ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 53 การลงโทษของเขา



บทที่ 53 การลงโทษของเขา

ตอนเช้าตรู่

นานาพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงอย่างสบาย ความฝัน ที่แสนงดงามจบลงไปเมื่อถึงเวลาที่ต้องตื่น เมื่อคืนฉันดื่ม แอลกอฮอล์เยอะไปจนเผลอหลับ

เธอลืมตาขึ้นเตรียมตัวลงจากเตียงที่กว้างขวางอย่าง

ไม่เต็มใจเท่าใดนัก

เมื่อเธอยันตัวลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มที่ปกคลุมอยู่บนร่างก็

ร่วงหล่นลง เผยให้เห็นร่างบางๆ

ยังไม่ทันได้ทำอะไรเธอก็รู้สึกว่ามีคนนั่งอยู่บนโซฟา

ฝั่งตรงข้ามกับเตียง

เธอเพ่งตามอง เมื่อเห็นร่างของคนคนนั้นก็ทำให้เธอ ให้แทบจะเป็นบ้า เธอกลัวมากจึงคว้าผ้าห่มที่ตกลงไปมา ปิดร่างของตัวเองไว้

รูปร่างสมส่วนที่ถูกสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวกับ กางเกงขายาวสีดำกำลังนั่งอยู่บนโซฟาราคาแพงนั่น

และแล้ว สายตาคมเฉียบของเขาก็จับจ้องมายังร่างที่ บอบบางของเธอ ทำให้เธอรู้สึกอับอายจนทำตัวไม่ถูก
“มองอะไรของนาย ไร้ยางอาย นานาโกรธจนนึก อยากจะสาปแช่งคนตรงหน้า

ผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะละสายตาไปจากร่าง ของเธอ มิหนำซ้ำยังส่งยิ้มเย้ยหยันมายังเธออีกด้วย “รูป ร่างอย่างกับเด็กประถม ไม่เห็นจะน่าสนใจอะไรเลย

ประโยคที่ได้ยินจากปากชายตรงหน้ากลับทำให้ นานาที่นั่งอยู่บนเตียงถึงกับโกรธจนเลือดขึ้นหน้า “นาย มันฉวยโอกาส”

ใบหน้าหล่อเหลาของชายตรงหน้าก็ยังคงนิ่งเฉย ต่อคำว่าของนานา “เธอแน่ใจเหรอว่าฉันฉวยโอกาส เธอ สับสนอะไรหรือเปล่า เธอลองคิดดูดีๆสิว่าตอนนี้เธอกำลัง นอนอยู่ในห้องของใคร

นานาครุ่นคิดพลางเบิกตากว้าง จนรับรู้ว่าตนเองอยู่ ที่ไหน

พระเจ้า! เธอมาอยู่ที่ห้องของทิวได้ยังไง? อีกทั้งยัง ถอดเสื้อผ้าออกหมดทั้งตัวอีก?

เธอได้แต่กําผ้าห่มในมือแน่นๆ แล้วค่อยๆประมวลผล ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอออก มาดูเด็กๆ หลังจากนั้นเธอก็กลับไปนอนต่อที่ห้อง หรือว่า….ห้องที่เธอเข้ามานอนจะเป็นห้องของเขา

เป็นไปไม่ได้ ทำไมเธอถึงทำอะไรโง่ๆแบบนี้เนี่ย?

ชายตรงหน้าก็ยังคงใช้สายตาคมลึกจับจ้องมายังเธอ “เมื่อคืนจำได้ไหมว่าเธอปีนขึ้นมาทำอะไรบนเตียงของ

ฉัน?”

นานาไม่อยากจะคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลย แต่ สิ่งที่เธอจำได้แน่ชัดก็คือเธอเป็นคนถอดเสื้อผ้าออกเอง คิดได้ถึงตรงนี้ใบหน้ากับใบหูก็เริ่มมีอาการร้อนผ่าวเพราะ เขินอาย

เมื่อคืนเธอไม่ควรปีนขึ้นมาบนเตียงเขาเลยจริงๆ !

“งั้นเมื่อคืน….นายก็ไม่ได้นอนบนเตียงนี่ใช่ไหม! เธอเอ่ยปากถามพลางกัดริมฝีปากบางๆของตัวเองด้วย ความเขินอายไปด้วย

“เธออย่าคิดมากเลย ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ สนใจในรูปร่างของเธอเลย” ทิวพูดออกมาด้วยน้ำเสียง นิ่งๆประกอบกับสีหน้าที่เบื่อหน่าย

นานาได้ฟังอย่างนั้นก็รู้สึกดีใจที่เขาคิดได้แบบนั้น จะว่าไปเธออยู่ที่นี่ก็ปลอดภัยดี แต่ไอ้ผู้ชายคนนี้ไม่ควรมาวิจาร์ณรูปร่างของเธอแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? รูปร่างเธอไม่ เหมือนเด็กประถมซะหน่อย? เด็กประถมที่ไหนจะมีหน้าอก

กันล่ะ?

แต่ก็ช่างมันเถอะ เขาเองก็ไม่ได้สนใจอะไรเธออยู่

ดีเลย เพราะเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรเขาเหมือนกัน

ถ้าผู้ชายของนาราแตะต้องเธอ เธอต้องสกปรกแน่ๆ

นานามองหาเสื้อผ้าของตนเอง แล้วจึงพบว่าเสื้อเชิ้ต ของเธอถูกวางกองอยู่ข้างๆ เธอจึงรีบเอื้อมมือไปหยิบมัน มา แล้วมุดตัวลงไปในผ้าห่มเพื่อใส่เสื้อเชิ้ตให้เรียบร้อย

กลิ่นฮอร์โมนเพศชายในผ้าห่มผืนนี้ทำให้เธอหายใจ ติดขัด เธอโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มพลางหันไปพูดกับ ชายบนโซฟาว่า “ฉันจะไปดูลูกๆ

“อย่าเพิ่งไป” ยังไม่ทันจะก้าวขาออกไปเสียงของ ผู้ชายคนนั้นก็ดังขึ้นมาห้ามเสียก่อน

นานาหันกลับมามองเขา “นายมีอะไรหรือเปล่า?”

“เธอฝ่าฝืนกฎของพวกเรา
“กฎข้อไหน?”

ทิวขมวดคิ้ว ความทรงจำของผู้หญิงคนนี้มันแย่มาก เลยหรือยังไงกัน?

เขาอดไม่ได้ที่จะเตือนเธออีกครั้ง “ข้อที่เธอปีนขึ้น

ไปบนเตียงของฉันไง

“เมื่อคืนฉันเมามาก ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบ นั้น ฉันก็ยังไม่ได้ทำอะไรนายซะหน่อย แต่นายกลับเห็น ทุกอย่างของฉันไปหมดแล้ว” นานาพูดเพื่อหาความเป็น ธรรมให้แก่ตนเอง

ทิวแสดงรอยยิ้มออกมาพลางเอ่ยขึ้นว่า “แต่เธอเป็น คนถอดเสื้อผ้าของเธอออกเองนะ ซึ่งฉันก็ไม่ได้สนใจ อะไร แต่ฉันคิดว่าเธอควรทำตามกฎที่เราตกลงกันไว้

“คุณจะเอายังไงก็ว่ามา?” นานาตอบกลับไปด้วย

ความรำคาญ

“แน่นอนว่าฉันต้องลงโทษเธอ”

เมื่อนานาได้ฟังคำพูดของทิวก็ทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของเธอเต้นแรง เธอรีบเอ่ยถามไปด้วยน้ำเสียงสั่นไหว “นายคิดจะทำอะไร?” ในหัวของเธอคิดไปถึงการลงโทษที่ไม่ปกติของเขา

เมื่อเห็นอาการลุกลี้ลุกลนจากผู้หญิงตรงหน้า ทำให้ เขารู้สึกหมดคำพูด ผู้หญิงคนนี้ใช้สมองคิดอะไรโง่ๆอยู่ ? จะให้เขาพูดอีกกี่รอบว่าเขาไม่ได้สนใจในตัวเธอ? เธอคิด ว่าตัวเองมีเสน่ห์ยั่วยวนขนาดไหนกันเชียว ?

ทิวค่อยๆลุกขึ้นยืนแต่ยังคงส่งสายตาที่เยือกเย็นไป ยังนานา “บทลงโทษครั้งนี้ของเธอก็คือ เอาผ้าปูของฉัน ทั้งหมด ไปซักให้เรียบร้อย

นานาได้แต่เบิกตาโพลงด้วยความตะลึง ยังไม่ทันได้ คิดจะทำอะไร ผู้ชายตรงหน้าก็เดินตรงไปที่ประตูพลางพูด ประโยคที่ทำให้เธออึ้งกว่าเดิม “เธอต้องใช้มือซัก เพราะ มันสะอาดกว่า”

นานาได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ผู้ชายคนนั้นสั่งให้เธอใช้ มือซักผ้าปูของเขาทั้งหมดยังงั้นเหรอ? เธอจะไม่เหนื่อย ตายเลยเหรอ!

นานารีบเดินตามชายคนนั้นไป เธอเห็นเขากำลังมุ่ง ตรงไปยังห้องของลูกๆ เธอต้องทำเป็นเสแสร้งยิ้มออกมา เธอถามเขาไปว่า “ฉันคิดว่าใช้เครื่องซักผ้าซักมันสะอาด กว่านะ ให้ฉันใช้เครื่องซักผ้าซักเถอะนะ!”
“งั้นเธอก็ไม่ต้องซักแล้ว จ่ายเงินมาให้ฉันพอ” ทิว พูดพลางหันมามองเธอ

เมื่อนานาได้ยินดังนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าเพราะ รู้สึกโล่งอก “ นายบอกมาเถอะว่ามันราคาเท่าไหร่ เดี๋ยว ฉันจะซื้อให้นายใหม่สี่ชุดเลย

ทิวได้แต่แสดงรอยยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันลดราคาให้ เธอแล้วกัน ก็ประมาณหนึ่งล้าน

นานาได้ฟังจำนวนตัวเลขที่ทิวพูดมาก็ถึงกับตกใจ จนแทบจะเป็นลม “นายพูดว่าอะไรนะ? หนึ่งล้าน? นายจะ บ้าหรือไง!”

“ชุดเครื่องนอนที่ฉันใช้มันมีแค่หนึ่งร้อยชิ้นบนโลก ราคาก็อยู่ที่ประมาณชุดละล้านสอง นี่ฉันลดให้เธอเหลือ แค่ล้านเดียวเองนะ” ทิวตอบกลับด้วยเสียงเยือกเย็นตาม แบบฉบับเดิม และนี่คือบทเรียนที่เขาต้องการจะลงโทษ เธอ

นานาได้แต่กรอกตาไปมา เพราะเธอก็ไม่รู้จะทำยังไง กับปัญหานี้แล้ว

ชุดเครื่องนอนของผู้ชายคนนี้แค่สี่ชุดแต่ราคาเกือบ

หนึ่งล้านกว่า?
ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้รวยจนเป็นบ้าไปแล้วหรือ

ไง !

จำนวนเงินหนึ่งล้านกว่าบาท แน่นอนว่าเธอไม่ยอมที่ จะเสียมันไปแน่ๆ “โอเค ฉันซักก็ได้”

“ซักให้สะอาดด้วยล่ะ” ชายหนุ่มออกคำสั่งเสียงเข้ม เธอนอนหลับแค่แป๊ปเดียว เขาจะกลัวเชื้อโรคแบคทีเรียจะ ไปติดอะไรขนาดนั้น

ผู้ชายคนนี้ดูถูกเธอเกินไปแล้ว

เธอได้แต่กัดฟันข่มความโกรธที่มีอยู่ในใจ คอย ดูเถอะ ครั้งต่อไปเธอจะสั่งให้ลูกสาวฉี่รดเตียงนอนของ

เขา

ทิวจัดการเปิดประตูไปยังห้องของลูกๆทั้งสอง ตอนนี้ ก็พึ่งจะเจ็ดโมงครึ่ง นานาคงรีบกลับไปที่ห้องของเธอแล้ว เห็นทีว่าวันนี้เธอคงจะต้องจัดการซักผ้าปูให้เขาทั้งวันแล้ว

ล่ะ

บนโต๊ะอาหาร ลมเหลือบมองมามี้ที่กำลังนั่งกิน ก๋วยเตี๋ยวอยู่ฝั่งตรงข้าม “เมื่อคืนมาหายไปไหน?

“มามไปเที่ยวกับน้าแป้งมาจะ นานาพูดพลางยิ้มหวาน

“มานี้ต้องไปเที่ยวอย่างมีความสุขนะ อย่าลืมหาพ่อ เลี้ยงให้พวกเราด้วย ลมเอ่ยขึ้นพลางส่งยิ้มไปทางมา

นานาตกตะลึงพลางเงยหน้าขึ้นมาถามลูกชาย “ลูก

พูดว่าอะไรนะ?”

“ลมกับฟ้าอยากให้มามหาพ่อเลี้ยงให้พวกเรา ลม

ยังคงพูดต่อ

นานาได้แต่หัวเราะเล็กน้อยพลางถามกลับ “ทำไม

ล่ะจ้ะ?”

“ก็จะได้ไม่มีใครกล้ามาทำร้ายลมกับฟ้าใช่ไหมครับ

มาม?”

ข้างๆนั้น ทิวผู้ซึ่งกำลังกินอาหารในจานอยู่อย่าง เอร็ดอร่อย เมื่อได้ยินลูกชายพูดประโยคนั้นขึ้นมา เขาก็รู้ สึกแย่ขึ้นมาทันที “ใครจะไปรู้บางทีพ่อเลี้ยงอาจจะเป็น คนคิดร้ายกับพวกเธอก็ได้” ลมก็ยังยืนกรานในความคิด ขอตนเอง เขาโต้กลับไปยังแคดดี้ ผมเชื่อว่าคนที่รักมา นี้ ก็จะต้องรักพวกเราด้วย” พอพูดจบ ลมก็แสดงท่าทาง ราวกับตนเองเป็นผู้ใหญ่ “แคดดี้ห้ามหาแม่เลี้ยงให้พวก เรา! แม่เลี้ยงทุกคนเป็นคนไม่ดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ