ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 94 ห้าปีก่อนยังจำได้ดี



บทที่ 94 ห้าปีก่อนยังจำได้ดี

เมื่อกี้คำพูดที่ทิวพูดในห้องน้ำกับเธอนั้นมันอันตราย มากนะ และมันยังน่ากลัวอีก

จู่ๆว่าที่สามีของนาราพูดกับเธอว่าจะแต่งงานกับ เธอ ? ยังมีเรื่องอะไรอีกที่ทำให้เธอมันน่ารังเกียจ ?

นานารู้สึกโมโหมาก นี่มันกำลังเหยียดหยามเธอ

ชัดๆ ถึงนานาจะไม่มีใคร ก็ไม่ไปเก็บเศษเหลือจากนารา

หรอก ?

แสดงว่า เธอยอมแต่งงานกับฟิวที่อยู่ต่อหน้าเธอ แต่ ไม่ยอมแต่งงานกับทิว

แน่นอน ข้อแม้ก็คือ เธอเตรียมใจไว้แล้วที่จะไม่

แต่งงานไปตลอด

“กินอิ่มหรือยัง ? งั้นพวกเราไปกันเถอะ ! “ฟิวลุก ขึ้นด้วยความสง่า หันมามองหน้าทิว พร้อมกับจับมือของ นานาแล้วเดินออกจากร้านอาหาร

นานารู้สึกโล่งอก ฟิวจึงถามขึ้นว่า “เมื่อกี้ทำไมเธอ เข้าไปห้องน้ำนานจัง มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ?

“ไม่มีอะไร !
“หรือว่าทิวกักขังเธอไว้แล้วขู่เธอใช่ไหม ! “ฟิวพูด

สมองของนานาวุ่นวายไปหมด แต่เธอก็ไม่อยากพูด อะไรเยอะ เธอยักคิ้วขึ้น “เขาจะขู่อะไรฉันได้ ? อย่าพูด ชื่อของเขาต่อหน้าฉันอีก ได้ยินชื่อแล้วฉันจะอารมณ์ไม่

ดี”

มุมปากของฟิวยกยิ้ม แล้วไม่พูดต่ออีก

ช่วงบ่ายนี้ ใจของนานาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คำพูด ของทิวทำให้เธอมีปัญหาใหญ่มาก ตอนเย็น ประมาณสี่ โมงครึ่ง โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น หน้าจอโทรศัพท์เป็น ชื่อของทิวปรากฏขึ้นมา

“ฮัลโหล ! “เธอหามุมเล็กๆรับโทรศัพท์

“ไปรับเด็กๆกันเสียงของทิวดังขึ้น

“นายอยู่ไหน ? “นานาถามกลับ

“ฉันยังอยู่ที่นี่ มาหาฉันที่หน้าประตู ทิวพูดเสร็จ ก็ วางสายโทรศัพท์ไป

นานาขมวดคิ้ว แล้วเขารู้ได้ไงว่าเธอยังอยู่ใน สโมสร ? แต่ว่า การไปรับลูกเป็นเรื่องที่สำคัญ เธอพูดกับฟิวที่พึ่งมาได้ไม่กี่รอบว่า “ ฉันไปรับลูกก่อนนะ เดี๋ยว นายกลับบ้านไปคนเดียวนะ ?”

“ฉันก็จะกลับไปพอดีเลย ฉันจะไปส่งเธอเอง มุม ปากของฟิวยิ้มขึ้น

“ไม่เป็นไร ทิวรอฉันอยู่ที่หน้าประตูอยู่นานาไม่ อยากรบกวนเขา

“ยังไงฉันก็ผ่านหน้าโรงเรียนอยู่ดี เธอจะนั่งรถไป กับฉัน หรือจะนั่งรถไปกับเขา ? “ฟิวถามกลับ

นานาคิดไปคิดมา เธอจึงพูดกลับฟิวว่า “ งั้นฉันนั่งรถ นายดีกว่า ยังไงก็จะผ่านหน้าโรงเรียนอยู่ดี! ”

แต่ถ้าเธอนั่งรถไปกับทิวนะ ตลอดเส้นทางเธอต้อง เมื่อตายแน่ ฟิวพาเธอเดินมาที่หน้ารถของเขาแล้ว ขับรถ ออกจากหน้าประตู เห็นแต่รถเบนท์ลีย์สีดำจอดอยู่ที่นั่น นานาพับหน้าต่างลง และฟิวก็จงใจหยุดใกล้ที่นั่งคนขับ ของเบนท์ลีย์

นานาพับหน้าต่างลงได้ครึ่งหนึ่งแล้วพูดกับฟิวว่า “ฉันจะนั่งรถของเจ้านายฉันกลับไป เจอกันที่โรงเรียนละกัน”

พูดเสร็จ ฟิวก็เรงรถอย่างแรงแล้วโชว์ลีลาของรถต่อ หน้าทิว รถสปอร์ตที่สมบูรณ์แบบที่เล่นความเร็วและชวน หลงใหลนั้น

นานาตกใจจนหัวใจเต้นเร็วมาก จากนั้นรอฟิวแสดง เสร็จ เธอก็พูดด้วยความโมโหว่า “ขับรถดีดีสิ รู้อย่างนี้ฉัน ไม่น่านั่งรถมากับนายตั้งแต่แรกเลย

ฟิวหัวเราะ ฮ่าๆ พลางขับรถไปด้วย

รถที่ตามอยู่ข้างหลัง สีหน้าของทิวมืดมน มองไปที่ รถสปอร์ตด้านหน้า คมเฉียบ เยือกเย็น สายตาที่อันตราย มองไปด้านหน้า

ตอนเย็น ห้าโมงยี่สิบ อยู่ที่ประตูโรงเรียนพอดี นานาลงจากรถของฟิว โบกมือให้เขา รถสปอร์ตของฟิว ขับไปทางคฤหาสน์ของเขา สักพัก รถของทิวก็ถึง นานา ดูเวลา ซึ่งเวลาในตอนนี้ ประตูของโรงเรียนเปิดแล้ว มีผู้ ปกครองของนักเรียนรูดบัตรเข้าไปแล้ว นานาก็หยิบบัตร ในกระเป๋าออกมา เงาที่มีแรงกดดันอยู่ข้างหลังเดินเข้ามา และ ใจของนานาตึงตัวไปหมด คำพูดที่ทิวพูด ตอนนี้ยัง ทําให้เธอหวาดระแวงอยู่
หรือว่าที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง !

หวังว่าคงไม่ใช่นะ

เมื่อเด็กน้อยทั้งสองเดินออกมาจากประตูโรงเรียน เห็นแด๊ดดี้กับมามารับพวกเขาพร้อมกัน เด็กน้อยทั้งสอง ดีใจมาก ในสายตาของทิวความสุขแบบนี้ ทำให้เขายิ่ง มั่นใจอีกว่า ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รักผู้หญิงคนนี้ แต่ยังไงก็ ต้องแต่งงานกับเธอ

เขาจึงรับเจ้าเด็กน้อยทั้งสองกลับถึงบ้าน นานารับ โทรศัพท์ที่แป้งโทรมา ถามเกี่ยวกับสถานการณ์ช่วงนี้ ของกันและกัน แป้งรู้ข่าวของผิวที่เป็นไอดอลเยอะมาก ดีใจมาก ที่ต้องรู้ว่าแฟนคลับอยากรู้ชีวิตส่วนตัวของเขา

“อิจฉาเธอจัง ! นานา ทำไมเธอโชคดีอย่างนี้ ? มี โอกาสให้ฉันได้เจอไอดอลของฉันหน่อยได้ไหม ? ฉันขอ แค่ดูไกลๆก็พอ”

นานาคิดไปคิดมาพูดว่า”โอเค ถ้ามีโอกาสแบบนี้ ฉัน จะรีบโทรหาเธอเร็วเลย

“อืมอืม ฝากด้วยนะ !

“โอเค ! แน่นอน! นานาม พร้อมกับมองเด็กน้อยทั้งสองวิ่งไปวิ่งมาในสนามหญ้า มันทำให้เธอดูมี

ความสุขมาก

“อ่อ ! เธอกับทิวเป็นยังไงบ้าง ?

“ก็แบบนี้แหล่ะ ! ต่างคนต่างอยู่ ไม่รบกวนซึ่งกัน

และกัน”

“ระหว่างพวกเธอไม่มีอะไรหรอ ! แต่อย่าลืมนะเรื่อง เมื่อห้าปีก่อนพวกเธอเคย ..อันนั้นกัน แป้งไม่กล้าเอ่ย ปาก

แต่ความหมายที่แสดงออก นานาทันที เธอตอบ ด้วยเขินอายว่า “เรื่องของห้าปีก่อนฉันลืมไปตั้งนานแล้ว สำหรับฉันนะ คืนนั้น ก็ถือว่าโดนหมากัดละกัน

“โดนหมากัด ? ” เสียงที่แข็งแกร่งดังขึ้นอยู่ข้าง

หลัง

นานาตกใจรีบบิดหัวกลับไป ไม่รู้ว่าทิวมายืนข้าง หลังเธอเมื่อไหร่ แต่ใบหน้าหล่อและเศร้าหมองมองเธอ นั้น

ทำให้นานารีบพูดกับแป้งว่า “ฉันมีธุระแล้วล่ะ ขอวาง

ก่อนนะ”
พูดเสร็จ เธอรีบวางสายโทรศัพท์ จ้องผู้ชายที่ยืน อยู่ด้านหลังด้วยสายตาที่ไม่ใยดี “การแอบฟังคนอื่นคุย โทรศัพท์ถือว่าที่ไม่มีมารยาทนะ

“แล้วที่เธอแอบพูดลับหลังคนอื่นเป็นมารยาทที่ดี หรือไง ? “ทิวพูดประชด

นานาสำลักทันที เหมือนด่าเขาเป็นหมา ใบหน้า ของเธอก็แดงขึ้น

“เรื่องของห้าปีก่อนเธอลืมจริงๆแล้วหรอ ? แต่ฉัน กลับจำได้อย่างชัดเจนเลยนะ” ทิวยิ้ม” เธอเริ่มทำมันก่อน กลิ่นตัวของเธอ เธอตะโกนร้องโวยวายใกล้กับฉัน ฉันไม่ เคยลืมมันเลย”

หน้าของนานาบึ้งตึง “นายจำมันได้ชัดเจนเลย

หรอ ? ”

“เพราะว่าคืนนั้นถือว่าวิเศษสุดเลยแหละทิวกัดริม

ฝีปากที่หนาแล้วพูด

“นาย…ทางที่ดีที่สุดนายรีบลืมมันไปเลยนะ นานา พูดพลางหน้าแดง “ถ้าวันนั้นเป็นอย่างที่นายพูด นาย เป็นคนวางแผน และรู้ใช่ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น ? หรือว่า นายยังจะยู่ในโรงแรมที่มีไฟดับของห้องนั้นคนเดียวได้ด้วยหรอ ? ฉันจำได้ว่าในลิฟต์ ทางเดินยังมีไฟสว่างอยู่ เลย เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจตัดสายไฟ

ทิวสังเกต เขายังจำมันได้ทุกอย่าง และคิดได้อย่าง ละเอียด สังเกตจากคำพูดที่เธอพูด ไม่มีผิดสักนิด

ก่อนหน้านี้ เพราะว่าตอนแรกเขาไม่ได้จะแต่งงานกับ เธอ ตอนนี้ ในเมื่อเขามีความคิดที่จะแต่งงานกับเธอ งั้น ก็ต้อง ลบล้างสิ่งที่เกิดเมื่อห้าปีก่อนของเธอ

นานาไม่รู้จะพูดอะไรแล้วมองหน้าเขา จริงๆ ที่เขา พูดมาทั้งหมด และอีกอย่างเขาอยากจะเถียง แต่ก็ไม่รู้ จะทำให้การโกหกนี้สิ้นสุดยังไง จู่ๆฝ่ามือของทิวก็แบ ออก ด้านหน้าเป็นพลอยของนานาที่หายไปเมื่อห้าปีก่อน นานายื่นมือไปแย่งทันที อันนั้นเป็นของของฉัน คืนมาให้ ฉันนะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ