ตอนที่ 160 ความสัมพันธ์แตกหัก

ณ ห้องทำงานประธานบริษัทเพิ่งเรียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์

นี่เป็นครั้งแรกที่อันจื่อเช่าได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ หลานกำลังใช้ฐานะประธานบริษัทซักถามผู้จัดการที่ ขาด ความรับผิดชอบ ของเธอ “ถ้าพวกเขาอยากเปลี่ยนตัวหลิงเฟิง แล้วคุณเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย ทำไมคุณต้องไปแนะนำให้ เขาเปลี่ยนตัว จ่อเฮา คุณอธิบายเรื่องนี้มา

“ถังหนิงต้องตกระกำลำบากในมอสโก ครั้งนี้เธอก็ถูก หลิงเฟิงดูหมิ่น ผมก็มีคำถามจะถามคุณเหมือนกันครับประธาน หลาน ในฐานะที่เป็นประธานบริษัทต้นสังกัดของถังหนึ่ง คุณไม่ คิดหรือว่าคุณไม่ได้ใช้ความพยายามมากพอในการปกป้อง ศิลปินของคุณน่ะ”

“อันจื่อเฮา ระวังคำพูดของคุณด้วย!” หลานตบโต๊ะ ตวาดด้วยเสียง โกรธจัด “ฉันเป็นประธานเฉิงเถียนนะ ในตึกนี้ คุณไม่มีสิทธิ์มาชี้นิ้วสั่ง

“คงเป็นเพราะถังหนึ่งไม่ยอมเชื่อฟังสินะ!” อันจื่อเช่ายัง พูดความจริงต่อ “สำหรับท่านประธานหลานของเราแล้ว การ เซ็นสัญญากับนางแบบที่ไม่ยอมเชื่อฟังคงทำให้คุณทนไม่ได้ละ

อันจื่อเช่าเหมือนจะมองหลานได้อย่างทะลุปรุโปร่งสีหน้าเธอเปลี่ยนเป็นกระวนกระวายทันที

“พวกคุณเป็นคนก่อความวุ่นวายนี้เอง แล้วทำไมบริษัท ต้องมาจัดการให้ด้วยล่ะ ถังหนึ่งไม่มีสมองเลยหรือไง เธอกำลัง ต่อกรกับนักแสดงชื่อดังที่มีเบื้องหลังครอบครัวที่แข็งแกร่งนะ เธอไม่รู้เหรอว่าถ้าไปทำให้พวกเขาไม่พอใจแล้วจะได้รับผลยัง ไง”

ได้ยินหลานเอ่ยเช่นนั้น อันจื่อเช่าก็หัวเราะอย่างเสียมิได้ “คุณเป็นคนที่เซ็นสัญญากับเธอ…และใช้เธอจัดการกับหยางจิ้ง แล้วตอนนี้คุณก็กำลังจะเฉดหัวเธอเพราะเธอทำตามความ ต้องการของตัวเองน่ะเหรอ

“อันจื่อเฮา อย่าคิดว่าฉันไม่มีขีดจำกัดสำหรับคุณนะ!” หลานเตือนด้วยสีหน้าน่ากลัวทันที

แต่ทว่าสิ่งที่อันจื่อเฮาทำก็คือ ลุกขึ้นจากโซฟา เอามือข้าง หนึ่งล้วงกระเป๋า “ว่าไงนะ คุณพร้อมที่จะทำลายผมกับถังหนึ่ง แล้วอย่างนั้นหรือครับ”

หลานซีมองอันจื่อเฮาตาขุนตาเขียว

“เรื่องถึงหนิง เดี๋ยวผมจะหาคำอธิบายที่น่าพอใจให้บริษัท เอง แต่หลาน การแสดงออกของคุณบังคับให้ผมตัดสินใจทำ สิ่งที่คุณควรจะกลัวเข้าไว้นะ” ว่าแล้วอันจื่อเฮาก็หันหลังออก จากออฟฟิศของหลานซี แต่หลานซีพยายามหยุดเขาไว้

“คุณหมายความว่าไง
อันจื่อเช่าพูดอย่างเยือกเย็น โดยไม่หันกลับไป “นับจากนี้ ไปผมไม่ได้อยู่ข้างคุณอีกต่อไปแล้ว

สีหน้าหลานเปลี่ยนไป เธอพยายามรั้งอันจื่อเฮาให้กลับ มาอีกครั้ง แต่เขาก็เดินออกไปไกลแล้ว

เพราะถึงหนึ่งคนเดียว เขาถึงตัดขาดความสัมพันธ์สิบปี ของพวกเขาไปทั้งอย่างนั้นจริงๆ แต่หลานไม่เคยคิดเลยว่า อันจื่อเช่าไม่ได้ตัดสินใจเช่นนี้เพราะถึงหนึ่ง แต่เป็นเพราะเธอที่ เปลี่ยนไปมากเหลือเกินต่างหาก

มันยากที่จะเข้าใจว่า ทำไมเมื่อคนคนหนึ่งได้รับอำนาจ มากมายแล้วต้องกลายเป็นคนไร้หัวใจได้มากขนาดนี้

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เฉิงเถียนถึงไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด หากมีใครจะเปรียบ เทียบหลานกับโม่ถึงแล้ว… พวกเขาจะเห็นได้เลยว่าความ แตกต่างนั้นมากมายสุด…

เหตุการณ์เปลี่ยนตัวยังคงบานปลาย ในขณะเดียวกัน หลิงเฟิงไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ความมั่นคงทางสถานะทางการเงิน ของแอลเอ็ม หรือเลือกที่จะทำลายชื่อเสียงของผู้กำกับ แต่เขา พุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ถังหนึ่ง เขาคาดว่าเธอไม่มีคนหนุน หลัง และต้องการเอาคืนเธอสำหรับความขุ่นแค้นทั้งเก่าและ ใหม่ที่เขามีต่อเธอ ด้วยการจัดการแย่ๆ ของเฉิงเถียน ข่าวลือ เกี่ยวกับถังหนิงจึงเริ่มเผยแพร่ออกไป หลายคนบอกว่าถึงแม้การเซ็นสัญญาของเธอจะยิ่งใหญ่ แต่หลานก็ไม่ได้สนใจเธอ จริงๆ

ในครั้งนี้ ถังหนึ่งก็จัดการกับปัญหาในแบบที่เธอทำเสมอ

มา คืออยู่เงียบๆ เพราะความจริงมักจะชนะเสมอ

ทว่าครั้งนี้เธอทำผิดพลาดจริงๆ …

และไม่ใช่เพียงความผิดพลาดธรรมดา…

อย่างน้อยเธอก็ไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายการตัดสินใจของผู้ กำกับในการเปลี่ยนตัวหลิงเฟิง แม้ว่าการตัดสินใจนั้นจะถูก กำหนดไว้แล้วก็ตาม เช่นนี้แล้วถังหนึ่งจึงมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ ทำให้ไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ได้ นั่นก็เพราะ เธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้แอลเอ็ม หากเธอยอมรับความผิด มันก็ จะเป็นการตบหน้าแอลเอ็มครั้งใหญ่

ความจริงแล้วหลิงเฟิงเป็นคนผิดมาตั้งแต่แรก

แต่ในโลกออนไลน์ แฟนคลับของหลิงเฟิงกำลังขุดข่าว เก่าๆ ของถังหนิงกันอย่างบ้าคลั่ง โจมตีเธอทุกทิศทาง เป็นเหตุ ให้หน้าข่าวของเธอเต็มไปด้วยคำด่าทอ แม้ว่าจะทำทั้งหมดนี้ แล้ว พวกแฟนคลับก็ยังรู้สึกว่าไม่สาสม ถึงขนาดเขียนบทความ เท็จว่าถังหนังประสบอุบัติเหตุ สาปแช่งให้เธอตายทั้ง ครอบครัว

ก่อนหน้านี้เธอมักจะแข่งขันกับผู้หญิงมาตลอด แฟนคลับ คนดังหญิงค่อนข้างมีเหตุผลมาโดยตลอด แต่เมื่อเป็นแฟน คลับคนดังชายแล้วละก็ ความแตกต่างนั้นก็ปรากฏให้เห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง…

เมื่อเห็นการถกเถียงที่รุนแรงนี้ ถังหนึ่งก็กลัวเกินกว่าที่จะ ให้โม่ถึงเห็น เพราะไม่อยากให้เขากังวล หญิงสาวจึงทำราวกับ ว่าไม่มีอะไรผิดปกติต่อหน้าเขา ถึงขนาดแอบติดต่อเช่อ บอก เขาว่าห้ามให้โม่ถึงรู้ แต่ว่าไม่ถึงก็รู้เรื่องทุกอย่างอยู่แล้ว

ในขณะเดียวกัน ไม่ถึงก็ไม่ได้พูดอะไรต่อหน้าถังหนึ่ง ถึง ขนาดติดต่อหลงเจีย บอกว่าอย่าให้ถึงหนึ่งดูคอมเมนต์ในโซ เชียล เพราะไม่อยากให้เธอกังวล

คู่สามีภรรยาต่างก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่มีใครยอมเปิด เผยให้อีกฝ่ายรู้

การโจมตีถังหนิงบนโลกออนไลน์ไม่ได้ยุติลง นี่ทำให้ หลิงเฟิงพึงพอใจอย่างมาก

เขาอยากเห็นเหลือเกินว่าหลังจากเห็นคำวิจารณ์ถังหนึ่งบ นอินเทอร์เน็ตอย่างนี้แล้ว จะยังมีใครกล้าเชิญเธอไปออกงาน หรือให้งานเธออยู่อีกไหม

[หลิงเฟิงคือทูนหัวของฉัน ฉันไม่สนหรอกว่าถังหนึ่งจะทำ อะไร ตราบใดที่เธอไม่มาแตะทูนหัวของฉัน ฉันก็จะไม่ว่าอะไร เลย]

ถังหนึ่ง อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลย ทำไมยังไม่ออกมาขอ โทษเสี่ยวเฟิงอีก… คิดจะหลบซ่อนไปตลอดชีวิตเลยหรือไง หน้าไม่อาย! หล่อนคงกลัวหัวหดไปแล้วสินะ ในที่สุดเธอก็รู้ซะทีว่าไม่ควรมายุ่งกับพวกเรา แฟนหลิง]

ชาวเน็ตเดือดกันยกใหญ่ และหลิงเฟิงก็ได้รับคะแนน ความเห็นใจอย่างล้มหลาม ทว่าในเวลานี้ แอลเอ็มตัดสินใจ ถ่ายทอดสดอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมด

“เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นในวันที่มีการถ่ายโฆษณา หลิงเฟิงไม่มาปรากฏตัวแม้ว่าเราจะรอกันมานานแล้วก็ตาม และพวกเราก็ไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ มาก่อนว่าเขาจะไม่ มา”

“เพราะเหตุนี้ ตัวแทนจากแอลเอ็มจึงโทรศัพท์หาผู้จัดการ ของหลิงเฟิงเพื่อยืนยันว่าพวกเขารู้ตารางงานจริงๆ อย่างไร ก็ตาม ผู้จัดการของหลิงเฟิงเผยว่า หลังเฟิงต้องการแก้แค้นถัง หนึ่งที่ปฏิเสธคำเชิญไปมื้อค่ำของเขา และเรียกร้องคำขอที่ไร้ สาระ เขายังต้องการให้ถังหนึ่งก้มหัวให้ ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่ ยอมมากองถ่าย

“การกระทำของหลิงเฟิงส่งผลกระทบต่อแอลเอ็ม ผู้กำกับ และถังหนึ่งอย่างรุนแรง เขาไม่มีความเป็นมืออาชีพเลยแม้แต่ น้อย”

“ดังนั้นหลังจากทีมงานช่างภาพทั้งหมดลงความเห็นอย่าง เป็นเอกฉันท์แล้ว ผู้กำกับจึงตัดสินใจเปลี่ยนตัวหลิงเฟิง และ เลือกคนที่เหมาะสมมาแทน คนที่ผู้จัดการของถังหนึ่งแนะนำมา ไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ได้รับการพิจารณา พวกเรายังมีตัวเลือก อีกมากมาย แต่เนื่องจากเขาเหมาะสมกับเกณฑ์ของเรามากที่สุด ผู้กำกับจึงตัดสินใจเลือกเขา ถังหนึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ใดๆ กับเรื่องนี้”

“หลิงเฟิงควรหยุดเป่าหูสาธารณชน และหัดแยกแยะงาน กับเรื่องส่วนตัว ไม่ควรผลักความผิดให้คนอื่น ผมหวังว่าเขาจะ พิจารณาตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก

“เหตุเปลี่ยนตัวนี้ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายอย่างมาก ท่ามกลางความเข้าใจผิดของชาวเน็ต พวกเราต้องขออภัยเป็น อย่างสูงครับ ขณะเดียวกันแฟนคลับของหลิงเฟิงก็ทำให้พวก เราเข้าใจอย่างหนึ่งว่า การถอยหลังมาหนึ่งก้าวอาจไม่ได้ทำให้ มองเห็นภาพได้กว้างขึ้นเสมอไป เพราะฉะนั้นในวงการบันเทิงนี้ เราต้องคว้าอาวุธของเรา ปกป้องสิทธิของเรา และยืดหยัดใน เป้าหมายของเราเอง

“ผมขอให้คุณหลิงเฟิงโชคดีมา ณ โอกาสนี้ครับ!”

แอลเอ็มตัดสินใจยังไม่เปิดเผยหลักฐานใดๆ เพราะถึง หนังแนะนำพวกเขาว่ายังไม่ควรเปิดไพ่ตายตอนนี้ เธอมีความ รู้สึกว่าหลิงเฟิงจะโต้กลับ ทั้งนี้ เหตุที่แอลเอ็มกล้าออกมาพูด และกระทำเช่นนี้นั้น ก็เป็นเพราะโทรศัพท์สายหนึ่งที่พวกเขาได้ รับก่อนหน้านี้จากประธานบริษัทไม่รุ่ย…