ตอนที่466 สัญญาหย่าร้าง

“พ่อ พ่ออย่าตื่นเต้นมากเกินไป หนูจะไม่ให้พวกเธอ สองคนขายบ้านไปแน่นอน”ปาลีตบหลังของพ่อเบาๆ ดวงตาของเธอเปล่งประกายที่แน่วแน่น

เธอกำลังอยากหาโอกาสไปคิดบัญชีกับสองแม่ลูกนี้ พอดี คาดไม่ถึงพวกเธอสองไปก่อเรื่องอีกแล้วแถมยัง ทำให้พ่อโกรธเป็นแบบนี้ ถ้าคราวนี้เธอไม่ลงมือหนัก เธอก็ไม่ชื่อปาลี เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อเสียใจกับ ขวัญชีวีสองแม่ลูกนั้นถึงขั้นไหน ถ้าลงมือหนักเกินไป เธอกลัวว่าพ่อจะเสียใจ ปาลีรู้สึกลำบากเล็กน้อย

แต่ที่ทำให้ปาลีประหลาดใจก็คือ ธามพูดต่อว่า”พ่อ ทนพอแล้ว คราวนี้พ่อจะต้องหย่าให้ได้ พ่อจะไม่อยู่จา ริณีผู้หญิงเลวคนนี้อีกต่อไป พ่อทนเธอมาสามสิบปีก็ ทนพอแล้วถ้าทนอีกต่อไป พ่อต้องเป็นบ้าแน่”เมื่อก่อน เพื่อให้ปาลีและขวัญชีวีได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ แม้จา ริณีจะน่าเกลียดแค่ไหน ธามก็มักจะอดทนไว้ แต่ตอนนี้ ปาลีและขวัญชีวีล้วนโตเป็นสาวแล้ว ปาลีก็มีครอบครัว ของตนเองไป เขาจะหย่าหรือไม่หย่าก็ไม่มีผลกระทบ ต่อพวกเธอแล้ว เขาอดทนมาสามสิบปี ตอนนี้เขาก็อายุ มากแล้ว ชีวิตที่เหลือก็ไม่ได้มีมากอีก คราวนี้เขาอยาก ใช้ชีวิตที่แบบเพื่อตนเอง

“พ่อ เรื่องนี้หนูเห็นด้วยกับพ่อ”

เมื่อรู้ความคิดของพ่อ ปาลีก็ไม่มีความกังวลอีก ใน เมื่อเป็นห้ามขวัญชีวีสองแม่ลูกนั้นขายบ้านไป งั้นเธอก็ต้องรีบกลับไป หลังปลอบใจพ่อไปอีกพัก ปาลีและดนุ พลก็กลับไปหมู่บ้านน้ำขาวพร้อมกับลุงชู ส่วน23ก็อยู่ โรงพยาบาลกับวิสาข์

เมื่อปาลีมาถึง ขวัญชีวีและจาริณีได้คุยเรื่องขาย บ้านกับคนซื้อได้เรียบร้อย ทั้งสองกำลังเตรียมจะเซ็น สัญญา

ปาลีเดินเข้าไปด้วยสีหน้าที่เย็นชา แย่งสัญญาใบนั้น มาฉีกให้เป็นชิ้นๆโดยไม่พูดอะไร ขวัญชีวีและจาริณี เห็นปาลีมาขวางเรื่องดีของพวกเธออีก ทันใดนั้นก็รู้สึก ทั้งโกรธทั้งหวาดผวา

คนซื้อบ้านเห็นสถานการณ์ไม่ดี บวกกับดนุพลลาก เขามาข้างๆและบอกกับเขาว่าขวัญชีวีและจาริณีไม่มี สิทธิ์ขายบ้านหลังนี้ ถึงวันนี้เขาซื้อไปแล้ว นี่ก็เป็นการ ค้าขายที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทีหลังถ้าเจ้าของ ไล่เลียงความรับผิดชอบเขาจะต้องเป็นฝ่ายเสีย เมื่อ ครุ่นคิดไปชั่วขณะ คนซื้อก็ยกเลิกการซื้อแล้วรีบจากไป

จาริณีเห็นเงินที่เกือบได้แต่กลับเสียไปแล้ว ก็โกรธ จนชี้ไปยังปาลีแล้วเริ่มด่าทอเธอ”อียัยสมควรตาย แกมี สิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องฉัน แกไม่ใช่คนของบ้านนี้ชัดๆ บ้าน หลังนี้ไม่มีส่วนของแก แกมันแค่เด็กสวะ ใสหัวออกไป”

“ใช่สิ ฉันต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆของบ้านนี้ แถม เป็นลูกสาวคนเดียวเท่านั้น ไม่ช้าก็เร็วบ้านหลังนี้ต้อง สืบทอดให้ฉัน ส่วนเธอ อย่าคิดมาแบ่งผลประโยชน์เลย แม้แต่น้อย”
ขวัญชีวีก็โกรธเหมือน เพราะเมื่อกี้คนที่ซื้อนั้นราคาตั้ง เป็นล้านเลย

ดนุพลได้ยินว่าจาริณีด่าทอปาลี เขาก็รู้สึกโกรธ แต่ ไม่รอให้เขามีการกระทำใดๆ ปาลีก็ลากเขาไว้แล้วส่าย หัวกับเขา”ดนุพล เรื่องวันนี้ให้ฉันเป็นคนจัดการเลย”

เรื่องที่กับสองแม่ลูกนี้ วันนี้เธอจะจัดการให้หมดในที เดียว

เธอค่อยหยิบสัญญาที่ในกระเป๋าออกมาแล้วมองไป ยังสองแม่ลูกที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้วพูดอย่าง ไร้อารมณ์”สัญญาเมื่อกี้พวกเธอไม่มีสิทธิเซ็นชื่อ แต่ สัญญาฉบับนี้พวกเธอมี สิบนาที ฉันให้เวลาสิบนาทีให้ พวกเธอไปอ่าน”

ขวัญชีวีและจาริณีสบตากันด้วยความสงสัย พอรับมา ดูก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม

สัญญาหย่าร้าง เป็นสัญญาหย่าร้าง!“ฉันไม่เซ็น ใคร บอกฉันอยากจะหย่า ฉันไม่หย่า…”

จาริณีโกรธและไปฉีกสัญญาหย่าร้างเป็นชิ้นๆ เธอ อายุป่านนี้แล้วจะไปหย่าได้ยังไง นี่ไม่ใช่ให้คนอื่นมา หัวเราะเยาะเธอหรอ อีกทั้งในสัญญาใบนี้ยังเขียนว่า หลังหย่าเธอจะต้องเอาขวัญชีวีไปด้วยแต่ไม่ได้สมบัติ ใดๆแม้แต่บาทเดียว

ปาลีเหมือนเดาออกปฏิกิริยาของจาริณีแล้ว เธอเพียงแค่ยิ้มเย็นชา แล้วเอาสัญญาหย่าร้างออกมาจาก กระเป๋าอีกครั้ง “เรื่องมาถึงขั้นนี้ แม้เธอจะร้องไห้หรือ ไปแขวนคอตายก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ให้เธอกับ ขวัญชีวีออกจากบ้านนี้ไม่เพียงแต่เป็นความหมายของ ฉัน ยังเป็นความหมายของพ่อ พวกเธอเคยทำอะไรไว้ ให้พ่อพวกเธอเองก็รู้ชัดเจนดี ตอนนี้แค่ให้พวกเธอออก จากบ้านโดยไม่มีสมบัติพวกเธอก็ถือว่าได้เปรียบไป แล้ว สัญญาหย่าร้างฉันแค่เตรียมมาสองฉบับ ถ้าเธอ ฉีกไปอีก งั้นก็เตรียมไปเซ็นในคุกเลย”คราวนี้ที่ธาม บาดเจ็บหนักต้องเข้าโรงพยาบาลล้วนเป็นเพราะจา ริณี ถ้าปาลีฟ้องจาริณีด้วยข้อกล่าวหาที่ทำร้ายคนโดย เจตนา งั้นจาริณีต้องติดคุกแน่นอน ดังนั้นที่ปาลีพูดไป นั้นไม่ใช่แค่การคุกคามเท่านั้น