ตอนที่ 340 เธอจะทำให้ทุกคนอึ้งอย่างแน่นอน

เพียงดูการต้อนรับจากเหล่าแฟนคลับที่สนามบิน ความแตก ต่างระหว่างถึงหนึ่งและหลังจื่ออี้ก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว ข่าวลือจะ แพร่ไปเช่นไรก็ได้ แต่ทันทีที่ถึงหนึ่งปรากฏตัว เพียงเหลือบ มองแค่ครั้งเดียวก็มากพอจะแยกออกแล้วว่าอะไรคือความนิยม และความสามารถที่แท้จริง

ก่อนที่พวกเขาจะก้าวขึ้นเครื่องบิน หลงเจียก็สังเกตเห็น หลานกับหลิงจื่ออี้ หญิงสาวก้มหน้าลงและหันไปพูดกับถัง หนึ่งว่า “คุณอยากจะเดินไปทักทายหน่อยไหมคะ หลานเขา เดินตามนางแบบหน้าใหม่นั่นไปทุกที่เลยค่ะ เห็นได้ชัดว่าเด็ก คนนั้นสำคัญกับเธอแค่ไหน

“ไม่จำเป็นหรอก” ถังหนึ่งตอบอย่างรวดเร็ว หลงเจี่ยดูจะ ลืมเหตุการณ์ที่ตัวเองถูกสั่งให้คุกเข่าที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นาน มานี้ไปเสียแล้ว แต่ถึงหนึ่งจะจำเหตุการณ์นั้นไปตลอดชีวิตของ เธอ

ความเป็นจริงแล้ว หลงเจียก็ไม่ได้ลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท แต่เพราะไม่อยากให้ถังหนิงต้องเครียด เธอจึงแสร้งทำเป็น ผ่อนคลาย
หลงเจียพยักหน้าก่อนจะกระซิบที่หลังหนึ่ง “นายใหญ่ร้าย ขึ้นเรื่อยๆ เลยนะคะเนี่ย…

“เธอเพิ่งรู้จักเขาวันแรกหรือไง”

ความจริงแล้วหลิงจื่ออยากจะใช้ชื่อถังหนึ่งเพิ่มความ นิยมให้ตัวเอง ทว่าถังหนิงเองก็รู้จักวิธีพลิกสถานการณ์และ พิสูจน์ระดับสถานะของตัวเองได้ ในระหว่างนี้เธอพักการถ่าย หนังเอาไว้ แต่แม้ว่าเธอจะหายหน้าไปอีกสักสองสามวัน สถานะของเธอก็จะหายไปเลยเชียวหรือ

หากเธอเซ็นสัญญากับเอเจนซี่อื่น ก็อาจจะเป็นเช่นนั้น แต่ พวกเขาเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าใครเป็นคนหนุนหลังถึงหนึ่งอยู่

แน่นอนว่าหลานย่อมสังเกตเห็นถึงหนิงกับหลงเจีย ที่ สำคัญที่สุด เธอยังสังเกตเห็นชายผู้เป็นดุจราชาแห่งวงการ บันเทิงที่เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาตรงๆ

“ฉันก็แค่ขโมยงานดีๆ มาจากมือถังหนึ่งแค่สองสามงาน เอง ทำไมแค่นี้ไม่รุ่ยถึงรับไม่ได้กันนะ” หลังจื่ออี้บ่นอุบ “พวก เขาควรหยุดพูดได้แล้วว่าฉันจะไร้ค่าทันทีถ้าถังหนึ่งไปปรากฏ ตัวที่แฟชั่นอีก ทั้งที่จริงๆ แล้วตัวหล่อนเองนั่นแหละที่เป็นคนไม่ โผล่หน้าไปที่งานเอง”

“สถานะของเธอในตอนนี้ยังไม่สูงพอจะให้ชื่อเธอได้ถูก พูดถึงอยู่ในประโยคเดียวกับชื่อถังหนึ่งหรอกนะ อดทนอีก หน่อยก็แล้วกัน” หลานชีพยายามโน้มน้าวหลิงจื่ออี้ “ถังหนิงมา ถึงจุดนี้ก็เพราะเธอมีความสามารถจริงๆ
“แต่ว่า…”

“พอได้แล้ว เดี๋ยวเราจะได้เจอคนจากในวงการอีกมากที่ งานแต่งงานของเฟิงเกอ ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ เธอจะ ตามถังหนึ่งได้ทันในเร็ววันแน่

แม้หลานจะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงหนึ่งถึงไปไม่ไปงาน แฟชั่นอีก แต่เธอก็ไม่เคยเชื่อข่าวลือที่แพร่อยู่เลยแม้แต่ครั้ง เดียว เพราะไม่มีใครรู้ว่าถังหนึ่งหัวใสแค่ไหนมากเท่าเธออีก แล้ว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลานกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ไม่ถึงอาจจะยังมีแผนอะไรซุกซ่อนอยู่ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจว่า จะเป็นการดีที่สุดหากไม่เข้าไปเย้าแหย่ถึงหนึ่ง เผื่อว่าเธอจะ เผลอล่อลูกตบเข้ามาที่หน้าของตัวเองอีกครั้ง โดยไม่รู้ตัว

เพราะถึงอย่างไร เหตุการณ์เรื่องตัวเฮาเองก็เพิ่งจะผ่าน

พ้นไปได้ไม่นาน

ฮั่วจิงจิงกับฟังอวี้เดินทางไปถึงสถานที่จัดงานก่อนถึงหนึ่ง ทันทีที่พวกเขาพบหน้ากัน ฮั่วจิงจิงก็อดดึงถึงหนึ่งเข้ามากอด แล้วลากเธอเข้าไปในห้องนอนเพื่อ “คุยกันแบบสาวๆ

“ยัยหลิงจื่ออี้ที่เพิ่งจะเป็นข่าวเมื่อก่อนหน้านี้น่ะจะเข้าร่วม งานแต่งงานในคืนนี้ด้วย เธอวางแผนจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง สื่อน่ะจ้องจะโยงเธอเข้ากับ
“ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ ที่ฉันไม่ได้ไปงานแฟชั่นอีกก็เป็นเรื่อง

จริง ถังหนังอมยิ้มด้วยความสงบดังเช่นเคย

“เมื่อกี้ฉันเพิ่งไล่ดูข่าวบันเทิง ดูเหมือนเธอกับท่าน ประธานจะทำให้สนามบินปักกิ่งชุลมุนวุ่นวายกันใหญ่เลยนะ ฉันว่าฉันเริ่มจะเข้าใจเจตนาของท่านประธานแล้วล่ะ

“ยังไงก็ช่าง ถ้าหนังของเธอเกิดไม่ได้เรื่องขึ้นมาละก็ เธอ

ยังมีฉันนะ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถึงหนึ่งก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย หญิง สาวเบิกตากว้างจ้องหน้าชั่วจิงจิง “เธอนั่นแหละที่ไม่ได้เรื่อง

“แต่เธอเป็นนางแบบนะ! ถ้าฉันเป็นเธอละก็ ฉันคงเล่น เป็นศพได้เท่านั้นนั่นแหละ ศพที่นอนอยู่กับพื้นน่ะ” ฮั่วจิงจิง แคลงใจในตัวถังหนิงโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้น เธอ

จะโทษฮั่วจิงจิงก็ไม่ได้ที่ไม่เชื่อในความสามารถด้านการ แสดงของถังหนึ่ง หากคนอื่นๆ ไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ก็คงมี ไม่กี่คนที่เชื่อว่าหญิงสาวมีความสามารถที่น่าอัศจรรย์ใจแค่ ไหน

อีกอย่าง ถังหนิงเองก็ไม่ได้แก้ตัวอะไรเลย เธอเพียงแต่ ยิ้มออกมาเพราะเธอรู้ดีว่าเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ว่าใครถูกใคร ผิด

เนื่องจากยังเหลือเวลาอยู่ประมาณหนึ่งจนกว่างานแต่งจะ เริ่ม หนุ่มๆ จึงไปรวมตัวกันที่ห้องอ่านหนังสือเพื่อคุยเรื่องงานขณะที่สาวๆ พากันไปนั่งดูหนังฆ่าเวลา

ตอนนั้นเองที่หลงเจียดูจะนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ หญิง สาวลุกฝังจากที่นั่งของตัวเองและยื่นโทรศัพท์ของเธอให้ยั่วจึง จิงราวกับเป็นสมบัติอันล้ำค่า “คุณอยากดูการซ้อมของคุณถัง หนิงไหมคะ ฉันรับประกันเลยว่าน่าประทับใจมาก

“การซ้อมงั้นเหรอ” ชั่วจิงจึงวางแก้วไวน์แดงในมือลงและ

รับโทรศัพท์เครื่องนั้นมา

“ใช่แล้วค่ะ อย่างที่คุณทราบดีว่าจู่ๆ คุณถึงหนึ่งก็โผล่ไป ที่กองถ่าย ตอนนั้นน่ะไม่มีใครชอบเธอเลยสักคน โดยเฉพาะ นักแสดงนำชายที่ชื่อหลินเชิง ดังนั้นคุณถึงหนึ่งก็เลยประกาศ กับผู้กำกับว่าอยากจะลองแสดงให้ทุกคนดูสักฉากแล้วให้พวก เขาเลือกว่าจะให้เธออยู่หรือไป ถ้ามีใครที่รู้สึกว่าการแสดง ของคุณทั้งหนึ่งไม่ดีพอละก็ พวกเขาคงบอกให้เธอออกจากกอง ถ่ายไปแล้วค่ะ!”

ฮั่วจิงจึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อยแต่ไม่รู้สึกประหลาดใจเลย นี่ เป็นวิธีที่ถังหนิงทำบ่อยเวลาที่เธอเตรียมจะหักหน้าใครสักคน แต่ครั้งนี้พวกเขาพูดถึงเรื่องการแสดงหนังกันอยู่นะ…

ฮั่วจิงจิงกดเล่นวิดีโอบนมือถือของหลงเจียด้วยความ สงสัยเป็นอย่างมาก จากนั้นเธอก็เห็นถึงหนึ่งกำลังแสดงเป็นตัว ละครนำหญิง เป็นฉากที่เธอเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์

ถังหนิงไม่ได้ไปร่วมวงกับสองคนนั้นด้วย เพียงแต่ยืนอยู่ ข้างหน้าต่าง มองออกไปยังสายฝนโปรย หญิงสาวพลันรู้สึกขึ้นมาว่าอากาศเช่นนี้ช่างไม่เหมาะกับบรรยากาศงานแต่งงาน เอาเสียเลย

ฮั่วจิงจิงไม่รู้ตัวว่าตัวเองดูคลิปสั้นๆ นั่นจบไปตอนไหน แต่ หลังจากวางมือถือเครื่องนั้นลงแล้ว เธอก็คิดแค่ว่า “ถ้าฉันเป็น ไม่ถึงละก็ ฉันจะให้เธอไปเอาดีด้านการแสดงเหมือนกัน ลืม รันเวย์ไปเหอะ!”

“ฉันคิดมาตลอดเลยนะว่าเธอเกิดมาเพื่อรันเวย์ แต่พอได้ เห็นการแสดงของเธอแล้ว ฉันว่าการเป็นนางแบบคงกลายเป็น แค่สายงานรองที่เอาไว้ให้เธอทำเล่นๆ แล้วล่ะ

“เธอไม่ต่อต้านแล้วเหรอ” ถังหนึ่งหัวเราะพลางเอ่ยถามว

จิงจิง

“หลังจากอยู่บนรันเวย์มานานหลายปี เธอเองก็รู้อยู่แล้ว ใช่ไหมว่าวงการของเธอน่ะหากินกับความสาวความสวย ทุก วันนี้มีนางแบบมากความสามารถอยู่เยอะแถมการแข่งขันเองก็ ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ อีก พอเราอายุสามสิบกันเมื่อไหร่ ฉันก็สงสัย จริงๆ ว่าจะยังมีใครจำชื่อเราได้อยู่ไหม” ฮั่วจึงจึงถอนหายใจ พลางยกมือขึ้นมากุมหัวและจิบไวน์ในแก้วต่อ

“ตรงกันข้าม นักแสดงน่ะต่างออกไป

“นักแสดงมีภาพยนตร์

“พวกเขายังได้ทิ้งบางอย่างเอาไว้บนโลกใบนี้

“ดูๆ แล้ว ฉันเดาว่าไม่ถึงคงกำลังบ่มให้เธอเป็นนักแสดงหญิงชั้นอยู่และเมื่อวันนั้นถึง สถานะเราห่าง กันจนเทียบ

เป็นอย่างนั้นปล่อยให้พูดอย่างที่พวกเขาอยากจะ พูดไปเถอะ ใครสนล่ะเธอเลือกไม่ไปงานแฟชั่นวีกเอง

“ไปเอาดีด้านการแสดงเถอะ”

“หนังออกฉายเมื่อไหร่ เธอทำให้อึ้งแน่นอน อย่างฉันอึ้งอยู่ตอนนี้” เป็นสิ่งชั่วจึงจึงรู้สึก เธอซึ่งกับที่ถังหนิงทำได้จริง

เดิมหญิงสาวคิดถังหนึ่งนั้นอยู่ในระดับเดียวกันกับเธอ

ความแตกต่างอยู่จุดหนึ่ง “นั่นใช่ที่ฉันควบคุมได้หรอกนะถังหนึ่งพูดเรื่อง นั้นต่อและเปลี่ยนคุยงานแต่งงานของฟังอย่างแนบ

เนียน ดูเหมือนช่วงคนจะแต่งเรื่อยๆ เลย

อิจฉาหรือไง” ฮั่วจิงจึงแกล้งหยอก เธอกับท่านประธาน น่ะกันมาตั้งนานแล้วนะ อะไรที่เธอต้อง

“ถึงตัดสินใจประกาศการแต่งงาน

ถ่ายทำเสร็จหนึ่งหญิงสาวทั้งสอง

ตั้งแต่แรกยังไง ฉันไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงเรื่องมาก่อนเลย…” ในหัวชั่วจิงจิงเต็มไปด้วยความสงสัย

ความจริงแล้ว แม้แต่กับตัวถังหนึ่งเอง เธอยังรู้สึกว่าการ แต่งงานของเธอเป็นเรื่องเหลือเชื่ออยู่เลย มุมปากหญิงสาวจึง ค่อยๆ โค้งขึ้น “วันที่เราแต่งงานกัน เป็นครั้งที่สองที่เราเคยพบ กัน ครั้งแรกที่พบกันนั้นคือได้เจอหน้ากันในงานเฉยๆ

“วันนั้นฉันเดินไปขวางทางเขาแล้วถามว่าเขาอยากจะ แต่งงานกับฉันไหม

“ครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาก็ตอบตกลง แล้วเราก็ได้ทะเบียนสมรสกัน”