ตอนที่ 168 ผมคิดมานานแล้วว่าจะ จัดการถังหนึ่งอย่างไร

“ผมมีความรู้สึกว่าหลานจะไม่ปล่อยคุณไปออกรายการทอล์ก โชว์นี้” โม่ถึงพูดด้วยเสียงทุ้มลึก “หลังจากที่คุณไปท้าทายเธอ แบบนั้น ไม่มีทางที่เธอจะปล่อยคุณไปง่ายๆ

“ถ้าเธอยอมให้คุณข้ามหัวไปได้ นางแบบคนอื่นก็จะเอา คุณเป็นตัวอย่างและทำแบบเดียวกัน ถ้าเป็นแบบนั้น…เธอจะ เสียศักดิ์ศรีประธานบริษัท

“เธอเป็นคนท้าทายฉันก่อนนี่คะ…” ถังหนึ่งตอบอย่างนิ่งๆ “แค่เพราะฉันเป็นนางแบบ แล้วมันหมายความว่าฉันไม่มีความ เคารพในตัวเองเหรอ ฉันควรยอมให้เธอหลอก ให้เธอควบคุม เพื่อรักษาศักดิ์ศรีเธอไว้งั้นเหรอ”

“คุณก็รู้ว่าผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ผมก็แค่กังวลว่า เธอจะทำอะไรคุณ” ไม่ถึงรีบอธิบาย

“ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้หมายความแบบนั้นค่ะ ฉันแค่คิดว่ามัน น่าเศร้าที่คนส่วนมากในโลกนี้ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่า เทียม โดยเฉพาะกับคนอย่างหลาน การที่ได้ควบคุมคนอื่น มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ”

ถังหนึ่งหันไปเผชิญหน้าไม่ถึง และพูดด้วยน้ำเสียงผ่อน

คลาย “ถึงคะ…คุณอย่ารู้สึกผิดเลยที่ส่งฉันไปเฉิงเถียนธรรมดาโลกนี้ มีร้าย ก็ต้องมีดี ส่วนฉันที่ไม่มีรุ่นพี่ให้เรียนรู้และ แบ่งปันประสบการณ์ ฉันก็ได้แต่ต้องต่อสู้ในหนทางของตัวเอง เท่านั้น”

“ฉันไม่กลัวที่จะต้องได้แผล เพราะฉันรู้ว่าเมื่อผ่านพ้นรอย

แผลเป็นพวกนี้ไปแล้ว สิ่งที่รอฉันอยู่ คือความสำเร็จ

“อุปสรรคของหลานนั้นไม่มีความหมายเลยค่ะ

ไม่ถึงไม่ได้พูดอะไร เขาแค่เอื้อมมือมาเอาผมทัดหูถังหนึ่ง ในหัวใจของเขา สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดไม่ได้ธรรมดาอย่าง อุปสรรคเล็กน้อยพวกนั้น

แน่นอนว่าหากหลานกล้าทำอะไรถึงหนึ่ง เขาก็จะทำให้ เธอต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่นอน

เวลาเที่ยงคืน อันจื่อเฮาสั่งให้คนปล่อยข่าวว่าหลาน วางแผนจะแบนถังหนึ่งอย่างลับๆ!

อาจเป็นเพราะความนิยมของถังหนึ่งในช่วงสองสามวันที่ ผ่านมานี้ เหตุการณ์ของถังหนึ่งและเฉิงเถียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์

จึงแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในวันถัดมา

ภายในเวลาไม่นาน ออฟฟิศหลานก็ได้รับโทรศัพท์

หลายสายเพื่อขอคำอธิบาย หลานสั่งให้เลขาของเธอบอก พวกเขาว่าเธอไม่ได้อยู่ออฟฟิศ และปฏิเสธที่จะตอบทุกคำถาม เจตนาที่จะแบนถังหนึ่งนั้นเป็นความลับของบริษัทมาอย่าง ยาวนาน ซึ่งทุกคนในเฉิงเถียนรู้ แต่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ พูดถึง
ไม่นานหลังจากนั้น นักข่าวก็ติดต่อกันจื่อเช่าไปเพื่อขอคำ ชี้แจงจากถังหนึ่ง ถังหนึ่งตอบแค่ว่า “ฉันจะตอบคำถามนี้ด้วย ตัวเองตอนฉันไปปรากฏตัวที่เพิ่งไฉ่ค่ะ”

เฉิงเถียนวางแผนจะแบนถังหนึ่งอย่างลับๆ สิ่งที่หลิงเฟิง

พูดเป็นความจริงงั้นเหรอ เฉิงเถียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์เพิ่งเซ็นสัญญากับถังหนึ่ง และ ตอนนี้ถังหนึ่งที่กำลังรุ่ง แล้วแบบนี้เฉิงเถียนจะแบนถังหนึ่งด้วย เหตุผลอะไรอีกล่ะ

ส่วนถังหนึ่งก็ประกาศว่าจะให้คำตอบที่เพิ่งไฉ่ มีข่าวใหญ่ อะไรที่เธอกำลังจะเปิดเผยอย่างนั้นหรือ

พอหลานเห็นคำตอบของถังหนึ่งก็โกรธเป็นฟืนเป็น ทำลายทุกอย่างบนโต๊ะเพื่อระบายอารามณ์ แต่ไม่ว่าอารมณ์ ของเธอจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน หรือพยายามควบคุมความ โกรธอย่างไร เธอก็ไม่สามารถทนสิ่งหนึ่งได้ ถังหนึ่ง…ข่มขู่เธอ แล้วจริงๆ ถังหนิงกล้าเธอได้ยังไงกัน

หลังจากนั้นเธอก็โทรศัพท์หาตัวเฮา ถึงแม้พวกเขาจะ กลายเป็นศัตรูกันตั้งแต่เหตุการณ์ของหยางจิ้ง แต่ตอนนี้ทั้ง เฉิงเถียน เธอไม่รู้แล้วว่าจะเชื่อใจใครได้บ้าง “คุณได้ยินข่าว หรือยังว่าถึงหนิงจะไปออกเพิ่งไ

“ตอนนี้รู้หรือยังว่าทำไมผมถึงขัดขวางไม่ให้คุณเซ็น สัญญากับถังหนิง ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะว่าผมก็มีเรื่องของตัว เอง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ปัญหาของคุณน่าจะใหญ่กว่า
“ตอนนี้บอกฉันมาก่อนว่าต้องทำยังไง” หลานไม่ ต้องการนึกถึงอดีต เธอต้องการหาทางแก้โดยด่วน

“ถ้าไม่อยากให้เธอไปเพิ่งไฉ่ งั้น….คุณก็พุ่งเป้าไปที่หลง เจี่ยสิ ถังหนิงแยกความแตกต่างระหว่างความเมตตาและความ เกลียดชังได้อย่างชัดเจน ถึงเธอจะเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่เธอก็มอง หลงเจี่ยเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ถ้าคุณจะบังคับไม่ให้เธอทำอะไร… หลงเจียก็เป็นเป้าหมายที่ดีเยี่ยมที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

“ถ้าคุณขัดขวางไม่ให้ถังหนึ่งไปออกรายการไม่ได้ ตัว เฮ้าจุดบุหรี่พลางคิดถึงสิ่งที่หยางจิ้งเคยบอกก่อนหน้านี้ “ผมจำ ได้ว่าถังหนึ่งเคยให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่มีแฟน คุณก็เปิดโปงเธอ เลยว่าเธอกำลังอยู่กินกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วก็บอกว่าเธอ โกหกต่อสาธารณชน…”

แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้คำนึงถึงความหมายที่แท้จริงใน คำพูดของถังหนึ่ง เธอมีสามี ไม่ใช่แฟน

“แล้ว…อันจื่อเช่าก็จะอยู่ข้างถังหนึ่งไม่ได้อย่างแน่นอน…

“เมื่อเวลานั้นมาถึง เมื่อไม่มีผู้จัดการคอยช่วย ถังหนึ่งก็จะ ล้มเหลวอย่างสมบูรณ์ คุณจะทำอะไรกับเธอก็ได้ที่คุณต้องการ โดยที่ไม่มีใครสงสัยคุณ แล้วทุกคนก็จะแค่ปรบมือสรรเสริญ คุณ”

หลาน มองตัวเฮาด้วยสีหน้าดำมืด เธอเฝ้าระวังมากกว่า ตอนที่คิดเรื่องถังหนิง

“ที่แท้คุณก็มีเรื่องที่ปกปิดไว้ในใจมากมาย….
“ผมคิดมานานแล้วว่าจะจัดการถังหนึ่งยังไง ผมแค่ไม่เคย มีโอกาส…ทุกวันผมได้แต่คิดเรื่องเหตุการณ์วันนั้น และคิดว่า ผมจะโจมตีเธอยังไงได้บ้าง” ตัวเฮานึกถึงคำขอร้องของหยาง จิ้งที่ให้เขาแก้แค้นถังหนึ่ง

หลานชีพยักหน้าด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ถึงเธอจะไม่ยอ มรับตัวเฮา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความคิดของตัวเท่านั้นแก้ ปัญหาความกังวลของเธอได้อย่างแท้จริง

ถังหนึ่งยังต้องการให้ประธานบริษัทคนนี้คุกเข่าให้อยู่ไหม มาดูกันว่าใครจะคุกเข่าก่อนกัน!

การสัมภาษณ์ของเฟิงไฉ่จะจัดขึ้นในสัปดาห์ถัดไป เหลือ อีกสามวัน เพราะโฆษณาของแอลเอ็ม ข้อเสนองานของถังหนึ่ง จึงเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ไม่เพียงแค่นั้น ลูกค้าทุกคนที่เปลี่ยนงานไป ให้หลุตานนี้และหวายวนก็เรียกร้องให้หลานเปลี่ยนกลับคืน ตามเดิม พวกเขาหลงเสน่ห์ของถังหนึ่งในฐานะนางแบบ

ด้วยเหตุนี้หลี่ตานนี้จึงมาโวยวายในออฟฟิศของหลาน “ท่านประธานหลานคะ ทุกงานที่ฉันได้มาจากถังหนึ่งกลายเป็น ไร้ประโยชน์หมดแล้วตอนนี้ ลูกค้าตัดสินใจส่งคำเตือนทาง กฎหมายให้คุณฐานละเมิดสัญญาเปลี่ยนตัวถังหนิง….

“ค่าชดเชยไม่ใช่น้อยๆ

หลาน ขมวดคิ้ว ตอนแรกเธอไม่ได้สนใจประเด็นนี้มากนัก แต่เมื่อหวายวนก็ยกเรื่องงานของเธอมาเสริมด้วย หลาน จึงตระหนักได้ว่าเธอเพิกเฉยเรื่องนี้ไม่ได้อีกต่อไป

บริษัทพวกนี้ช่างไม่มีสมอง ถ้าเปรียบเทียบสถานะของหลี่ ตานนีและหวายวนกับถังหนึ่ง พวกเธอทั้งคู่อยู่สูงกว่าถึงหนึ่ง เป็นไหนๆ นี่พวกเขาตาบอดไปแล้วหรือไงกัน

“ฉันไม่คิดว่าถังหนึ่งจะทุ่มสุดตัวขนาดนี้ เธอทำงานได้แค่ เดือนเดียว ก็เทียบเท่ากับงานของเราสองคนรวมกันแล้ว แต่ นางแบบตกยุคยังไงก็คือนางแบบตกยุค เธอแก่เกินไป ทำได้ แค่พาตัวเองไปสู่ความสิ้นหวังได้เท่านั้นแหละ

หวายวนไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงเชิงลบ เธอเพียงแค่เตือน หลานว่า “ท่านประธานหลานคะ ทำไมคุณไม่ขอให้ถึงหนึ่งก ลับมารับงานพวกนี้ล่ะคะ”

หลานชำเลืองตามองหวายวนด้วยสีหน้าลึกซึ้ง ในที่สุด เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมา และเรียกเลขาให้เข้ามาในห้อง เธอ ต้องการเจรจากับลูกค้าใหม่อีกครั้ง

ทว่าผลลัพธ์ยังเหมือนเดิม พวกเขายืนกรานว่าต้องเป็นถัง หนิง…

หลานไม่มีทางเลือกนอกจากเรียกถังหนึ่งมา ออฟฟิศเดี๋ยวนี้”

“มาที่

ที่อีกฟากของปลายสาย ถังหนึ่งผู้กำลังวิ่งจ๊อกกิ่งอยู่กับโม่ ถึง ตอบไปว่า “ถ้าคุณมีอะไรจะพูดก็พูดกับผู้จัดการฉันนะคะ” ดู เหมือนว่าเธอจะไม่สนใจหลานอีกแล้ว เธอแค่เหลือบมองร่างกายอันน่าหลงใหลของไม่ถึง และวิ่งต่อไปบนลู่วิ่ง….

หลาน เธอเอางานฉันไปไม่ถามอะไรสักคำ แล้วตอนนี้ อยากส่งคืนให้ฉันงั้นเหรอ รอดูเอาเองแล้วกันว่าฉันจะรับคืน ไหม!