ตอนที่ 141 การโต้กลับครั้งใหญ่ที่สุด

เมื่อได้ดูคลิปที่แม่ของหลานอวกำลังร้องห่มร้องไห้บนหน้าจอ แม้แต่หลานที่กำลังนั่งดูอยู่ที่ออฟฟิศก็อดหัวเราะออกมาไม่ ได้…

ดูเหมือนหลานอวี่พยายามจะใช้ใบหน้าตัวเองเป็นโล่ สะท้อนความผิดทั้งหมดมาให้ถึงหนึ่ง

แต่เพื่อจัดการกับข่าวลือนี้ หลานสั่งให้ลูกน้องของเธอ ปล่อยค่าแถลงอย่างเป็นทางการออกไปว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนใน ข่าวจะเป็นถังหนึ่งและขอให้แฟนคลับศรัทธาในตัวเธอ… รวม ถึงแจ้งความกับตำรวจเอาไว้ด้วย

ทันทีที่คำแถลงถูกปล่อยออกมา แม่หลานอวก็เริ่มขู่ทุกคน ว่าจะฆ่าตัวตาย พร้อมกล่าวหาว่าคนในวงการบันเทิงพยายาม จะทำลายลูกสาวตน ทั้งยังกล่าวหาชาวเน็ตทั้งหลายอีกว่าพวก เขากำลังทำลายชีวิตของเด็กน้อยคนหนึ่ง

ขณะนั้นเองที่ถังหนึ่งกำลังพักผ่อนอยู่ หลานก็โทรมาบ อกว่าเธอไม่ต้องลงมือทำอะไรด้วยตัวเอง ดังนั้นถังหนึ่งจึงสวม ชุดใส่อยู่บ้านสบายๆ นอนเล่นอย่างมีความสุขบนตักของโม่ถึง พลางฟังถ่ายทอดสดข่าววงการบันเทิงในโทรทัศน์ไปด้วย

โม่ถึงสั่งให้เช่อนำเอกสารทั้งหมดของเขากลับมาที่บ้าน และบอกทุกคนที่ทำงานว่าเขาป่วยเกินกว่าจะมาทำงานไหว แต่ถังหนิงรู้ดีว่าเขาทำเช่นนี้ก็เพราะช่วงนี้มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น มากมาย เขาจึงไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว

“ถึงคะ…บ่ายนี้ ฉันอยากแวะไปสถานีตำรวจหน่อยน่ะค่ะ”

ถังหนิงเอ่ยขึ้นขณะกำลังนอนอยู่บนตักไม่ถึง

“อือ” ไม่ถึงพยักหน้าโดยไม่ถามเธอว่าทำไม เขาเข้าใจ ดีว่าแม้จะมีชาวเน็ตจำนวนมากที่เชื่อเธอ ในเหตุการณ์ยาเสพ ติดครั้งนี้ แต่เธอก็ยังต้องแสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความ บริสุทธิ์ของตัวเอง หากพลาดโอกาสพิสูจน์ตัวเองนี้ไป ใครจะ การันตีว่าข่าวลือนี้จะไม่ถูกยกมาโจมตีเธออีกในอนาคต

หากจะทำให้หลานอวี่สิ้นซื่อ โม่ถึงจะต้องจัดการอะไรอีก นิดหน่อย แต่แน่นอนว่าเขาไม่ได้บอกถึงหนังเรื่องนี้

ตอนนี้คอมเมนต์หลัก ในโลกออนไลน์นั้นไม่ได้มาจาก แฟนคลับรุ่นแม่” ที่สนับสนุนหลานอวี่ แต่มาจากเด็กๆ อายุเท่า เธอที่คิดว่า หลานอเป็นคนคนหนึ่งที่สังคมจับตามอง แต่กลับ ไม่ปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นความน่าอับอาย อย่างที่สุดสำหรับคนรุ่นเดียวกัน

พวกเขาถึงกับส่งจดหมายร้องเรียนและให้คำแนะนำ มากมายไปยังองค์กรยุวชนแห่งชาติ

ดังนั้นความวุ่ยวายที่แม่ของหลานอวก่อไว้นั้นไม่ได้ช่วย ลูกสาวของเธอเลย แต่กลับ…

ทำให้ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิม
แม้กระนั้น แม่หลานอวก็ยังไม่ยอมแพ้ หลังจากพยายาม ฆ่าตัวตายแล้ว เธอก็ยอมให้สัมภาษณ์ที่โรงพยาบาล “ในฐานะ แม่ของหลานอวี่ ฉันรู้สึกผิดมากค่ะที่ไม่สามารถปกป้องเธอได้ และปล่อยให้เธอต้องเจ็บปวดแบบนี้ ฉันละอายเหลือเกินที่จะมี ชีวิตอยู่ต่อไป”

“ส่วนปีศาจร้ายที่ไม่ยอมปล่อยเด็กอายุแค่สิบหกปีคนนึง ไปเสียที่นั่นน่ะ มารอดูกันว่าท้ายที่สุดแล้วพระเจ้าจะเมตตาใคร กันแน่!

นักข่าวจำนวนมากถลาเข้ามาในห้องนั้นราวกับปลาซาร์ ในฝูงใหญ่ หันไมโครโฟนในมือไปที่แม่ของหลานอวี่ “คุณผู้ หญิงครับ ปีศาจร้ายที่คุณผู้หญิงพูดถึงนี่ใช่คุณถึงหนึ่งหรือเปล่า ครับ”

“จะมีใครอีกล่ะคะ” แม่หลานอวี่จ้องไปที่กล้องพลางแสยะ

ปาก

“คุณคิดว่าคุณถังหนึ่งใช้สารเสพติดและพยายามใส่ร้าย ว่าลูกสาวคุณเป็นคนทำอย่างนั้นหรือคะ ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณได้ แจ้งความไปทันทีเลยหรือเปล่าคะ” นักข่าวหญิงคนหนึ่งยิง คำถามไม่หยุด “เท่าที่ดิฉันทราบมา เฉิงเถียนเอ็นเตอร์เทนเมน เอเจนซี่ของคุณถึงหนึ่งได้เข้าไปคุยกับตำรวจเรียบร้อยแล้วนะ คะ คุณกลัวว่าจะมีการสืบสวนของทางตำรวจเกิดขึ้นไหมคะ”

เมื่อมีการเอ่ยถึงตำรวจ แม่หลานอวก็อึ้งไปชั่วครู่ เธอดูตื่น ตระหนกเล็กน้อยก่อนจะตอบอย่างไม่ละอายว่า “ฉันไม่ทราบอะไรทั้งนั้นค่ะ อย่ามาถามฉัน อย่างเดียวที่ฉันรู้ก็คือ ลูกสาวฉัน บริสุทธิ์ค่ะ”

เมื่อได้ยินคำตอบนั้น นักข่าวก็มองหน้ากันโดยอัตโนมัติ

ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “พวกคุณออกไปได้แล้ว…ออกไป ไม่งั้นฉันจะฆ่าตัวตาย

อีกรอบ”

นักข่าวทุกคนดูออกว่าแม่ของหลานอพยายามทำให้ ความคิดเห็นของสาธารณะไขว้เขว แต่เธอก็เพียงแค่กำลัง โกหกตัวเองอยู่ เพราะถึงอย่างไรคืนที่หลานอไปปรากฏตัวที่ ร้านไนต์คัลเลอร์ ก็มีพยานจำนวนมากให้ความว่าเห็นเธอที่นั่น จริงๆ

ยิ่งหลักฐานผุดขึ้นมามากเท่าไร สถานการณ์ก็ยิ่งแย่ลง ไปเท่านั้น และในตอนที่แม่ของหลานอวี่เตรียมตัวจะฆ่าตัวตาย อีกครั้งเพื่อกดดันถังหญิงและชาวเน็ต… หนึ่งในผู้มีส่วนกับ เหตุการณ์ที่ปลีกตัวออกจากคนอื่นๆ ทันใดนั้นก็ออกมาปรากฏ ตัว ถังหนิงนั่นเอง

เธอสวมเสื้อผ้าธรรมดาๆ ไปปรากฏตัวที่สถานีตำรวจ พร้อมกับผู้จัดการส่วนตัวของเธอ

หญิงสาวไม่เคยออกมาชี้แจงอะไร แต่เธอลงมือพิสูจน์ ความบริสุทธิ์ของเธอตรงๆ ไปเลย โดยการทดสอบหาสารเสพ

ติด

ดังนั้นเมื่อสื่อถามแม่ของหลานอวี่ว่าเธอรู้เรื่องที่ถึงหนึ่งไปตรวจสารเสพติดหรือเปล่า และเธอกล้ามากพอไหมที่จะพาหลา นอไปตรวจเช่นเดียวกัน หญิงผู้เป็นแม่จึงได้แต่ตัวแข็งทื่อ…..

แน่นอนว่าเธอไม่กล้า เธอรู้การกระทำที่น่ารังเกียจของ ลูกสาวตัวเองดี นั่นเป็นเหตุผลที่เธอเลือกจะปัดความสนใจ ทั้งหมดไปหาถึงหนึ่งแทน คาดไม่ถึงว่าถังหนึ่งจะไม่ดึงมานั่ง เถียงกับเธอและตรงไปสถานีตำรวจทันที…

เวลาบ่ายโมงตรง ถังหนึ่งเปิดเผยผลการทดสอบหาสาร เสพติดของเธอต่อสาธารณะ แน่นอนว่าผลออกมาเป็นลบ เธอ ไม่เคยใช้สารเสพติดมาก่อนเลยในชีวิต

จากหลายต่อหลายครั้งที่หลานอวางแผนให้ร้ายถังหนึ่ง นี่เป็นการโต้กลับครั้งใหญ่ที่สุด

ใช้สารเสพติด!

สี่พยางค์นี้เป็นคำที่รุนแรงมาก เมื่อชาวเน็ตเห็นผลการ ทดสอบที่ถึงหนึ่งโพสต์ พวกเขาก็พากันลุกฮืออีกครั้ง ทำไมทุก ครั้งที่หลานอวี่ทำเรื่องเลวร้าย เด็กคนนั้นถึงพยายามโบี้ยความ ผิดพวกนั้นไปให้ถึงหนึ่งด้วย

ใช่เพราะเธอหน้าคล้ายถังหนึ่งหรือเปล่า

ในไม่ช้า กลุ่มต่อต้านหลานอวก็ก่อตัวขึ้น โดยมีแฟนคลับ และผู้สังเกตการณ์ทั้งหลายที่ต่อต้านมินิถังหนึ่ง สำหรับพวกเขา ถังหนึ่งมีเพียงคนเดียวเท่านั้น และพวกเขาก็แนะนำให้ทุกคน เลิกเป็นเครื่องประดับให้กับการรังแกของหลานอวได้แล้ว
ทางด้านแม่ของหลานอวี่ หลังจากที่โดนตบหน้าเข้าไป ฉาดใหญ่ เธอก็ไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมาอีก

อย่างไรก็ตาม คำถามของนักข่าวทั้งหลายก็รุนแรงและ โกรธเกรี้ยวยิ่งขึ้น “คุณผู้หญิงครับ ตอนนี้คุณถึงหนึ่งได้เข้ารับ การตรวจหาสารเสพติดในร่างกายแล้ว เธอเป็นผู้บริสุทธิ์มา โดยตลอด ตลอดมานี้คุณผู้หญิงกลับกล่าวหาว่าคุณถึงหนึ่ง ใส่ ร้ายลูกสาวของคุณ แต่ตอนนี้คุณถึงหนึ่งออกมาแสดงหลักฐาน แล้ว คุณผู้หญิงมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ

“คุณผู้หญิงคะ เพราะคุณหลานอวหน้าคล้ายคุณถึงหนึ่ง คุณก็เลยพยายามใช้ชื่อคุณถึงหนึ่งเพื่อหลบเลี่ยงคำวิจารณ์ จากสาธารณชนหรือเปล่าคะ

“คุณผู้หญิงครับ คุณถึงหนึ่งไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือ ครับ ทำไมคุณถึง ใส่ร้ายเธอเช่นนี้ล่ะครับ”

“คุณผู้หญิงคะ สำหรับคุณแล้ว บนโลกนี้มีลูกสาวคุณเป็น มนุษย์อยู่คนเดียวหรือคะ เพราะแบบนั้นใช่ไหมคุณถึงหนึ่งเลย สมควรถูกทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย

แม่ของหลานอวี่กำลังนั่งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล เธอ อายุยังไม่ถึงสี่สิบปีก็จริง แต่เป็นเพราะเหตุการณ์ของหลานอ ร่างกายและจิตใจของเธอจึงดูเหนื่อยล้ากว่าที่ควรจะเป็น โดย เฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามของนักข่าว เธอไม่มีทาง เลือกนอกจากซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ร้องไห้น้ำตาไหลพราก

“ฉันรู้แล้วว่าฉันผิดต่อถังหนิง…ฉันรู้ดี ฉันแค่ไม่อยากให้ชีวิตลูกสาวฉันถูกทําลาย!”

“เพียงเพราะคุณไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองต้องถูกทำลาย คุณเลยตัดสินใจทำลายชีวิตลูกสาวคนอื่นแทนอย่างนั้นเหรอ คะ บนโลกนี้ไม่มีตรรกะเช่นนั้นนะคะ

เมื่อได้ยินคำถามเสียดแทงของนักข่าวรายนั้น ริมฝีปาก ของแม่หลานอวก็บิดเบี้ยวก่อนจะตอบออกมาอย่างไม่เต็มใจ “ฉันผิดไปแล้ว…

“ฉันไม่ได้สอนหลานอวมาอย่างเหมาะสม และฉันขอโทษ

คุณถึงหนึ่งที่เป็นผู้บริสุทธิ์ค่ะ

“หากวันนี้ชื่อของคุณถึงหนึ่งแปดเปื้อนไปแล้ว…คำขอ โทษของคุณนั้นมากพอที่จะชดเชยให้กับความบริสุทธิ์ของเธอ ไหมครับ”

และที่สำคัญที่สุด ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกคนอยู่ที่ไหนกันล่ะ ตอนนี้หลานอวี่อยู่ที่ไหน