ตอนที่422 ฉวยโอกาสเสียดสี

เมื่อเห็นดนุพลและปาลีมาถึง สุพจน์ที่กำลังคุยกับคน ชั้นสูงก็มาต้อนรับทันที ข้างๆเขายังมีผู้หญิงสวยงามวัย กลางคนหนึ่ง ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าต้องเป็นเมียคนรวยของ เขาที่ผลักดันให้เขาได้เข้าสังคมไฮโซ

นี่เป็นครั้งแรกที่ปาลีได้เจอกับสุพจน์ เมื่อแทบกับชย นที่อ่อนโยนแล้วสุพจน์ถึงจะนับว่าเป็นผู้ชาย เขารูปร่าง สูงใหญ่ ดวงตาแหลมคม ชุดสูทสีดำให้ทำเขาดูมีเสน่ห์ มากขึ้น ดังนั้นถึงเขาจะอายุ40กว่าแล้วแต่ก็ยังดูมีความ ดึงดูดใจมาก

“ท่านนายกเทศมนตรี ยินดีต้อนรับครับ บริกร เอาไวน์มา”

เมื่อเดินเข้าหาดนุพล สุพจน์ก็ยิ้มออกกว้าง ต่อมาก็ เหลือบไปมองปาลี แล้วพูดว่า”คนนี้ต้องเป็นคนรักของ คุณดนุพลแน่นอน ช่างสวยงามจริงๆ

คำชมเรียบง่ายที่ออกจากปากของเขาทำให้คนไม่ได้ รู้สึกถึงความประจบแต่เป็นชมจากใจจริง

ปาลีใช้การยิ้มเบาๆเป็นการตอบเขา

ดนุพลก็ยิ้มและพูดว่า”สวัสดีครับคุณสุพจน์ ฉันได้ยิน พ่อฉันพูดถึงคุณไม่น้อยเลยนะ พูดขึ้นมาคุณก็อาวุโส กว่าฉัน ไม่ต้องเรียกฉันท่านนายกฯ เรียกชื่อฉันก็ พอแล้วครับ”
สุพจน์ตอบอย่างดีใจ”ถ้างั้นฉันก็ไม่เกรงใจแล้วนะ นับ ขึ้นมาฉันกับพ่อเธอก็เป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปีแล้ว เธอ เรียกฉันว่าลุงสุพจน์ก็พอแล้ว”

พลางพูด สุพจน์ก็พลางลากชยนและขวัญชีวีที่อยู่ข้าง หลังเขามา“นี่เป็นน้องชายแท้ของลุง เป็นเจ้าบ่าวของวัน นี้ พวกเธอทำความรู้จักกันเลย นี่เป็นน้องสะใภ้ลุง เป็น คุณหนูรองของตระกูลกาฬดิษย์ ได้ยินว่าเธอกับจักรก ฤษสนิดกันมาตั้งแต่เล็ก ก็คงคุ้นเคยกับน้องสะใภ้ลุงไม่ น้อย”

ได้ยินชยนพูดแบบนี้ ดนุพลเหลือบไปมองชยนที่มี ความกลัวเล็กน้อย ต่อมาก็มองไปยังขวัญชีวี ยิ้มว่า“ฉัน กับจักรกฤษสนิทกันก็จริง แต่กับคุณขวัญชีวีแค่ได้เจอ หน้ากันไม่กี่ครั้งเท่านั้น แต่ว่าแฟนฉันได้คุ้นเคยกับคุณ ขวัญชีวีมากนะ”

พูดจบก็มองไปปาลีที่อยู่ข้างๆ

คนอื่นมองไม่ออกความหมายของยิ้มของดนุพลแต่ ปาลีกลับมองออกได้ เขากำลังสร้างโอกาสให้เธออยู่

ปาลียิ้มแล้วสบไปดวงตาที่มีความสงสัยของสุพจน์ พูดว่า”พูดมามันก็น่าขันดี ฉันกับเจ้าสาวคนนี้โตมาใน หมู่บ้านเดียวกัน และก็เคยเป็นพี่น้อง”

ขวัญชีวีพอได้ยินปาลีกำลังพูดเรื่องอดีตของเธอก็ รู้สึกกังวลขึ้นมา
รอยยิ้มบนหน้าของสุพจน์นิ่งไป เขาก็รู้ว่าขวัญชีวีเป็น ลูกสาวที่วิสาข์เพิ่งรับกลับมาเลี้ยง คนในสังคมไฮโซก็ รู้กันทั่ว ก็เป็นเพราะฐานะคุณหนูร้องตระกูลกาฬศิษย์ ของขวัญชีวีได้มาแบบไม่ปกติ ดังนั้นขวัญชีวีได้คบกับ ชยนมาช่วงหนึ่งแม้ก็หมั้นไปแล้ว สุพจน์ก็ยังไม่ยอมให้ พวกเขาแต่งงาน เพราะในใจเขาดูถูกขวัญชีวีมาก

ถ้าไม่ใช่คราวนี้ขวัญชีวีท้อง และธุรกิจของเขาก็ ต้องการความสนับสนุนของจักรกฤษ เขาก็ไม่ยอมให้ พวกเขาแต่งงานหรอก

ตอนนี้โดนปาลีพูดอดีตของขวัญชีวีออกมา สุพจน์ก็ รู้สึกอึดอัดเล้กน้อย ในใจยิ่งรู้สึกดูถูกขวัญชีวีมากขึ้น เขาไม่ตอบที่ปาลีพูดแล้วหันไปพูดกับชยนและขวัญชีวี ว่า“เวลามงคลถึงแล้วพวกเธอไปเตรียมตัวเถอะ ขั้นตอน ที่จะทำอย่าให้เกิดความผิดพลาด ไม่งั้นตระกูลผมจะ ขายหน้าได้”

คำพูดสุดท้ายเป็นพูดให้ขวัญชีวีฟัง

ขวัญชีวีตัวสั่นไปทีหนึ่งแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร เพียงแต่ ตอนที่หันตัวไปก็เหลือบมองปาลีด้วยความแค้น

เมื่อชยนและขวัญชีวีไป สุพจน์คุยกับดนุพลสักสอง สามประโยคแล้วก็เดินไปคุยกับแขกคนอื่น

“พี่ชาย พี่สะใภ้”

พอสุพจน์ไป ปาลีก็เห็นอิงดาวจูงมือภาสวรเดินมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม