ตอนที่ 158 คนที่ตอแยไม่ได้

ผู้จัดการของหลิงเฟิงยังคงพยายามโน้มน้าวให้เขาไปถ่ายทำ และในตอนนั้นเองที่หลิงเพิ่งออกกำลังกายเสร็จพอดี เม็ดเหงื่อ ผุดพรายไหลลงมาตามผิวสีบรอนซ์ ครั้นมองดูร่างกายอันเต็ม เปี่ยมด้วยความทะมัดทะแมงสมชายและรูปลักษณ์ที่แข็งแรง หล่อเหลาแล้ว ก็ชัดเจนว่าทำไมเขาถึงได้รับความนิยมอย่าง รวดเร็ว

ทว่านิสัยของเขานั้น…

ผู้จัดการไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก ถึงแม้เขาเองก็โกรธถึงหนึ่ง แต่เขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำให้งานคนอื่นล่าช้า เพียงเพราะ คิดจะลงโทษคนคนหนึ่ง เสียแต่ว่าหลิงเฟิงก็เป็นคนเช่นนี้เสมอ มา

“งั้นก็ได้ ไปกองถ่ายกัน” หลิงเฟิงทำตัวเหมือนเป็นคนใจ กว้างมากพลางเช็ดเหงื่อที่โซมกาย

“ดีเลย เดี๋ยวผมจะไปเอารถนะ คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าระหว่าง ทางได้” ผู้จัดการรู้สึกโล่งใจ รีบไปขับรถออกจากที่จอดรถ หลิงเฟิงดูท่าทางเหน็ดเหนื่อยตลอดทาง แม้แต่ตอนที่พวกเขา ถึงรีสอร์ต เขาก็ดูไม่เหมือนว่าจะเรียกพลังงานกลับคืนมาได้ เร็วๆ นี้ ซึ่งนั่นทำให้ผู้จัดการค่อนข้างกังวล

“แฟนคลับคุณกำลังรอคอยไฮไลต์จากการถ่ายทำครั้งนี้งีบหลับสักหน่อยเถอะครับ จะได้มีแรงแสดงต่อหน้ากล้องได้

ทั่วทั้งปักกิ่ง มีใครหล่อได้เท่าฉันไหมล่ะ” หลิงเฟิงเย้ย ก่อนจะเอามือกอดอกแล้วหลับตาพักผ่อน

บางทีเขาคงคิดว่ารูปร่างหน้าตาตัวเองคือของขวัญจาก สวรรค์ที่ส่งมาเพื่อช่วยทีมงานภาพยนตร์

ไม่นานหลังจากนั้น รถพวกเขาก็เลี้ยวเข้าไปในรีสอร์ต แต่ ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าทีมงานเลิกกองเรียบร้อยแล้ว ผู้ จัดการคิดว่าเป็นเพราะหลังเพิ่งมาปรากฏตัวไม่ได้ ผู้กำกับจึง ไม่มีทางเลือกนอกจากเลื่อนการถ่ายทำออกไป ดังนั้นเขาจึง มองไปรอบๆ เพื่อหาตัวแทนจากแอลเอ็ม แต่สุดท้ายก็ต้องหยิบ โทรศัพท์ออกมาต่อสายหาตัวแทน ผู้ซึ่งตอนนี้กลับไปที่ออฟฟิศ เรียบร้อยแล้ว ตัวแทนบอกเขาว่าแอลเอ็มจะติดต่อบริษัทของ หลิงเฟิงเพื่อคุยกันโดยตรง

ผู้จัดการของหลิงเฟิงเอามือข้างหนึ่งเท้าสะเอว พยายาม อธิบายผ่านทางโทรศัพท์ว่า “หลิงเพิ่งรู้สึกไม่สบายจริงๆ แต่ เขาก็ยังดั้นด้นมาที่นี่ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็มาไม่ใช่หรือไงครับ

แต่ปลายสายไม่มีอารมณ์จะพูดคุยกับเขาอีกต่อไป จึงวาง สายทันที

ผู้จัดการคว้าตัวทีมงานคนหนึ่งที่กำลังเก็บกองถ่ายไว้ อย่างหมดหนทาง “ตัวแทนจากแอลเอ็มอยู่ที่ไหน หลิงเฟิงของ เรามาถึงแล้ว…

ทีมงานเหลือบมองหลิงเฟิงที่กำลังนั่งอยู่ในรถและตอบว่า”โฆษณาถ่ายเสร็จแล้วนะครับ”

ได้ยินคําตอบของทีมงาน ผู้จัดการของหลิงเฟิงก็ขมวดคิ้ว ประหลาดใจ “หมายความว่าไง นายแบบยังมาไม่ถึง แล้วจะ ถ่ายทำเสร็จได้ยังไง

“ผู้กำกับเปลี่ยนตัวนายแบบ และการถ่ายทำก็ผ่านไปด้วย ดี พวกเราก็เลยได้เก็บของเร็วกว่ากำหนดครึ่งวันครับ” พูดจบ ทีมงานก็ออกจากรีสอร์ตไปพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบฉาก ปล่อยให้ผู้จัดการยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง เขาไม่สบอารมณ์ อย่างมาก

เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าแอลเอ็ม ผู้กำกับ รวมถึงยังหนึ่ง จะกล้าเปลี่ยนตัวหลิงเฟิง พวกเขากล้าดียังไง

ผู้จัดการตัวสั่นด้วยความโกรธขณะเดินกลับมาที่รถ เขา

จับพวงมาลัยรถไว้พักหนึ่ง ไม่พูดอะไร จนในที่สุดหลิงเฟิงก็รู้สึก

ได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเขา จึงถามออกไปทั้งที่ดวงตายัง

ปิดอยู่ “จะเริ่มถ่ายเมื่อไร

“ถ่ายเสร็จแล้ว!” ผู้จัดการตอบอย่างคับแค้นใจ

“หมายความว่าไง” หลิงเฟิงปืนลืมตาโพลงถามด้วย

ท่าทางกระวนกระวาย

“คุณถูกเปลี่ยนตัว และโฆษณาก็ถ่ายเสร็จแล้ว

“พวกบัดซบนั่นไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นใคร พวกมันกล้า เปลี่ยนตัวได้ยังไง” หลิงเฟิงยังเด็กและอวดดี คำสบถจึงหลุดออกจากปากเขาได้ง่ายๆ เขากำหมัดข้างขวาแน่น ต่อยที่หลัง เบาะคนขับ “พวกมันเปลี่ยนตัวฉันกับใคร ไม่อยากอยู่รอดใน วงการนี้อีกต่อไปแล้วใช่ไหม

“จะรีบไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ครับ” ผู้จัดการก็ดูไม่สบ อารมณ์เช่นกัน สถานะหลิงเฟิงในปัจจุบันแม้จะไม่ได้โด่งดัง ที่สุด แต่ก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา แอลเอ็มกล้า เปลี่ยนตัวหลิงเฟิงได้อย่างไร มิน่าล่ะตัวแทนถึงปฏิเสธที่จะพูด กับเขาทางโทรศัพท์…

“โทรหาพ่อของฉันเดี๋ยวนี้ ถ้าฉันรู้ว่านี่เป็นความคิดของ ใคร ฉันจะทำให้มันย่อยยับแน่นอน คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจา กนั่งถึงหนิงสารเลวนั่น” หลิงเฟิงทำตัวเป็นเด็กบ้านรวยที่เย่อ หยิ่งและไม่เอาไหน หน้าที่การงานของเขาตอนนี้ราบรื่นเกินไป และทุกคนก็ตามใจเขามากเหลือเกิน ดังนั้นเมื่อเขาต้องเผชิญ กับเรื่องน่าขายหน้าเช่นนี้ หากเขาทนรับได้คงน่าแปลกไม่น้อย

ผู้จัดการโทรศัพท์หาแอลเอ็มอีกครั้ง แต่ไม่มีใครรับสาย เขาจึงพยายามโทรศัพท์หาผู้กำกับแทน

“ผู้กำกับครับ หลิงเฟิงกับผมเพิ่งมาถึงกองถ่าย แต่ทีมงาน บอกเราว่าถ่ายทำเสร็จสิ้นแล้ว คุณจะอธิบายว่ายังไงครับ

“หลิงเฟิงป่วยไม่ใช่หรือ ผมอยากให้เขาได้พักผ่อน เลย ตัดสินใจเปลี่ยนตัวเขา มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ” ผู้กำกับ หลิวถามอย่างใจเย็น

“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง หลิงเฟิงเป็นนายแบบที่แอลเอ็มเป็นคนเลือกนะ แล้วเราก็เซ็นสัญญาไปแล้วด้วย! อีกอย่างผมก็ อธิบายไปก่อนหน้านี้แล้วว่าหลิงเฟิงป่วย

“ถ้าเขาป่วย แล้วทำไมเขาถึงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส

ล่ะ” ผู้กำกับหลิวเย้ยหยัน

ผู้จัดการพูดไม่ออก

“แฟนคลับเขาเพิ่งโพสต์รูปเขาที่ฟิตเนส คุณมาบอกผมว่า เขาป่วยได้ยังไง” น้ำเสียงผู้กำกับหลิวไม่เกรงกลัวหรือสะทก สะท้านแต่อย่างใด “โฆษณาถ่ายเสร็จแล้ว และงานของผมก็จบ แล้วด้วย ส่วนเรื่องสัญญาคุณคงต้องไปคุยกับแอลเอ็มเองแล้ว ล่ะ เพราะนั่นไม่ใช่หน้าที่ผม

พูดจบผู้กำกับหลิวก็กำลังจะวางสาย แต่ในตอนนั้นเองที่ผู้ จัดการรีบตะโกนห้ามไว้ก่อน “นายแบบที่เปลี่ยนตัวกับหลิงเฟิง คือใคร”

“คนนอกวงการนะ ผมไม่แนะนำให้ตามหาเขาหรอกนะ เพราะเขาไม่ใช่คนที่คุณจะไปตอแยได้” สิ้นคำตอบที่เรียบง่าย นั้นแล้ว สิ่งที่ผู้จัดการได้ยินมาจากปลายสายก็คือเสียงตุ๊ดๆ แล้วสายก็ถูกตัดไป

ผู้จัดการโกรธมากจนเกือบขว้างโทรศัพท์ลงพื้น

เมื่อเห็นปฏิกิริยาผู้จัดการ หลิงเฟิงก็รีบถามว่า “มันเป็น

“ผู้กำกับบอกว่าอย่าไปตามหาเขา เขาไม่ใช่คนที่เราจะไปตอแยได้”

“แล้วฉัน หลิงเฟิง คือคนที่ตอแยได้หรือไง” หลังเพิ่งพูด อย่างโกรธจัด จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาพิมพ์ข้อความ หนึ่งย่อหน้าและโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต

ผมไม่เข้าใจว่าผมทำอะไรผิดถึงได้ถูกเปลี่ยนตัวอย่างไร

เหตุผล

(ถึงผมจะรู้กฎของวงการนี้ แต่ผมก็ยังรู้สึกผิดหวังมาก

อยู่ดีๆ

ผมจะไม่โทษใคร คงได้แต่ต้องโทษตัวเองที่ทำงานหนัก ไม่มากพอ

(ผมอยากให้ทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม…

เนื่องจากเขากำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในตอนนี้ และแฟน คลับของเขา โดยทั่วไปก็ค่อนข้างอายุน้อย หลังจากเห็นโพสต์ ของเขา บรรดาแฟนคลับจึงโกรธมาก รีบถามทันทีว่าเกิดอะไร ขึ้น ใครรังแกเขา และทำไมเขาถึงดูไม่มีความสุขเลย

ไม่นานหลังจากนั้นแฟนคลับคนหนึ่งก็โพสต์ตารางงานวัน นี้ของหลิงเฟิง ระบุไว้ว่าเขาควรอยู่ที่รีสอร์ตเพื่อถ่ายทำโฆษณา

นี่แสดงว่างานนายแบบของเขาถูกขโมยไปอย่างนั้นหรือ

แฟนคลับเริ่มคาดเดาไปต่างๆ นานา บางคนโทรศัพท์หา อันจือเฮา พยายามล้วงข้อมูลภายในจากถังหนึ่ง แต่อันจื่อเช่า ไม่ได้ตอบสนอง
ภายในเวลาแค่หนึ่งชั่วโมง โพสต์นั้นถูกแชร์ออกไป มากกว่าหนึ่งแสนครั้ง ทำให้หลิงเฟิงพออกพอใจอย่างมาก ใน เมื่อพวกนั้นไม่เล่นไม่ซื้อกับเขา ฉะนั้นพวกเขาก็ต้องถูกเอาคืน อย่างสาสม

อย่างไรเสีย ในวงการนี้ แฟนคลับก็มักจะให้อภัยดารา ชายมากกว่าดาราหญิงอยู่แล้ว เขาไม่รอดถังหนึ่ง ผู้กำกับ แอลเอ็มถูกด่าว่าเหมือนหมูเหมือนหมาไม่ไหวแล้ว