ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 73 ความใส่ใจของเขา



บทที่ 73 ความใส่ใจของเขา

“ทางนี้ๆ นี่เอาของขวัญอะไรมาด้วยเนี่ย?” คุณนาย เกรซเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณป้า นี่เป็นโสมหายากที่คุณแม่ พึ่งซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อน หนูเลยอยากจะนำมาให้คุณย่า ทานบำรุงร่างกายค่ะ ถ้านารามาที่บ้านของตระกูลพาทิศ ก็ต้องสำรวมกิริยามารยาท มีบางคำพูดที่เธออยากจะเอ่ย ออกมาแต่ต้องเก็บไว้เพราะอาจจะดูไม่ดีในสายตาของ ผู้ใหญ่

คุณย่าได้แต่ยิ้มด้วยสีหน้ามีความสุข “แม่ของหนูใจ ดีมากๆเลย”

นารายิ้มตอบพลางหันไปมองทางแปลงดอกกุหลาบ ที่นับวันยิ่งสวยงามขึ้นทุกวัน “นับวันแปลงกุหลาบนี้ก็ยิ่ง ออกดอกเต็มไปหมด หนูคิดว่ามันต้องสวยมากแน่ๆเลย

ค่ะ”

“ไม่เพียงแต่ดอกกุหลาบมันจะสวยนะจ้ะ กลิ่นของ มันยังหอมโชยเข้าไปถึงในห้อง ทำให้อากาศในนั้นมันดี มากๆเลยแหละจ้ะ” คุณป้าจินนี่พูดออกมาตามความคิด ของตน

พอนาราได้รู้ว่านี่เป็นสิ่งที่คุณย่าชอบเธอก็ดีใจเป็น อย่างมากเพราะเธอจะได้เข้าทางผู้ใหญ่ได้ง่ายขึ้น เธอไม่วายที่จะเห็นด้วยกับคุณย่าทันที “หนูก็ชอบดอกกุหลาบ เหมือนกันค่ะ”

“คุณย่าเห็นเด็กน้อยสองคนนั้นรึยังคะ? เด็กๆน่ารัก มากเลยล่ะค่ะ ใครเห็นใครก็ต้องชอบ” นาราแสร้งยิ้มออก มาราวกับว่าชื่นชอบในตัวเด็กๆทั้งสองคนเป็นอย่างมาก

คุณนายเกรซตอบกลับคำถามของเธอ “ป้าเคยเจอ แล้วครั้งนึง อ้วนท้วนสมบูรณ์ แต่ชอบทำให้คนอื่นเดือด ร้อน”

ส่วนคุณย่านั้นมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกรักและ เอ็นดูในตัวเด็กสองคนนั้น “ย่าคิดว่าโอเคเลยนะ โตมาก คงจะเหมือนกับหลานชายของย่าเลยล่ะ

“สงสารก็แต่แม่ของเด็กพวกนั้นเพราะไม่มีใครชอบ เธอเลย แล้วก็ยัง…” นารา เหมือนว่าจะหลุดปากพูด อะไรออกมา แต่แล้วเธอก็หยุดพูดไปซะงั้น

คุณนายเกรซถามกลับไปด้วยความสงสัยเมื่อหญิง สาวตรงหน้าพูดจุดประเด็นความอยากรู้เห็นขึ้นมา “ผู้ หญิงคนนั้นทำอะไรเหรอจ้ะ?”

“หนูนารา หนูรู้อะไรมาหนูก็เล่าออกมาเถอะ! เพราะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเรารับรู้เรื่องราวที่ไม่ดีของผู้หญิงคนนั้น มันยังมีเรื่องอะไรที่หนูยังไม่ได้เล่าอีกใช่ไหม?

คุณย่าเองก็ช่วยคะยั้นคะยอให้นาราพูดออกมา

นารากัดริมฝีปางตัวเองแน่น พยายามแสร้งว่าไม่ อยากจะเล่าทั้งๆที่ในใจพร้อมจะเล่าเรื่องไม่ดีของนานา อย่างเต็มที่ “คุณย่ากับคุณป้าคงไม่ได้ดูรายการบันเทิงใช่ ไหมคะ!”

“ป้าไม่สนใจข่าวที่ไร้สาระพวกนั้นหรอก” คุณนาย เกรซพยักหน้าเป็นเชิงยืนยันในคำตอบ

“งั้นคุณย่ากับคุณป้าต้องดูข่าวนี้แล้วล่ะค่ะ…” เมื่อ พูดจบนาราก็หยิบเอาไอแพดที่ตนเองพกมาแล้วเปิด รูปภาพที่ตนเองได้ทำการเซฟเก็บไว้อย่างเรียบร้อยให้ ท่านทั้งสองดู

คุณนายเกรซมองดูหญิงสาวที่อยู่ในภาพด้วยความ ตกใจ “นี่มันนานาไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ค่ะ ผู้หญิงในภาพคือนารา ตอนนี้นารากำลังมี ข่าวกับดาราชื่อดังคนนึงอยู่ ว่ากันว่าพวกเขาสองคนย้าย ไปอยู่ด้วยกัน! ดูสิคะ! เธอพึ่งกลับมาอยู่ที่นี่ได้แค่ไม่กี่วันก็ ไม่สนใจเด็กๆแล้ว” นาราพูดตีไข่ใส่สีเรื่องนี้อย่างเต็มที่
คุณย่าหยิบเอารูปในไอแพดนั่นขึ้นมาดูอีกรอบ เงย หน้าที่มีร่อยรอยแห่งความชราขึ้นมาพลางพูดด้วยน้ำเสียง ไม่สบอารมณ์ “ หน้าไม่อายจริงๆ ตอนนั้นก็ยังกล้าปีนขึ้น ไปนอนบนเตียงของหลานชายฉัน ตอนนี้ยังมีอะไรที่ผู้ หญิงคนนั้นยังไม่ได้ทำอีกล่ะ?”

สีหน้าของคุณนายเกรซก็ดูไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ “ที่แท้มันก็เป็นยังงี้นี่เอง เธอคงไม่อยากจะเลี้ยงลูกต่อ ไปแล้วล่ะสิ” “ผู้ชายที่เป็นดาราคนนั้นก็คงทั้งดังทั้งหล่อ และรวยมากๆเลยสินะ นานาถึงไปอยู่กับมันทั้งวันแบบนั้น แล้วไหนล่ะที่บอกว่าอยากจะอยู่กับลูก? ตอนนี้ที่ฉันเห็น ก็มีแต่เธอกำลังใช้ชีวิตอย่างสุขสบายจนลืมแล้วว่าตัวเอง ยังมีลูกให้ดูแลอยู่! “เมื่อนาราได้ยินคำพูดและสีหน้าที่ไม่ พอใจของคุณป้าเธอก็ไม่รอช้าที่จะตีหน้าเศร้าและแสร้ง พูดว่า “สงสารเด็กสองคนนั้นแย่เลยนะคะ ตอนนั้นหนูเคย เห็นเด็กๆร้องไห้อยู่ในบ้านกันใหญ่เลยค่ะ ที่ร้องไห้ก็คง เพราะนานาไม่ต้องการพวกเขา เธอเดินออกจากบ้านไป โดยไม่สนใจลูกของเธอเลยด้วยซ้ำ”

“อะไรกัน? บนโลกใบนี้ยังมีแม่ที่ใจร้ายใจดำได้ ขนาดนี้เชียวหรอ ทิวเคยมาขอย่ากับป้าให้พวกเขาได้อยู่ ด้วยกันเป็นเวลาสองปี ขนาดทิวยังมีความคิดแบบนี้แล้วดู สิ่งที่ผู้หญิง
คนนั้นทำสิ” คุณย่าพูดออกมาพลางถอนหายใจด้วย ความเหนื่อยใจ

คุณนายเกรซก็โกรธมากเช่นกัน “ทิ้งลูกไว้แล้วตัว เองกลับไปมีความสุข ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเด็กๆอยู่ใน ความดูแลของผู้หญิงคนนั้นเด็กๆคงจะแย่กันน่าดู

“เพราะฉะนั้นหนูก็เลยรู้สึกเจ็บใจมากเลยค่ะ เพราะ ถ้าหนูมีลูก หนูก็คงอยากจะมีโอกาสอยู่กับลูกและดูแล พวกเขาอย่างดีที่สุด รักพวกเขาให้มากๆเท่าที่แม่คนนึงจะ

รักได้” นานาพูดออกมาด้วยแววตาที่แฝงไปด้วย ความเจ็บปวดจอมปลอมที่เธอพยายามสร้างขึ้นมาเพื่อ ตบตาผู้ใหญ่ทั้งสอง

คุณย่าครุ่นคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจบางอย่างขึ้นมา “ย่าจะโทรหาทิวให้เขาแบ่งเวลามาให้หนู หนูจะได้ไปหา

เด็กๆได้ พวกเขาจะต้องชอบหนูมากแน่ๆเลยล่ะ”

“อืม!” นานารู้สึกเบิกบานใจเมื่อแผนที่วางไว้กำลัง เป็นไปในทิศทางที่เธอต้องการ

เธอสามารถหาวิธีที่จะดูแลเด็กๆแทนนานาได้อย่าง

รวดเร็ว
คุณนายเกรซหยิบไอแพดขึ้นมาดูซ้ำอีกรอบนึงพลาง

ถอนหายใจออกมา ทำไมเด็กๆถึงต้องเกิดมามีแม่ที่ไม่รับ ผิดชอบแบบนี้นะ? พอตอนจะโดนเอาลูกไปก็พูดอย่าง ดิบดีว่าจะดูแลลูกให้ดีที่สุด แถมยังบอกให้อย่าเอาเรื่อง ราวในอดีตมาตัดสินเธอในตอนนี้

นาราอยู่รับประทานอาหารร่วมกับบุคคลในบ้าน ตระกูลพาทิศ เธอวางแผนว่าบ่ายวันนี้จะไปหาเด็กๆที่บ้าน ของทีว

ณ ที่พักส่วนตัวของทิว

พื้นสนามหญ้าสีเขียวที่กลายเป็นสวรรค์บนดินของ เด็กทั้งสอง ลมซึ่งกำลังเล่นเครื่องบินบังคับ ฟ้าที่กำลัง กอดตุ๊กตาผ้าตัวที่เธอรักที่สุดอยู่ ส่วนนานานั้นก็กำลังนั่ง มองดูลูกๆที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ในมุมๆหนึ่ง

เวลาที่ได้อยู่กับลูกๆคือเวลาที่เธอมีความสุขและรู้สึก สบายอกสบายใจที่สุด ในสายตาของเธอรอยยิ้มของลูกๆ คือสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขมากที่สุด

ทางด้านของทิวเขาก็กำลังนั่งทำงานอย่าง เคร่งเครียดอยู่ในห้องหนังสือ ระหว่างนั้นโทรศัพท์ที่วาง อยู่ข้างกายก็ส่งเสียงเรียก เพราะมีสายจากผู้เป็นมารดา

โทรเข้ามา “สวัสดีครับ! แม่
“ทิวใช่ไหมลูก! ตอนนี้ลูกอยู่กับเด็กๆไหม?” เสียง ของมารดาที่ถามถึงลูกๆของเขาดังขึ้นมาจากปลายสาย

“ไม่ได้อยู่ครับ เด็กๆอยู่กับนานา” ทิวตอบกลับไป ด้วยเสียงเข้ม

“ทิวลูกรู้ข่าวที่ผู้หญิงคนนั้นกับดาราดังคนหนึ่งยัง ลูกต้องระวังไว้นะ พยายามอย่าให้เธอกับเด็กๆอยู่ใกล้กัน แม่ไม่อยากให้เธอทำให้ทายาทของตระกูลเสียผู้เสียคน

เมื่อทิวได้ฟังคำบอกเล่าจากมารดาก็ถึงกับขมวดคิ้ว ด้วยความสงสัย “เธอทำอะไรเหรอครับ?”

“ลูกลองไปอ่านข่าวบันเทิงดูสิ ผู้หญิงคนนั้นกับกับ ดาราดังที่ชื่อว่าฟิวมีข่าวว่อนกันไปทั่ว

ทิวตอบรับคำบอกเล่าของมารดา “โอเคครับ ผมจะ ลองอ่านดู”

“เอ้อ! จริงสิ วันนี้นาราจะไปหาเด็กๆ ลูกก็ไปอยู่เป็น เพื่อนเธอหน่อยนะ

“ ไม่ต้องหรอกครับแม่ ไม่ต้องให้เธอมาที่นี่หรอก แล้วทำไมนาราถึงไปอยู่ที่บ้านพาทิศได้ล่ะครับ?”
“ก็พวกเราไม่ได้ดูข่าวบันเทิงนั่นยังไงล่ะ หนูนารา ก็เลยใจดีมาบอกเรื่องของนานาให้พวกเราฟัง แล้วนี่ก็ยัง เอาของมาฝากคุณย่าด้วยนะ

ทวขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย “แม่ครับ ทีหลัง อย่าให้เธอมาที่บ้านพาทิศบ่อยๆนะครับ

“เจ้าลูกคนนี้ หนูนาราเขามาเยี่ยมคุณย่า มันก็เป็น เรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ ลูกไม่ชอบหรือยังไง?”

“ผมทำงานอยู่ เดี๋ยวตอนเย็นจะโทรไปหาใหม่นะ ครับ” เมื่อพูดจบทิวก็วางสายจากมารดาทันที เขารีบหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาถึงข่าวของนานา เขามีลางสังหรณ์ เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้วเชียวว่ามันจะต้องมีข่าวเกี่ยวกับนา นาและฟิวออกมาแน่

ในที่สุด

ข่าวของนานากับฟิวก็ขึ้นมาอย่างว่องไว ภาพที่ถูก ถ่ายเมื่อวานในตอนที่กำลังตัดริบบิ้นปรากฏ อีกทั้งตัว อักษรที่ใช้บรรยายภาพเหล่านี้ก็ล้วนเขียนไปในทางที่ว่า นานาเป็นแฟนสาวของฟิวอีกด้วย

ทิวรู้ดีว่าข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่พอเห็นภาพที่นานา อยู่กับฟิวแล้ว จู่ๆใจของเขารู้สึกร้อนรนและไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที

ฟิวดูเป็นคนที่ไม่ค่อยชัดเจนซักเท่าไหร่ ดูอย่าง วันนั้นตอนที่เจอกัน วันที่นาราเริ่มงานที่สตูดิโอของเขา สิ ทิวหยิบเอาโทรศัพท์มาถือไว้ข้างกาย เปิดประตูออก ไปจากห้องหนังสือ พลางเดินตรงไปยังสวนดอกไม้ สอด ส่องสายตาเพื่อหาร่างบาง เขาก็เห็นเธอนั่งเล่นอยู่ในมุม หนึ่ง ร่างบางในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวยาว ใส่เพียงรองเท้าแตะ น่ารักๆสีชมพู ร่างอันบอบบางที่ถูกแสงแดดส่องลอดผ่าน เพียงเล็กน้อย

แต่กลับสวยงามจนไม่อาจละสายตาได้

เธอเป็นคนที่มีเสน่ห์คนหนึ่งเลย แต่ว่าเวลานี้ไม่ใช่ เวลาที่เขาจะมาชื่นชมเธอ เขาต้องไปถามเธอเกี่ยวกับข่าว ที่ออกมาว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ให้ชัดเจน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ