สามีที่รักต้องทํางานหนัก

ตอนที่ 73 คำแถลงอันร้ายแรง



ตอนที่ 73 คำแถลงอันร้ายแรง

มันเป็นเพียงคำธรรมดาๆ ไม่กี่คำ “ไม่รุ่ยจะใช้อำนาจทั้งหมดที่ มีแบนหันรั่วเสวี่ยจากการทำงานประเภทใดๆ ก็ตามในวงการ บันเทิงทั้งภายในและภายนอกประเทศ ใครก็ตามที่กล้าทำงาน กับเธอจะถือว่าต่อต้านไม่รุ่ยและส่งเสริมการผิดจรรยาบรรณ ในวงการ ทั้งนี้หลังจากได้รับการยืนยันจากบริษัทสื่ออื่นๆ แล้ว ได้ข้อสรุปว่า ถังหนึ่งนางแบบของเทียน ไม่ได้มีส่วนร่วมใน การสร้างกระแสในครั้งนี้ เพื่อฟื้นศรัทธาของศิลปินสาวใน สถานการณ์เช่นนี้ ไม่รุ่ยขอประกาศว่าถังหนึ่งบริสุทธิ์ตามหลัก ฐานที่ปรากฏ!”

ทันทีที่คำแถลงนี้ออกมาวงการบันเทิงก็สั่นสะเทือน

ไม่รุ่ยไม่เคยจัดการสถานการณ์เช่นนี้อย่างจริงจังสักครั้ง การที่หันรั่วเสวี่ยถูกแบนจากวงการบันเทิงอย่างสมบูรณ์ หมายความว่าเธอไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในวงการนี้ได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะด้วยบทบาทไหนก็ตาม

สื่อสันนิษฐานว่าไม่ถึงใช้หันรั่วเสงี่ยเป็นตัวอย่าง เขาเลือก วิธีที่โหดที่สุดเพื่อเตือนทุกคนในวงการบันเทิงว่า การใช้ชื่อเขา สร้างกระแสก็ไม่ต่างกับการขุดหลุมฝังตัวเอง

แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่สาธารณชนเห็น เมื่อเทียบกันแล้ว คนในวงการต่างหากที่ตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว
วิธีที่ไม่ถึงใช้ขัดขวางแผนของหันรั่วเสงี่ยนั้นชัดเจนมาก บริษัทผลิตสื่อหลักๆ อยู่ภายใต้การควบคุมของไทยเอ็นเตอร์ เทนเมนต์ทั้งหมด ไม่ว่าจะมีการป้ายสีใครหรือสร้างกระแส อะไร ตราบใดที่เกี่ยวข้องกับไห่รุ่ยด้วยแล้วละก็ พวกเขา สามารถเปิดเผยความจริงและส่งตัวคนร้ายไปรับการไถ่ถอนได้ เสมอ

แค่เพียงคำแถลงนี้ออกมา หันรั่วเสวี่ยก็จบสิ้น… จบสิ้นโดยสมบูรณ์…

ทุกคนคิดว่าเหตุผลที่เทียนไม่ได้รับผลกระทบเพราะไม่ รุ่ยกำลังเล่นเกมนี้แบบแฟร์ๆ โดยการเล็งไปที่คนก่อเรื่องคน เดียวเท่านั้น แต่ลึกๆ แล้วถังหนึ่งรู้ว่าเป็นเพราะเธอยังมีสัญญา กับเทียนอยู่ ถ้าไม่ถึงแบนเทียน งานของเธอก็จะได้รับผลก ระทบไปด้วย

ชายคนนี้คิดทุกอย่างไว้อย่างรอบคอบแล้ว ทั้งหมดที่เขา ทำลงไปล้วนทำด้วยใจที่คำนึงถึงเธอเสมอ

[ไหรียเป็นสุดยอดเอเจนซี่แห่งวงการบันเทิงจริงๆ ทั้ง รวดเร็ว แม่นยำ และหนักแน่นกับการตัดสินใจทุกอย่าง เจ๋งจัง เลย!]

เพราะอย่างนี้ผู้คนมากมายถึงพยายามทุกวิถีทางให้ได้ ร่วมงานกับไหรียยังไงล่ะ อีกอย่าง ไม่รุ่ยยังปูทางให้ทุกคน อย่างยุติธรรมมาตลอด

(พวกเขาไม่เพียงแต่ลงโทษหันรั่วเสวี่ย แต่ยังพิสูจน์ว่าถังหนังบริสุทธิ์อีกด้วย บริษัทใหญ่ๆ นี่มันใหญ่จริงๆ เลยนะ ช่างมี คุณธรรมและมีระดับ

พวกเราศรัทธาในตัวถังหนึ่งนะ ถ้าเธออยากจะสร้างกระ แสจริงๆ เธอคงไม่ทน ให้เทียน ทำกับเธอแบบนั้นหรอก

(โอ๊ย ฉันตกหลุมรักถึงหนึ่งเข้าแล้วสิ! ช่างเป็นส่วน ประกอบที่ลงตัวระหว่างความงามและความสามารถ แถมเธอ ยังมีแครกเตอร์ที่ดีอีกต่างหาก

(หันรั่วเสงี่ยควรตายๆ ไปซะ ไม่รุ่ยทำดีมากที่หยุดการกระ ทำไร้จรรยาบรรณแบบนี้ในวงการบันเทิง]

[ไปตายซะหันรั่วเสวี่ย

ในเวลาไม่นาน คำแถลงของไหนุ่ยก็ปรากฏลงบนหน้าแรก ของทุกสื่อ ยิ่งไปกว่านั้น คนดังมากมายต่างก้าวออกมาแสดง ตัวว่าสนับสนุนถังหนิงและไหนุ่ย อย่างไรก็ตาม ความทรมาน ของหันรั่วเสวี่ยไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น มีคนขุดข่าวที่เธอเพิ่ง โดนแบนในอเมริการวมถึงข่าวฉาวมากมายที่เกี่ยวข้องกับเธอ ขึ้นมา ใครก็ตามที่ขุ่นเคืองกันรั่วเสงี่ยอยู่ต่างใช้โอกาสนี้โจมตี และเหยียบย่ำเธอในตอนที่เธอตกต่ำที่สุด

ขณะเดียวกันนั้นเอง หันรั่วเสงี่ยก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง ทำงานทั้งวัน นับตั้งแต่ไม่รุ่ยปล่อยคำแถลงออกมา เธอก็หมด หวังที่จะก้าวเข้าไปในวงการบันเทิงอีก ครั้งนี้เธอถูกทำลายจน ไม่เหลือชิ้นดี

เธอซ่อนตัวอยู่ตรงมุมมืดของห้อง ไม่ยอมกินหรือดื่มอะไรทั้งนั้น แต่เธอยังได้ยินเสียงแว่วเป็นระยะ เพราะในตอนนี้ มี คนมากมายเหลือเกินที่อยากให้เธอตาย… มากมายเหลือ

“เจ้ อยู่ข้างในหรือเปล่า” หันอผ่านเคาะประตูถามน้ำ เสียงกังวล “เจ้ไม่กินอะไรมาทั้งวันแล้วนะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เดี๋ยวก็ป่วยขึ้นมาหรอก ถึงเป็นผู้จัดการไม่ได้ แต่ก็ยังทำอย่าง อื่นได้ไม่ใช่เหรอ อย่าเพิ่งหมดหวังเจ้

“พังหมดแล้ว….ทุกอย่างพังพินาศหมดแล้ว…” หันรั่วเสงี่ย พิมพา

ครอบครัวหันไม่ใช่ครอบครัวที่เคยร่ำรวยมาก่อน หาก ต้องเปลี่ยนอาชีพตอนนี้ เธอไม่เพียงแต่จะหางานทำไม่ได้ แต่ ยังไม่สามารถคุ้นชินกับชีวิตที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้าหรูหรือสะพาย กระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชันได้อีกด้วย หากเธอเป็นผู้จัดการไม่ได้ เธอก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตจนๆ อีกครั้ง เธอจะรับมือกับมันได้ อย่างไรกัน

“จริงสิ ฉันไปอ้อนวอนนั่งถังหนึ่งได้ ถังหนิง… หันรั่วเสวี่ย ดูเหมือนจะพบความหวังสุดท้ายเข้าแล้ว เธอควานหาโทรศัพท์ ตัวเองด้วยความลุกลี้ลุกลนเพื่อจะโทรหาถึงหนึ่ง “ถังหนึ่ง ถัง หนิง…ฉันอยากเจอเธอ

“ถ้าจะพูดอะไรก็พูดผ่านโทรศัพท์นี่แหละค่ะ” ถึงหนึ่ง ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา

“ได้โปรด…ฉันขอร้องล่ะ ช่วยออกมาพูดเรื่องดีๆ ของฉันหน่อย ฉันไม่อยากออกจากวงการบันเทิง ไม่อยากจริงๆ…

ในตอนนั้นเองที่หันรั่วเสวี่ยถอดหน้ากากแห่งความยโส โอหังออกและกลายเป็นผู้หญิงที่แสนจะน่าเวทนา

“ฉันรู้ว่าฉันทำผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรตอแยเธอแบบนั้น ให้ ฉันคุกเข่าขอร้องเธอเลยก็ได้ ให้โอกาสฉันได้มีชีวิตเถอะนะ”

ที่ปลายสายโทรศัพท์ ถังหนึ่งหัวเราะเบาๆ ก่อนจะถามขึ้น ว่า “ถ้าฉันเป็นคนที่โดนเปิดโปงข้อหาสร้างกระแสเมื่อเช้านี้ แล้วไม่รุ่ยตัดสินใจแบนฉัน คุณจะทำยังไงงั้นเหรอ”

“ไม่ใช่ว่าคุณจะถือโอกาสนี้ทำอาชีพฉันตกหรอกเหรอ ไม่ใช่ว่าคุณจะใช้โอกาสนี้เดบิวต์เด็กใหม่เข้ามาแล้วเขียฉันทิ้ง อย่างยมโหดหรอกเหรอ”

“หันรั่วเสวย ตอนนี้ที่คุณยอมรับการกระทำของตัวเองก็ เพราะคุณไม่พอใจกับผลลัพธ์ ไม่ใช่เพราะว่าคุณรู้สึกผิดหรอก คุณก็แค่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมที่คุณทำร้ายฉันไม่ได้มากกว่า….

“หันรั่วเสวี่ย คุณชดใช้ทุกอย่างหมดแล้ว จากนี้ไปเราไม่มี อะไรติดค้างกันอีก แต่แน่นอนว่าจะเป็นแบบนี้ก็ต่อเมื่อคุณยัง ซื่อสัตย์อยู่”

หันรั่วเสงี่ยนิ่งเงียบเพราะทุกสิ่งที่ถังหนึ่งพูดมาคือเรื่องจริง หากสลับที่กันตอนนี้ โดยให้ถังหนึ่งเป็นคนที่โดนไม่รุ่ยแบน แทน เธอคงใช้ให้ใครสักคนไปก่อเรื่องให้ถึงหนึ่งก่อนจะเตะ เธอออกจากบริษัท แน่นอนว่าทั้งหมดนั่นจะไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยว ของความเห็นใจรวมอยู่เลย
หันรั่วเสงี่ยคิดหาเหตุผลที่ถังหนิงจะต้องช่วยเธอไม่ออก ธอทำได้เพียงแค่ดื่มเหล้าคนเดียวที่โรงแรม

เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะตกลงมาอย่างแรงและเจ็บปวด ขนาดนี้

หันรั่วเสวี่ยจบที่การเมาหัวราน้ำอยู่ในไนต์คลับ ในตอน นั้นเอง มีชายกลุ่มหนึ่งสังเกตเห็นว่าเธอไม่มีสติมากเท่าไรนัก พวกเขาจึงฉวยโอกาสนี้ลวนลามเธอและเกือบจะพาเธอไป โรงแรม แต่โชคดีที่หันอวี่ผ่านมาถึงทันเวลา ไม่เช่นนั้นการโดน แบนจะไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุดที่เกิดขึ้นกับเธอ…

“เจ้ ผมว่าพรุ่งนี้เจ้ควรบินไปอังกฤษนะ ผมจองตั๋วเครื่อง บินไว้ให้แล้ว” “แม้แต่แกก็จะกำจัดฉันเหรอ” หันรั่วเสวยดึงคอเสื้อเชิ้ต

หันอผ่านไว้พลางหัวเราะเยาะ “แกกลัวว่าจะพลอยโดนเขี่ยทิ้ง

ไปกับฉันด้วยใช่ไหม

“เจ ผมขอโทษ ผมต้องมองภาพรวมก่อน บริษัทจะออก ประกาศไล่เจ้ออกจากตำแหน่งในวันพรุ่งนี้

หันรั่วเสงี่ยยังคงหัวเราะก่อนจะผลักหันอผ่านออก “อย่า มาทำเหมือนตัวเองสูงส่งและยิ่งใหญ่หน่อยเลย มองภาพรวม ก่อนกับผีน่ะสิ! ทุกคนบอกว่าฉันมันเ** ยมนักใช่ไหม แต่แก หันอผ่าน แกมันเ** ยมกว่าฉันซะอีก หลอกใช้คนอื่นมาตั้ง มากมาย แต่พอไม่เป็นไปตามแผน แกก็หันหลังให้พวกเขา เหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“แกคิดว่าไม่มีฉันแล้วเทียนจะกลับมารุ่งเรืองได้เหมือน เดิมงั้นเหรอ”

“จะบอกอะไรให้นะ ไม่รุ่ยแบนฉัน ก็เหมือนกับแบนเทียน ด้วย คนที่ลอยลมอยู่คือถังหนึ่ง มันเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับผลก ระทบอะไรเลย”

“ฉันน่าจะรู้ ถังหนึ่งคบกับแกมาตั้งสี่ห้าปีแต่แกก็ยังทิ้งมัน ไปแบบนั้น ฉันก็นึกว่า ในฐานะที่ฉันเป็นพี่ คงไม่ถูกกระทำแบบ เดียวกัน แต่ที่ไหนได้ สำหรับแกแล้ว พวกเราไม่สำคัญเท่าผล ประโยชน์ของแกเลย”

“แกคิดว่าพอฉันตกต่ำลงแบบนี้แล้ว ถังหนิงจะปล่อยแก กับอโหรวไปง่ายๆ งั้นเหรอ”

“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าฉันจะไป ฉันอยากจะเห็นชะตา

กรรมของพวกแกก่อน!!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ