สามีที่รักต้องทํางานหนัก

ตอนที่ 322 คืนนี้คุณเดือดร้อนแน่



ตอนที่ 322 คืนนี้คุณเดือดร้อนแน่

รีสอร์ตคายูมานิสบูชาตัว คือสถานที่จัดพิธีมงคลสมรสริม ชายหาดของฟัง และยั่วจิงจิง หลังจากพิธีเสร็จสิ้น ลำดับต่อ มาของตารางเวลาก็คือดินเนอร์รับแขก ใต้แสงเทียนสุดโรแมน ติกและอบอุ่นหัวใจ

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ศิลปินของไหนุ่ยและเหล่าสมาชิก ของสื่อก็กรูกันเข้าไปในสถานที่จัดงาน สื่อแต่ละแห่งได้รับ ของชำร่วย เมื่อเดินทางมาถึงและหลังจากเข้าร่วมงาน พวก เขาไม่รายงานข่าวด้วยความก้าวร้าวเลยแม้แต่น้อยและถ่าย ภาพเมื่อยามจำเป็นเท่านั้นเพื่อให้แขกเหรื่อ ในงานได้รู้สึกผ่อน คลาย

ในความเป็นจริงแล้ว เหตุผลที่สื่อทำตามกฎก็เพราะพวก เขาได้เซ็นข้อตกลงลับมาก่อนหน้านี้ หากพวกเขาต้องการเรื่อง ราวพิเศษๆ และอยากรู้เรื่องที่คนอื่นๆ ไม่รู้ พวกเขาจะต้องทำ ตามที่ฟังอวบอกทุกอย่าง

แน่นอนว่าฟังอนั้นค่อนข้างใจใหญ่กับ ของชำร่วย ด้วย เหตุนี้สื่อทั้งหลายจึงยิ้มจนปากแทบจะฉีกไปถึงหู

เมื่อราตรีมาเยือน รีสอร์ตเขตร้อนนี้ก็ก้องกังวานไปด้วย เสียงไวโอลินอันแสนไพเราะและคลาคล่ำไปด้วยเหล่าเซเลบที่ เดินกันขวักไขว่อยู่ในสถานที่จัดงานธีมป่าฝน ฟังอวี้สวมชุดสูทสีเงิน ปักดอกกุหลาบสีแดงตรงอก ชายหนุ่มโอบแขนชั่วจึงจึงผู้ สวมชุดลูกไม้สีขาวอยู่แทบจะตลอดเวลา พวกเขาดูเหมือนคู่แท้ ที่สวรรค์สร้างมาเพื่อให้มีความสุขร่วมกัน

ทั้งคู่เดินไปกล่าวทักทายแขกทุกคนในงาน ทว่าไม่ถึงและ ถังหนึ่งยังไปไม่ถึงที่งาน

“เออแนะ ในเมื่อท่านประธานไม่ยังเดินทางมาไม่ถึง ผมมี ไอเดียดีๆ อยู่นะครับ เจ้าบ่าวของเราช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ ไหมครับว่าตกหลุมรักเจ้าสาวครั้งแรกเมื่อไหร่” ศิลปินชาย เล่นคนหนึ่ง โพล่งออกมา เสียงปรบมือพลันกึกก้องไปทั่วสถาน ที่จัดงานพร้อมด้วยเสียงผิวปากแซวที่ดังตามมาเป็นระลอก

คู่รักยืนอยู่บนเวทีโดยที่ฮั่วจิงจิงซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของ ฟังอวี้ ชายหนุ่มหัวเราะออกมา “ภรรยาของผมเป็นนิดหน่อยนะ ครับ…

“เธอเป็นก็ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณยังเล่าให้เราฟังได้ นา” บรรดาแขกเรียกร้อง

ฟังอวี้มองหน้าฮั่วจิงจิงและพยายามขัดขืนต่อ “นี่เป็นเรื่อง สำคัญที่ผมต้องเล่าให้ภรรยาของผมฟังก่อนนะครับ พวกคุณ จะได้สิทธิ์พิเศษแบบนั้นได้ยังไงกัน

“พี่สะใภ้ครับ ถ้ายังเอาแต่ซ่อนอยู่แบบนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิครับ!”

ใบหน้าฮั่วจิงจิงเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะที่เธอพูดพึมพำอยู่ในอ้อมแขนของฟังอ “เล่าให้พวกเขาฟังไปเถอะค่ะ ฉันเองก็ อยากรู้เหมือนกัน”

“ฮ่าๆ พี่สะใภ้เห็นด้วยแล้วนะครับ เร็วท่านรองฯ เล่าให้ เราฟังหน่อยครับ

ฟังอถอนหายใจและยอมรับชะตากรรมของตัวเอง “ก็ได้ ครับ” ชายหนุ่มคว้าไมค์มาจากพิธีกรและเริ่มอธิบายให้แขกทุก คนฟัง “จริงๆ แล้ว เธอเข้ามาอยู่ที่ไหนุ่ยก่อนผมครับ ดังนั้น ตามหลักแล้ว เธอเป็นเหมือนรุ่นพี่ของผม ผมยังจำครั้งแรกที่ เห็นเธอได้ดีครับ ตอนที่ผมมองเข้าไปในดวงตาเธอ ผมก็คิด กับตัวเองว่าผู้หญิงคนนี้มีเรื่องจะบอกเล่าอยู่มากมายอย่าง แน่นอน”

“บอกตามตรง ครั้งแรกที่ผมรู้สึกบางอย่างกับเธอคือตอน ที่เธอถูกทำร้ายและถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลครับ ตอนนั้นเธอ สูญเสียความหวังทุกอย่างในชีวิตไปจนหมดสิ้น ผมตระหนักว่า ตอนที่ผมเห็นเธอ หัวใจผมก็รู้สึกหวั่นวิตกเป็นอย่างมากเลยล่ะ ครับ ผมไม่รู้ว่าผมจะช่วยเธออย่างไรดี

“ตลอดมาผมคิดว่าความรู้สึกของผมมาจากมิตรภาพฉัน เพื่อนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นครับ จนกระทั่งตอนที่เธอไปทำให้ นักการเมืองท่านหนึ่งไม่พอใจเข้านั่นแหละครับ ที่จุดประกาย ให้ทุกอย่างเริ่มชัดเจน แม้ทุกอย่างที่ผมทำให้เธอในตอนนั้น มันจะไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่ผมก็ดูจะห้ามตัวเองไม่ได้เลยครับ

“ผมทราบดีว่ายังมีคนอีกมากที่คิดว่าเธอเป็นเพียงรองเท้าเก่าๆ คู่หนึ่งที่ไม่ควรคู่กับผม แต่ผมอยากจะพูดบางอย่างที่มา จากก้นบึ้งของหัวใจของผมครับ ว่าสิ่งที่ผมประทับใจที่สุดใน ตัวเธอ ก็คือความกล้า ไม่ว่าเธอจะต้องเจ็บอีกสักกี่ครั้ง แต่เธอ ก็จะยืนหยัดเพื่อเพื่อนๆ ของเธอเสมอ และไม่ว่าเธอต้องผ่าน ความเจ็บปวดมากมายแค่ไหน เธอก็ยังสามารถรวบรวมและ กำลังของเธอเพื่อเริ่มใหม่อีกครั้งได้

“ผมรู้สึกว่าคนอย่างเธอมีออร่าบางอย่างที่ส่องประกายอยู่ ตลอดเวลาครับ!”

“แม้แต่ตอนที่ผมต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่มืดหม่น การ มองไปที่เธอเพียงแวบเดียวก็พอแล้วที่จะทำให้ผมเดินไปยัง ทางที่ถูกต้อง ดังนั้นผมจึงอยากทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อ ปกป้องเธอผู้เป็นดั่งแสงสว่างของผมครับ

ผู้คนในงานล้วนรู้สึกซาบซึ้งเมื่อได้ยินประโยคเหล่านั้น เซ เลบผู้อ่อนไหวบางคนถึงกับต้องเช็ดน้ำตาบนใบหน้า

ดูเหมือนจะมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจถึงความยาก ลำบากของการอยู่ในวงการนี้

ส่วนฮั่วจิงจิงที่อยู่ในอ้อมกอดของฟังอนั้นร้องไห้จน ดวงตาไปหมด…

ขณะเดียวกัน หลินชงเองก็กำลังยืนสวมหมวกแสร้งว่าเป็น หนึ่งในพนักงานอยู่ไม่ไกล หลังจากได้ยินคำพูดของฟังอวี้ เขา ก็รู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอิทธิพลจากผู้คนรอบๆตัวเขาหรือเปล่า
“พูดได้ดีครับ น่าซาบซึ้งจริงๆ ทุกคนยืนขึ้นร้อง ตอน นั้นเองที่ใครบางคนสังเกตเห็นว่าไม่ถึงกับถังหนึ่งเดินทางมา ถึงแล้ว

“โอ้พระเจ้า นายใหญ่มาถึงแล้ว…

“ท่านประธานไม่

โม่ถึงนั้นสวมชุดสูทเรโทรสีดำและพาดผ้าพันคอสีแดง หม่น ชายหนุ่มแผ่รังสีชนชั้นสูงชาวอังกฤษผู้น่าเคารพนับถือ ออกมา ขณะเดินควงแขนกับถังหญิง หญิงสาวสวมชุดกระโปรง สั้นสีน้ำเงินอ่อนเพื่อโชว์ขาคู่งามของเธอ

“นายใหญ่ นายใหญ่!

“ถังหนึ่ง กึ่งหนึ่ง!

เดิมที่ไม่ถึงอยากจะเดินไปหาฟังอ แต่หลังจากเห็นว่า คู่รักอยู่บนเวที ชายหนุ่มก็เลิกคิ้วขึ้นและพาถังหนึ่งไปนั่ง ท่ามกลางแขกคนอื่นๆ แทน

“ท่านประธานโม่ครับ ฟังอบอกว่าพรุ่งนี้เขาจะหล่อกว่า

คุณอีกครับ! ใครบางคนแหย่เล่นด้วยความขบขัน

ไม่ถึงนั่งลงข้างๆ ถึงหนึ่งและตอบนิ่งๆ ว่า “บางทีเขาอาจ จะหล่อกว่าผมแล้วในสายตาฮั่วจิงจิง แต่ในสายตาของคน อื่นๆ เขายังห่างชั้นอยู่อีกมาก

“ฮ่าๆ …”
ทุกคนหัวเราะออกมา แน่นอนว่าจากน้ำเสียงของเขา ทุก คนบอกได้เลยว่าเขากำลังอารมณ์ดี

“ประธาน โม่ครับ เมื่อไหร่จะถึงตาคุณกับถังหนึ่งล่ะครับ บาหลีสวยมากจริงๆ พวกเราอยากมาที่นี่บ่อยกว่านี้นะครับ

“ใช่แล้ว เขาพูดถูก…

โม่ถึงหันมามองหน้าถังหนึ่ง แต่หญิงสาวทำแค่ยิ้มให้เขา โดยไม่พูดอะไร ดังนั้นไม่ถึงจึงตอบแค่ว่า “ถ้าอย่างนั้นจาก เดือนนี้เป็นต้นไป ผมจะไม่จ่ายเงินเดือนคุณ ผมจะเก็บเงินพวก นั้นไว้จนกว่าจะซื้อบ้านในบาหลีให้คุณได้ก็แล้วกัน”

“ท่านประธานโม่ อย่าทำงั้นนะครับ!

ทุกคนระเบิดหัวเราะออกมาอีกครั้ง…

พอโม่ถึงกับถังหนึ่งมาถึง บรรยากาศในงานก็ดู สนุกสนานขึ้นมาทันที ขณะเดียวกันนั้น หลินชงก็มองไปที่ถัง หนึ่งและโม่ถึงจากด้านหลังกล้อง โดยเฉพาะที่ผู้หญิงที่เขาเคย เกลียดแต่เกลียดไม่ลงอีกต่อไปแล้ว

“ถังหนึ่ง ถังหนิง…เวลาอยู่ที่บ้าน ประธานโม่ทะเล้นแบบนี้ หรือเปล่าจ๊ะ ใครบางคนรวบรวมความกล้าแกล้งแหย่คู่รัก ไม่ ถึงหันมองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ

เนื่องจากพวกเขาโดนตั้งคำถาม ถังหนึ่งจึงตอบเพียงแค่

ว่า “ถ้าคืนนี้พวกคุณดื่มมากกว่าเขาได้ ฉันจะบอกให้ก็ได้ค่ะว่า เขาเป็นยังไงเวลาอยู่ที่บ้าน
“แหม ใครไม่รู้บ้างล่ะคะว่าท่านประธานน่ะดื่มเก่งแค่

ไหน!

ไม่ถึงหยิกหลังมือถังหนิงเบาๆ “นี่คุณจงใจพูดแบบนั้นเห

รอครับ ถ้าผมเมาขึ้นมาจริงๆ คืนนี้คุณเดือดร้อนแน่! “เดือดร้อนแค่ไหนเหรอคะ” ทั้งหนึ่งไม่เคยเห็นไม่ถึงเมา

มาก่อน

“ก็ได้ครับ ในเมื่อคุณอยากจะเห็น ผมจะให้คุณได้เห็น… ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มปริศนาออกมา

ถังหนึ่งพยักหน้า เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะเป็นคนประเภท ที่เมาแล้วสูญเสียการควบคุม อาจจะเป็นแค่ประเภทที่ยังทำท่า ทางเคร่งขรึมแม้จะดื่มเยอะเกินไปแล้วมากกว่า

ความเป็นจริงกลับไม่เป็นไปตามที่เธอคาดเอาไว้เลย

อย่างไรก็ตาม ขณะที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกันอย่างมี ความสุขที่บาหลี เจคิงก็กำลังเตรียมเริ่มก่อการกบฏของเขาอยู่ ที่ปักกิ่ง…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ