สามีที่รักต้องทํางานหนัก

ตอนที่ 182 รู้นานแล้วว่าอีคิวของลู่เชื่อไม่สูง



ตอนที่ 182 รู้นานแล้วว่าอีคิวของลู่เชื่อไม่สูง

เพราะเรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นเช่นนี้ หลานก็ตระหนักได้ในที่สุด ว่ามูลค่าของถังหนึ่งจะสูงขนาดไหน ดังนั้นเธอจึงอยากค้นหา ความลับของถังหนึ่งไว้เป็นข้อต่อรอง หวังว่าสักวันหนึ่งมันจะ ช่วยให้เธอควบคุมนางแบบคนนี้ได้

หนึ่งวันก่อนการเดินทางไปลอนดอนของพวกเขา หลงเจีย ดูกลุ้มอกกลุ้มใจเล็กน้อยขณะบอกถึงหนึ่งว่า “ฉันเพิ่งมารู้ตัวค่ะ ว่าพักหลังๆ มานี้มีใครบางคนคอยแอบตามฉัน…

ถังหนึ่งขมวดคิ้ว ในใจลึกๆ ก็รู้ว่าทำไมหลงเจียถึงถูกแอบ ตาม หลานที่ต้องสงสัยแน่ๆ ว่าความสัมพันธ์ของหลงเจี่ยกับลู่ เชื่อนั้นเป็นเรื่องโกหก

“ผ่านมาตั้งหลายวันแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นขึ้น เธอยังไม่ได้ ไปเจอลู่เชื่อเลยเหรอ” ถึงหนึ่งถาม

“เอ่อ ก็วันนั้น…วันที่ฉันพากลับมาบ้าน เชื่อก็ไปยืนรอที่ หน้าบ้านฉันท่ามกลางอากาศเย็นด้วยเจตนาดีแหละค่ะ เขาแค่ อยากเห็นว่าพวกเราสบายดีหรือเปล่า แต่ดันเชื่อคำพูดของ หลานกับไอ้ชั่วนั่น พวกเขาบอกฉันว่าฉันเป็นเมียน้อยของ เชื่อ ตอนนี้ของฉันไม่ยอมไปจากปักกิ่งเลย ยืนกรานจะอยู่ คอยเฝ้าดูฉัน”
“หลงเจีย เหตุผลเดียวที่พวกเราให้เชื่อประกาศว่าเขา เป็นคู่หมั้นของเธอน่ะไม่ใช่แค่เพื่อปกปิดเรื่องฉันกับโม่ถึงหรอก นะ แต่เพื่อปกป้องเธอด้วย ถ้าเธอไม่สบายใจเรื่องนี้ ”

“ไม่ค่ะ ฉันเปล่าไม่สบายใจ จริงๆ แล้วฉันแค่รู้สึกว่าลู่เชื่อ เป็นฝ่ายเสียเปรียบจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี่น่ะค่ะ” หลงเจีย โบกมือไปมาไวๆ

“งั้น…พวกเธอก็แกล้งทำเป็นอยู่ด้วยกันซะเลยสิ

“หา?”

“ก็แค่แสร้งทำนะ…” ความจริงแล้วถังหนึ่งก็สัมผัสได้ว่า หลงเจียแอบสนใจลู่เชื่ออยู่นิดๆ เธอจึงอยากใช้สถานการณ์นี้ สร้างโอกาสให้พวกเขาทั้งสองคน

“ฉะ…ฉันว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไรมั้งคะ” แก้ม สองข้างของหลงเจียแดงปลั่ง

“พวกเธอหมั้นกันแล้วนี่นา อย่างเป็นทางการด้วยนะ”

ได้ยินเช่นนั้น หลงเจียก็อึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะโบกมือไปมา

อย่างกระวีกระวาด “คุณถึงหนิงคะ อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ ไม่งั้น

ฉันกับลู่เช่อจะมองหน้ากันไม่ติดไปมากกว่านี้นะคะ ฉันคิดกับ

เขาแค่เพื่อนจริงๆ ค่ะ ถ้าคุณอยากให้ฉันเล่นไปตามน้ำ ฉันก็ให้

ความร่วมมือ แต่ถ้าคุณจะให้ฉันแกล้งทำเป็นอยู่กับลู่เซ่อน่ะ มันเกินไปหน่อยค่ะ”

ถังหนึ่งกำลังง่วนจัดกระเป๋า เมื่อได้ยินคำอธิบายของหลงเจีย เธอก็พยักหน้า “อย่ามาโทษว่าฉันไม่ให้โอกาสเธอทีหลังก็ แล้วกัน”

“พูดเรื่องอะไรกันคะ ลู่เซ่อน่ะเด็กกว่าฉันอีก” หลงเจีย ทำท่าเหมือนเพิ่งได้ยินเรื่องตลก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยิ่ง หน้าเธอแดงมากเท่าไร ก็ยิ่งชัดว่าเธอแอบหวังเล็กๆ ว่าจะมี บางอย่างเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา เธอก็แค่คิดว่าเธอเทียบเขา ไม่ติดเท่านั้นเอง…

เธอแค่คิดว่าตัวเองด้อยกว่า

“ตอนฉันกลับมา ฉันจะถามเชื่อ ให้แล้วกันว่าเขาชอบผู้ หญิงแบบไหน”

“เอ๊ะ นายใหญ่ไม่ไปกับคุณด้วยเหรอคะ” เพื่อที่จะทำให้ ทุกอย่างกระอักกระอ่วนน้อยลง หลงเจียจึงเปลี่ยนเรื่องอย่าง รวดเร็ว ถังหนังนึกถึงบัตรเชิญนัดหมายที่วางกองอยู่บนโต๊ะโม่ ถึงแล้วส่ายหน้า

“จะสิ้นปีอยู่แล้ว พวกงานอีเวนต์ผุดขึ้นมาอย่างกับดอก เห็ด ฉันไม่อยากให้เขาต้องเหนื่อยน่ะ อีกอย่าง อย่าลืมว่าเพื่อ กันไม่ให้เขาตามมา ฉันเลยซื้อตั๋วเร็วกว่ากำหนดนิดหน่อย ด้วย”

“อย่าห่วงไปเลยค่ะ ฉันจัดทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว” หลง เจียรู้สึกโล่งอกเพราะถังหนึ่งไม่วกกลับมาพูดเรื่องเธอกับลู่เชื่อ แล้ว

เธอไม่เพียงแต่อายุเกือบจะสามสิบ ไม่ได้จบการศึกษาสูงไม่มีความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ที่สำคัญที่สุด เธอชอบกิน มากเกินไป ไม่มีทางเลยที่คนอย่างเช่อจะหันมาชอบเธอ

บางครั้งคราวเธอก็รู้สึกอยากไล่ตามสิ่งที่ใจหวัง แต่เธอ รู้สึกว่าตัวเองได้ผ่านช่วงอายุที่จะเอาตัวเองไปในสถานการณ์ แบบนั้นและรู้ว่าเธอไม่มีโอกาสอีกแล้ว…

ไม่นานหลังจากหลงเจียออกจากไฮแอทรีเจนซี เชื่อก็ ปรากฏตัวพร้อมกับปลาดิบจานใหญ่ที่บินตรงมาจากญี่ปุ่น เมื่อ เห็นว่าถึงหนึ่งอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่น ท่าทีของเขาก็ หม่นหมองลงทันที เมื่อหลงเจี่ยอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอครับ เธอ หายไปได้ยังไง”

ถังหนึ่งมองจานปลาดิบในมือของชายหนุ่ม ด้วยแผน ควบคุมโภชนาการของเธอในตอนนี้ ไม่มีทางที่ปลาจานนั้นจะ เป็นของเธอ ดังนั้นเธอจึงยิ้มให้ลู่เซ่อ “เธอเพิ่งออกไปเอง ขับรถ ตามไปสิ”

“อ้อ งั้นก็ช่างเถอะครับ” ลู่เซ่อตอบ

“ลู่เช่อ นายพูดตรงๆ กับฉันได้ไหม เรื่องหลงเจียนน่ะ…”

“โอ้ เรื่องนั้น…” ก่อนถังหนิงจะพูดจบประโยค เชือก็พูด ตัดบทขึ้นมาอย่างลึกๆ อักๆ เขาก้มหน้าลงมองรองเท้าหนังมัน ขลับของตัวเองและตอบว่า “พอเห็นเธอโดนรังแกแล้ว ผมก็ รู้สึกเห็นใจเธอน่ะครับ”

“แค่เห็นใจ?”
“จะมีอะไรอีกเหรอครับ”

ถังหนึ่งก้มหน้าลงอย่างเสียมิได้

ของลู่เชื่อไม่สูงนัก แต่…

…นี่มันก็เกินไปแล้วนะ!

“ไม่มีอะไรหรอกถ้างั้น ฉันกินของพวกนี้ไม่ได้หรอกนะ เอา

ไปให้หลงเจียโน่นไป

“แล้วถ้าคุณปู่ของเธอเข้าใจผิดอีกล่ะครับ ผมไม่คิดว่าผม ควรไปครับ” พูดจบลู่เชื่อก็หันหลังออกไปจากไฮแอทรีเจนซี ถัง หนึ่งถูกทิ้งไว้ให้นั่งมองจานปลาดิบนั้นด้วยความงุนงง

ตอนนั้นเองที่ไม่ถึงทำงานเสร็จและเดินออกมาจากห้อง ทำงาน เมื่อเห็นว่าถึงหนึ่งดูเหนื่อยใจ เขาก็อดไม่ได้ที่จะกอด เธอจากด้านหลัง “เกิดอะไรขึ้นครับ

“คุณไม่ชอบกินของพวกนี้เหมือนกันใช่ไหมคะ” ถึงหนึ่ง ตอบพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหลงเจีย

“เชื่อสั่งปลาดิบสดๆ มาแน่ะ เธออยากเอากลับไปกินที่

บ้านไหม”

หลงเจี่ยเพิ่งกลับถึงบ้าน เธอแทบไม่ได้ยินคำว่าปลาดิบ แต่เป็นเช่อ หญิงสาวตระหนักว่าเธอรู้สึกใจวูบวาบเล็กน้อย เวลานึกถึงเขา แต่หลังจากระงับอารมณ์อยู่ชั่วครู่ เธอก็ยังรู้สึก ว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ แล้วเอ่ยปากปฏิเสธถึงหนึ่ง “ฉันว่ารอบนี้ ฉันคงอดแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้ฉันถึงบ้านแล้ว
“ฉันกินไม่ได้และไม่ถึงก็ไม่ชอบกิน ถ้าเธอไม่มาเอา ฉันจะ เอาไปทิ้งแล้วนะ”

“ไม่…ไม่ อย่าเอาไปทิ้งนะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” หลงเจีย เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วและขับรถกลับไปยังไฮแอทรีเจนซี เธอรีบแพ็กปลาดิบทั้งหมดจากเชื่อและเอากลับบ้าน ทว่าเธอ ไม่ได้กินเลยแม้แต่ชิ้นเดียว แต่เอาไปแช่ไว้ในตู้เย็นอย่าง หวงแหน

เวลาคนเราชอบใครสักคน แม้จะได้ของธรรมดาๆ อย่าง ทิชชูซับเหงื่อแผ่นเดียวมาจากคนที่ชอบ พวกเขาก็จะยังคง หวงแหนของชิ้นนั้นอยู่ดี แทบจะเอาไปตากแห้งใส่กรอบเก็บไว้ เป็นความทรงจํา ใช่หรือเปล่า

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ถังหนึ่งก็มานอนอยู่บนเตียงพลาง คิดถึงเรื่องสถานการณ์ของเชื้อและหลงเจีย ทันใดนั้นเองเธอ ก็รู้สึกถึงลมหนาวพัดผ่านหน้าอกไป กลายเป็นว่าไม่ถึงได้หยิบ เสื้อคลุมของเธอออก โดยที่เธอไม่ได้สังเกต มืออุ่นๆ ของเขา ละไล้ไปทั่วร่างของเธอก่อนจะดึงเข้าไปไว้ในอ้อมกอด

ถังหนึ่งมองไม่ถึง ดวงตาเขาคลุมเครือและตื่นเต้นเล็ก น้อย แน่นอนว่ายังมีร่องรอยของความคาดหวังผสมอยู่ด้วย

“คุณต้องไปที่อื่นไกลๆ ตั้งนาน จะไม่ชดเชยล่วงหน้าหน่อย เหรอครับ”

ความเป็นจริงแล้ว ไม่ถึงไม่จำเป็นต้องถามเลย เพราะความต้องการของเธอนั้นก็รุนแรงพอๆ กับเขา เมื่อคนสองคน รักกันอย่างแท้จริง แค่สบตากันเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เกิดคลื่น ยักษ์แห่งห้วงอารมณ์ได้แล้ว

เพียงชั่วขณะเดียว เชือกผูกผ้าคลุมสองเส้นก็ถูกโยนลงไป บนผ้าปูเตียงสีขาวสะอาด ท่ามกลางความมืดนั้นมีสองร่างที่ ตระกองกอดกันอย่างแนบแน่น เม็ดเหงื่อผุดพรายออกมา ประปราย นิ้วมือที่ประสานกันไว้ทำให้การแลกเปลี่ยนความรัก นี้เต็มไปด้วยความหลงใหลเร่าร้อน เสียงหัวใจดังระรัวขณะ ใบหน้าของทั้งสองกลายเป็นสีแดงระเรื่อ

คู่รักไม่ชอบคุยกัน ไม่ถึงจึงคุ้นเคยกับเสียงหอบหายใจ และเสียงครางเบาๆ ของถังหนึ่งมากกว่า โดยเฉพาะตอนที่เธอ ถึงจุดสุดยอด เธอจะกัดไหล่เขาอย่างควบคุมไม่ได้ ทำให้ไม่ถึง หลงรักเธอจากหัวจรดเท้าเข้าไปอีก เขาอยากอยู่แบบนี้กับเธอ ตราบจนวันสุดท้าย

สำหรับถังหนึ่ง สิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขมากที่สุดก็คือ ไม่ ว่าไม่ถึงต้องการอะไรหรือรู้สึกเหนื่อยแค่ไหน เขาจะดึงร่างที่ เปียกชุ่มด้วยเหงื่อของเธอเข้าไปไว้ในอ้อมกอดหลังจากที่เสร็จ กิจกันแล้ว…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ