ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 133 เขาทิ้ง



บทที่ 133 เขาทิ้ง

“เธอไปไหนมา?” เขากระซิบถามเธออย่างร้อนใจที่ บริเวณข้าง ๆ ใบหูของเธอ

ร่างกายของนานานิ่งที่อไป เธอไม่ชินกับการถูกเขา กอดแบบนี้เลย แล้วที่สำคัญ ฟิวก็กอดเธอแน่นมากเสียจน เธอจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว

บนรถ

“ว้าว” ลมและฟ้าส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นเต้น พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าอาฟิวจะมากอดมามี้ด้วย!

ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ประจำที่นั่งคนขับมองฉากตรง หน้าที่ทั้งสองกอดกันด้วยสีหน้ามืดครึ้ม ดวงตาทั้งสอง ของเขาแผ่ประกายความเย็นชาออกมา

นานาอยากจะปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เอาไว้เป็น ความลับ เธอยิ้มแล้วผลักฟิวออก “ฉันไม่เป็นอะไร แค่ ตอนกลางวันฉันมีธุระด่วนเลยกลับมาก่อน ขอโทษจริง ๆ ที่ไม่ได้แจ้งพวกนายนะ

ฟิวคลายมือออก ดวงตาที่ลึกซึ้งของเขาคู่นั้นจ้อง มองเธอนิ่ง เขาถามออกมาด้วยความสงสัย “ธุระด่วนอะไร เหรอที่ทำให้เธอต้องรีบกลับมาโดยไม่ทันได้บอกฉันน่ะ?”“เอ่อ…เรื่องเกี่ยวกับพวกเด็ก ๆ น่ะ” นานาได้แต่ โกหกออกไป

“พวกเขาเป็นอะไรเหรอ?” ฟิวรีบเอ่ยถามด้วยความ

เป็นห่วง

“ไม่มีอะไรหรอก ฉันตกใจไปเองน่ะ ขอโทษด้วยนะ ฟิว นายกลับไปเถอะ!” นานามองเขาด้วยสายตาที่รู้สึกผิด

แล้วอยู่ ๆ ฟิวก็กอดเธออีกครั้ง “เธอทำให้ฉันตกใจ จนแทบบ้า ต่อไปห้ามทำแบบนี้อีกนะ

นานายิ้มแล้วผลักเขาออกเบาๆ “เอาน่า ฉันก็ไม่ได้ เป็นอะไรแล้วนี่ไง รีบกลับไปเถอะนะ!”

ฟิวรู้สึกสบายใจขึ้นมามาก เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้เป็น อะไร ก็ทำให้เขาดีใจยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น เขาพบว่าเขาใส่ใจ ในตัวผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เสียแล้วสิ

“พรุ่งนี้เจอกัน” ฟิวไม่อยากกลับไปทั้งอย่างนั้นเลย

“อาฟิว…” ฟ้าเรียกเขา

ฟิวโบกมือให้เด็ก ๆ ด้วยรอยยิ้ม “ไว้มาเล่นที่บ้าน າ

อานะ”
“ครับ/ค่ะ! บ้ายบาย

แล้วรถของฟิวก็แล่นออกไป

นานามองส่งเขาจนลับสายตาไป แล้วเธอก็หันหลัง เตรียมจะเดินกลับขึ้นไปบนรถ แต่ทันใดนั้นเองประตูรั้วก็ ถูกเปิดออกอย่างอัตโนมัติ แล้วผู้ชายคนนี้ก็เหยียบคันเร่ง ขับเข้าไป ทิ้งเธอเอาไว้ตรงหน้าประตู

นานารู้สึกตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้จะ โกรธเธอแล้ว

เขาโกรธอะไรเนี่ย! หรือว่าเป็นเพราะเธอลงไปค ยกับฟิว แค่นี้เขาก็โกรธแล้วเหรอ?

นานาเลยได้แต่เดินเข้าไปเองอย่างจำใจ เด็ก ๆ ทั้ง สองวิ่งเข้ามาจูงมือเธอด้วยความสงสาร

“มามี้…”

ลมหันไปพูดกับชายหนุ่มที่เพิ่งจอดรถเสร็จว่า “แด๊ด ดี้ครับ ต่อไปห้ามทิ้งมาไว้ที่หน้าประตูคนเดียวอีกนะ ครับ”

ทิวเหลือบไปมองนานาด้วยสายตาที่เยือกเย็น แววตาตักเตือนของเขาที่ส่งมามีแต่เธอเท่านั้นที่มองออก

แต่เขาก็ยังรับปากกับลูกชายไปว่า “ครับ”

“ไปเถอะ! ขึ้นไปอาบน้ำกัน” นานาดมกลิ่นตัวของ พวกเขา มีกลิ่นเหงื่อเล็กน้อย

เดินไปได้ครึ่งทาง นานาก็นึกขึ้นได้ว่าแขนข้างหนึ่ง ของทิวได้รับบาดเจ็บ เธอหันไปบอกลูกชายว่า “น้องลม วันนี้ให้มาอาบน้ำให้หนูนะ โอเคไหม?”

“ทำไมล่ะครับ?

“เพราะว่ามานี้ไม่ได้อาบน้ำให้หนูนานแล้วน่ะ มามี้ก็ เลยอยากอาบให้

“ก็ได้ครับ!” ลมพยักหน้ารับ

แขนด้านซ้ายของทิวได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าในตอนอาบ น้ำให้ลูก เขาจะต้องพับแขนเสื้อขึ้นมาแล้วลูกอาจจะเห็น ได้ ดังนั้นเขาก็เลยยอมให้นานาทำหน้าที่แทนเขา

นานาอาบน้ำให้เด็ก ๆ ทั้งสองคนอย่างสะอาดสะอ้าน แล้วพาพวกเขาไปส่งที่ห้องนอน วันนี้เด็ก ๆ ทั้งสองคน เล่นเยอะทั้งวันจนเหนื่อย นานาร้องเพลงกล่อมพวกเขาจนเวลาสามทุ่มครึ่ง เด็ก ๆ ทั้งสองก็หลับไป

ในตอนที่นานาเดินออกมา เธอก็มองเห็นทิวกำลังนั่ง อยู่บนโซฟาด้วยท่าทางเคร่งเครียด ไม่รู้ว่าเขากำลังคิด อะไรอยู่

“นายยังไม่ไปนอนอีกเหรอ?” นานาเข้าไปถามเขา เมื่อผ่านเหตุการณ์วันนี้มา เธอก็ไม่เมินเฉยต่อเขาเหมือน แต่ก่อนอีกแล้ว

“เมื่อสักครู่นี้ทำไมเธอถึงยอมให้ผู้ชายคนนั้นกอด เธอ? เธอปฏิเสธไม่เป็นเหรอ?” ทิวเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ด้วยสายตาที่กำลังโมโห

นานากระพริบตาปริบ ๆ แล้วแก้ตัวไปว่า “นั่นเป็น เพราะเขาเป็นห่วงฉัน กอดในฐานะของเพื่อนต่างหาก

“เธอคิดแบบนี้ แต่เขาอาจจะไม่ได้คิดแบบเดียวกัน กับเธอก็ได้” ทิวน่ะเหรอจะไม่เข้าใจความคิดของผู้ชาย ด้วยกัน?

นานารู้สึกว่าน่าขำมาก “นายจะใส่ใจไปทำไมล่ะ?”

ทำอย่างกับว่าเขาเป็นแฟนของเธอ แล้วกำลังดึง อย่างนั้น
แต่ว่าระหว่างเขาและเธอแล้ว ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ อะไรกันเลยนี่นา!

สีหน้าของเธอดูแย่ลงมาก แต่เขากลับพูดออกมาว่า “ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ชอบ ต่อไปเธอจะปฏิเสธไม่ให้ผู้ชาย คนอื่นมากอดเธอไหม?”

นานาตกใจเล็กน้อย เธอยิ้มแห้ง ๆ “ฉันเองยังไม่ ใส่ใจเลย นายจะไปใส่ใจทำไมล่ะ!

ทิวยืนขึ้น แล้วค่อย ๆ เดินมาตรงหน้าเธอทีละก้าว เขามองผู้หญิงที่สูงเพียงแค่ระดับอกของเขาแล้วพูดว่า “ฉันเคยบอกไปแล้วว่าฉันจะแต่งงานกับเธอ เธอจะเป็น ภรรยาของฉันในอนาคต แล้วเธอคิดว่าฉันควรจะใส่ใจไหม ล่ะ?”

ใบหน้าของนานาเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันใด เธอ ตาโตขึ้นมาเล็กน้อย มองดูใบหน้าที่เย็นชาของชายหนุ่ม แต่เธอก็ไม่สามารถโต้อะไรกลับไปได้เลย

จนกระทั่งเธอถอนหายใจออกมา เธอถึงได้พูดว่า “ฉันรู้ว่านายได้สละชีวิตมาช่วยฉัน แต่ว่าฉันไม่เคยคิดจะ แต่งงานกับนายเลย

ใบหน้าของทิวในตอนนี้ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาเลย เขากระตุกมุมปาก “ตอนนี้เธอไม่อยากแต่ง ก็ไม่ ได้หมายความว่าต่อไปเธอก็ยังไม่อยากแต่งด้วย ชาตินี้ทั้ง ชาติก็คงต้องมีสักวันหนึ่งแหละที่เธออยากจะแต่งงานกับ ฉัน”

นานาไม่รู้ว่าเขาไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากที่ไหน เธอพูดด้วยความหนักแน่นว่า “แต่ชาตินี้ทั้งชาติฉันเตรียม ใจที่จะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิตไว้แล้ว

แววตาของทิวดิ่งล้ำลึกลงไป แล้วบรรยากาศก็เงียบ ลงในทันใด เขากำลังคิดว่าเหตุผลที่เธอปฏิเสธเขานั้น มัน เป็นเพราะเรื่องของครอบครัวของเธอหรือเปล่า?

เพราะว่าเธอมีพ่อแบบนั้น เลยทำให้เธอไม่รู้สึกเชื่อใจ ผู้ชายอีกเลย?

“นานา ในโลกนี้น่ะ ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะโหด เหี้ยมไร้ความรู้สึก ไม่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้เหมือนกับ พ่อของเธอ ถ้าเธอแต่งงานกับฉัน อย่างน้อยฉันก็จะเป็น สามีที่ดี”

นานากัดริมฝีปาก นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมองเธอออก อย่างทะลุปรุโปร่งอย่างนี้

“นายอย่าพยายามไปเลย ไม่ว่าอย่างไรฉันก็จะไม่แต่งงานหรอก ไม่แต่งงานกับนาย แล้วก็ไม่แต่งงานกับ ผู้ชายคนอื่นด้วย”

ทิวมองเธอ แล้วเขาก็ไม่อยากพูดอะไรออกมาบังคับ จิตใจเธออีก

เขารู้ว่า ถ้าอยากจะบังคับให้ผู้หญิงคนนี้มารักเขา ตอนนี้มันยังเร็วเกินไป แล้วเขาก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรนัก เขา มีเวลาพอที่จะรอ รอให้เธอใจสั่นเพราะเขา

“มาห้องฉันก่อน แผลของฉันต้องการทายา” ทิวพูด จบก็เดินนําเข้าไปในห้องของตัวเองก่อน

นานาตกใจเล็กน้อย แล้วเธอก็เดินตามเข้าไป

แต่นานานึกไม่ถึงเลยว่าเมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็เริ่มถอดเสื้อผ้าออก เธอทำตาโตด้วยความ ตกใจ

มองดูเขาที่เดินไปพลางเอามือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสี ดำ จากนั้น เขาก็ถอดออกมาทั้งอย่างนั้นเลย

ในห้องที่มีแสงสีส้มสลัว ๆ เขาเผยร่างกายที่ดูแข็ง แรงกำยำและเซ็กซี่ออกมา กล้ามอกกล้ามท้องของเขา เป็นเส้นแบ่งกันอย่างชัดเจน ดูเต็มไปด้วยพละกำลัง
ใบหน้าของนานามีความร้อนรุ่มขึ้นมา

ที่เธอได้ชื่นชมกับร่างกายที่เพอร์เฟกต์ของเขาทุกวัน แบบนี้ มันไม่ ใช่สิ่งที่เธอต้องการสักหน่อย! บนผ้าพันแผล ที่แขนซ้ายของทิวยังคงมีเลือดซึมออกมาอยู่ นานารีบถาม เขาอย่างเป็นห่วง “ทำไมเลือดไหลอีกแล้วล่ะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ