ตอนที่ 330 ลงเรือลำเดียวกัน

ปาลียิ้มอย่างเย็นชา ขวัญชีวีเธอเย่อหยิ่งแบบนี้มาโดย ตลอด โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ต่อหน้าผู้ชาย เธอเพียงต้องการ แค่ที่จะเอาชนะปาลี ราวกับสาบานว่าจะพิสูจน์อะไรเช่นนั้น กับเธอ ก็เหมือนกับที่เธอแย่งรฐาไปวันนั้น

พอนึกถึงรฐา ปาลีก็พูดขึ้นมาอีกว่า : “ รฐาติดคุกแล้ว เธอ น่าจะรู้นะ เธอได้ไปเยี่ยมเขาหรือเปล่า ? ”

ในระหว่างที่เกิดเรื่องกับรฐา ปาลีไม่เคยเห็นขวัญชีวีไป เยี่ยมเขาเลย เธอสงสัยจริงๆว่าขวัญชีวีไม่รู้เรื่องที่รฐาติดคุก หรอ ไม่อย่างนั้นทำไมถึงได้ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรขนาดนี้ได้ อย่างไร ?

ได้ยินดังนั้น ขวัญชีวีก็เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับพูดว่า : “ ฉันรู้ตั้ง นานแล้ว แต่มันไม่ใช่ธุระอะไรของฉัน ”

เรื่องราวระหว่างเธอกับรฐา น้อยคนนักที่จะรู้ ที่ผ่านมารฐา ไม่เคยรักเธอเลยจริงๆ สิ่งที่เขาต้องการก็ไม่พ้นร่างกายที่ อ่อนเยาว์และร้อนแรงของเธอ และจุดที่ตกต่ำที่สุดในชีวิต ของเธอคือการถูกทิ้ง ถูกขว้างเหมือนกับว่าเธอเป็นรองเท้า ที่ขาดรุ่ยคู่หนึ่ง ทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในเมือง เล็กๆเป็นเวลาถึงสามปี

หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มที่จะขอคืนดีกับเธอ แต่เมื่อได้รู้ว่า เธอเป็น “ คุณหญิงคนที่สองของตระกูลกาฬดิษย์ ” เขาก็ได้ ลงไม้ลงมือกับเธอในทุกอย่าง ทำให้เธอเปรียบเทียบเขากับดนุพล ดังนั้น หลังจากที่เกิดเรื่องกับรฐาเธอกไม่ได้ถาม อะไรและแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง อีกทั้งยังหาแฟนใหม่ได้ใน เวลารวดเร็วอีกด้วย

เมื่อได้ฟังขวัญชีวีตอบอย่างไร้ความรู้สึกนั้น ปาลีสาย หัว เธอเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า : “ เห็นเธอไปที่โรง พยาบาล ใครป่วยหรอ ? ”

เมื่อกี้ได้ยินขวัญชีวีพูดกับชยน : เข้าไปเยี่ยมแม่ ไม่รู้ว่าแม่ ที่เธอพูดนั้นหมายถึงจาริณี หรือว่าวิสาข์ ?

เมื่อเห็นว่าปาลีพูดถึงเรื่องนี้ ขวัญชีวีก็ยิ้มเยาะขึ้นมา รอย ยิ้มนั้นพอปา เห็นมันทำให้เธออยากที่จะเข้าไปตบมัน “ฉัน ก็พูดไปหมดแล้วไม่ใช่หรอ แม่ฉันป่วย ไม่ต้องถามว่าแม่คน ไหน และตอนนี้ฉันเป็นคุณหญิงคนที่สองของตระกูลกาฬ ดิษย์ วันนี้แม่ของฉันก็คือวิสาข์ ”

* เธอนี่หน้าไม่อายจริงๆเลย ”

ปาลีจ้องไปที่ขวัญชีวีอย่างเยือกเย็น “ ต่อหน้าฉันเธอยัง กล้าพูดว่าตัวเองเป็นคุณหญิงคนที่สองของตระกูลกาฬ ดิษย์ หรือเป็นเพราะหลายวันมานี้ฉันไม่ได้มาหาเธอ เลย ทําให้เธอลืมไปแล้วว่าเธอมันก็เป็นแค่ของเลียนแบบ…..

“ หุบปาก ! ”

ไม่คิดเลยว่า ครั้งนี้ท่าทางของขวัญชีวีนั้นกลับก้าวร้าว ไม่ กลัวอะไร เธอขยับใกล้เข้ามาหนึ่งก้าว จากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า : “ เมื่อก่อนฉันถูกเธอคุกคาม นั่นเป็นเพราะฉันไม่รู้ว่าคน รักของวิสา ตอนนั้นคือธนัท แล้วธนัทเป็นใคร ? เขาเป็น พ่อของดนผลไง ! แล้วดนพลคือใคร ? เขาเคยเป็นแฟน ของเธอไง ! อย่างนั้นไม่นับว่าเขาเป็นพี่ชายเธอหรอ ? เธอ สมสู่กับพี่ชายของตัวเอง พูดง่ายๆมันก็เป็นเรื่องที่ตลกที่สุด ในโลกเลย ถ้าหากว่าคนอื่นรู้เข้า เธอว่า เธอกับดนุพลจะ ยังสามารถมีหน้าอยู่กันบนโลกได้อีกหรอ ? จําไว้ พลังของ สังคม มันน่ากลัว ! ดังนั้น ตั้งแต่นี้ไป คุณหญิงคนที่สองของ ตระกูลกาฬศิษย์เป็นฉันได้แค่คนเดียวเท่านั้น หากว่าเธอไม่ อยากให้ความจริงถูกเปิดเผยและทำให้ดนุพลเสียชื่อและ ไม่มีที่ยืนเลย !

นี่เป็นคำพูดที่มีน้ำหนักที่สุดตั้งแต่ที่ขวัญชีวีเคยพูดมา แต่ละคำแหลมคมราวกับเข็ม ทิ่มแทงเข้าเนื้อ แต่ละประโยค ที่เธอพูด ทำให้สีหน้าของปาลีซีดลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ซีด ขาวเหมือนกระดาษ

ทุกวันนี้ เธอคิดเพียงแต่ว่าจะจัดการกับความสัมพันธ์ของ ตัวเองกับดนุพลอย่างไร จึงมองข้ามปัญหาข้อหนึ่งไป นั่นก็ คือ ….วันนั้นคนที่ได้ยินความจริง นอกจาเธอแล้ว ยังมีขวัญ

หรือพูดได้ว่า เรื่องที่เธอกับดนุพลเป็นพี่น้องที่มีพ่อคน เดียวกันนั้น นอกจากเธอคนเดียวที่รู้แล้ว ยังมีขวัญชีวีที่รู้ ชัดเจนด้วยเหมือนกัน

ร่างกายสั่นไหว ปาลีอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว มองดูใบหน้าที่ภูมิใจอย่างมากของขวัญชีวี เธอก็อยากจะฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สงบอารมณ์ อารมณ์ให้ใจเย็น จากนั้นก็ค่อยๆเผยรอยยิ้มที่ทำให้ขวัญชีวี ต้องตะลึงพร้อมกับพูดว่า : “ นี่คือเธอกำลังภูมิใจหรอ เธอ คิดว่าเธอมัดมือมัดเท้าฉันแล้วเธอก็จะทําเหมือนไม่มีอะไร ได้หรอ เธอนี่ตลกจริง ! ”

“ ฉันจะบอกเธอนะ ทิ้งเรื่องของฉันกับดนุพลไปก่อน ความ จริงคือเธอไม่ใช่คุณหญิงคนที่สองของตระกูลกาฬดิษย์ ตัวจริง ไม่มีวันจะเปลี่ยนแปลงได้เพราะเรื่องของฉันกับดน พลหรอก และบางทีวันหนึ่งก็อาจจะถูกคนจับได้ ดังนั้น เธอ ไม่ต้องมาภูมิใจ และยิ่งไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าเธอรู้ความจริง ทั้งหมดแล้วจะมาขมขู่ฉันได้ เพราะเทียบกับความสัมพันธ์ ระหว่างฉันและดนุพลถูกเปิดเผยนั้น เธอจะยิ่งต้องการตัว ตนของคุณหญิงคนที่สองของตระกูลกาฬดิษย์”

“เพราะถ้าไม่มีมันแล้ว เธอไม่เพียงแต่ที่จะถูกผลักไสให้ กลับไปที่เดิม ถึงตอนนั้น วิสาข์ จักรกฤษรวมถึงธนัท พวก เขาสามคนจะไม่ปล่อยคนที่โกหกความรู้สึกของพวกเขาไป แน่ และยังมีฉันกับดนุพลอีก เธอคิดออกไหมว่าถ้าถึงเวลา นั้นมันจะลงเอยยังไง ?

ในที่สุดความภาคภูมิใจบนใบหน้าของขวัญชีวีก็กลายเป็น แข็งทื่อ เธอกัดริมฝีปากล่างและจ้องมองไปที่ปาลี เป็นเวลา นานก่อนที่เธอจะพูดออกมากอย่างโกรธแค้นว่า : “ ก็ได้ เป็น เพราะเหตุผลที่เธอพูด อย่างนั้นพวกเราก็ลงเรือลำเดียวกัน แล้ว เพื่อประโยชน์ของพวกเราทั้งสองคน ต่อไปใครก็ห้าม พูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก และเธอก็ยิ่งอย่าเอาเรื่องนี้มาขู่ฉันอีก ตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะทำหน้าที่คุณหญิงคนที่สองของตระกูลกาฬดิษย์ของฉัน และเธอกับดนุพล จะทำอะไรยังไงกันก็ เชิญตามสบาย พวกเรา ไม่เกี่ยวข้องกันอีก ! “