ตอนที่ 124 เธอไม่ละอายหรือไง

ดังนั้นซิงฉือใต้จึงตอบกลับว่า “หลักฐานเหรอ เราจะรอดูก็แล้ว กัน คนดีๆ เขาไม่ก้มหัวให้ปีศาจร้ายหรอก!”

เมื่อเห็นคำตอบนั้น ใบหน้าหลงเจียก็เต็มไปด้วยความ ขยะแขยง “หลานอวี่นี่ได้เอาใหญ่เลยนะคะ ชิงฉือใต้ต้อง มนตร์เธออยู่หรือไง ทำไมพวกเขาถึงเล่นตามเกมของเธอแบบ นี้ล่ะ!”

ถังหนังส่ายหน้าพลางคงรอยยิ้มบางๆ ไว้บนใบหน้า ยิ่งมี ปัญหามากเท่าไร เธอก็ยิ่งสงบมากเท่านั้น

เธอไม่ได้สนใจเรื่องอื่น ที่เธอรู้คือ ยิ่งหลานอให้ร้ายเธอ เท่าไร เธอก็ยิ่งจะทิ้งความรู้สึกผิดไปได้ง่ายเท่านั้น เพราะถึง อย่างไร… การที่ต้องสู้กับเด็กคนหนึ่งเช่นนี้ก็ไม่ได้ทำให้เธอ รู้สึกดีเท่าที่ควร แต่ตอนนี้

ถังหนึ่งไม่รู้สึกผิดแล้วแม้แต่น้อย

“อายุสิบหกก็เป็นแบบนี้ซะแล้ว…ถ้าโตกว่านี้จะทำเรื่อง แบบไหนได้อีกกันนะ จุ๊ๆ ร้ายจริงๆ …

ถังหนิงนั่งเงียบ เธอมีทุกอย่างอยู่ในกำมือแล้ว

ขณะเดียวกัน เสียงของผู้คนที่กดดันให้เธออัชเผยหลัก ฐานที่ว่าก็ดังขึ้นเรื่อยๆ …
ชิงฉือได้เองก็ปฏิเสธที่จะเลิกกล่าวหาว่าถังหนิงรังแกเด็ก อายุสิบหก ไม่ว่าผู้คนจะพูดอย่างไร พวกเขาก็ยืนหยัดปกป้อง ศิลปินในสังกัดของตัวเอง

แบลร์เป็นคนฉลาด เขารู้ว่าควรแทรกเข้ามาตอนไหน หา กชิงฉือได้อยากจะยืนอยู่ในกองไฟ ตัวเขาเองก็จะไม่รามือ…

ดังนั้นเอออัชจึงประกาศว่าพวกเขาจะออกมาอธิบายสั้นๆ และยินดีให้สื่อต่างๆ เข้ามาถามคำถาม

แบลร์ตัดสินใจแล้วว่าจะยืนต่อหน้าทุกคนและพูดสิ่งนี้ด้วย

ตนเอง

ขณะเดียวกันนั้น หลานอวี่กำลังนั่งอยู่ในห้องพักศิลปิน แกว่งขาไปมาพลางเพลินอุราไปกับการนวดโดยผู้ช่วยของ เธอ…

เธอไม่รู้เลยว่าหายนะกำลังจะมาเยือน…

เสียงชัตเตอร์กล้องดังระรัวในห้องสัมภาษณ์ นักข่าวถ่าย ภาพแบลร์ด้วยความตื่นเต้น พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าเอออัช กล้าโยนตัวเองเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างถึงหนึ่งและหลานอ

“ไม่ทราบว่าในการออกมาอธิบายครั้งนี้ คุณยืนอยู่ในจุด ไหนครับ แล้วอะไรคือเหตุผลที่คุณสนับสนุนคุณถึงหนึ่งอย่างไม่ เปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ใช่เพราะว่าคุณตกลงเรื่อง ใต้เตียงกันไว้ หรือเปล่าครับ”

เมื่อได้ยินคำถามของนักข่าว แบลร์ก็ชี้มือไปที่ชายคนนั้นและสั่งผู้ช่วยของเขา “นักข่าวคนนี้น่ะ จดชื่อเขาไว้หน่อย พอจบ เรื่องนี้ บอกให้ทนายของฉันส่งจดหมายไปหาเขาด้วย

ด้วยคำพูดเหล่านี้ ทั้งห้องก็ตะลึงงันและส่งสายตาให้กัน

ไปมา

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าแบลร์จะเ** ยมโหดได้ขนาด นี้…ตั้งแต่เริ่ม

“ก่อนอื่น ผมขออธิบายว่าทำไมผมถึงได้มาเป็นคนอธิบาย เรื่องนี้นะครับ มันเป็นเพราะทุกอย่างเริ่มต้นจากอีเวนต์ของเอ ออัช และทางเราก็ได้ทราบความจริงแล้ว เพียงเพราะชาวเน็ต ยอมรับความจริงไม่ได้ แล้วมันหมายความว่า การที่ผมออกมา เปิดเผยความจริงจะแปลว่าผมมีเรื่องอนาจารแอบแฝงไว้หรือ ครับ”

“ในฐานะแบรนด์น้ำหอมชั้นนำ เอออัชมีจุดยืนและจรรยา บรรณมากพอ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่มีเจตนาร้าย เราก็ ไม่เคยออมมือ”

“ประเด็นถัดมาซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ผมมาอยู่ที่นี่ตรงนี้ก็ เพราะข่าวลือที่ว่าคุณถึงหนึ่งรังแกคุณหลานอวี่ จากมุมของผม ผมเห็นเพียงแค่ความใจกว้างของคุณถึงหนึ่งที่ยกโทษให้คุณ หลานอวี่ แม้ว่าคุณหลานอวี่จะใช้ชื่อของเธอเพื่อสร้างกระแส ก็ตาม เธอทราบดีว่าคุณหลานอวี่อายุยังน้อยและยังไม่เข้าใจ แก่นแท้ของคุณค่าหลายๆ ประการ เธอยังเชื่อว่าหากหลานอ ทําอะไรผิดไป เธอควรยังได้รับการอภัย…
“คุณแบลคะ แม้แต่คุณถึงหนึ่งยังยอมรับว่าส่งของขวัญ ไปให้คุณหลานอเลยนะคะ คุณจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรคะ

“เธอยอมรับเพราะว่าเธอส่งของขวัญไปจริงๆ อย่างไรก็ดี เธอปฏิเสธที่จะออกมาขอโทษเพราะว่าของขวัญที่เธอส่งไปเป็น คนละชิ้นกับของขวัญที่หลานออ้างครับ! ในเมื่อเธอตกเป็น เหยื่อเช่นนี้ ทำไมเธอต้องขอโทษล่ะครับ” แบลร์ถามกลับนัก ข่าว

“คุณทราบได้อย่างไรว่าของขวัญของถังหนึ่งเป็นคนละชิ้น กับของที่คุณหลานออ้างคะ

คำถามค่อยๆ ไต่ขึ้นไปยังจุดไคลแมกซ์และประเด็นหลัก ของการสัมภาษณ์อย่างช้าๆ ทุกคนสันนิษฐานว่าแบลร์ก้าวออก มากู้สถานการณ์เพียงเพื่อช่วยทั้งหนึ่ง เขาไปหาหลักฐานมา จากไหนกันล่ะ พวกเขาทุกคนรอดูว่าชายคนนี้กำลังเล่นเกม อะไรอยู่ ในตอนนั้นเองที่แบลร์ไม่ได้ทำให้ทุกคนผิดหวัง

“ยังไงงั้นเหรอครับ”

“เพราะของขวัญของคุณถึงหนึ่ง ที่จริงแล้วบริษัทเอออัช เป็นผู้ส่งไปครับ คุณถึงหนึ่งและลูกน้องของเธอไม่ได้แตะมัน เลยแม้แต่น้อย ของชิ้นนั้นส่งตรงจากโกดังของเรา ส่วนการ์ดที่ แนบไปนั้น หนึ่งในผู้จัดการของเราเป็นคนเตรียม เจ้าหน้าที่ส่ง ของชิ้นนั้นก็เป็นพนักงานคนหนึ่งของเราเช่นกันครับ…

“หากคุณดูภาพที่คุณหลานอวี่โพสต์ จะเห็นว่าด้านล่าง ขวาของกล่องของขวัญนั้นมีโลโก้ของเอออัชอยู่ หากพวกคุณอยากจะเทียบลายมือบนการ์ดนั่นกับลายมือผู้จัดการของเราก็

ย่อมได้ครับ ยิ่งไปกว่านั้น ที่บริษัทของเรามีกล้องวงจรปิด

มากมาย หากพวกคุณอยากเห็นคลิปขั้นตอนที่พวกเราเตรียม

ของจนถึงตอนจัดส่ง ผมก็สามารถนำมาเผยแพร่ได้เช่นกัน

ด้วยหลักฐานทั้งหมดนี้ พวกคุณยังเชื่อว่าคุณถึงหนิงรังแกคุณ

หลานอวี่อีกเหรอครับ”

“ผมจะบอกอะไรให้นะ คุณถึงหนึ่งมาที่บริษัทของเราเมื่อ สองสามวันก่อนเพื่อขอโทษและให้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่ได้เข้า ร่วมงาน ดังนั้นเอออัชจึงตัดสินใจไม่เอาเรื่องเธอ

“ในตอนนั้นที่คุณหลานอป่าวประกาศไปทั่วว่าคุณถึง หนิงผลักไสและปฏิเสธที่จะไม่ขึ้นเวทีร่วมกับเธอ แม้ว่าคุณถึง หนึ่งจะถูกใส่ร้ายอยู่ แต่เธอก็ไม่เคยตอบโต้ ถึงกับส่งน้ำหอม รุ่นลิมิเต็ดที่ผมมอบให้เธอไปให้กับคุณหลานอวี่ เธอรู้สึกผิด มากที่ทำให้คุณหลานอเข้าใจผิด!”

“นั่นเป็นเหตุผลที่เอออัซกลายเป็นผู้ส่งของขวัญให้ในนาม ของเธอ…

“อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจมากที่สุดคือ คุณหลานอว… คุณได้รับของขวัญแล้ว แต่คุณก็ยังจงใจสับ เปลี่ยนมัน และหลอกลวงสาธารณชนเพื่อสร้างกระแส คุณรู้ว่า ชาวเน็ตจะเลือกเข้าข้างคุณ คุณก็เลยโยนคุณถึงหนึ่งเข้าไปใน กองเพลิงอย่างโหดเ* ยม หากนี่เป็นความผิดเพียงเล็กน้อย… มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่หัวใจของคุณมันชั่วร้ายมากเหลือ เกิน… นี่เป็นการกระทำที่อุกอาจมาก!
หลังจากพูดจบ แบลร์ก็แสดงหลักฐานทั้งหมดรวมถึงคลิป วิดิโอขั้นตอนการเตรียมของขวัญจนถึงการจัดส่งขึ้นบนจอด้าน หลัง และเชิญพยานขึ้นมาบนเวทีเพื่ออธิบายขั้นตอนทั้งหมด อย่างชัดเจน

ไม่มีใครอยากเชื่อว่าของขวัญที่หลานอวอ้างว่าได้รับมา จากถังหนิงนั้นจะไม่ได้มาจากถังหนึ่งจริงๆ!

เธอไม่ได้ทํา!

เธอไม่ได้ทํา!

ถังหนึ่งไม่ได้ส่งของขวัญไปเอง เธอไม่ได้แตะต้องมัน ระหว่างขั้นตอนพวกนั้นด้วยซ้ำ เมื่อออกมาเป็นเช่นนี้ ทุกคนจึงเห็นเจตนาของหลานอ ชัดเจนแจ่มแจ้ง เธอกล้าดีอย่างไรถึงเอาของขวัญปลอมนั่นออก

มาอ้างต่อสาธารณะว่าถังหนึ่งเป็นคนส่งมาให้เธอเพื่อเป็นคำ

เตือน

นี่มันเรื่องตลกชัดๆ!

เธอไม่ละอายเลยหรือไง

เห็นได้ชัดว่าเธอพยายามสร้างกระแสทั้งหมดนี้ คนที่เอ ออัชไม่มีเหตุผลที่จะจงใจใส่ร้ายเธออยู่แล้ว

โลกออนไลน์กลับมาวุ่นวายอีกครั้ง ไม่มีใครคาดว่าคดีจะ พลิกเช่นนี้…ทุกอย่างกลับตาลปัตรและหลานอวก็ได้รับเคราะห์ ไปเต็มๆ!
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมคุณถึงหนึ่งถึงไม่ออกมาอธิบาย อะไรเลยล่ะคะ”

“คุณถึงหนิงส่งของขวัญชิ้นนั้นไปด้วยเจตนาดี เธอแค่ อยากขอโทษเท่านั้น แต่กลับมีใครบางคนที่คิดวางแผนฉกฉวย ผลประโยชน์จากเรื่องนี้ หากเธออัชไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ดังกล่าว คุณถึงหนิงจะโดนใส่ร้ายไปอีกมากมาย ขนาดไหนล่ะครับ ขณะที่เธอพยายามดิ้นรนปกป้องตัวเอง คุณ ทุกคนรวมถึงชาวเน็ตทั้งหลายกลับรุมทิ้งเธอราวกับฝูงหมาป่า ไม่แม้แต่จะให้โอกาสเธอได้อธิบาย… ดังนั้น ทำไมคุณถึงไม่ ถามตัวเองล่ะครับว่าทำไม

นักข่าวทั้งหลายพูดไม่ออก… และมีท่าทีกระอักกระอ่วน