ตอนที่ 101 ความคิดที่กล้าหาญ
จาริณีสงบอารมณ์โกรธของเธอไว้ และเอ่ยออกมาด้วย สีหน้ายิ้มแย้ม “หวานไม่เป็นไร แต่ธามเกิดอุบัติเหตุ เขาลัม ลงมาจากบันได ตอนนี้นอนอยู่ที่โรงพยาบาล คุณหมอบอก ว่าถ้าผ่านคืนนี้ไปได้ ก็จะไม่มีปัญหา ถ้าไม่ก็คงช่วยอะไรไม่ ได้แล้ว ฉันเลยคิดว่า…เธอควรที่จะไปเยี่ยมธาม คุยกับเขา ไม่แน่พอธามได้ยินเสียงเธอแล้ว เขาอาจจะฟื้นขึ้นมา
วิสาข์สตรีโฉมงามพอได้ยินว่าหวานของเธอไม่เป็นไร รู้สึกโล่งอกทันที แต่พอรู้ว่าธามเกิดอุบัติเหตุ จากสีหน้าที่ ผ่อนคลายเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วด้วยความกังวล เธอถามว่า “พี่ธามเขาตกลงมาจากบันไดได้ยังไง?”
ใช่แล้ว วิสาข์เป็นลูกพี่ลูกน้องของธาม พวกเขาเติบโต ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ทว่าตอนโต วิสาข์แต่งงานกับ ตระกูลคนรวย ได้ดิบได้ดี ไม่กลับบ้านเกิดอีกเลย มาเยี่ยม ญาติที่บ้านเกิดก็นับครั้งได้
จาริณีกินปูนร้อนท้องเมื่อถูกวิสาข์ถาม เลยรีบยิ้มแห้งและ ตอบว่า “อายุเยอะแล้วไง เธอก็รู้ธามปีนี้ก็อายุ 50 ปีแล้ว พอ คนแก่แล้วก็ต้องมีหกมีล้มบ้าง…
วิสาข์ไม่ได้สงสัยอะไร ต่อมา เธอย่นคิ้วเพราะความ ลำบากใจพร้อมพูดว่า “พี่ธามเกิดอุบัติเหตุแล้ว ฉันก็ควรที่ จะไปเยี่ยมเขา แต่ว่า…แต่ว่าสามีฉันใกล้จะกลับบ้านแล้ว เห็นว่าฉันไม่อยู่บ้าน จะต้องถามว่าฉันไปไหนมาแน่ๆเลย ถึง เวลาโดนสืบเรื่องหลายๆอย่างก็จะหลั่วไหลออกมา ฉันไปไม่ได้นะ!”
จาริณีเห็นวิสาข์จะปฏิเสธ เลยรู้สึกกระวนวาย คิดไปคิด มา เธอคิดอะไรออกเลยก้าวไปข้างหน้า และกระซิบว่า “วัน นั้นที่เธอคลอดหวานและทิ้งให้ฉันเลี้ยง หลายปีที่ผ่านมา เพราะเหตุผลบางอย่างก็ไม่มาเยี่ยมหวานที่บ้านเกิดเลยสัก ครั้ง ตอนนี้เขาโตแล้ว กลายเป็นหญิงสาวที่งดงาม หน้าตา ก็คล้ายคลึงเธออยู่เหมือนกัน ขณะนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล กำลังเฝ้าธามอยู่ ถ้าเกิดว่าเธอไปเยี่ยม จะได้เห็นหน้าเขา แน่นอน 22 ปีแล้ว เธอไม่อยากที่จะเห็นหน้าลูกสาวแท้ๆของ ตัวเองบ้างเลยเหรอ?
ทันใดนั้น สีหน้าของวิสาข์ก็เปลี่ยนไป เธอกัด ริมฝีปาก ของตัวเอง ในใจนั้นคิดแล้วคิดอีก ผ่านมานานมาก จนเธอ ตัดสินใจได้ และพูดว่า “ได้ ฉันจะไปโรงพยาบาลกับเธอ แต่ ว่า พอเจอหวานห้ามบอกเขาว่าฉันเป็นใคร ฉัน…ฉันตอน นี้ยังไม่สามารถยอมรับเขาได้ อีกอย่างคราวหน้าถ้าไม่ใช่ อะไรที่เกี่ยวกับหวาน เธอห้ามมาหาฉันที่นี่เด็ดขาด”
ไม่ใช่เป็นเพราะว่าวิสาข์ได้โชคได้ลาภ เลยไม่ยอมรับ ญาติจนๆที่อยู่บ้านนอก แต่จริงๆแล้ว…บางอย่างที่ผ่านไป แล้วหรือบางคนที่เคยรู้จักไม่สามารถที่จะถูกเปิดเผยออก มาได้ ที่แน่ๆห้ามไม่ให้สามีตอนนี้ของเธอรู้เด็ดขาด เธอ จึงจำเป็นต้องเป็นกิ้งก่าได้ทองหรือ “หญิงเลว” เพื่อปกปิด ความลับ “ได้ ฉันจําไว้แล้ว”
จาริณีพยักหน้า แม้สีหน้าจะดูเคารพนับถือ แต่ในใจคือ เกลียดจนเข้าไส้ ถ้าเกิดเป็นไปได้ เธอไม่อยากให้วิสาข์ได้เจอหน้าสามีเธอเลย เพราะระหว่างนั้นมีเรื่องบาดหมางใจ
กันเยอะพอสมควร
วิสาข์หยิบเสื้อคลุมตัวหนึ่งและขับรถพร้อมด้วยจาริณีไป ยังที่โรงพยาบาลเอกชนของนัฐพงษ์
เห็นว่าวิสาข์ขับรถเองได้ด้วย จาริณีที่มองจากข้างๆ ก็รู้สึก โกรธแค้นขึ้นมาอีก แต่เธอก็ไม่กล้าแสดงออกมาทางสีหน้า
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ทั้งคู่ถึงโรงพยาบาล
ตอนนี้ คนที่เฝ้าธามข้างเตียงผู้ป่วยเปลี่ยนเป็นขวัญชีวี แล้ว
เพราะว่าหลังจากที่ธามเกิดอุบัติเหตุแล้ว ปาลีก็ตกอยู่ใน สภาวะที เครียด กังวล และจิตใจพังทลายด้วยความหวาด กลัว ไม่นานมานี้เธอจับมือธามคุยกันไปคุยกันมา จนหลับ ไปโดยไม่รู้สึกตัว ดนุพลเลยอุ้มไปที่เตียงผู้ป่วยห้องข้างๆ กําลังพักผ่อนหลับสบาย
ขวัญชีวีกับกิตติมุ่งเข้าไป เพราะเพิ่งกลับมาจากห้องน้ำ พอดี เธอเลยไปนั่งเฝ้าธามข้างเตียงแทนปาลี
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หลังจากที่วิสาข์เข้าห้องผู้ป่วยก็เจอ ขวัญชีวี จิตใต้สำนึกนั้น เธอเห็นว่าขวัญชีวีเป็นหวานของ
เธอ
“หวาน…”
เธอจับมือขวัญชีวีด้วยความตื่นเต้น ทันใดนั้นน้ำตาเธอก็
ไหลออกมา
“คุณ…คุณคือใคร?
ขวัญชีวีสับสนกับการกระทำของวิสาข์ เลยเงยหน้ามองไป ที่จาริณี
จาริณีก็รู้สึกตกใจ แต่ก็เหมือนมีแสงสว่างส่องเข้าไปที่ตา ความคิดที่กล้าหาญในใจเธอกำลังจะงอกออกมา เธอไม่ ลังเล และรีบส่งสายตาไปที่ขวัญชีวีและบอกว่า “นี่คือน้าวิ สาข์ของเธอไง เป็นลูกพี่ลูกน้องของพ่อเธอ รีบเรียกน้าเร็ว เข้าสิ”
ขวัญชีวีไม่เข้าใจว่าทำไมจาริณีถึงทำสีหน้าแบบนั้น แต่พอ เห็นเสื้อผ้าแบรนด์เนมกับเครื่องประดับเพชรของวิสาข์ ถึง เธอจะโง่แค่ไหนเธอก็รู้ว่านี่ต้องเป็นญาติคนหนึ่งที่ร่ำรวย เป็นอย่างมาก เธอก็เลยเรียกวิสาข์ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน อย่างไม่ลังเล “สวัสดีค่ะ น้า!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ