ตอนที่ 203 คุณโกหก!

ลัวเข่าเหลือบมองหยวนส่วนสลับกับหันซินเอ๋อร์ ความมั่นใจ ของเขาพลันหล่นหายไปหมดสิ้น เขาไม่เคยเจอห์นซินเออร์มา ก่อน อย่างเดียวที่เขารู้คือเธอป่วย ส่วนเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับเธอ นั้นเขายังไม่เคยไปสืบเสาะมาเลย ตัวเฮาคิดแค่ว่าเขาไม่จําเป็น ต้องเปลืองพลังงานกับคนกำลังจะตาย

ดังนั้น เมื่อเห็นหันซินเอ๋อร์อยู่ตรงหน้า เขาจึงไม่รู้ว่าความ โกรธ ในแววตาของเด็กสาวหมายถึงอะไร…

เป็นเพราะเขาเสกสรรปั้นแต่งคำพูดถึงหนึ่งขึ้นมาเช่นนั้น

หรือ

ไม่ว่าอย่างไร เขาก็มาไกลเกินจะถอยกลับแล้ว สิ่งเดียวที่ เขาทำได้คือรักษาท่าที ลัวเฮาพยักหน้า “แน่นอน…ผมเป็นผู้ บริหารของเธอนะ ทำไมผมต้องใส่ร้ายเธอล่ะ

หันซินเอ๋อร์วิเคราะห์ลัวเอาหัวจรดเท้า เธอยิ้มบางๆ ก่อน เปล่งเสียงดังออกมา “คุณโกหก!”

“คุณลัว อย่าคิดนะคะว่าแค่เพราะหยวนส่วนไร้เดียงสา แล้วคำโกหกของคุณจะใช้ได้กับทุกคน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ เฉิงเถียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์เคยทำต่อพี่ถังหนึ่ง ทุกการกดขี่ ข่มเหงพวกนั้น เพียงเพราะหยวนส่วนไม่ชอบเล่นเน็ตก็ไม่ได้ หมายความว่าคนอื่นๆ จะตามืดบอดไปด้วยนะคะ คลิปเสียงหมิ่นประมาทของเฉิงเถียนน่ะอยู่บนพาดหัวอันดับแรกมาตั้ง นานแล้ว คุณคิดว่าพวกเราโง่หรือไง”

ลัวเฮาอึ้งกับคําพูดหีนซินเอ๋อร์อยู่ชั่วครู่…

เขาไม่มีทางหักล้างเรื่องนี้ได้เลย การปรากฏตัวของหันซิน เอ๋อ ทําให้เขาประหลาดใจจริงๆ

“ที่สำคัญ คุณไม่รู้เหรอว่าฉันกับพี่ถึงหนึ่งรู้จักกันมานาน

แค่ไหนแล้ว คิดว่าฉันไม่รู้เหรอคะว่าเธอพูดหรือไม่ได้พูด

ประโยคพวกนั้นหรือเปล่า ฉันก็เลยต้องมาลองฟังคุณพูดนี่ไง

มันชัดเจนมากว่าคุณไม่เคยไปคุยกับพี่ถึงหนึ่งเลย” ร่างกายใน

เอ๋อร์อ่อนแอจนถึงขีดสุด เพราะป่วยมานานหลายปี ร่างกายจึง

ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก ทว่า…

…เด็กสาวอายุยี่สิบต้นๆ คนนี้ยืนกรานจะปกป้องคนที่เธอ ไว้ใจและยกย่องมากที่สุดแม้ตัวเธอเองจะป่วยอยู่ก็ตาม

“คุณลัว กลับไปบอกท่านประธานของคุณเถอะค่ะว่าหยุด ฝันที่จะใช้ฉันโจมตีถังหนิงได้แล้ว ไม่มีทางสำเร็จหรอกค่ะ”

“แล้วก็ อยู่ให้ห่างเพื่อนฉันไว้นะคะ เธอทั้งบริสุทธิ์และไร้ เดียงสา เธอจัดการกับความเจ็บปวดจากแผนชั่วของคุณไม่ได้ หรอกค่ะ”

“ไปซะ..”

ในตอนท้าย หันซินเอ๋อร์ก็ออกปากไล่ลัวเฮ้าโดยไม่ อนุญาตให้เขาพูดอะไรสักคำ เธอจุดยืนของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน

เด็กสาวเพียงแค่อยากมีสุขภาพชีวิตที่ดี แต่เธอไม่เคย อยากทำร้ายคนอื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งนั้น

ในความเป็นจริงแล้ว ก่อนที่ทั้งหนึ่งและพี่ชายของเธอจะ เลิกรากัน เธอก็สังเกตได้ถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของพี่ชายเธอ แล้ว ในตอนนั้น เธออยากจะเตือนถังหนึ่งและบอกให้เธอไม่ทำ เรื่องโง่ๆ โชคยังดี…ถังหนิงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นและยืนหยัดขึ้นมา อย่างแข็งแกร่ง ถังหนึ่งผู้เกิดใหม่คนนี้คือคนที่ทำให้เธอมี ความกล้าที่จะมีชีวิตต่อไป

หันซินเอ๋อร์ได้รับพลังจากการติดตามดูถึงหนึ่ง เธอเคยฝัน ที่จะมีทัศนคติต่อชีวิตเฉกเช่นไอดอลของเธอ เพราะความ เลื่อมใสนี้เอง เธอจึงศึกษาโชว์รันเวย์และงานถ่ายแบบทุกงาน ของถังหนึ่ง ในใจเธอนั้นไม่มีใครมาเทียบเคียงถึงหนึ่งได้ เพราะศรัทธาของถังหนึ่งมอบความกล้าที่จะฝ่าฟันความยาก ลำบากทั้งหมดนั้นแก่เธอ

ล้วเฮาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เขารู้สึกเหมือนใบหน้าถูก ไฟลวกเพราะเด็กสาวอายุยี่สิบต้นๆ คนนี้เพิ่งจะ พิ่งจะตบหน้าเขาเข้า เต็มแรง

เขายืนขึ้นและก้าวออกจากบ้านตระกูลหยวน ขณะที่กำลัง จากไปนั้น เขาก็ไม่แน่ใจว่าในใจขากำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่

เมื่อตัวเฮาจากไป หันซินเอ๋อร์ก็รู้สึกผ่อนคลายลง เด็กสาว เซถอยหลังไปสองสามก้าว หยวนส่วนพุ่งตัวเข้าไปประคองเธอ”อย่าหงุดหงิดเกินไป…

“ถ้าฉันไม่แสดงออกไปว่าโกรธ เธออาจจะโดนหลอก ใช้ ไปแล้ว โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น” หันซินเอ๋อร์จิ้มหน้า ผากหยวนชวน “ยัยนั่ง จากนี้ไปเธอต้องเลิกใช้ก้นคิดได้แล้วนะ ถ้าฉันไม่อยู่แล้ว เธอจะทํายังไงเนี่ยฮะ”

หยวนส่วนสะอึกเล็กน้อย ก่อนกอดเพื่อนรักของเธออย่าง แนบแน่นไม่ยอมปล่อย แต่เพราะหันซินเอ๋อร์ได้ใช้แรงทั้งหมดที่ มีไปแล้ว เธอจึงเป็นลมคาอ้อมแขนของหยวนยวน เด็กสาว ตกใจสุดขีด รีบขับรถพาเพื่อนกลับไปยังโรงพยาบาลทันที

นี่เป็นปัญหาที่ใช้เงินแก้ไขไม่ได้ พวกเขาจำเป็นต้องทำ เรื่องผิดกฎหมายเพื่อขโมยสุขภาพคนอื่นมาหรือเปล่านะ

หากถังหนึ่งไม่เต็มใจบริจาค แล้วใครจะช่วยซินเอ๋อร์ล่ะ ในตระกูลนั้นไม่มีใครที่เป็นที่พึ่งได้เลย แล้วตอนนี้หันซินเอ๋อร์ ถูกส่งตัวไปยังห้องไอซียู แม้แต่หยวนส่วนก็เข้าเยี่ยมได้เฉพาะ เวลาที่คุณหมออนุญาตเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้กระทั่งในเวลาเช่นนี้ สิ่งแรกที่หันซินเอ อร์กังวลตอนฟื้นขึ้นมาก็คือ กลัวว่าถังหนึ่งจะถูกเฉิงเถียนข่มขู่ เพราะคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเธอหรือเปล่า

เธอไม่สนใจหรอกว่าตัวเองจะตาย นี่เป็นชะตาที่หลีกเลี่ยง ไม่ได้ แต่ถึงหนึ่งยังมีเส้นทางอีกยาวไกลรออยู่ข้างหน้า…

ดังนั้นระหว่างที่หยวนส่วนกำลังเข้าเยี่ยม หันซินเอ๋อร์จึง เอ่ยขอเพื่อนว่า “หยวนส่วน ช่วยฉันตามหาพี่ชายหน่อยสิ ฉันอยากพบเขา”

“พี่ชายเธอทํางานเป็นคนจอดรถอยู่ที่โรงแรมไม่ใช่เหรอ

“ฉันต้องพบเขา”

เธออยากให้หันอผ่านสัญญากับเธอว่าหากวันหนึ่งถึง หนิงติดร่างแหไปกับเรื่องนี้ เขาจะก้าวออกมาช่วยแก้ต่างให้

เธอ

หนอผ่านใจสลายเมื่อได้เห็นน้องสาวของตัวเองใน สภาพนี้ หลังจากได้ยินคำขอร้องของเธอ ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมา อย่างขมขื่น ไม่ต้องกังวลเรื่องถึงหนึ่งหรอก… สามีเธอคือ ประธานบริษัทไหร่ย คุณโม่ถึง”

หันซินเอ๋อร์อึ้งไปชั่วขณะ เธอนิ่งเงียบไปชั่วครู่ อย่างไร ก็ตาม ข่าวนี้ไม่ได้ทำให้ความนับถือของเธอที่มีต่อถึงหนึ่งแปร เปลี่ยนไป

เพราะถึงหนิงก็ยังคงเป็นถังหนิงคนเดิม…

“พี่เสียใจไหมคะ พี่ถึงหนึ่งเคยทำดีกับพี่ด้วยใจทั้งใจ แต่ พี่ก็ยังคิดนอกใจเธอกับผู้หญิงคนนั้น”

ความทะนงตนของหันอผ่านนั้นมลายหายไปหมดแล้ว ตอนนี้เขาไม่ขออะไรมากนอกจากหาเงินสักเล็กน้อยแล้วเริ่มต้น

ใหม่

หลังจากหันอวี่ฝานและหยวนส่วนจากไป หันซินเอ๋อร์ นอนพักบนเตียงอย่างสงบ แต่เธอรู้สึกตงิดๆ เหมือนได้ยินเสียงชัตเตอร์กล้อง

เด็กสาวจึงแกล้งหลับ ขณะที่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามา

ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เธอก็แอบหรี่ตาดู พบว่าพนักงานของโรง พยาบาลคนนั้นไม่เพียงแต่ถ่ายสภาพอาการของเธอ แต่ยังถ่าย ประวัติการใช้ยาของเธออีกด้วย

หันซินเอ๋อร์รู้สึกได้ว่าตัวเช่าจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อกดขี่ถึงหนึ่ง หรือแย่กว่านั้น…

…คือทำลายถังหนึ่งให้สิ้นซาก

หันซินเอ๋อร์ขบคิดว่าเธอจะติดต่อกับถังหนึ่งได้อย่างไร และถ้าติดต่อถังหนึ่งไม่ได้ แล้วเธอควรจะติดต่อใคร

ราตรีค่อยๆ คล้อยเข้ามา ยามที่ท้องฟ้าทอแสงสีแดงเรื่อง รอง เฉิงเถียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์กำลังไล่ติดโปสเตอร์รูปถัง หนึ่งในจุดที่มีคนเห็นมากที่สุด หลานซีครุ่นคิดมาอย่างหนัก และตัดสินใจว่าขณะที่เพิ่งเถียนค่อยๆ กลับมาลืมตาอ้าปากได้ การต่อต้านเงินและผลประโยชน์นั้นถือเป็นเรื่องไม่เข้าท่า

ขณะที่ลัวเฮากำลังก้าวเข้าไปในตึก เขาก็เหลือบมอง โปสเตอร์พวกนั้นก่อนจะก้าวเข้าไปในออฟฟิศของตัวเอง ทว่า หลานเรียกดักเขาเอาไว้เสียก่อน “ถังหนึ่งจะกลับมาในอีกไม่ กี่วันแล้ว ช่วยเธอจัดดินเนอร์เฉลิมฉลองหน่อย

“เธอจะกลับมาแล้วเหรอครับ” ลัวเฮาคิดอยู่ชั่วครู่ ดูท่าว่าเขาไปหนึ่งติดร่างแหไปกับของคนสักคน ศิลปินคนนั้นย่อม ไม่ทางเลือก ต้องตกมาจากสูงแล้วแหลกสลายเป็น ล้านชิ้น

ในขณะกัน หันซินเอ๋อร์ตระหนักว่าเธอเป็นเหมือน ระเบิดเวลา แต่…

…เธอขอความช่วยเหลือจาก

โม่เหรอ

เธอจะตามหาเขาได้ไหมนะ