สามีที่รักต้องทํางานหนัก

ตอนที่ 303 ฉันเป็นแค่นางแบบคนหนึ่ง



ตอนที่ 303 ฉันเป็นแค่นางแบบคนหนึ่ง

“ที่อีเวนต์นั้นจะมีดารานักแสดงวาไรตี้โชว์มากมายไปร่วมงาน ด้วย แต่ด้วยความนิยมของคุณในตอนนี้ ฉันไม่คิดว่าคุณจะดู ด้อยกว่าพวกเขานะคะ” ระหว่างเดินทางไปยังอีเวนต์ หลงเจีย คุกเข่าตรงหน้าถังหนึ่งเพื่อจัดชายกระโปรงให้เธอ นั่นเป็นตอน ที่ถังหนังสังเกตเห็นว่าหลงเจียแต่งหน้าเยอะกว่าปกติ

“กว่างานจะจบก็เกือบห้าทุ่มแล้วนะ มีนัดกับลู่เชื่อต่อจาก

นั้นเหรอ”

หลงเจียยิ้มออกมาอย่างเป็นปริศนาพลางมองถึงหนึ่งอ ย่างมีความสุข “ค่ะ ไม่ได้เหรอคะ”

“ถ้าอย่างนั้นเธอกลับไวหน่อยก็ได้นะ ถึงจะมารับฉันเอง

ทีหลัง ถังหนึ่งกล่าวขณะหันไปคว้ากระเป๋าถือ

“เราจะถึงงานกันอยู่แล้ว รีบเตรียมตัวดีกว่าค่ะ นี่จะเป็น ครั้งแรกที่คุณกับนายใหญ่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะหลังจาก การเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกคุณเลยนะคะ คุณคิดว่าสื่อ จะยอมปล่อยคุณไปง่ายๆ เหรอ” หลงเจียจัดชายกระโปรงสี เงินของถังหนิงเสร็จ รถตู้ก็จอดพอดี เธอเปิดประตูให้นายสาว

เหล่าคนดังก้าวลงไปบนพรมแดงทีละคนๆ ตอนนี้ถึงหนึ่ง คุ้นชินกับกล้องฝูงใหญ่และแสงแฟลชที่กะพริบอย่างไม่รู้จักจบสิ้นแล้ว แม้จะไม่มีไม่ถึงอยู่ข้างกาย รัศมีอันแพรวพราวของเธอ นั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้

“เอาละครับ กระผมขอเรียนเชิญให้ทุกท่านจับจ้องไปยัง บุคคลที่อยู่บนพรมแดง ณ ตอนนี้ คุณถึงหนึ่งของเรานั่นเอง ครับ ชุดสีเงินของเธอช่างเข้ากันกับรัศมีอันสง่างามของเธอ จริงๆ มาร่วมกันต้อนรับเธออย่างอบอุ่นกันดีกว่าครับ

เนื่องจากสถานที่จัดงานในคืนนี้คือโรงแรมห้าดาวแห่ง หนึ่ง พรมแดงจึงยาวเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น ถังหนึ่งใช้เวลาไม่ นานนักในการเดินไปยังกำแพงเซ็นชื่อก่อนเข้างาน ขณะกำลัง เผชิญหน้ากับเลนส์กล้องมากมาย เธอก็เซ็นชื่อตัวเองลงบน กำแพงก่อนจะคืนปากกา ให้กับพิธีกร

“ทางเราขอต้อนรับคุณถังหนึ่งอีกครั้งนะครับ เชิญคุณถัง หนึ่งเข้าไปในงานได้เลยครับผม

ด้านในโรงแรมอันหรูหรา ทั้งห้องโถงหลักถูกตกแต่งด้วย ดอกกุหลาบสีชมพูและสีแชมเปญ บนเก้าอี้แต่ละตัวมีชื่อของ แขกแต่ละท่านและช่อดอกไม้ทำมือที่จัดเรียงมาอย่างประณีต วางอยู่

ถังหนิงหาที่นั่งของตัวเองเจอก็นั่งลงอย่างรวดเร็ว ด้าน ซ้ายของเธอคือนักแสดงหญิงเกรดเอชื่อเจียงอวิ๋นที่เพิ่งแต่งงาน กับชายที่มีครอบครัวร่ำรวยคนหนึ่ง ส่วนคนที่ต้องนั่งทางด้าน ขวาของเธอนั้นยังมาไม่ถึง แต่ชื่อของคนคนนั้นไม่เหมือนดารา

ในภาพยนตร์หรือโทรทัศน์เท่าไร ชื่อว่า ฉือซินเหยียน
เจียงอวิ๋นมาถึงที่นั่งก่อน การปรากฏตัวของเธอนั้นไม่อาจ เพิกเฉยได้ หากถังหนึ่งนับว่าเป็นคนเยือกเย็นแล้ว เช่นนั้นผู้ หญิงคนนี้ก็มีรัศมีความเฉยชาฟังอยู่รอบๆ อีกชั้นหนึ่งด้วย

ถังหนึ่งพยักหน้าทักทายเจียงอวิ๋นและเจียงอวิ๋นก็ยิ้มรับ ตอนนั้นเองที่เจ้าของที่นั่งด้านขวาของถังหนึ่งมาถึงพอดี

ถังหนิงและเจียงอวิ๋นหันมาทางด้านขวา ทว่าแขกผู้มา ใหม่ไม่คิดว่าจะได้เจอถึงหนึ่ง…

ถังหนึ่งสังเกตเห็นประกายความประหลาดใจในดวงตา ของผู้หญิงคนนั้น แต่จากความทรงจำของเธอ ถึงหนึ่งไม่เคย เจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน

“คุณถังคะ ฉันเป็นแฟนคลับคุณเลยนะคะ” ถือซินเหยียน ยื่นมือออกมา เผยรอยยิ้มอันแสนสมบูรณ์แบบ เธอไม่ได้มา จากวงการภาพยนตร์หรือวงการบันเทิงจริงเสียด้วย มิเช่นนั้น จะถือเป็นการลดสถานะตัวเอง ในฐานะลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ของผู้ประกอบการผู้ร่ำรวย ไม่มีทางเลยที่เธอจะเลือกไปเป็น ดารา

ถ้าเป็นกับคนอื่นๆ เธออาจจะเป็นใส่ไปแล้ว แต่ครั้งนี้ยัง หนึ่งรู้สึกว่าเธอจำเป็นต้องทักทายผู้หญิงคนนี้

ถังหนึ่งสัมผัสไม่ได้ถึงร่องรอยความเป็นมิตรจากแววตา ของผู้หญิงคนนี้เลย แต่หญิงสาวรู้สึกว่ายังไม่จำเป็นจะต้อง ตราให้ผู้หญิงคนนี้เป็นศัตรูในตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงยื่นมือออกมาและจับมืออันบอบบางของฉือนเหยียนเบาๆ

จับมือแล้ว ถือซินเหยียนก็ถอนมือกลับอย่างรวดเร็ว ถัง หนึ่งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความสับสน

ฉือนเหยียนยังรักษารอยยิ้มอันสุภาพบนใบหน้าไว้ ทว่า ลุกขึ้นเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ ถังหนึ่งมองหน้าเธอด้วยควม สงสัย ขณะเสียงอันชัดเจนหนึ่งกระซิบที่ข้างหูของเธอ “ฉือน เหยียนน่ะเป็นลูกสาวประธานบริษัทจีแอนด์เจ ปกติแล้วหล่อน ค่อนข้างถือตัว ไม่ชอบเจ๊าะแจ๊ะกับผู้หญิงในวงการภาพยนตร์ หรือโทรทัศน์เท่าไร พอจับมือกับเธอไปเมื่อกี้ ตอนนี้หล่อนคง รีบวิ่งไปล้างมือที่ห้องน้ำแล้วล่ะ

ถังหนึ่งหันไปมองเจียงอวิ๋นผู้กำลังพยายามอธิบาย สถานการณ์ เธอพยักหน้าเนิบๆ สื่อว่าเธอไม่ได้ใส่ใจอะไร

“คุณนี่เกิดมาพร้อมหัวใจอันยิ่งใหญ่จริงๆ นะถึงเข้าใจ

หล่อนได้

“เท่าที่ฉันจำได้ คุณเองก็เกิดในอาณาจักรน้ำหอมนี่คะ ถ้า เทียบพื้นฐานทางบ้านแล้ว คุณก็ไม่ได้แพ้เสียทีเดียวนะ

เมื่อมีการเอ่ยถึงครอบครัวถัง ท่าทีของถังหนึ่งก็เย็นชาขึ้น มาทันทีเช่นเดียวกับน้ำเสียงของเธอ “ฉันเป็นแค่นางแบบคน หนึ่งค่ะ”

เจียงอวิ๋นยิ้ม โดยไม่พูดอะไรต่อ ในอีเวนต์เช่นนี้ เธอเพียง แค่พูดในสิ่งที่ผู้คนอยากได้ยินเท่านั้น ในเมื่อพวกเขามาจากคนละบริษัท เธอจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องจริงใจกับใคร

ไม่นานหลังจากนั้น ถือซินเหยียนก็กลับมายังที่นั่งของตัว เอง สำหรับถังหนึ่ง ความรู้สึกห่างเหินนั้นแผ่ออกมาจากร่าง ของเธอยิ่งกว่าเดิม ปกติแล้วในเวลาเช่นนี้เธอมักจะเตือนคน แปลกหน้าให้ไม่เข้ามาใกล้ๆ เธอ

แววตาฉือนเหยียนนั้นไม่เป็นมิตรเป็นอย่างมาก เธอจ้อง หน้าทั้งหนึ่งเป็นพักๆ อย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อทำให้ถังหนึ่งรู้สึก อึดอัด

เมื่ออีเวนต์ดำเนินไปได้ครึ่งทาง ถังหนึ่งก็ได้รับสายเข้า จากโม่ถึง หญิงสาวเหลือบมองหมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏบน หน้าจอก่อนจะยืนขึ้นแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำ

“งานเลิกประมาณกี่โมงเหรอครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปรับคุณ”

“ประมาณห้าทุ่มค่ะ ถังหนึ่งตอบ

“ได้ งั้นผมจะออกจากไหนุ่ยตอนสี่ทุ่มครึ่งก็แล้วกัน”

หลังจากถังหนึ่งกดวางสาย ก็กลับไปยังที่นั่งของตัวเอง ครั้งนี้ ถือซินเหยียนหันหน้ามาหาเธอและยิ้ม “ประธานโม่เหรอ คะ”

เมื่อได้ยินคำถามของฉือซินเหยียน ถังหนึ่งรู้สึกอึดอัดเป็น อย่างมาก น้ำเสียงผู้หญิงคนนี้ดูจะคุ้นเคยกับโม่ถึงมาก

“ฝากสวัสดีประธานโม่ด้วยนะคะ
สายตาถังหนึ่งเปลี่ยนจากสุภาพนุ่มนวลเป็นแข็งกร้าว ทันที หญิงสาวมองคู่สนทนาด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยร่องรอย ของความเยาะเย้ย “คุณคือคะ ดูเหมือนคุณจะไม่ชอบฉันนะคะ”

“กลับบ้านไปถามท่านประธานไม่สิคะ เขาน่าจะรู้นะว่า ทำไม” ถือซินเหยียนทำท่าทางเสมือนเป็นคนรักเก่า ซึ่งทำให้ ถังหนึ่งรู้สึกขยะแขยงเธอขึ้นมาทันที แน่นอนว่าเธอไม่เคย แสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีทางเลยที่เธอ จะสงสัยในตัวไม่ถึงเพียงเพราะคำพูดของฉือซินเหยียน

การเป็นทุกข์จากการสูญเสียไม่ใช่วิถีของเธอ…

ขณะที่เจียงอวิ๋นกำลังคิดว่า ถังหนึ่งกลายเป็นคนที่ทำอะไร ฉือนเหยียนไม่ได้อีกคนแล้ว ถังหนึ่งก็พลันหยิบโทรศัพท์ออก มาจากกระเป๋าถือ โทรหา ไม่ถึงต่อหน้าผู้หญิงทั้งสองคนนี้

“ถึงคะ…”

“ซื้อ” เสียงนุ่มลึกทรงเสน่ห์ของโม่ถึงดังมาจากปลายสาย

“คุณรู้จัก ใครที่ชื่อถือซินเหยียนไหมคะ” ถึงหนึ่งถามอย่าง ตรงไปตรงมา

“คือใครเหรอครับ” ไม่ถึงถามกลับด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

ถึงหญิงหัวเราะเบาๆ พลางวางโทรศัพท์ลง ขณะเดียวกัน ฉือซินเหยียนนั้นมีท่าทางไม่พอใจเท่าไรนักเมื่อได้ยินคำตอบ ของโม่ถึง
“ดูเหมือนท่านประธานโม่จะยุ่งอยู่กับงานนะคะ ถ้าเจอเขา แล้วอย่าลืมถามเขานะคะว่า คนที่ผู้ช่วยของเขาโทรหาตอน ที่ยืนอยู่นอกสำนักงานเขต ในวันที่สิบเก้าสิงหาฯ ได้หรือเปล่า

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ถังหนึ่งก็เข้าใจสถานการณ์ขึ้น มาเล็กน้อย นั่นเป็นวันที่ไม่ถึงควรจะแต่งงาน แต่เจ้าสาวของ เขามาไม่ถึง

กลายเป็นว่า ว่าที่เจ้าสาวในตอนนั้นคือฉือนเหยียน…..

แต่เพราะไม่ถึงบอกว่าเขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ ถังหนึ่งก็ เลือกที่จะเชื่อเขา ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมฉือซินเหยียนถูกเลือก ตั้งแต่แรกนั้น เธอจะต้องไปถามเขาตอนกลับถึงบ้าน…

“ปกติแล้วเขาไม่ค่อยจำคนหรือเรื่องที่ไม่สำคัญนะค่ะ

แม้จะได้ยินเช่นนั้น ฉือซินเหยียนกลับไม่สะทกสะท้านอะไร เธอเพียงโน้มตัวไปพูดกับถังหนึ่งใกล้ๆ ว่า “ด้วยฐานะของ ครอบครัวของโม่ถึงแล้ว ไม่มีทางเลยที่เขาจะแต่งงานกับเธอ เธอเองก็รู้ดีว่าเธอน่ะไม่มีทางช่วยสนับสนุนหน้าที่การงานของ เขาได้ อีกอย่าง ฉันแน่ใจว่าเธอรู้ดีกว่าฉันแน่ๆ ว่านางแบ บน่ะ…มันโสมมขนาดไหน

ฉือซินเหยียนคิดว่าค่าพูดของเธอจะทำให้ถังหนึ่งโกรธ… แต่ถังหนิงกลับสงบนิ่งเป็นพิเศษ…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ