สามีที่รักต้องทํางานหนัก

ตอนที่ 140 นั่นไม่ใช่ลูกสาวฉัน แต่เป็น ถังหนิงต่างหาก!



ตอนที่ 140 นั่นไม่ใช่ลูกสาวฉัน แต่เป็น ถังหนิงต่างหาก!

ถังหนิง?

ได้ยินชื่อนั้น หยางจิ้งก็รู้สึกเหมือนใครบางคนได้กดสวิตช์ เปิดหลอดไฟในหัวของเธอ หญิงสาวมองไปรอบๆ อย่าง ขอโทษขอโพย “หวังว่าพวกคุณจะเก็บเป็นความลับได้นะคะ

“ไม่ต้องห่วง พวกเราไม่บอกใครหรอก แน่ใจนะว่าคุณไม่

ต้องไปโรงพยาบาลน่ะ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ คนจะไม่เอาไปพูดต่อได้อย่างไร

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ” หยางจึงยืนขึ้น โดยมีคนที่ยืนมุงอยู่ ช่วย หลังจากหัวตัวเองอยู่สักพักและแน่ใจว่าตัวเองไม่เป็นไร เธอจึงก้าวออกมาจากร้านไนต์คัลเลอร์

ขณะเดินกลับไปที่รถ เธอก็พยายามนึกให้ออกว่าหลานอ แต่งตัวอย่างไร เด็กสาวสวมหมวก จึงไม่มีใครจำเธอได้ และ ด้วยอายุเพียงสิบหกปี การเข้าบาร์เช่นนี้จึงผิดกฎหมาย ดังนั้น เธอจะต้องใช้บัตรปลอมแน่ๆ

เนื่องจากหลานอวี่กำลังใช้ยา อนาคตของเธอจึงดูไม่ รุ่งเรืองนัก แต่การที่หยางจึงได้โอกาสโยงถึงหนึ่งเข้ามาเจอกับปัญหาอีกครั้ง ความเจ็บปวดที่ได้รับเมื่อครู่ก็ดูคุ้มค่าขึ้นมาทันที ชื่อมินิถังหนึ่งมีประโยชน์ก็วันนี้แหละ

มากไปกว่านั้น หยางจึงยังอยากทำลายข้อตกลงระหว่าง ถังหนิงกับเฮอร์วิชั่นอีกด้วย ดังนั้นเธอจึงหยุดรถข้างถนน กด โทรหาบรรณาธิการหลินเพื่อแจ้งว่าเธอมีข่าวฉาวครั้งใหญ่จะ มาเปิดโปงและต้องการพบเป็นการส่วนตัว

บรรณาธิการหลินรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นที่เฉิงเถียนก่อนหน้านี้ เดิมที่เธอจะไม่อยากใส่ใจเรื่องหยางจิ้ง แต่เมื่อได้ยินว่ามัน เกี่ยวข้องกับเฮอร์วิชั่นด้วย บรรณาธิการหลินจึงให้ที่อยู่หญิง สาวไปหลังจากพิจารณาอยู่ชั่วครู่

ค่ำคืนนั้นเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว คำว่า “ถังหนึ่ง ยา เสพติด และ เหตุทะเลาะวิวาท” ค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมาในช่อง ค้นหา หยางจึงไปถึงบ้านบรรณาธิการหลินพลางถือโทรศัพท์ ในมือด้วยความตื่นเต้น เธอนั่งลงบนโซฟาและยื่นโทรศัพท์ ของตัวเองให้บรรณาธิการหลินดู “ถังหนึ่งด่างพร้อยซะแล้วล่ะ คุณใช้หล่อนขึ้นปกไม่ได้หรอก”

บรรณาธิการหลินกุมหัวตัวเองด้วยมือซ้าย ถือโทรศัพท์ เครื่องนั้นด้วยมือขวา หลังจากนั้น…

เธอขว้างโทรศัพท์กลับไปที่หยางจิ้ง “ฉันมั่นใจว่าเธอรู้ว่า ใช่ถังหนึ่งจริงๆ หรือเปล่า หยางจิ้ง ในฐานะเพื่อน ฉันจะขอ เตือนเธอด้วยความหวังดีนะ ถึงหนึ่งมีคนคอยหนุนหลังให้อยู่ แม้เธอจะพลิกฟ้าให้กลับด้านได้ เธอก็ทำอะไรถึงหนึ่งไม่ได้แม้แต่ปลายก้อยหรอก”

“เขาคือใครกัน” หยางจึงตะลึง เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะ ได้ยินคำพูดเช่นนี้จากปากบรรณาธิการหลิน

“เรื่องนี้ฉันบอกไม่ได้ แต่อย่าท้าทายถึงหนึ่งอย่างหุนหัน พลันแล่นแบบนี้อีกเลย ไม่งั้นเธอจะอยู่ในปักกิ่งไม่ได้นานนะ

“เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าถังหนึ่งมีคนคอยหนุนหลังอยู่ หล่อนจะไม่มีทางทรมานตัวเองด้วยการก้าวทีละก้าวเล็กๆ แบบ นี้หรอก”

“แสดงว่าเธอก็รู้สินะว่าเขาตรากตรำมามาก งั้นเธอช่วย ใช้แผนชั่วๆ ให้น้อยลงแล้วทำเรื่องดีๆ แทนเพื่อเพิ่มแต้มบุญให้ ตัวเองดีไหมล่ะ” บรรณาธิการหลินหัวเราะเยาะ “หยางจิ้ง ฉันรู้ ว่าเธอเพิ่งโดนเตะออกมาจากเฉิงเถียน แต่ฉันมีบางอย่างที่ อยากบอกเธอ คนน่าสงสารนะ ต้องมีสาเหตุที่ทำให้พวกเขา ตกต่านะ”

“ลองโจมตีถังหนึ่งดูอีกสักทีสิ รอดูผู้หญิงคนนั้นทำให้เธอ เหมือนตกนรกทั้งเป็นได้เลย

หยางจิ้งจ้องบรรณาธิการหลินด้วยสายตาเย็นชาและ เข้าใจความหมายของประโยคที่คนชอบพูดกันว่า เห็นคนล้ม แล้วเหยียบซ้ำ” ทันที วงการบันเทิงโหดร้ายเช่นนี้เสมอ เป็น เรื่องปกติที่เธอจะโดนทุกคนรังแก ในตอนที่เธออับโชคเช่นตอน

“ถ้าเธอไม่เห็นแก่ตัวเอง อย่างน้อยก็ควรคิดถึงหน้าแม่เธอบ้างนะ มัวแต่ก้าวไปเหยียบหัวคนอื่นแบบนี้นะ จะทำให้ชีวิต เธอจบไม่สวยเอาได้

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หยางจิ้งก็ลุกพรวดขึ้นมาและจ้อง บรรณาธิการหลินด้วยความเกรี้ยวกราด “พอได้แล้ว หยุดเฉไฉ เสียที ฉันอยากรู้ว่าใครหนุนหลังถึงหนึ่งอยู่กันแน่

บรรณาธิการหลินไม่ตอบคำถามนั้นและหัวเราะลั่น

ใจหยางจึงตกลงไปอยู่ตาตุ่ม เธอหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้น มาพร้อมจะจากไป ในตอนนั้นเองที่บรรณาธิการหลินพูดขึ้นมา “คอยดูแล้วกันหยางจิ้ง วันพรุ่งนี้สถานการณ์จะพลิกผัน แน่นอน”

หยางจึงก้าวออกจากบ้านบรรณาธิการหลิน โดยไม่ทัน กลับไปมอง…

ความกลัวค่อยๆ คืบคลานเข้าไปในหัวใจเธอ ถ้าหาก…

…คำพูดของบรรณาธิการหลินเป็นเรื่องจริง ถ้าถังหนึ่งมี คนหนุนหลังอยู่จริงๆ เช่นนั้นแล้วในสถานการณ์แบบนี้ เธอจะ ใช้อะไรมาสู้กับถังหนึ่งได้ล่ะ

ไม่ อย่าทำให้ตัวเองกลัว มารอประเมินสถานการณ์วัน พรุ่งนี้ก่อนดีกว่า

เลยเที่ยงคืนมาเดี๋ยวเดียว ความคิดเห็นที่ว่าถังหนึ่งใช้ยา เสพติดก็แพร่ไปทั่วโลกออนไลน์และก่อให้เกิดความวุ่นวายอยู่พอสมควร มีหลายคนที่อยากออกมาให้ความเห็น แต่หลังจาก ที่ถึงหนึ่งตบหน้าคนมานับไม่ถ้วน ในอดีตแล้ว พวกเขาก็ลังเลที่ จะสรุปอะไรออกมา อย่างแรกคือพวกเขาไม่มีหลักฐาน และ อย่างที่สอง พวกเขาเริ่มเชื่อแล้วว่าถังหนึ่งไม่ใช่คนเช่นนั้น

เวลาตีสอง โม่ถึงยกมือถือขึ้นมารับสายเชื่อ

“ท่านประธานครับ มีข่าวนายหญิงออกมาอีกแล้วครับ ผม ส่งคนไปสืบแล้ว คนที่ใช้ยาจริงๆ คือหลานอวี่ เพราะทั้งสอง หน้าคล้ายกัน นายหญิงเลยโดนคนเอาไปลือแบบผิดๆ ครับ…

ไม่ถึงมองโทรศัพท์ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยถึงหนึ่งจากอ้อม แขนและมุ่งหน้าไปยังห้องทำงาน “เจอหลักฐานหรือยัง

“เนื่องจากมีคนจำนวนมากอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ผมจึงเก็บ หลักฐานมาได้ประมาณหนึ่งครับ แต่ไม่มีวิดีโอที่คุณภาพดีๆ เลย”

“ติดต่อสื่อหลักทั้งหมด ส่งหลักฐานไปและให้พวกเขา เปลี่ยนค่าค้นหาพวกนั้นซะ ถึงเวลาที่จะได้ใช้ข้อมูลชีวิตที่ โรงเรียนของหลานอวี่แล้ว แต่กักไว้หน่อยแล้วกัน ฉันอยาก เหลือเอาไว้ใช้ตอนปิดท้ายด้วย รอดูก่อนว่ามีใครอยากเข้ามา ขวางทางถึงหนึ่งอีกไหม

ลู่เช่อส่งเสียงรับคำสั่งและไม่เสริมอะไร หลังจากเงียบไป ชั่วครู่ เขาจึงรายงานขึ้นมาว่า “ท่านประธานครับ ผมขอแจ้งให้ ทราบด้วยว่าหยางจิ้งเป็นคนปล่อยข่าวลือนี้ออกมา…

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่าทีของไม่ถึงก็มืดมนลงทันที เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ฉันต้องสอนนายด้วยเหรอว่าต้อง จัดการคนที่ไม่รู้จักจำยังไง

“ไม่จำเป็นครับ” เชื่อเข้าใจดีว่าไม่ถึงหมายความว่า

อย่างไร

ในเมื่อหยางจึงมีความสุขกับการต่อสู้มากนัก ฉะนั้นเธอก็ ไม่ควรฝันที่จะมีวันสงบๆ ในชีวิตที่เหลืออยู่อีกต่อไป

หยางจึงคอยอยู่ในรถตลอดทั้งคืน หลังจากตื่นขึ้นในวัน ถัดมา คำค้นหาที่ฮอตมากที่สุดก็เปลี่ยนจาก ถังหนึ่ง เป็น หลานอ

หยางจิ้งปิดโทรศัพท์ในมือด้วยความหวาดกลัว ใจเธอ ฟุ้งซ่านไปกับคำเตือนที่บรรณาธิการหลินบอกไว้

ถังหนึ่งมีคนคอยหนุนหลังอยู่

คนอย่างถึงหนึ่งหรือจะมีคนหนุนหลัง เป็นไปไม่ได้ ถังหนึ่ง โดนเธอรังแกตั้งไม่รู้กี่ครั้ง ถ้าคนคนนั้นมีตัวตนจริง แสดงว่า เขาก็คงไม่สนใจเธอสักเท่าไร

อย่างมากก็เป็นได้แค่เมียเก็บเขาเท่านั้นแหละ!

หยางจิ้ง โยนโทรศัพท์ของเธอไปที่เบาะข้างคนขับ เดิมที เธอตั้งใจจะไปหาตัวเช่า แต่ขณะที่เธอกำลังขับรถไปที่นั่น เธอ ก็ได้รับสายจากโรงพยาบาล “คุณหยางคะ รบกวนมาที่โรง พยาบาลเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่คุณด้วยค่ะ”
“ฉันไม่มีเงินเหลือแล้วนะ จะให้ไปหาเงินจากใครมาจ่าย ค่าพวกนั้นเล่า” หยางจิ้งกรีดร้อง

“ถ้างั้นคุณก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะกลับมารับแม่คุณไป

ดูแลด้วยตัวเองที่บ้านค่ะ…

เธอจะดูแลคนเป็นอัมพาตได้อย่างไรล่ะ อีกอย่าง ถ้ามีคนรู้ เข้า เธอจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร

หยางจึงไม่มีทางเลือกนอกจากกลับรถไปยังโรงพยาบาล ขณะเดียวกันนั้น ข่าวที่หลานอใช้ยาเสพติดก็แพร่ไปทั่ว แม้แต่ พ่อแม่ของเด็กสาวก็พากันออกมาปกป้องว่าลูกสาวของตนนั้น บริสุทธิ์ “ไม่มีทางที่นั่นจะเป็นลูกสาวของฉัน ถ้านั่นเป็นลูกสาว ฉันจริง ฉันสาบานให้ฉันตายต่อหน้าพวกคุณเลย ไม่ใช่ว่าชื่อ เล่นลูกสาวฉันคือมินิถังหนิงเหรอ ในเมื่อลูกสาวฉันหน้าเหมือน ถังหนึ่งมาก พวกคุณแน่ใจได้ยังไงว่าไม่ใช่ถังหนึ่งที่เป็นคนเล่น ยาแล้วมาอ้างว่าเป็นลูกสาวของฉันน่ะ

ตลอดการให้สัมภาษณ์ พ่อแม่ของหลานอวี่ร้องไห้ขณะพูด “ฉันรู้ว่าลูกสาวของฉันดีกว่าใครๆ ไม่มีทางเลยที่เธอจะเสพยา แบบนั้น มันต้องเป็นถังหนึ่งแน่ๆ เธอต้องใช้วิธีใต้โต๊ะบาง อย่างป้ายความผิดครั้งนี้แน่

“นั่นไม่ใช่ลูกสาวฉัน แต่เป็นถังหนิงต่างหาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ