ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 104 เธอไม่รังเกียจหรอกถ้าจะลองดูอีกสักครั้ง



บทที่ 104 เธอไม่รังเกียจหรอกถ้าจะลองดูอีกสักครั้ง

ทิวยักคิ้ว ผู้หญิงคนนี้ตั้งใจนั่งหลังรถหรอ เธอไม่ อยากนั่งกับฉันขนาดนั้นเลยหรือไง?แล้วทิวก็หันกลับ ไปดู ถุงกระดาษที่เธอวางอยู่ข้างๆ ดูปุ๊บก็รู้เลยว่านั่นเป็น ถุงกระดาษของแบรนด์เนม ทิวนึกถึงข่าวที่ดูวันนี้ ในข่าว นานากำลังไปงานฉลองครบรอบของแบรนด์นี้กับฟิวอยู่ ไม่ใช่หรอ?ถ้าทิวไม่ได้จำผิด สัญลักษณ์ของแบรนด์นี้เป็น ตัวอักษรLตัวใหญ่ๆ

“เธอมีตังเยอะพอที่ซื้อเสื้อพวกนี้หรอ?”ทิวถาม

นานากระพริบตา เธอไม่รู้ว่าทิวรู้ข่าวแล้ว เธอเลย ตอบอย่างได้ใจว่า “มีคนให้มา

“ฟิวใช่ไหม?”สีหน้าของทิวเริ่มไม่ดี

นานาไม่ได้ปฏิเสธ “ใช่!ไม่ได้หรอ?”

กระจกในรถส่องไปที่สายตาอันบริสุทธิ์ของนานา และนานาก็มองเห็นสายตาเย็นชาคู่หนึ่งกำลังจ้องมอง เธออยู่

“เธอออกตัวต่อหน้านักข่าวกับมัน แล้วเปิดเผยว่า พวกเธอกําลังคบกัน ทิวมองนานาด้วยสายตาที่เยือกเย็น

นานามองตาของทิวกลับแล้วพูดว่า “ใช่ แล้วไง?”
“ดีมาก”คำพูดนี้ทำให้นานารู้สึกขนลุกและแอบ สยองนิดๆ

“นายหมายความว่าไง?” นานาถามทิวด้วยความ

งงงวย

“ฉันเคยบอกแล้ว ว่าฉันจะแต่งงานกับเธอ ไม่ว่าเธอ จะยอมรับหรือไม่ วันข้างหน้านักข่าวก็จะเปิดเผยความจริง ที่เราแต่งงานกัน ทิวพูด

นานาทำตาโตและโมโห “ทิว ใครบอกว่าฉันจะแต่ งงานกับนายไม่ทราบ

สายตาอันตรายของผู้ชายคนนี้สะท้อนที่กระจก “ฉัน จะไม่ยอมให้ลูกของฉันเรียกผู้ชายคนอื่นว่าพ่อเด็ดขาด ถ้าเธอยังอยากจะคบกับฟิว ถ้าอย่างงั้น ฉันก็คงต้องทำให้ อนาคตของมันดับและทำให้มันไม่มีชื่อเสียงอีกต่อไป”

คำพูดของทิวไม่เหมือนคำพูดเล่นๆ นึกถึงการกระทำ ของผู้ชายคนนี้ในวันข้างหน้า

นานาก็รู้สึกขนลุก เธอรีบมองไปที่สายตาคู่นั้นจาก

กระจก

สายตาคู่นั้นเยือกเย็นมากและดูไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่

นานาถามด้วยความโกรธ “นายจะทำแบบนี้ไม่ได้

“ทำไมฉันถึงทำไม่ได้?เธอคิดว่าฉันไม่มีปัญญาทำ

ไง?”ทิวตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ

นานากล้าว่าทิวไม่มีปัญญาที่ไหน?เธอแค่ไม่อยาก ให้ทิวทำเรื่องแบบนี้ เธอพูดกับทิวว่า “ไม่ว่านายจะมี ปัญญาหรือไม่มี นายก็ทำแบบนี้ไม่ได้ ฟิวไม่ได้ทำอะไรให้ นายสักหน่อย”

“ฉันเคยบอกแล้ว ถ้าเธอชอบใคร ฉันก็จะทำร้ายคน นั้น” น้ำเสียงของทิวมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน

“นาย…นายมันคนชั่ว คนเลว…”นานาคิดคำด่าได้แค่ สองคำนี้เท่านั้น

“อย่าคิดว่าฉันพูดเล่นนะ ถ้าเธอกล้าออกข่าวกับมัน อีก และเปิดเผยความสัมพันธ์อีกครั้ง ฉันจะทำให้อนาคต มันดับลงทันที”

“นาย…”นานาโมโหจนพูดอะไรไม่ออก

เธอหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง เธอนึกภาพตอบททิวทําร้ายผิว เธอก็รู้สึกกังวลขึ้นมา เพราะผิวไม่จำเป็น ต้องมาโดนทำร้ายแบบนี้ ถ้าสาเหตุเป็นเพราะเธอเอง เธอ ก็จะยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีก

“นายก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของฉันกับฟิวไม่ใช่เรื่องจริง เราก็แค่เล่นละครแค่นั้นเอง”นานาอธิบาย

“ไม่ใช่เรื่องจริง?เธออยู่กับมันทั้งวัน ไม่มีการจับมือ จูบหรือ…กัน?”ทิวมองนานาจากกระจก

ใบหน้าอันเล็กๆของนานาที่สะท้อนที่กระจก ทำให้ เธอดูตัวเล็กน่ารัก แต่ตอนนี้ บนใบหนาของเธอกลับเต็ม ไปด้วยความโกรธ

“นายอย่าเอาคนอื่นไปคิดสกปรกแบบนายได้ไหม? นายคิดว่าทุกคนเป็นเหมือนนายรึไง วันๆเอาแต่คิดเรื่องน่า เกลียดแบบนั้น ฉันกับฟิวเราต่างบริสุทธิ์!”

นานามองออกไปนอกหน้าต่างเพราะไม่อยากเห็น

หน้าของผู้ชายคนนี้

แต่เธอพลาดรอยยิ้มที่เต็มใจของทิวไปซะแล้ว

“บริสุทธิ์จริงหรอ?ไปบ้านมันทุกวัน ใครเชื่อว่าเธอ บริสท ?อีกอย่าง ที่พวกเธอกอดไหล่โอบเอวกันคือ อะไร?”ทิวยิ้มเห้งๆ แล้วคาบเธอต่อ
นานาเถียงกลับไปว่า “ฟิวเป็นสุภาพบุรุษ และฉันก็ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ใจง่ายอย่างที่นายคิดเหมือนกัน ระหว่างฉัน กับฟิว ก็แค่จับไหล่ธรรมดา นายคิดว่าจะเหมือนนายหรอ เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้ ต้องอยากได้จนตัวสั่น

ทิวพูดด้วยความโมโห “ใครเป็นคนบอกเธอว่าฉัน เห็นผู้หญิงแล้วตัวสั่น

ห้าปีก่อนที่เคยมีอะไรกับเธอครั้งหนึ่ง ตั้งแต่นั้นมาทิว ก็ห้ามใจตัวเองอยู่ตลอด

“นายก็รู้ว่าห้าปีก่อนผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่นารา นายก ยังมีอะไรด้วยเลย?ผู้ชายแบบนาย คงมีผู้หญิงที่เข้าหา นายคงไม่น้อยเลยสินะ ห้าปีที่ผ่านมา นายคงมีอะไรกับ ผู้หญิงหลายพันคนแล้ว ความคิดของนานาสร้างสรรค์ จริงๆเลย

ทิวได้ยินแล้วโกรธจนจะบ้าแล้ว ทิวบอกกับนานาว่า “เธออย่ามาเดาเรื่องส่วนตัวของฉันมั่วนะ

“เหอะ!กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ คนรวยแบบนายอะ ฉันไม่ชอบสุดๆเลย เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น ไม่รู้จักให้ เกียรติคนอื่น และชมตัวเองว่าสูงส่งแค่ไหน ดีงามแค่ไหน ฉันดูออกหมดแหละ”นานาพูด
ทิวโมโหจนพูดอะไรไม่ออก ผ่านไปสักพัก ทิวก็อ้า ปากพูดขึ้นมาว่า “ฉันเป็นคนยังไง เดี๋ยวเธอก็จะได้รู้เอง

“ฉันไม่อยากรู้” นานาเบะปาก

“โอเค เธอบอกว่าฉันเล่นผู้หญิง งั้นหลังจากนี้ เธอต้องระวังตัวแล้วแหละ ตอนนี้ฉันอยากเล่นกับเธอ ชะมัด”ทิวพูดด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจ

หน้าของนานาเริ่มแดงขึ้น เธอมองทิวด้วยสายตา หวาดกลัว “นายลองแตะต้องตัวฉันดู ฉันจะไม่ให้อภัย นายแน่ๆ”

“ลองดูงั้นหรอ คืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน การบริการของ เธอทำให้ฉันรู้สึกดีมากเลยนะ ฉันไม่รังเกียจเลยถ้าจะลอง อีกหลายรอบ ทิวยิ้มและมองนานาด้วยสายตาที่เหมือน จะกลืนกินเธอเข้าไป

ใบหน้าเล็กๆของเธอ ยิ่งอยู่ยิ่งแดง นัยน์ตาของเธอ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ทิวเห็นนานาตกใจ เลยพูดไปว่า “เธอยังจะกล้าพูด เรื่องไม่ดีของฉันอีกไหม?”

นานาปิดปากไว้แน่น ตอนนี้เธอไม่อยากคุยกับทิว
ไม่คิดว่าตลอดทางมา นานาคุยกับทิวเยอะขนาดนี้ เห้อ ทั้งๆที่เกลียดทิวมากๆ ทำไมต้องเปลืองน้ำลายไปคุย กับมันเยอะขนาดนี้เนี่ย

มองวิวนอกหน้าต่างที่คุ้นเคย รู้เลย ว่าใกล้ถึงโรง

เรียนแล้ว

ตอนนี้ บรรยากาศในรถอึดอัดและเงียบมาก

ในรถมีแต่เสียงหายใจของนานา ทิวเห็นนานาตกใจ เมื่อได้ยินว่าจะแตะต้องตัวเธอ ไม่รู้ทำไม หัวใจของทิว รู้สึกไม่ค่อยสบายเลย

หรือว่าผู้หญิงคนนี้รังเกียจทิว?เพราะเรื่องที่เขาพูด

มั่วเมื่อกี้?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ