ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 177 เขาจะจัดการ



บทที่ 177 เขาจะจัดการ

“ค่ะ”นานารับขึ้น

“ทานข้างเที่ยงด้วยกันนะครับ

“ไม่แล้วหล่ะ ฉันจะไปทานที่โรงอาหารกับเพื่อน”

“อยู่ข้างนี่เองนะ มีเวลาพอที่จะให้เธอกลับมาได้ตรง

เวลา”

นานาคิดไปสักพัก ฟางก็มีเพื่อนไปด้วยอยู่แล้ว ส่วน ผู้ชายคนนี้เหมือนจะทานคนเดียว ก็น่าจะเบื่อ เธอเลยพูด ขึ้น “ค่ะ ร้านไหนอ่ะ เดี๋ยวฉันไปเอง”

“ไปรอฉันที่จอดรถ เมื่อเสียงที่ทุ้มทิ้งลงมาเสร็จ ก็ได้วางสายไปแล้ว

นานาบันทึกเบอร์ของเขา แล้วพูดกับฟางที่อยู่ข้างๆ จากนั้นเธอก็ไปที่จอดรถเลย

ในตอนนี้ก็มีพนักงานไม่น้อยที่ขับรถออกไปทานข้าง ข้างนอก นานาเดินไปที่จอดรถถาวรที่หนึ่ง รถทั้งแถวนี้ เป็นรถของผู้ชายคนนี้ทั้งหมด มีสิบกว่าคันที่เป็นที่เป็นรถ หรู ปกตอเขาก็จะเลือกขับคันตามอารมณ์

เมื่อนานามาถึงแล้ว รถหรูสีฟ้าก็ได้กระพริบไฟขึ้นที

หนึ่งเธอนับคลับไป เน็บทำที่ใส่สูตรเติบออกมาอย่างนี้เสน่ห์ ทั้งตัวเปล่งออกมาด้วยแรงดึงดูด

นานานั่งไปที่ข้างๆคนขับ เมื่อคิดถึงมือถือและอาหาร เช้าที่เขาส่งให้นั้น เธอก็กัดรอมฝีปากแล้วพูดคําขอบคุณ กับชายคนนี้ เธอพูดด้วยความเขินบ้าง “ขอบคุณมือถือ และข้าวเช้าของนายนะ”

ทิวหันไปมองเธอ “ชินกับงานไหม?”

เมื่อพูดถึงเรื่องงานนั้น นานาก็จะมีความโกรธลุกขึ้น มา เธอก้มหน้าลง “อย่าพูดถึงเลย

ทวขมวดคิ้วขึ้นทันที “ทำไมเหรอครับ?มีคนเดือด ร้อนเธอเหรอ?”

“ฉันมีงานของฉันที่ต้องทำ แต่มักจะถูกคนสั่งให้ ทำงานที่ต้องวิ่งเดินตลอด ทั้งๆที่มันไม่ได้เป็นงานที่ฉัน ต้องรับผิดชอบ…”พึ่งบ่นถึงตรงนี้ จู่ๆนานาก็หยุดลง

ทิวควบคุมพวงมาลัยอย่างมีเสน่ห์ แล้วมองไปที่เธอ “ทำไมไม่พูดแล้วหล่ะครับ?”

นานานูนปากขึ้นมา “ช่างเถอะ ไม่พูดถึงแล้ว

ที่จริงเธอก็ชอบความรู้สึกนี้นะ ที่สามารถฟองเรื่องเล็กๆน้อยๆกับคนคนหนึ่งได้ จะว่าไปอีก เขาเป็นเจ้านาย จะบ่นเรื่องงานที่บริษัทให้เขา จะทำให้เขารู้สึกว่าหัวหน้า เธอไม่ได้ดีกับเธออะไรหรือเปล่า?

“พูดมา ฉันอยากฟัง ทิวสนับสนุนคำหนึ่ง แผนกที่ นานาอยู่นั้น เป็นเพียงผลิตภัณฑ์เล็กๆ ผลของที่ลงมานั้น เขาเพียงได้ฟังปีละครั้งเดียว และทุกครั้งที่ฟังเขาก็แค่ให้ ผ่านหูแค่นั้น

นานาขมวดคิ้วขึ้น “ถ้าฉันพูดแล้ว นายอย่าบอกว่าฉัน ปากมากเลยนะ

“ไม่ครับ” ทิวส่ายหัว เขาก็มีความชอบที่จะฟังเรื่อง ของพนักงานบ้าง

นานาคิดๆแล้ว ในเมื่อบอกเขาไปก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ เสียหายอะไร ไม่แน่เขาอาจจะเปลี่ยนกฏของบริษัทกับ นักงานเล็กแบบเธอก็ได้

“ฉันอยากบอกว่า ในบริษัทมีพนักงานเก่าที่ชอบเอา เปรียบคนใหม่ มักจะให้เราทำงานเราไม่ได้รับผิดชอบ อย่างถ่ายเอกสาร ซีลอกต์ แม้แต่ซื้อกาแฟยังให้เราไปทำ เลย”

“แผนกพวกเขาไม่มีผู้ช่วยเหรอ?”
“มีสิ มีผู้ช่วยสองคน แต่พวกเขาก็ไม่ทำงานแบบนี้อยู่ แล้ว”

สีหน้าทวก็เข้มมากขึ้น “แล้วพวกเขาทำอะไรกัน?

“ตอนที่ฉันเดินผ่าน เห็นพวกเขาอ่านนิตยาสาร ฟัง

เพลง”

“มีแต่คนแผนกวางแผนงานที่ชอบเอาเปรียบเธอเห รอครับ?”

“คนที่อยู่ห้องทำงานเดียวกับเราก็คือพวกเขาไง คน อื่นฉันก็ไม่รู้แล้ว” พูดจบ นานาก็เห็นสีหน้าเขาที่ไม่ค่อยจะ ดี เธอกระพริบตา “นายโกรธแล้วเหรอ?”

“เรื่องนี้ฉันจะจัดการให้ตอนเย็น

“จริงๆแล้ว นายเพียงแค่บอกแนะกฎของตำแหน่ง งานให้ชัดเจนก็ได้แล้ว”

เมื่อมาถึงภัตตาคาร ทิวก็พูดกับเธอขึ้น “อย่าไปคิด เรื่องนี้แล้ว ทานข้าวเที่ยงเสร็จค่อยว่ากันนะ” นานาเดิน เข้าไปที่ร้านกับเขา แล้วเลือดจุดที่ใกล้หน้าต่าง ตอนที่ เลือกเมนูนั้น นานาเห็นราคาค่อนข้างจะแพง เธอก็แอบ แน่นในใจ แต่เมื่อก่อนความยากจนได้ปิดกั้นความคิดเธอไว้ เมื่อได้อยู่ด้วยกันกับทิวแล้ว เธอพึ่งจะเข้าใจว่า ค่าใช้ จ่ายของคนที่มีฐานะดีนั้นมันยากเกินกว่าที่เธอคิด

เมื่อทานเสร็จ นานาก็เอามือถือออดมา แล้วบันทึก

เบอร์ของแป้ง

ทิวเห็นเธอเอามือถือออกมา ก็คิดอะไรได้ อารมณ์เขา ก็ดีขึ้นมาทันที ตอนนี้มือถือใหม่ของเธอ ฟิวต้องไม่รู้เบอร์ แน่นอน

“ห้ามเธอให้เบอร์กับฟิวนะ”เขาสั่งออกมาอย่างหด นานามองมือถือแล้วกระพริบตา “เราเป็นแค่เพื่อน

“เพื่อนก็ห้ามเช่นกัน”

“ถ้านั้นฉันไม่มีแม้แต่เพื่อนแล้วสิ

“เพื่อนผู้หญิงสามารถมีได้ แต่เพื่อนผู้ชายห้ามเด็ด ขาด ถึงแม้ทิวจะจีบชาอย่างเป็นผู้ดี แต่คำที่ออกมาจาก ปากเขานั้นกลับเหมือนเป็นคำสั่งจากราชาที่ห้ามฝ่าฝืน เลยทีเดียว

นานาก็พึ่งเข้าใจอะไรคือการไร้เหตุผลของคนซาตานแล้ว ก็เป็นผู้ชายแบบที่อยู่ตรงหน้าเธอไป

นานาเงียบอย่างไม่สามรถเข้าใจได้ ชีวิตของเธอเธอ กำหนดเอง

“เย็นนี้ ฉันจะส่งลูกที่บ้านพาทิศ คืนวันอาทิตย์ค่อย ไปรับกลับมา

นานาฟังแล้ว ก็พึ่งนึกได้ว่าวันนี้วันศุกร์แล้ว เธอคิด ไปสักพัก “ลูกของเราใกล้ปิดเทอมแล้ว

“อืม ปิดเทอมนี้มีแพรนอะไรไหม?”

นานาเอามือกุมคางไว้ คิดไปสักพัก “ฉันคิดว่าจะพา พวกเขาไปเที่ยว แต่ฉันกังวลมันจะไกลไป

“ถ้าจะเที่ยว ฉันจะจัดทรีปไปเที่ยวเมืองนอก พอถึง ตอนนั้นเธอเพียงแค่จัดการของใช้เธอเองก็ได้แล้วทิว ก็ได้คิดไว้แบบนี้ ทุกปีเขาจะหยุดให้ตัวเอง ส่วนปีนี้ วัน หยุดของเขาจะมีลูกๆของเขาด้วย

“แล้วงานฉันหล่ะ?”

“ฉันได้จัดการให้แล้ว

บาบาพดอะไรไม่ออกทันที เขาเป็นเจ้านาย เขาพูดอะไรก็ได้

เมื่ออาหารที่น่าทานครบแล้ว นานาก็มองไว้อย่างมี ความอยาก

ทิวที่อยู่ตรงหน้า ยังคงทานอย่างสุภาพผู้ดี เมื่อนานา เงยหน้าเห็นแล้ว เธอก็ต้องทำตัวสุภาพ

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอกลับอยากเก็บท่าทางที่ไม่ค่อย ดูดีของตัวเองทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ เฮ้อ สรุป แล้ว ก็เป็นเพราะไม่อยากให้เขาดูถูกสินะ

เมื่อมานเสร็จก็กลับไปที่ทำงาน นานายังไม่ทันนั่งลง ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโยนเอกสารชุดหนึ่งมา “ไปถ่ายเอกสาร มาสามหน้า ฉันต้องเอาตอนนี้”

“ขอโทษนะ นี่ไม่ใช่งานที่ฉันต้องรับผิดชอบ นานา ปฏิเสธด้วยสีหน้าที่เย็นเรียบ

“เด็กใหม่ใช่ไหม รู้กฎบ้างไหม ยังอยากทำงานนี้ต่อ อยู่หรือเปล่า?เธอรู้ว่าเธอได้เข้ามาพาทศมันก็ไม่ง่ายแล้ว ถ้ายังไม่รักษาไว้ให้ดี เธอต้องเสียใจทีหลังแน่”ผู้หญิงคน นั้นข่มขู่เธอขึ้นมา

นานาสายหัว แล้วนําขึ้น “อันนี้ก็ไม่จำเป็นต้องให้เธอมากังวลนะ”

“นี่เธอ…”ผู้หญิงคนนั้นโมโหจนหน้าแดง เธอไม่ เคยเห็นเด็กใหม่ที่กวนแบบนี้ เธอโยนไปให้ฟาง ฟาง ลังเลสักพัก แต่ก็เอาไปถ่าย

ในใจนานาแค้นบ้าง เธอไม่ทำ ฟางก็ต้องทำแน่นอน เธอเลยลุกขึ้น แล้วไปช่วยฟาง ส่วนผู้หญิงที่อยู่ข้างๆก็นั่ง ลงมา แล้วบ่นให้คนอื่นอย่างเสียงดังด้วยคำพูดที่ไม่ดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ