ตอนที่ 257 ครั้งนี้เรามีโชว์ดีๆ ให้ดู

“ผมศรัทธาในตัวคุณมาเสมอและครั้งนี้เองก็เช่นกันครับ

ระหว่างทางกลับบ้าน ถังหนังนึกถึงลูกสาวของฟังอขึ้น มา จึงหันไปถามโม่ถึงว่า “ทำไมฟังอถึงมีลูกสาวล่ะคะ เขา แต่งงานแล้วเหรอ

ไม่ถึงสวมกอดถึงหนึ่งและตอบเธอนิ่งๆ “ตามประวัติของ ฟังอวี้แล้ว เขายังไม่แต่งงานครับ ส่วนเรื่องลูกสาวเขา ผมเกรง ว่าน่าจะมีแค่เขาเท่านั้นที่รู้ความจริง คุณยังพยายามจะจับคู่เขา กับฮั่วจิงจิงอยู่อีกเหรอ

ถึงหญิงส่ายหน้า ครั้งนี้เธอเป็นห่วงเขาจริงๆ

เมื่อเห็นถึงหนึ่งอยู่ในภวังค์ ไม่ถึงก็จูบคอเธอเบาๆ “ไม่มี อะไรหรอกครับ อย่าคิดมากไปเลย…

“ให้ฉันกังวลมากกว่าคุณหน่อยไม่ได้เหรอคะ” ถึงหนึ่ง

ถาม ตั้งแต่ไม่ถึงกลายมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เธอ ทุกอย่าง

เกี่ยวกับเธอต้องผ่านมือเขาหมด ซึ่งรวมถึงเรื่องเล็กๆ อย่าง

เช่น เธอจะอาบน้ำตอนไหนหรือเข้านอนเมื่อไร โชคดีที่ถึงหนึ่ง

ไม่เคยรู้สึกว่ามันน่ารำคาญเลย มีคนที่น่าอัศจรรย์อย่างไม่

งมาคอยดูแลเช่นนี้แล้ว จะขออะไรมากไปกว่านี้อีกล่ะ

“งานดินเนอร์ของไห่รุ่ยจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นพรุ่งนี้ตอนบ่ายโมง บอกให้หลงเจียไปแต่งหน้าและทำผมเป็นเพื่อน

คุณนะ”

“ฉันไปเองก็ได้นี่คะ

“ไปให้ได้แล้วกันครับ” ไม่ถึงออกคำสั่งซึ่งแฝงความ หมายลึกซึ้ง

ถังหนึ่งเถียงเขาไม่ได้ จึงทำได้แค่พยักหน้า “ตามที่คุณ ต้องการเลยค่ะ ใครบอกให้คุณมาเป็นผู้จัดการของฉันกัน

“อีกเรื่อง คุณห้ามใส่ชุดที่หลงเจี่ยเลือกนะ มันธรรมดาไป หน่อย พรุ่งนี้ผมจะให้เซ่อส่งชุดใหม่ไปให้” ไม่ถึงมองหลง เจียด้วยสายตาปรามาส อย่างไรก็ตาม หลงเจียไม่ได้หงุดหงิด ไม่ถึง เพราะนั่นหมายความว่าเขาเป็นห่วงถังหนิง นี่ต่างหากที่ สำคัญกว่าสิ่งใด

ท้ายที่สุดแล้ว กรรมการที่ตัดสินว่าถังหนิงกับเงินมั่นนี้ใคร จะชนะนั้น ก็คือไม่ถึงอยู่ดี…

ใครก็ตามที่ผู้ชายคนนี้เลือกให้เป็นผู้ชนะ ก็คือผู้ชนะ

คืนนั้น มีคนสองคนโทรหาฮั่วจึงจึงติดต่อกัน

คนแรกคือเงินมั่นนี้ “ฉันได้ยินมาว่าเธอบาดเจ็บ ไม่ร้าย แรงใช่ไหม เธอไปทำให้ใครโกรธมานะ”

“เงินมั่นนี้ เธอเอาแต่เล่นละครอยู่แบบนี้ ไม่เบื่อหรือไง”ฮั่วจิงจิงส่งเสียงฮึดฮัดพลางลุกขึ้นนั่งบนเตียง ไออยู่สองสาม ครั้ง ทันทีที่ผู้ช่วยของเธอได้ยินบทสนทนานี้ ก็รีบเอาหมอนอิง มารองหลังให้ทั่วจิงจิงทันที “แย่หน่อยนะที่เธอเบามือไปหน่อย นะ ฉันเลยยังไม่ตายนี่ไง”

“ไหนๆ เธอก็รู้เรื่องแล้ว งั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดล่ะนะ คิด ซะว่าเป็นบทเรียนเล็กๆ เอาไว้ให้คิดก็แล้วกัน ชั่วจิงจิง เธอจะ เชื่อไหมถ้าฉันบอกว่า ถ้าฉันไว้ชีวิตเธอได้ ก็ทำให้มันพังได้ เหมือนกัน”

“แน่นอนฉันเชื่อว่าเธอทำได้” ฮั่วจิงจิงตอบอย่างหนักแน่น โดยปราศจากความหวาดกลัว แต่เธอก็อวดดีไปนิดนะ

“ฉันจะทำอะไรก็ได้นี่ จะมีใครมาหยุดฉันได้ จะบอกอะไร ให้นะ…ถ้าฉันปล่อยข่าวลือออกมาว่าซิงหวงยื่นข้อเสนอให้ฉัน ละก็ แม้แต่ไม่ถึงเองก็คงตื่นตระหนักไม่น้อยเลยล่ะ

“ทำไมเธอถึงได้มั่นใจขนาดนั้นล่ะ” ฮั่วจิงจิงระเบิดหัวเราะ ออกมา

“ก็คอยดูแล้วกัน ในงานดินเนอร์ที่กำลังจะมาถึงนี้ เธอจะ ได้เห็นสถานะที่แท้จริงของถังหนิงเอง!”

“หล่อนก็เหมือนกันนั่นแหละย่ะ!” พูดจบชั่วจิงจิงก็วางสาย ทันที ไม่มีเรื่องอะไรที่เธออยากคุยกับเงินมั่นต่อแล้ว

จากนาทีที่เธอเข้ามาทำงานที่ไม่รุ่ย เธอก็ตระหนักได้ว่า ศิลปินในเอเจนซี่นี้เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่มีใครต้องการความช่วยเหลือ ที่แห่งนี้ก็จะมีคนเต็มใจคอย ยื่นมือมาช่วยกันและกันเสมอ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า ที่นี่ เหลือเพียงแต่คนละโมบโลภมากเท่านั้น

ครูต่อมา เธอก็ได้รับสายเข้าจากฟังอ

ทันทีที่เห็นว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ใครโทรมา จิตใจชั่ว จิงจิงก็พลันว่างเปล่า เธอรู้ดีว่าเรื่องข่าวลือที่แพร่ไปทั่วในช่วง สองสามวันมานี้ ได้ก่อปัญหาให้ฟังอวี้เป็นอย่างมาก และ เนื่องจากเขามีลูกสาวแล้ว เธอจึงไม่อยากทำให้เขาต้องติด ร่างแหไปด้วยอีกต่อไป…

ดังนั้นฮั่วจิงจิงจึงตัดสินใจไม่รับโทรศัพท์

ฟังอวี้เดาว่าเธอหลับไปแล้ว เขาจึงส่งข้อความหาเธอแทน

(คุณโอเคไหม]

ทันทีที่เห็นประโยคนั้น หญิงสาวก็ถอนหายใจแล้วลบ

ข้อความโดยไม่ลังเล

ท้ายที่สุดแล้วทุกๆ อย่างจะผ่านไปเอง….

ท้ายที่สุดแล้วทุกๆ อย่างก็จะดีขึ้น เธอยังต้องไปเจอหนุ่มฝรั่งเศสคนนั้นแบบสวยๆ อยู่

เวลาล่วงไปเป็นสิบห้านาฬิกาของวันต่อมาอย่างรวดเร็ว
คืนนี้จะเป็นคืนงานพิธีมอบรางวัลเฟยเทียน หลังจากงาน พิธีเสร็จสิ้นลง ไม่รุ่ยก็จะเป็นเจ้าภาพจัดงานดินเนอร์เลี้ยงฉลอง

นี่เป็นการแข่งขันอันดุเดือด ในเรื่องของการแสดง เป็นพิธี มอบรางวัลที่ค่อนข้างมีความสำคัญ เพราะรางวัลเฟยเทียนนั้น เป็นเหมือนเป้าหมายสุดท้ายของดารานักแสดง ก่อนจะมุ่งสู่ การเป็นนักแสดงระดับสากล มันเป็นรางวัลที่มีมูลค่าสูงมาก

ดังนั้น บนพรมแดงในค่ำคืนนี้จึงค่อนข้างมีชีวิตชีวา

ถังหนึ่งเป็นนางแบบ จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องไปปรากฏ ตัวที่งานดินเนอร์เลี้ยงฉลอง แต่เธอไม่อยากจะพลาดการเฉลิม ฉลองครบรอบยี่สิบปีของไหนุ่ย ดังนั้นหญิงสาวจึงมุ่งหน้าไป ร้านเสริมสวยชื่อลูมินัสที่โม่ถึงเป็นคนตระเตรียมเอาไว้ให้ ซา ลอนชื่อดังแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเซเลบเท่านั้น พวกเขามีลูกค้าที่ เป็นคนดังมากมาย ศิลปินที่ไม่ดังมากจะต้องโทรนัดล่วงหน้า ก่อน บางคนถึงกับหาคิวว่างไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

“เรามาก่อนเวลาไม่ได้เหรอคะ ทำไมนายใหญ่ถึงต้อง ยืนยันให้เรามาเวลานี้ด้วย” เมื่อเห็นลูมินัสซาลอนคลาคล่ำไป ด้วยผู้คน หลงเจี่ยก็อดบ่นออกมาไม่ได้

ลูกค้าที่นี่ล้วนเป็นศิลปินชื่อดังทั้งนั้น แต่เพื่อการแข่งขัน แล้ว พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากมาถึงก่อนเวลาและต่อคิว เหมือนคนทั่วๆ ไป

“คุณถึงหนึ่ง รอตรงนี้นะคะ ฉันจะไปหาสไตลิสต์ที่ดีที่สุด มาให้
ถังหนึ่งหยิบบัตรวีไอพีสีทองออกมาจากกระเป๋าถือและยื่น ให้หลงเจี่ย “ใช้นี่สิ”

หลงเจี่ยมองที่บัตรใบนั้นและทําหน้าเหมือนโดนตีเข้า อย่างจัง “นายใหญ่ทำบัตรใบนี้ให้คุณเหรอคะ” “ฉันก็ไม่แน่ใจนะ เขาเอามาให้ฉันเมื่อคืนนี้ ถึงหญิงสาย

หน้าพลางนั่งลงบนโซฟา เธอไม่รู้เลยว่าบัตรวีไอพีใบนั้นใช้ทำ

อะไรได้บ้าง

พนักงานต้อนรับคนหนึ่งเห็นบัตรในมือถังหนึ่ง ก็รีบเดิน เข้าไปหาเธอทันที “คุณผู้หญิงคะ สวัสดีค่ะ ดิฉันเห็นว่าคุณมี บัตรวีไอพีของสไตลิสต์เฉิง รบกวนรอตรงนี้สักครู่นะคะ ดิฉันจะ ไปตามเขามาให้

กลายเป็นว่าบัตรวีไอพีใบนี้ สามารถเลือกช่างส่วนบุคคล

ให้เลย!

ถังหนึ่งพยักหน้าแล้วมองไปที่นาฬิกา งานดินเนอร์เลี้ยง ฉลองจะเริ่มตอนสี่ทุ่ม แปลว่าเธอยังมีเวลาเหลืออีกมาก

ทว่าตอนนั้นเองที่ผู้คนรอบตัวถังหนิงเริ่มไม้ชี้มือไปที่เธอ พลางกระซิบกระซาบ

“นั่นมันถังหนึ่งไม่ใช่เหรอ ฉันไม่เคยเห็นนางมาที่นี่มา ก่อนเลยนะ ดูสิ มีบัตรวีไอพีสีทองด้วยล่ะ!

“เงินมั่นนี้เองก็อยู่ในร้าน ครั้งนี้ เรามีโชว์ดีๆ ให้ดูแล้วสินะ”
“ถังหนังดูอ่อนแอปวกเปียกซะขนาดนี้ ถ้าตบกับเงินมั่น ยังไงก็แพ้หรือเปล่า

“อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้นะ ถึงหนึ่งชอบทำอะไรเหนือ

ความคาดหมายอยู่เรื่อย

ถังหนิงไม่ได้พูดอะไรขณะนั่งฟังสาวๆ ถกเถียงกัน ทว่า เธอได้ยินว่าเงินมั่นนี้เองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน หญิงสาวเข้าใจใน ที่สุดว่าทำไมไม่ถึงถึงยืนยันให้เธอมาที่ร้านเวลานี้ นั่นเป็น เพราะเขารู้ว่าเงินมั่นนี้ก็จะอยู่ที่นี่เช่นกันนั่นเอง

หลังจากนั้น พนักงานต้อนรับก็ปรากฏตัวอีกครั้งและพูด อย่างขอโทษขอโพย “คุณผู้หญิงคะ ดิฉันต้องขอประทานโทษ จริงๆ ค่ะ ช่างเฉิงกำลังดูแลแขกอีกท่านอยู่ แต่ถ้าคุณผู้หญิงรีบ ช่างเฉิงสามารถต้อนรับคุณก่อนได้ค่ะ

“ฉันต้องรออีกประมาณกี่ชั่วโมง

“ประมาณสามชั่วโมงค่ะ พนักงานสาวตอบ

ถังหนิงขมวดคิ้วและเอ่ยถาม “ช่างเฉิงกำลังดูแลใครอยู่

“คุณเจินมั่นนี้ค่ะ”

“ถ้างั้นก็บอกให้ช่างมานี่เลย ฉันรีบ” ทันทีที่เธอได้ยินชื่อ เงินมั่นนี้ ถังหนึ่งก็รีบคว้าช่างคนนั้นมาโดยที่เงินมั่นนี้ไม่รู้เรื่องเลย