ตอนที่ 429 ทรยศแม่ตนเอง

ขวัญชีวิโคนปาลีค่าจนหน้าซีดไปอีก ตอนนี้เธอเชื่อ ปาลีพูดได้ทำได้แน่นอน

เงยหน้ามองไปขอน แต่เมื่อกี้ยนโดนสุพจน์ขึ้นเสียง ใส่ตอนนี้มีแต่ก้มหน้าอยู่ ขวัญชีวือดด่าเขาว่าไก่อ่อนใน ใจไม่ได้ ตอนนี้อยากพึ่งพาผู้ชายคนนี้คงไม่ได้แล้ว แล้ว ขวัญชีวินึกถึงจาริณีอีกครั้ง

เมื่อนึกวิธีออกแล้ว ขวัญชีวีก็รีบขอโทษธาม ทำหน้า น่าสงสารแล้วพูดว่า “ตอนนั้นคนที่ส่งฉันไปบ้านตระกูล กาฬศิษย์เป็นจาริณี แม่ที่เลี้ยงฉันมาตั้งแต่เด็ก และคน ที่บอกว่าฉันเป็นคุณหนูรองของตระกูลกาฬศิษย์เป็นวิ สาข์ ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเธอพูดอะไรไปฉันก็เชื่ออย่าง นั้น ตอนนี้พวกคุณมาบอกว่าฉันเป็นของปลอม แล้วมา ตำหนิฉัน มันยุติธรรมต่อฉันหรอ ตอนนี้แม่ของฉันโสรจ ก็อยู่ที่ชั้นสอง พวกคุณมีความสงสัยอะไรก็ไปถามเธอ เลย”สุดท้ายเธอยังพยายามบีบให้น้ำตาไหลลงมา

เธอเอาความผิดทั้งหมดโยนไปที่จาริณี ตนเองกลับ ไม่มีความผิดอะไร แถมยังเป็นคนที่ถูกหลอกลวงด้วย

ณ ชั้นสอง ห้องแต่งตัวของเจ้าสาว จาริณีกำลังกิน อาการที่บริกรเอามาให้อยู่ ไม่รู้ทำไมตัวเธออดสั่นขึ้น มาไม่ได้ เธอยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอถูกลูกสาวตนเอง ทรยศแล้ว

มองดูขวัญชีวีที่แสร้งทำหน้าสงสาร ปาลี วิสาข์และจักรกฤษรู้สึกขยะแขยงมาก เพราะพวกเขารู้ว่าตั้งแต่ต้น จนจบขวัญชีวีล้วนรู้ว่าตนเองเป็นคุณหนูปลอม

แต่หลายคนที่ไม่รู้ความจริงยังหวั่นไหวกับท่าทางน่า สงสารของขวัญชีวี

สุพจน์พูดกับบอดี้การ์ดตนเองว่า“ไปชั้นสองจับผู้หญิง คนนั้นลงมา ”

บอดี้การ์ดได้รับคำสั่งของรีบไปชั้นสอง แป๊บเดียวก็ จับจาริณีลงมา

จู่ๆก็โดนคนไปจับลงมาจาริณีรู้กลัวมาก จนมองเห็น ขวัญชีวีแล้วเธอจึงรู้สึกวางใจ แล้วพูดว่า”ขวัญ นี่แกทำ อะไรฮะ ไม่ใช่บอกว่าไม่ให้แม่ปรากฏตัวในงานแต่งแก หรอ ทำไมยังให้คนมารับฉันลงมาล่ะ เพียงแต่คนนี้เสีย มรรยาทมาก เข้าไปก็จับคอเสื้อแม่ลากแม่ลงมา จบงาน แล้วเธอต้องไล่เขาออกนะ น่าเกลียดจริงๆ”จาริณียัง ไม่รู้สถานการณ์แล้วเริ่มมองตนเองเป็นคนสำคัญ

ขวัญชีวีรู้ขายหน้ามาก แต่เธอก็ไม่อยากพูดกับจาริณี มาก ใช้มือชี้ไปธามที่อยู่ข้างหน้าแล้วพูดว่า”คำพูดของ แม่เอาไว้ไปพูดกับพ่อเลย พ่อบอกว่าหนูไม่ใช่คุณหนู รองของตระกูลกาฬดิษย์ ปาลีต่างหากที่ใช่ แม่ นี่เป็น ความจริงหรอคะ”

คำพูดแรกเธอก็เริ่มวางกับดักให้จาริณีแล้ว

จาริณีอึ้งไป ถึงได้เห็นว่าธามก็อยู่ด้วย เธออึ้งไปนานถึงเข้าใจว่าที่ขวัญชีวีพูดนั้นหมายความว่าอะไร แต่ เธอคาดไม่ถึงเลยว่าขวัญชีวีได้ตัดสินให้เธอเป็นแพะ รับบาปแล้ว เธอยังคิดว่าขวัญชีวีกำลังส่งเตือนเธออยู่ เตือนเธอว่าเรื่องนี้จะยอมรับไม่ได้

ดังนั้นจาริณีก็ส่ายหัวปฏิเสธว่า“ใครบอกว่าปาลีเป็น คุณหนูรองของตระกูลกาฬดิษย์ ฉันเลี้ยงเธอมาตั้งแต่ เด็ก เธอเป็นลูกสาวใครฉันชัดเจนที่สุด ขวัญชีวีต่างหาก ที่เป็นลูกสาวของตระกูลกาฬดิษย์ พวกคุณอย่าไปเชื่อ ที่คนอื่นพูดเลย

ธามส่ายหัวอย่างผิดหวัง ความเปลี่ยนแปลงของจา ริณีในช่วงนี้เขาก็ไม่ใช่ไม่ได้พบเห็น แต่เขาแค่ขี้เกียจ ไปถาม เพราะอยู่กับคนอย่างจาริณี แค่พูดกับเธอก็รู้สึก เหนื่อยแล้ว

“ถึงตอนนี้แล้วเธอยังปากแข็งอยู่หรอ เมื่อฉันแค่คิดว่า เธอแค่ชอบเอาเปรียบ คาดไม่ถึงเธอกล้าไปโกหกแบบ นี้ เธอคิดว่าเธอไม่ยอมรับ ความจริงมันจะเปิดเผยอ อกมาไม่ได้หรือไง สมัยปัจจุบัน มันมีวิธีหลายอย่าง สามารถพิสูจน์ได้ว่าขวัญชีวีและปาลี ใครกันถึงเป็น ลูกสาวแท้ๆของวิสาข์ ช่างเถอะ วันนี้ฉันแค่ถามพวกแก คำเดียว พวกแกจะกลับไปกับฉันไหม”

ธามรู้ว่าการกระทำของขวัญชีวีและจาริณีตอนนี้ได้ ผิดกฎหมายไปแล้ว ถ้าสุพจน์และตระกูลกาฬดิษย์ สืบสวนความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเธอสองคนต้องติด คุกแน่นอน ถึงเวลานี้มีแต่ปาลีเท่านั้นที่ช่วยพวกเธอสอง แม่ลูกได้ แต่ปาลีไม่มีเหตุผลที่ทำดีต่อพวกเธออีกแล้วที่ธามพูดแบบนี้ก็เพื่ออยากให้ปาลีเห็นแก่หน้าเขาและ ไปช่วยพวกเธอ

จากเรื่องโสรจเล่าให้เขาฟัง ธามได้รู้ว่าปาลีตอนนี้ ได้ประสบความสำเร็จ ไม่เพียงแต่มีผู้ชายที่ทั้งรวยทั้ง ฐานะสูงส่ง เธอเองก็มีฐานะในสังคมไฮโซด้วย ดังนั้น ธามเชื่อเพียงแค่ปาลีออกมาต้องช่วยขวัญชีวีและจาริณี ได้แน่นอน แค่เมื่อทำแบบนี้ เขายิ่งรู้สึกผิดกับปาลีมาก

แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เขามีแต่ทำแบบนี้ แม้จะ ทำให้ปาลีเสียงใจก็ตาม ทีหลังค่อยหาวิธีไปชดเชยเธอ แล้วกัน