สามีที่รักต้องทํางานหนัก

ตอนที่ 164 ถังหนิงเป็นบ้าไปแล้วเหรอ



ตอนที่ 164 ถังหนิงเป็นบ้าไปแล้วเหรอ

“อย่าเพิ่งรีบโมโหสิ ผมได้ยินจากคนวงในมาว่าเพราะ เหตุการณ์นี้ เฉิงเถียนก็เลยใช้โอกาสนี้แบนถังหนึ่งไปแล้ว ผม ยังได้ยินมาอีกว่าทุกงานที่ถังหนึ่งเซ็นสัญญาไปแล้ว ถูกส่งต่อ ไปให้คนอื่นทั้งหมด เธอท้าทายคุณไม่ได้อีกต่อไปแล้วครับ” ผู้ จัดการของหลิงเฟิงนั่งลงข้างเขา พลางเล่าทุกรายละเอียดที่เขา รับรู้มา

“นี่เรื่องจริงเหรอ” หลิงเฟิงเงยหน้าขึ้น จิบไวน์แล้วเอนหลัง พิงโซฟา “ข้อมูลนี้ยืนยันแล้วเหรอ”

“ยืนยันค่อนข้างแน่ชัดแล้วครับ

หลิงเฟิงวางแก้วไวน์และระเบิดเสียงหัวเราะ “มาดูกันว่า คราวนี้นั่งขั้นต่ำจะท้าทายฉันยังไง…แต่ฉันมีคำถาม เพิ่งเรียน เพิ่งเซ็นสัญญากับถังหนึ่งไป แล้วความขัดแย้งของพวกเขามา ถึงจุดนี้ได้ยังไงกัน”

“เป็นสงครามภายในของเฉิงเถียนนะครับ เราเป็นคนนอก จะไปเข้าใจได้ยังไงล่ะ” ครูต่อมา ผู้จัดการก็ตบไหล่หลิงเฟิง เบาๆ “อย่าเสียเวลาต่อสู้กับถังหนึ่งเลย ตอนนี้เธอตกกระป๋อง ไม่ต่างจากหนูในท่อระบายน้ำนั่นแหละ

หลิงเฟิงดีใจอย่างเหลือล้น ไม่สนใจคำพูดของผู้จัดการ เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโพสต์ข้อความว่า ฮ่าๆๆ ผมได้ยินมาว่าถังหนึ่งถูกเฉิงเถียนแบน!]

ถังหนิงถูกแบนเหรอ!

หลิงเฟิงเกลียดถังหนึ่งมากจนเป็นบ้าไปแล้วเหรอ

สื่อต่างๆ ก็แสดงความสับสน พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไม เฉิงเถียนที่เดิมทีเซ็นสัญญากับถังหนึ่งด้วยความภาคภูมิใจ แต่ ตอนนี้กลับตบหน้าตัวเองอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามเมื่อข้อมูลออกมาจากปากหลิงเฟิง สื่อก็รู้สึก ว่าต้องติดตามประเด็นนี้และค้นหาความจริง พวกเขาจึง โทรศัพท์ไปที่ออฟฟิศประธานบริษัทเฉิงเถียนโดยตรง

ตอนแรกหลานต้องการจัดการกับถังหนึ่งอย่างเงียบๆ ไม่อยากทําให้สถานการณ์ลุกลาม แต่เธอไม่คิดว่าหลิงเพิ่งจะ เปิดเผยทุกอย่างเช่นนี้

เธออยากแบนถังหนึ่ง

แต่ไม่ได้อยากให้สาธารณชนรับรู้ว่าเธอกำลังขัดขวางถัง หนึ่งเพียงเพราะถึงหนึ่งไม่มีคุณค่าอีกต่อไปแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด เธอยิ่งไม่ต้องการให้พวกเขารับรู้ว่า ตอนนี้เธอกำลังพยายาม ละทิ้งถังหนึ่งหลังจากที่ใช้ถังหนึ่งแล้ว ดูเหมือนในใจเธอก็รู้ดีว่า สิ่งที่ตัวเองกำลังทำนั้นช่างน่าละอายใจและขายหน้า เพราะแค่ การเอาข่าวหลิงเฟิงมาอ้างเป็นเหตุผลก็ยังถือว่าอ่อนเกินไปและ ไม่น่าเชื่ออยู่ดี

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุด คือการโต้กลับของถังหนึ่ง…

ต่อให้หลาน ต่อต้าน…แต่ถึงหนึ่งก็จะไม่ยอมแพ้

“ตอนนี้ทุกคนต่างก็พูดว่าเฉิงเถียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์แบน คุณ พวกเขายังพบหลักฐานที่หลุตานนี้รับงานจากคุณไปสอง สามงานด้วย สาธารณชนกำลังคิดว่าคุณหมด โชคแล้ว และใน ฐานะนางแบบอายุยี่สิบหกปี การได้เข้ามาในเฉิงเถียนเอ็นเต อร์เทนเมนต์ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแค่ไหนแล้ว” อันจื่อเช่า ยิ้มเยาะขณะอ่านคอมเมนต์บนโซเชียล

“แต่ผมต้องบอกว่าเจ้าหญิงเฟิงนั่นช่วยเราไว้ครั้งใหญ่เลย ล่ะคราวนี้”

เดิมทีอันจื่อเช่าตั้งใจจะเปิดเผยข่าวนี้ด้วยตนเอง ด้วยหวัง ว่าความคิดเห็นจากสาธารณชนจะสามารถยับยั้งหลานได้ แต่ หากเขาทำเช่นนั้น พวกเขาทั้งคู่จะได้รับความเสียหาย ซึ่งตอน นี้หลิงเฟิงได้ให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่พวกเขา แล้วพวกเขาจะ ปฏิเสธความหวังดีนี้ได้อย่างไรล่ะ

ถังหนึ่งนั่งอยู่ในรถตู้ กำลังพลิกนิตยสารไปมาด้วยรอยยิ้ม ประดับบนใบหน้า “เขาคงคิดว่าเป็นเรื่องน่าตลก แต่เขาไม่รู้ว่า หลานน่ะกลัวเกินกว่าที่จะยอมรับ ยังไงซะหลานก็จะเลือก ศักดิ์ศรีก่อนอยู่แล้ว”

“ทำไมคุณต้องไปพบหลานด้วยล่ะ” อันจื่อเฮารู้สึกว่าถัง หนิงไม่จําเป็นต้องไปพบหลานอีกแล้ว
ไม่ใช่ว่าฉันเจอฉันถึงแก้ไขให้ถูกต้อง

“ไปพบเธอก็ได้เสียหายอะไรใครอาจ รู้สึกผิดได้ วันนี้หน้า” ถังหนึ่งกล่าวด้วยความหมายลึก

อันเฮาปิดแล็ปท็อปของตัวเองและตกอยู่ความเงียบ ผ่านพัก ในที่สุดเขาถาม ขอตามตรงนะครับ ท่าน ประธานโม่ได้ชวนเข้าร่วมกับมานะถังหนึ่ง…

เขาชวนตรงไปตรงมา

อันเอาสายถังหนึ่ง เขารู้สึกเสียดายแทนเธอ

เธอปล่อยโอกาสดีเยี่ยมขนาดนี้ไปได้อย่างไร

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสามคนก็มาที่งานใหญ่ของ เฉิงเถียนรวดเร็ว แต่อันจื่อเอากับหลงเจียรีบปกป้องทั้งหนึ่ง แหวก ทางเธอเข้าไปในตึก

เลขาของหลานรออยู่ทางเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็น หนึ่ง เธอพาไป

ถังหนึ่งขมวดคิ้วขณะมุ่งหน้าไปที่ห้องประชุมพร้อมอันอเช่าและหลงเจีย ทว่าเมื่อเข้าไปในห้องประชุมแล้ว เธอกลับไม่ ได้พบแค่หลาน เพียงคนเดียว แต่มีหลุตานนี้และหวายวน ผู้ เป็นนางแบบระดับนานาชาติของเฉิงเถียนด้วย หวายวนคนนี้ จ้องมองถึงหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ราวกับว่าเธอมีบางอย่างจะพูด แต่ เพราะมีหลานอยู่ด้วยจึงไม่สามารถทำได้

ถึงหญิงสัมผัสได้ว่าเธอมีเจตนาดี

ถังหนิงจึงมองตอบและพยักหน้าให้

เธอเป็นสาวลูกครึ่ง ตัดผมสั้นรับกับโครงหน้า ถึงแม้หุ่นจะ ไม่เลิศเลอ แต่ก็สมส่วนและมีเอกลักษณ์ จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอ มักจะได้อยู่บนรันเวย์ระดับนานาชาติ

“ถังหนึ่ง นั่งสิ” หลานทำมือบอกอย่างเย็นชา “ฉันเชิญ เธอมาวันนี้ก็เพื่อที่เธอ ตานนี้ และหวายวนจะได้ทำความรู้จัก กัน”

“ฉันจะคืนงานของเธอให้ แต่เธอต้องควบคุมทัศนคติของ ตัวเองด้วย”

“ทัศนคติส่วนไหนของฉันที่ประธานหลานไม่ชอบหรือคะ”

ถังหนึ่งถาม

“ถ้าเธอเชื่อฟังฉันได้สักครึ่งหนึ่งของสองคนนี้ เธอก็คงไม่ ต้องเจอกับปัญหาที่เผชิญอยู่ตอนนี้หรอก” หลานตอบอย่าง เย็นชา หรือพูดอีกอย่างก็คือ ในฐานะนางแบบของเฉิงเถียน อนาคตของเธออยู่ในมือฉัน ฉันแค่หวังว่าเธอจะให้ความร่วม มือและเชื่อฟังมากขึ้นอีกนิด ฉันผิดเหรอที่ขอแบบนั้น
“นี่รวมถึงการทานมื้อค่ำกับดาราชายด้วยหรือคะ”

“นั่นก็เพื่อจะสร้างกระแสให้เธอ” หลานทนไม่ได้อีกต่อ ไป รู้สึกว่าถังหนังอวดดีมากเหลือเกิน “เอาเถอะ ฉันจะไม่เถียง กับเธอหรอกนะ ฉันมีแค่หนึ่งคำถาม เธอยังอยากเป็นนางแบบ ระดับนานาชาติอยู่ไหม

“ประธานหลาน คุณคงรู้อยู่แล้วว่าฉันจะยอมต่อรอง ที่คุณ เชิญทั้งสองคนมาในวันนี้ ก็เพราะคุณจะได้บังคับให้ฉันลาออก โดยมีพวกเธอเป็นพยาน” ถังหนึ่งเปิดเผยความตั้งใจที่แท้จริง ของหลานซี

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลานก็รู้สึกว่าเธอไม่จำเป็นต้องสนอีก ต่อไป จึงพูดตรงๆ “หวายวนกับตานนี้รับงานของเธอไปแล้ว เธอจะทำยังไงต่อไปล่ะ

“เธอเดาเก่งนี้ ฉันอยากบังคับให้เธอออกจริงๆ

หลานที่ต้องการรักษาศักดิ์ศรีของเธอไว้ ดังนั้นเธอจึง ไม่มีทางเลือกนอกจากบังคับให้ถังหนังลาออก

“แล้วคุณจะต้องมาขอร้องไม่ให้ฉันออกทีหลัง ถังหนึ่ง ตอบหลังจากเงียบไปสักพัก “หลาน คุณจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ คุณทำวันนี้”

ได้ยินเช่นนี้หลุตานนีก็ตกตะลึง แน่นอน หวายวนเองก็เช่น กัน…

ไม่เคยมีใครพูดกับหลานแบบนี้มาก่อน ถังหนึ่งเป็นคนแรก!

เธอเป็นนางแบบคนแรกที่พูดว่าหลานจะต้องเสียใจ ด้วย ท่าทางมั่นใจและบ้าบิ่นเหลือเกิน

หลุตานนทาปากเป็นคำว่า ถังหนึ่งเป็นบ้าไปแล้วเหรอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ