ตอนที่ 136 จุดไคลแมกซ์ยังมาไม่ถึง

ด้วยช้า

หยางจิ้งหันกลับมาเพียงเล็กน้อย เผยให้อันจื่อเฮาได้เห็น ใบหน้าด้านข้างของเธอ มุมปากเธอแสยะขึ้นขณะ ขณะแสงกระทบ แว่นสายตาทำให้เธอดูชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์

เธอเคยกลัวที่ไหนกัน

อันจื่อเฮาไม่พูดอะไรต่อ เพราะอีกสักพักก็จะมีข่าวดีแล้ว…

“ฉันจะรอดนายโดนเตะออกไปจากเฉิงเถียนก็แล้วกันนะ ว่าแล้วหยางจิ้งก็ก้าวออกจากลิฟต์พร้อมเซีย ทิ้งให้อันจื่อเช่า ยืนอยู่เพียงลำพัง สีหน้าระอาปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของ เขา

อีกด้านของเฉิงเถียน ภายในห้องพักศิลปินลับนั้น หลงเจี ยกำลังเล่นมือถือตัวเองพลางมองถึงหนึ่งไปด้วย “คุณประหม่า หรือเปล่าคะ”

ถังหนึ่งผู้กำลังพักสายตาอยู่ส่ายหน้าเบาๆ “ฉันก็แค่อยาก เห็นว่าท่าทีของหยางจิ้งจะเป็นยังไง…

“ต้องพูดอะไรอีก ท่าทีของมันก็จะเปลี่ยนจากร่าเริงสุดๆ เป็นหงอยสุดๆ น่ะสิคะ…ฮ่าๆ” เพียงแค่คิดว่าหยางจิ้งจะรู้สึก เซ็งแค่ไหน หลงเจียก็รู้สึกพอใจขึ้นมา พวกเขาปะทะกันมาหลายรอบแล้วนี่นะ…

หลงเจียต้องยกนิ้วให้กับความมีพลังล้นเหลือตลอดเวลา ของหยางจิ้ง แม้จะพ่ายแพ้ถังหนึ่งมาหลายครั้งหลายครา เจ้า หล่อนก็ยังหาวิธีตอบโต้อย่างรวดเร็วด้วยความตั้งใจที่จะขวาง ทางถังหนึ่ง ความกล้าของผู้หญิงคนนี้มาจากไหนเยอะแยะกัน มะ

“ครั้งนี้หลานจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่” ถึงหนึ่งลืมตา ขึ้นมา แววตาเธอสดชื่นและเปล่งประกาย

“แน่นอนว่าไม่ค่ะ! ถ้าลูกน้องฉันพยายามขู่ฉันแบบนั้นละก็ ฉันจะเฉดหัวพวกมันออกไปทันทีเลย ก่อนหน้านี้ที่นายใหญ่ โดนท้าทายอำนาจ ตอนท้ายเขาก็ทำให้พวกนั้นหุบปากไม่ใช่ เหรอคะ”

“คำพูดพวกนี้น่ะ เธอพูดต่อหน้าฉันได้คนเดียวนะ” ถึงหนึ่ง เอ่ยเดือน เธออยากจะแน่ใจว่าหลงเจียจะไม่หลุดปากพูดอะไรที่ จะกลายเป็นภัยต่อพวกเขาในอนาคตได้

“อย่ากังวลไปเลยค่ะ…ฉันจะนั่งเงียบๆ รอดูโชว์” หลงเจีย ทำท่ารูดซิปปากตัวเองก่อนจะยกมือถือขึ้นมาเล่นต่อ ตอนนี้ให้หยางจิ้งฝันหวานไปก่อนก็แล้วกัน…

เวลาบ่ายสอง งานแถลงข่าวเริ่มอย่างเป็นทางการ ก่อนที่ตัวเฮาจะเดินเข้าไปในห้องแถลงข่าว หยางจิ้งก็พลันดึงเขาออกมาข้างๆ และถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “คุณแน่ใจ นะว่าประธานหลานจะกำจัดอันจื่อเช้าวันนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้น จริงๆ ทำไมเธอถึงไม่ยกเลิกงานแถลงข่าว

“ท่านประธานคอนเฟิร์มกับผมแล้วว่าจะประกาศเรื่องอื่น แทน ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องยกเลิกงานไป อีกอย่าง เรา ให้อันจื่อเฮามีความหวังสักนิดไม่ได้เลยหรือไง” ล้วเฮาสวมชุด สูทเย็บมือสีดำที่ส่งให้เขาดูสูงและหล่อเหลาราวกับสุภาพบุรุษ ชาวอังกฤษ

หยางจึงมองไปรอบๆ ห้องโถงและพยักหน้าเห็นด้วย

“แน่นอนสิ ฉันอยากเห็นมันแหลกเป็นชิ้นๆ เพราะความทะนง ตัวของมัน…” ลัวเฮายิ้มพลางก้าวขายาวๆ ไปยังทางเข้าห้องแถลงข่าว

และยืนรอหลาน

ในตอนนั้นเองที่ห้องแถลงข่าวใหญ่ของเฉิงเถียนอัดแน่น ไปด้วยนักข่าวขี้สงสัยมากมาย ตัวเช่านำทางหลานไปยังที่นั่ง ของเธอด้านหน้าเวที

ในความเป็นจริงแล้ว เหตุผลที่สื่อตอบรับงานนี้เป็นอย่าง ดีไม่ใช่เพราะว่าหลานทำการโปรโมตมาดีเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะทุกคนสงสัยเรื่องข่าวฉาวของอันจื่อเช่าและอน นเมื่อหลายปีก่อน จนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้จริงๆ ว่าเกิด อะไรขึ้นกันแน่

ชุดสูทมีระดับดูเป็นมืออาชีพ ขับให้หลานดูเนี้ยบและมีอำนาจขึ้นมาทันที ด้านซ้ายของเธอมีผู้บริหารของเฉิงเถียนนั่ง อยู่สามสี่คน ส่วนด้านขวาของเธอคือตัวเฮา ส่วนหยางจึงกำลัง ยืนอยู่ด้านล่างเวทีเพื่อคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“สวัสดีค่ะ สื่อมวลชนที่รักทั้งหลาย” หลานกล่าวทักทาย ผ่านไมโครโฟน “อันดับแรก ขอต้อนรับทุกท่านอย่างเป็น ทางการ วันนี้เฉิงเถียนตัดสินใจจัดงานแถลงข่าวขึ้นเพราะเรา มี… ข่าวใหญ่สามข่าวที่อยากประกาศให้ทุกท่านทราบ

“เรื่องแรก เฉิงเถียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์กำลังจะเตรียมการ เข้าสู่วงการภาพยนตร์ พวกเรากำลังระดมทุนสร้างหนังเรื่อง แรกและหวังว่าทุกท่านจะช่วยสนับสนุนเราเป็นอย่างดี

“เรื่องที่สอง บริษัทลูกของเฉิงเถียนจะเริ่มปฏิบัติการใน ปลายเดือนนี้ ทางเรากำลังสรรหาบุคลากรเพิ่ม หากมีมืออาชีพ ท่านใดที่สนใจ บริษัทยินดีที่จะให้คุณมาเป็นหนึ่งในครอบครัว ของเรา”

เมื่อได้ยินหลานที่ประกาศเรื่องพวกนั้น หยางจิ้งก็เริ่มรู้สึก ผ่อนคลายเล็กน้อย เธอมั่นใจว่า…ถ้าหลานยังไม่เอ่ยชื่ออันจื่อ เฮา นั่นก็แปลว่าเธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เอ่ยถึงเขาและกลบ เรื่องการกลับมาของเขาด้วยข่าวอื่นแทน หยางจึงมองไปทาง ลัวเฮาพลางคิดในใจว่าแผนของพวกเขาดูเหมือนจะสำเร็จแล้ว

แต่ในนาทีนั้นเองที่หลานที่ประกาศข่าวดีที่สาม

“ข่าวดีที่สามของวันนี้ที่ฉันภูมิใจที่จะประกาศมากเป็น พิเศษก็คือ ผู้จัดการมากความสามารถของเรา คุณอันจื่อเช่า จะกลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัวเฉิงเถียนในฐานะผู้จัดการ ระดับสูง และช่วยงานของเราต่อไปด้วยความสามารถที่ล้น เหลือของเขาค่ะ” ขณะที่กำลังพูดเประโยคนี้ หลานก็ลุกขึ้น จากที่นั่งและผายมือขวาไปยังทางเข้า

ใบหน้าของหยางจิ้งและหัวเข่าแดง พูดอีกอย่างก็คือ การเดินหมากของหลานในครั้งนี้ตบฉาดเข้าที่หน้าของทั้ง สองเต็มๆ

ล้วเช่ามองลงต่ำราวกับกำลังใช้ความคิด ขณะที่หยางจิ้ง จ้องหน้าหลานอย่างไม่พอใจ….

หลานไม่กลัวจริงๆ เหรอว่าเธอจะลาออกไปพร้อมกับงาน พวกนั้น

เป็นไปไม่ได้…

หยางจิ้งรู้สึกตะขิดตะขวงใจขณะยืนมองอันจื่อเฮาก้าวขึ้น ไปบนเวที อันที่จริงหากมีใครสังเกตเห็นเธอตอนนี้ จะพบว่า หยางจึงกำลังตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า

หลานจ้องมองหยางจิ้งด้วยสายตาเย็นชาราวกับว่าเธอ กำลังมองตัวตลกอยู่ จนกระทั่งวันจื่อเช่าขึ้นมาบนเวที เธอจึง เริ่มพูดต่อ “ฉันขอมอบไมโครโฟนให้กับผู้จัดการอันเพื่อ ประกาศข่าวดีต่อไปนะคะ”

อันจื่อเฮ่ามองไปรอบๆ และโค้งให้ทุกคนก่อนจะยืดตัว ตรงอีกครั้ง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น “การที่ได้กลับมายัง เฉิงเถียนและอยู่เคียงข้างประธานหลานอีกครั้งนับเป็นสิ่งที่อบอุ่นหัวใจและน่าซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ดังนั้นผมจึงได้นำ ของขวัญชิ้นหนึ่งติดมือมาให้ท่านประธานหลานด้วยครับ

เมื่อพูดจบ อันจื่อเช่าก็ผายมือไปยังทางเข้าห้องแถลงข่าว เป็นอีกครั้งที่ทุกความสนใจไปจับอยู่ที่ทางเข้านั้น…

ร่างสูงโปร่งปรากฏอยู่ที่ปลายพรมแดง เธอคนนั้นครอบ ครองความงามอันเป็นเอกลักษณ์และสวยสง่าอย่างมีสไตล์ไม่ เหมือนแต่ก่อน

“คุณพระช่วย…นั่นถังหนึ่ง!

“นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงหนึ่งถึงมาอยู่ที่นี่” นักข่าวหลายคน ตื่นเต้นตกใจ ถังหนึ่งนั้นเป็นเสมือนตำนาน มีร่องรอยของเธอ อยู่ทุกที่แม้เธอจะไม่ได้ปรากฏกาย

เธอไม่ออกมาปรากฏตัวเลย ในช่วงที่มีเรื่องกับหลานอ แต่ในตอนนี้ ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่งานแถลงข่าวของเฉิงเถียนกัน ล่ะ

“ใช่แล้วครับ คุณถึงหนึ่ง อดีตนางแบบแนวหน้าของกรุง ปักกิ่ง ผู้ชนะรางวัลผู้สนับสนุนพิเศษของงานรางวัลนางแบบ แห่งปีในปีนี้ และผู้นำเทรนด์ตะวันออกที่ฮอตที่สุด วันนี้ ผมขอ ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเธอจะเซ็นสัญญากับเฉิงเถียนเป็น เตอร์เทนเมนต์ครับ” คำพูดของอันจื่อเท่านั้นมีพลังมากเสียจน บรรยากาศร้อนระอุขึ้นมา

“สำหรับผมแล้ว ภารกิจแรกของผมในการกลับมาสู่อ้อม กอดของเฉิงเถียนก็คือเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับคุณถึงหนึ่งผมศรัทธาในตัวเธอ คุณถึงหนึ่งยังคงเป็นซูเปอร์สตาร์บน รันเวย์และมีอนาคตที่รุ่งโรจน์รออยู่ครับ” ขณะที่อันจื่อเช่าพูด เขาก็ปรายสายตาไปมองหยางจิ้งกับตัวเฮาอย่างเย้ยหยัน

สีหน้าของทั้งสองคนเปี่ยมด้วยความละอายและความฝัน

ใจ

อันจื่อเช่ารู้สึกเหมือนได้ยินพวกเขาพูดว่า กล้าดียังไงถึง เอาถังหนิงมา!

กล้าดียังไงถึงเซ็นสัญญากับถังหนิงลับหลังพวกเรา

หลานหลอกพวกเราแบบนี้ได้ยังไง

แค่นี้พวกเขาก็รับไม่ไหวแล้วหรือ จุดไคลแมกซ์ยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ!