ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 159 เธอโกรธมาก



บทที่ 159 เธอโกรธมาก

“ใช่ครับ” ทิวตอบด้วยน้ำเสียงต่ำลง

“เมื่อกี้คุณนายสีธะวิ่งมาขอร้องย่าของลูกอย่าง กระทันหัน ให้ลูกช่วยขอร้องนานาสักครั้ง ปล่อยนารา เถอะ ลูกดูเรื่องนี้เราสามารถปรึกษาหารือกันได้ใช่ไหม? “เกรซถามลูกชาย

“แม่ครับ เรื่องนี้เป็นฝีมือของผมเองครับ นำนาราส่ง สถานีตำรวจ ก็เป็นความต้องการของผมเองครับ ดังนั้น เรื่องนี้ไม่ได้ปรึกษา” น้ำเสียงของทิวมั่นคงมาก

“อะไรนะ? เป็นฝีมือของลูกเองหรอ? ทิว นี่นาราไม่ ได้ทำเรื่องอะไรเกินเลยนะ ลูกลองคิดดีๆแล้วช่วยปล่อย เธอไปเถอะนะ! “เกรซก็เป็นอีกคนที่ไม่อยากทำให้เรื่อง มันยุ่งยากไปกว่านี้

ทิวพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาลง “แม่ครับ แม่บอกย่า นะ ไม่ว่าคนของบ้านสีธะจะขอร้องยังไง ก็ไม่จำเป็นต้อง รับฟัง นาราจำต้องเผชิญหน้ากับคุก ผมไม่ปล่อยเธอไป ง่ายๆแน่นอน ”

เกรซรับฟังการเจรจาต่อรองของลูกชาย อย่างอดไม่ ได้ ในใจของลูกชาย ไม่แยแสนาราแล้วหรอ?

“จะปรึกษาหน่อยไม่ได้เลยใช่ไหม? จะว่าไป5ปีที่ผ่านมาบ้านสีธะ ก็ดีกับแม่และย่าของลูกมาตลอดนะ พวก เราจะไม่ตอบแทนก็ไม่ได้นะ!

“แม่ครับ ความกตัญญูที่พวกเขามีต่อแม่ ล้วน เป็นการเสแสร้งทั้งนั้น ไม่ใช่ความจริงใจ ดังนั้น พวกคุณ ไม่จําเป็นที่จะต้องแคร์”

“ถึงจะพูดแบบนี้ 5ปีที่ผ่านมา นาราส่งของมาให้บ้าน พาทิศของเราตลอด แม้ว่าเราจะไม่ขาด แต่เธอก็ยังส่งมา ทุกครั้ง

ทั้งหมดที่ผ่านมาก็นับเป็นหลายล้านเลยนะ เราไม่ สามารถที่จะทําเฉยได้

สุดท้ายทิวก็รับฟังเสียงที่ลำบากใจของแม่ เขา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “โอเค! งั้นผมจะช่วยนาราจากคุกก็ได้ แต่ว่า คนของบ้านสีธะต้องออกหน้า ขอโทษนานาอย่าง โจ่งแจ้ง พูดเรื่อง5ปีที่ผ่านมาให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้น ผมไม่ ยอมปล่อยนาราแน่นอนครับ ”

“โอเค แม่จะเป็นฝ่ายบอกพวกเขาเอง ทิว ลูกลองดู หน่อยสิ ถ้ามีเวลา ก็พานานากลับมา ให้แม่กับย่าของลูก พร้อมกัน?”

“แม่ครับ เรื่องนี้ไว้ค่อยว่ากันเถอะครับ!
“ทำไมล่ะ? เธอไม่ยอมมาเจอพวกเราหรอ?”

“เรื่องความเข้าใจผิดกันก่อนหน้านี้ค่อนข้างใหญ่ ให้ เวลาเธอหน่อยเถอะครับ!

“โอเค! เลือกเวลาที่เหมาะสมเพื่อพาเธอกลับมา เพราะเชื่อนารามากจนเกินไป ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน เธอกลับรู้สึกผิด จึงรีบโทรหามิโซะทันที เธอนำคำพูดของ ทิวกลับมาพูดอีกครั้ง มิโซะคิดไม่ถึง ว่าทิวจะยึดติดกับ เรื่องเมื่อ5ปีที่แล้วไม่ยอมปล่อย เธอลังเลสักครู่ แต่กลับ ตอบรับ “โอเค คุณบอกทิว เพียงแค่ปล่อยนาราของพวก เรา

พวกเราจะขอโทษนานาต่อหน้าแน่นอน

เมื่อได้ยินดังนั้น ทัศนคติของเกรซที่มีต่อบ้านสีธะ ก็ เปลี่ยนไปทันที ที่ผ่านมา เมื่อ5ปีก่อนผู้ที่ไม่ได้รับความเป็น ธรรม คือ นานา

ณ คฤหาสน์ นานาทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว เด็กสอง คนล้างมือแล้วนั่งลง นานามองเด็กสองคนที่อวบอ้วน แล้วครุ่นคิด โรงอาหารของโรงเรียนคงจะเปิดใหญ่หน้าดู! เด็กสองคนนี้อวบอ้วนขึ้นทุกวัน คืนนี้เลยไม่อยากให้พวก เขากินเยอะแล้ว
ทิศทางพัฒนาการของเด็ก ควรจะดีขึ้นเรื่อยๆ

“มามี้ หนูจะเอาขาไก่ 2 ฟ้าเอื้อมมือไปหานานาหวัง จะเอาขาไก่ในซุป

“ฟ้า ลูกจะกินแต่เนื้อไม่ได้นะ! ตอนนี้พวกเราควร จะกินผักเยอะๆนะรู้ไหม? กินผักเยอะๆดีต่อสุขภาพและมี ประโยชน์มาก!”

นานาไม่ได้ให้ขาไก่กับเธอ แต่คิดจะเอาผักให้เธอ

ฟ้าเบะปากแสดงความไม่พอใจอย่างแรง “หนูไม่เอา หนูจะกินขาไก่! ”

ชายหนุ่มข้างๆมีความไม่เห็นด้วยกับนานา “ให้เธอ

กินเถอะ!”

“ไม่ได้ เด็กผู้หญิงอ้วนเกินจะไม่สวย กินเนื้อน้อย หน่อย กินผักให้เยอะ ” นานาพูดจบ แล้วหันไปมองฟ้า “ฟ้า พวกเรากินผักให้เยอะๆดีไหม!

แต่ ฟ้าตอบกลับทันที “หนูจะกินขาไก่

นานาก็ยังไม่ให้เธอกิน จนกระทั่งลูกสาวของเธอจน

มุม “กินผัก”
“กินขาไก่ ”

ลมกินกุ้งตัวโปรดของเขาอย่างเงียบๆ มือน้อย ๆ กำลังปอกเปลือกไม่หยุดยั้ง

ทิวหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มองไปที่แม่ลูก สองคนที่ยังถกเถียงกัน เขายืนขึ้นมา หยิบถ้วยของฟ้า ตัก ขาไก่ในซุปออกมาหนึ่งชิ้นใหญ่ๆ “กินเถอะ!

นานาหันศีรษะของเธอ มองไปที่ชายคนนั้น ในเวลา เดียวกัน “ฟ้า กินขาไก่แล้ว ยังต้องกินผักให้เยอะๆโอเค ไหม!”

ฟ้ากัดกินขาไก่ พลางส่ายหัวอย่างหนักแน่น

“วันนี้มามี้ซื้อกระโปรงเจ้าหญิงสวยๆมาให้ลูกเยอะ เลย ถ้าลูกอ้วนเกินไปจะใส่ไม่ได้เอานะ งั้นลูกก็ไม่ได้ใส่ นะ! ถ้ากินผักสักนิด ลูกก็จะไม่อ้วน กระโปรงเจ้าหญิงสวยๆ พวกนั้น ลูกก็สามารถที่จะใส่ได้แล้ว ” นานากำลังขู่ด้วย รอยยิ้ม

ดวงตาของฟ้าเปล่งประกายทันที “จริงหรอคะ?”

“จริงสิจ๊ะ! มีกระโปรงเจ้าหญิงอย่างน้อยตั้ง7-8 ชุด ถ้าลูกใส่ไม่ได้ งั้นก็น่าเสียดายแย่เลย มามี้จะเอาให้เด็กคนอื่นแล้ว”

“ไม่เอาค่ะ หนูจะใส่ ” ฟ้ารีบห้ามมาทันที

“ถ้าอย่างนั้นจะกินผักได้หรือยังจ๊ะ?”

“ค่ะ!หนูจะกิน ”

นานายิ้มอย่างพึงพอใจ มองลูกกัดกุ้ง เธอก็พูดกับ ลูกชาย “ลม ลูกก็อีกคนนะ กินผักเยอะๆ

“โอเคครับ!” ลมหยิบตะเกียบแล้วคีบผักกิน ชาย หนุ่มข้างๆมองผู้หญิงคนนี้เล็กน้อยแล้วมองไปทางลูกสาว พลางแสดงรอยยิ้มที่น่าเบื่อ

หลังจากกินข้าวเสร็จ นานาเก็บอาหารบนโต๊ะ ทันใด นั้นเองทิวก็กุมมือจากด้านหลัง เขาพูดว่า “มีเรื่องจะ ปรึกษาเธอน่ะ”

“พูดสิ! ” นานาหันหน้ากลับไปมองเขา

“ฉันคิดว่าจะให้คนของบ้านสีธะมาขอโทษเธอ หลัง จากนั้น ก็กักตัวนาราไว้1เดือน ดีกว่าให้เธอถูกคุมขังใน คุก”
เธอส่ายหัวทันที “ฉันไม่ต้องการคำขอโทษของ พวกเขา”

“คนของบ้านสีธะไปขอร้องแม่และยาของฉัน ฉันจะ ทําเหมือนไม่ให้เกียรติไม่ได้ “

“ถ้านายชอบนารานายก็พูดตรงๆ อย่างไรก็ตาม พวกเธอติดต่อกันมา5ปี ความรู้สึกที่ลึกซึ้งนี้ ฉันเข้าใจ เรื่องนี้เธอเป็นผู้ตัดสิน

ทั่วเงียบไปหลายนาที เขาพูดขึ้นด้วยความโกรธเล็ก น้อย “ที่ฉันทำแบบนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาราเลย

“อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเธอที่จับนาราเข้าไป เธอ อยากปล่อยนาราออกมา มันก็เป็นการตัดสินใจของเธอ เช่นกัน จริงๆแล้วนานาก็ยังโกรธอยู่บ้าง คำขอร้องของ คนบ้านสีธะ ก็สามารถที่จะปล่อยตัวนาราออกมาได้เลย หรอ? เขาทำชั่วขนาดนี้ ควรที่จะได้รับการสั่งสอนไม่ใช่ หรอ? ทิวฟังคำพูดของเธอออก

ความโกรธจากภายในกำลังปะทุขึ้น เขาเอาแขนของ เขาออกและเตรียมจะล้อมรอบผู้หญิงที่กำลังจะออกจาก ห้องครัว ให้อยู่ในอ้อมแขนของเขา สายตาของเขาล็อค เธอไว้แน่น “ให้ฉันพูดอีกกี่ครั้ง ว่าฉันไม่ได้มีความรู้สึก อะไรต่อนาราเลย เธอจะให้ฉันพิสูจน์อะไรอีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ