บทที่ 84 เธอสวยสะดุดตา

ในเมือง

ร้านชุดราตรีหรูแห่งหนึ่ง

นานาถูก เหมยลากมาเลือกชุดราตรีที่จะใส่ในคืน นี้ ในฐานะที่เธอเป็นแฟนที่เพิ่งเปิดตัวคนใหม่ของฟิว ก็จะ ละเลยกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้เลย นานาก็รู้สึก เกร็งมาก

“นานา โป๊นิดหน่อย เธอโอเคไหม?”

“ไม่ค่ะ ฉันไม่กล้าใส่หรอก”

“เอางั้นก็ได้! ฉันคิดว่าชุดนี้เหมาะกับเธอมากเลย พูดจบ พี่เหมยก็หยิบชุดราตรีสีชมพูนู้ดออกมา นะ”

นานามีใบหน้าที่สวยงามน่ารักน่าดึงดูดใจมากพอ สมควร คิ้วสวยงามได้รูป เรียวปากสีแดงระเรื่อบางเป็นก ระจับ ดวงตาที่สดใสดูมีชีวิตชีวาคู่นั้นดูบริสุทธิ์ราวกับเป็น นางฟ้า และสีชมพูนู้ดนั้นก็เป็นสีที่เหมาะสมกับเธอมาก ที่สุด ขับผิวสุขภาพดีของเธอให้ขาวสว่างเป็นประกายขึ้น มาทั้งตัว ดูสวยงามไร้ที่ติจริง ๆ

เมื่อเธอเอามือป้องหน้าอกเดินออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ สายตาของทุกคนก็ถึงกับตะลึงไปในทันใด

พี่เหมยก็ทำเหมือนกับว่าได้พบขุมสมบัติอย่างนั้น เธอเกิดความรู้สึกอยากจะทาบทามนานาว่าอยากเข้ามา ในวงการไหม ถ้าเธออยาก เธอก็คงจะเซ็นสัญญากับเธอ แน่นอน แต่ว่าฐานะของนานาในตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อน มากพอสมควร เธอเป็นแม่ของลูก ๆ ของคุณทิว ไม่แน่คุณ ทิวอาจจะไม่ยินยอมก็ได้

แล้วอีกอย่าง ฟิวก็ไม่มีทางยอมให้ดึงเธอเข้ามาใน

วงการที่ซับซ้อนและวุ่นวายแบบนี้ด้วยหรอก

“สวยมากเลย สวยมาก คืนนี้เธอไม่มีทางทำให้คุณ ฟิวเสียหน้าแน่นอน”พี่เหมยพูดชมเธอไม่หยุดปาก

นานาถามออกมาอย่างเกร็ง ๆ ว่า “ชุดด้านหน้าอกฉัน มันต่ำเกินไปหรือเปล่าคะ

“นี่เรียบร้อยสุดแล้วเนี่ย หรือว่าเธอจะห่อมิดชิดเป็น ข้าวต้มมัดไปร่วมงานราตรีล่ะ?” พี่เหมยหัวเราะออกมา เธอทำงานอยู่ในวงการมานานเจอกับผู้หญิงที่บูชาเงินมา เยอะมากมาย แต่นานาไม่เหมือนกัน เธอสะอาดบริสุทธิ์ ราวกับนําแร่

ถ้าหากได้วงการ
ถ้าหากได้ลองถามหญิงสาวรุ่น ๆ ในสมัยนี้ มีใครบ้าง ล่ะที่ไม่ชอบฟิว? ต่อให้ไม่ชอบเขา ก็น่าจะชอบเงินเขาเขา บ้างละน่า! หลายปีที่ผ่านมานี้ ฟิวได้กลายเป็นเครื่องมือที่ ทําเงินมหาศาล เขาสะสมทรัพย์สมบัติเอาไว้ไม่น้อยเลย

ถ้าไม่เทียบกับคุณทิวที่เป็นคนที่กุมธุรกิจทางการเงิน เอาไว้ในกำมือ เขาก็ถือว่าเป็นคนในกลุ่มที่รวยเป็นอันดับ ต้น ๆ ของประเทศแล้ว

“นานา จำเอาไว้นะ คืนนี้เธอก็ทำตัวสวย ๆ ไปนะ ไม่ ต้องไปคุยกับใครมาก คอยอยู่ข้าง ๆ คุณฟิวเอาไว้ แล้วเขา จะสอนเธอเอง” พี่เหมยก็รู้สึกกังวลขึ้นมาบ้างเล็กน้อย อย่างไรแล้วงานแบบนี้ก็มีแต่คนใหญ่ ๆ โต ๆ ทั้งนั้นที่ถูก เชิญให้เข้ามาร่วมงาน

นานาพยักหน้า เธอสูดลมหายใจเข้าไปอย่างลึก ๆ เธอได้แต่หวังว่าจะสามารถปลีกตัวออกจากงานไปหาลูก ๆ ได้ก่อนสองทุ่มครึ่ง

ด้านนอกประตู รถแวนของฟิวจอดอยู่ตรงนั้น พี่เหมย เลื่อนประตูออก นานารวบชายกระโปรงแล้วขึ้นไปนั่ง เมื่อ เธอนั่งลง ชายหนุ่มที่กำลังเล่นเกมอยู่ข้าง ๆ ก็หันมา แล้ว ก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง
ตั้งแต่ที่ไปตัดริบบิ้นเปิดงานในครั้งนั้น เขาก็รู้แล้ว ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่แต่งหน้าก็ดูใสน่าดึงดูดใจอยู่แล้ว ถ้า หากว่าแต่งหน้าบาง ๆ ก็คงจะสวยสะดุดตาขึ้นมาก

“วันนี้เธอสวยมากเลย” ฟิวเอามือเท้าคางมอง

สํารวจเธอ

นานามองค้อนเขาแล้วพูดว่า “พอได้แล้วน่า ไม่ต้อง มาจ้องฉันแล้ว แค่นี้ฉันก็ไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่แล้วเนี่ย

ฟิวหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “เธอรู้ไหมว่าผู้ หญิงสมัยนี้อยากจะให้ฉันจ้องมองพวกเธอมากขนาด ไหน? แต่เธอกลับรังเกียจฉันเนี่ยนะ?”

นานาหันไปพูดเน้นย้ำอีกครั้ง “อย่าเอาฉันไปเหมา รวมกับแฟนคลับของนายจะได้ไหม?”

“งั้นเธอบอกฉันมาหน่อยสิ ว่าทำไมเธอถึงไม่รู้สึก อะไรกับคนหล่อ ๆ อย่างฉันน่ะ?” ฟิวรู้สึกสงสัยเป็นอย่าง มาก

“เพราะว่าฉันผิดหวังกับผู้ชายมาก” นานาเต็มใจที่ จะพูดออกมา เธอเห็นคุณแม่เสียใจร้องไห้น้ำตาเช็ดหัว เข่ามาตั้งแต่เด็ก ๆ ส่วนคุณพ่อที่ไร้ความรู้สึกนั่นไม่เคยมาปรากฏตัวให้เห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ต่อให้มีเขาก็ทำตัวห ยิงยโสโอหัง นั่งอยู่แต่ในรถ

ในตอนนั้น นานารู้สึกว่าผู้ชายเป็นมนุษย์ประเภทที่ ไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย ทั้งเย็นชาและเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ อีกทั้งเรื่องเมื่อห้าปีก่อนที่พ่อหลอกใช้ให้เธอไป แทนที่นารา ยังเป็นตอนที่คุณแม่ตกอยู่ในขีดอันตรายมาก ที่สุดอีก ทำให้เธอไม่ได้เห็นหน้าคุณแม่เป็นครั้งสุดท้าย

ตลอดห้าปีที่ผ่านมานี้ เธอก็คิดอะไรได้เยอะ ชาตินี้ ทั้งชาติเธอจะไม่มีวันไปรักผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น สำหรับ เธอแล้วเธอมีอคติที่ไม่สามารถลบล้างออกไปได้ต่อผู้ชาย

ทุกคน

ถ้าหากทิวไม่รู้ว่าเธอมีลูก ๆ ทั้งสองคนกับเขา เธอก็ ไม่มีทางกลับมาหาผู้ชายคนนี้หรอก

ฟิวมองเห็นความเจ็บปวดบางอย่างที่อยู่ในแววตา ของเธอ แล้วใจของเขาก็อ่อนยวบลงในทันใด นี่เป็นเรื่อง ในอดีตที่เธอไม่ยอมเอ่ยปากกับเขาใช่ไหม? เพราะฉะนั้น ถ้าผู้ชายคนไหนอยากจะเดินเข้าไปในหัวใจของเธอ ก็ ต้องทุ่มเทความรู้สึกที่ลึกซึ้งให้มากกว่านี้

ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีสิทธิ์ได้รับความรักจากเธอ
“นานา ไม่ต้องกังวลไปหรอก ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไร ขึ้น ฉันก็จะคอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ” ฟิวมองเธอแล้ว เอ่ยปากให้คำมั่นกับเธอ

นานาหันไปมองเขาด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “นายดีกับฉันมากอยู่แล้ว ขอบคุณมากเลยนะ

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้เลยว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงดีกับเธอ มากขนาดนี้ แต่ว่าฟิวก็ไม่เคยบังคับให้เธอฝืนใจทำอะไร เลย

ในใจของฟิวเกิดความรู้สึกผิดต่อเธอขึ้นมา เขา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่เขาเข้ามาใกล้ชิดกับเธอนั้น เขามีเป้า หมายที่ซับซ้อนบางอย่างแฝงอยู่ แต่เวลานี้ ในใจของฟิ วนั้น นอกจากเป้าหมายพวกนั้นแล้ว เขาก็รู้สึกเป็นห่วงเป็น ใย ใส่ใจเธอจากความรู้สึกที่แท้จริงของเขา

รถแวนถูกขับออกไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยงในคืนนี้ เป็นห้องโถงที่อยู่ชั้นสิบในโรงแรมเจ็ดดาวแห่งหนึ่ง

บริเวณประตูทางเข้า ฟิวได้ลงจากรถไปก่อน จากนั้น เขาก็ยื่นมือไปให้นานา นานาลังเลอยู่พักหนึ่งถึงได้ยื่นมือ ของเธอไปวางบนฝ่ามือของเขา แล้วก้าวลงจากรถอย่าง

ช้า ๆ
นานาเงยหน้าขึ้นมองตึกของโรงแรมแห่งนี้ที่ประดับ ไปด้วยแสงไฟระยิบระยับตระการตา หัวใจของเธอเต้น แรงมาก เธอมีความรู้สึกราวกับว่าเธอเป็นซินเดอร์เรลล่าที่ ถูกเจ้าชายพาเข้ามาในงานเลี้ยงหรูอย่างนั้น

“โอเคจ้ะ พวกเธอเข้าไปกันเถอะ! เดี๋ยวพวกเราจะรอ อยู่ที่ด้านล่างนะ” พี่เหมยหันไปพูดกับพวกเขา แล้ว รปภ. ก็โบกให้รถไปจดที่ลานจอดรถด้านข้าง

ฟิวจูงมือนานาแล้วเดินเข้าไปในงานอย่างช้า ๆ มี พนักงานสาวเดินเข้ามาต้อนรับและนำทางไปที่ลิฟต์

จากชั้นหนึ่งขึ้นไปถึงชั้นสิบ ที่นี่มี รปภ. ยืนอยู่เยอะ มากพอสมควร พวกเขาตรวจสอบบัตรเชิญอย่างละเอียด แล้วถึงยอมให้แขกเข้าไปในงานได้ แสดงให้เห็นว่างาน เลี้ยงนี้คัดเลือกแขกที่เข้ามาร่วมงานอย่างเคร่งครัด

ในที่สุดนานาและฟิวก็เดินเข้ามาในห้องโถงของงาน ที่มีความอลังการสวยงามตระการตามาก แขกที่มาถึงแล้ว ต่างก็จับวงสนทนากันอย่างเพลิดเพลิน อาหารและเครื่อง ดื่มมีมาอย่างไม่ขาด แขกทุกคนล้วนแต่แต่งกายใส่เครื่อง ประดับกันมาอย่างโดดเด่นระรานตา

“ฟิว!” ทันใดนั้นเอง เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดัง

ขึ้น
ฟิวขมวดคิ้ว เขามองเห็นหญิงสาวที่สวมใส่ชุดสีเขียว น้ำทะเลเดินออกมาจากกลุ่มคนพุ่งเข้ามาจะกอดเขา

นานาตกใจรีบสะบัดมือที่จับกับเขาอยู่ออก แล้วไปยืน ข้าง ๆ สายตาที่เย็นชาของฟิวมองสำรวจเธอ “คุณมนต์

ช่วยระวังกริยาของตัวเองด้วยครับ

“ฟิว วันนี้มนต์มาเพราะคุณเลยนะคะ” ยัยคุณมนต์นี้ รีบกัดริมฝีปากแล้วพูดออกมาด้วยความน้อยใจ

ฟิวมองเธออย่างเย็นชา “วันนี้ผมมีคู่ควงแล้ว” พูด จบเขาก็หันไปจูงมือของนานาที่กำลังอึ้งอยู่ข้าง ๆ

นานารับรู้ได้ถึงสายตาที่จ้องมองมายังเธอ ผู้หญิงคน นี้ดูอายุราว ๆ ยี่สิบต้น ๆ แต่รอบกายเธอเต็มไปด้วยออร่า ราศีจับของคุณหนูที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ และค่อนข้าง เอาแต่ใจเป็นอย่างมาก “เธอเป็นใครกัน! ทำไมเธอถึงได้ มาเป็นคู่ควงของเขาได้” คุณมนต์ถามเธออย่างไม่พอใจ