ในใจของจิรนาถดี เขาไม่ไม่แข็ง ใจที่จะไม่ด่าว่าเธอใดๆ ดังนั้นการไปจากที่นี่เป็นวิธีแก้ ปัญหาที่ดีที่สุด

มีแต่จิรนาถคนเดียวที่ได้รู้การตัดสินนี้แล้วหันไปเข้า ห้องน้ำ และอยู่ในนั้นนานสองชั่วโมงถึงจะออกมา

กลางดึก ปาลีก็ได้รับข้อความของจิรนาถว่าอยากจะ พบเธอในสวนดอกไม้