ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 226 มีความหมายที่ยิ่งใหญ่



บทที่ 226 มีความหมายที่ยิ่งใหญ่

ทิวมองดูรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมของปั้นห ยาแล้วพูดกับนานาว่า “กินอิ่มยัง? ถ้าอิ่มแล้วเราไปที่ห้อง โถงกัน งานจะเริ่มแล้ว

นานารีบพยักหน้า “กินอิ่มแล้ว

“ได้ งั้นเราไปกันเถอะ!” ทิวพูดจบแล้วก็ยื่นมือมาจับ ที่มือของนานา นานาพูดกับปั้นหยาว่า “ขอตัวก่อนนะคะ” พอพูดจบ ทั้งสองก็จูงมือกันเดินออกไปเลย

ส่วนปั้นหยาก็ทำตัวไม่ถูก เธอกัดริมฝีปาก แววตามี ความโกรธเล็กน้อย นานาไม่อยากแม้แต่จะเป็นเพื่อนกับ เธอเลยหรอ? เธอต้องไปร้องขอความเป็นเพื่อนจากคนอื่น แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

ดูท่าแล้วนานาไม่เห็นหัวเธอเลยจริงๆ

“มีไรเก่งนักหนา! ก็แค่เป็นคนที่ทิวชอบเอง” ปั้น หยาดื่มไปแก้วหนึ่งด้วยความโมโห และเวลานี้ ก็มีผู้ชาย คนหนึ่งมาอยู่กับเธอ แต่กลับโดนเธอมองด้วยสายตาที่ เย็นชา แล้วเธอก็เดินออกไปเลย งานประมูลคืนนี้จะเริ่ม แล้ว ปั้นหยาโกรธแค้นนานามาก เธอเลยเรียกเพื่อนสนิท มาช่วยเธอเรียกราคา ในเมื่อทิวชอบสร้อยเส้นนั้นมาก เธอ ก็ไม่ยอมให้เขาได้ไปง่ายๆหรอก เธอจะรอดู เพื่อนานา แล้ว ผู้ชายคนนี้จะยอมจ่ายให้แพงแค่ไหนเชียว สำหรับเธอแล้ว ถึงแม้จะแพงแค่ไหน สุดท้ายเงินนี้ก็ไหลเข้า บริษัทการกุศลของบ้านเธอ เธอก็แค่ไปทำบัญชีปลอมก็ จบ

แต่เธอไม่ยอมให้ทิวได้สร้อยเส้นนี้อย่างง่ายดาย แน่นอน แขกทั้งหลายต่างก็ทานข้าวเย็นกันเสร็จแล้ว ทุก คนทยอยเข้ามาที่โถงกลางห้อง นานากับทิวนั่งอยู่แถว หน้า นานานั่งเปิดดูใบปลิวอยู่ เธอเปิดไปถึงภาพสร้อยเส้น นั้น ช่างเป็นสร้อยไข่มุกที่หายากจริงๆ แต่ละเม็ดสวยงาม มาก อีกอย่างตรงกลางยังร้อยด้วยเพชรสีชมพูอีกด้วย ทำให้ดูดีมีความแฟชั่นเล็กน้อย

นานาชอบสร้อยเส้นนี้จริงๆ นี่เป็นสร้อยของแม่เธอ พอแล้ว หลังจากนี้เป็นเวลาที่น่าตื่นเต้นของงานประมูล พิธีกรขึ้นไปบนเวที แนะนำสมบัติทั้งสิบชิ้น ทุกชิ้นมีคุณค่า ในตนเอง และแขกในวันนี้ ก็มาเพื่อนสมบัติทั้งนั้น เริ่มต้น ที่ชิ้นแรก ขายได้ด้วยราคาที่แพงกว่าราคาเดิมสามเท่า

คุณหญิงโรสที่นั่งอยู่อีกทางดีใจมาก เพราะเงินทุก บาทที่ได้วันนี้ เธอจะนำไปใช้ในทางกุศล นี่หมายความว่า บริษัทของเธอสามารถช่วยคนได้มากขึ้น

ต่อด้วยของสามชิ้น ขายได้ด้วยราคาที่ดีมาก ต่อมา ก็ มาถึงของที่คุณหญิงโรสขายแล้ว นั่นเป็นสร้อยไข่มุกที่หา ยากมาก แขกผู้หญิงในงานทุกคนต่างชอบ และยอมซื้อด้วยราคาที่แพง

เมื่อพิธีกรประกาศเริ่มประมูล เริ่มที่บวกหนึ่งแสนบาท บางคนบวกทีละห้าหมื่นบาท บางคนก็บวกห้าแสนบาท ยัง ไงก็ตาม สร้อยราคาหนึ่งล้าน ก็โดนบวกไปเป็นสามล้าน ยังไม่หยุด ยังมีคนบวกเรื่อยๆ

ทิวที่นั่งอยู่ข้างนานายังไม่ปริปากพูดสักคำ เขารอคน ที่จะบวกราคาสูงสุด หลังจากนั้น เขาจะใช้ราคาที่ไม่มีใคร สามารถบวกเพิ่มได้มาซื้อสร้อยนี้ อีกอย่างบรรยากาศน่า สนุกแบบนี้เขาก็ไม่อยากทำลาย

“ห้าล้านบาท ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนออกมา

“โอเคครับ! ห้าล้านบาทครั้งที่หนึ่ง

“ห้าล้านบาทครั้งที่สอง

“สิบล้านบาท” เสียงโทนของใครบางคนดังขึ้น

“โอเคครับ ทางนี้มีคนตะโกนสิบล้านบาท เป็นคุณ ทิวครับ มีใครจะเพิ่มราคาอีกไหมครับ”

“สิบเอ็ดล้านบาท ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆตะโกนขึ้นมา
เป็นเพื่อนของปั้นหยา

ทิวมองไปที่ผู้หญิงคนนี้ แล้วตะโกนออกมา “ห้าสิบ ล้านบาท”

ผู้หญิงคนนั้นตกใจ และทุกคนต่างหวือหวากันขึ้น มา พระเจ้า! ทุกคนต่างรู้ว่าทิวรวยมาก แต่ว่าเขาฟุ่มเฟือย เกินไปไหม สร้อยแค่ราคาหนึ่งล้านบาท กลับโดนเขาบวก ราคาเป็นห้าสิบล้านบาท

ผู้หญิงคนนี้ลังเลว่าจะบวกเพิ่มดีไหม ปั้นหยาจ้องเธอ จากที่ไกลๆ เธอเลยตะโกนออกมาด้วยเสียงเบา “ห้าสิบ ห้าล้านบาท”

“แปดสิบล้าน” ทิวตะโกนออกมา

ผู้หญิงคนนี้หน้าแดง ไม่ออกเสียงอีกเลย ถึงแม้ว่าปั้น หยาจะจ้องเธอยังไง เธอก็ไม่กล้าบวกราคาอีกแล้ว ถ้าบวก เพิ่มอีกแล้วเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง?

นานาก็ตกใจ ผู้ชายคนนี้จำเป็นต้องบวกราคาสูงแบบ นี้ไหม? ถึงจะซื้อให้เธอ แต่ราคานี้แล้ว มันสูงเกินไป เธอ ไม่อยากได้สร้อยเส้นนี้แล้ว

คุณหญิงโรสก็เจอเรื่องแบบนี้ครั้งแรก เธอรู้ว่าคนที่บวกราคานั้นเป็นเพื่อนของลูก

“แปดสิบล้านบาทครั้งที่หนึ่ง แปดสิบล้านบาทครั้งที่ สอง แปดสิบล้านบาทครั้งที่สาม” พิธีกรเคาะค้อน

คุณหญิงโรสมองไปทางทิว เธอรู้สึกผิดเล็กน้อย เธอ คิดว่าจะไปเจรจากับเขาเป็นการส่วนตัว เรื่องนี้มันเกินคาด จริงๆ

งานประมูลจบลง ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ของทั้งสิบ ชิ้นล้วนได้ราคาดี และสร้อยเส้นนั้นราคาสูงสุด ทุกคนต่าง พูดถึงแต่เรื่องนี้กันใหญ่

คุณหญิงโรสเดินมาหาทิว พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ “คุณทิวคะ ฉันขอคุยด้วยหน่อย สะดวกไหมคะ?”

ทิวรีบจูงมือนานา “พาคนนี้ไปด้วยได้ไหมครับ?

“ได้สิ ! “คุณหญิงโรสมีความสุข

เขาเดินตามคุณหญิงโรสจนถึงห้องรับแขก คุณหญิง โรสขอโทษ “ขออภัยค่ะคุณทิว เมื่อกี้ที่ประมูลอยู่นั้น ลูกสาวฉันเป็นคนบวกราคาขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ฉันตัดสินใจ ว่าจะขายสร้อยเส้นนี้กับคุณในราคาห้าสิบล้านบาทเท่านั้น ค่ะ คุณว่าไงคะ?” นานาเห็นแววความใจดีของแม่แล้ว เธอรู้สึกซาบซึ้งมาก และทิวยิ้มแล้วพูดว่า “คุณหญิงโรสครับ ไม่ต้องรู้สึกผิดครับ ผมยอมจ่ายราคานี้ อีกอย่าง ผมอยาก ทํางานกุศลมาก และสนับสนุนงานกุศลของบริษัทคุณ หญิงครับ เพราะงั้นผมจะจ่ายในราคาเดิมครับ

ครหญิงโรสใส่หัวไปมา “ราคานี้…สูงเกินไป สร้อย เส้นนั้นไม่ได้แพงขนาดนี้หรอก”

ทิวยิ้มแล้วมองนานา “นี่เป็นของขวัญที่ผมให้เธอ ผมเชื่อว่าสำหรับเธอแล้ว สร้อยเส้นนี้มีคุณค่าและมีความ หมายเท่าราคานี้แน่นอนครับ เธอชอบมาก

เวลานี้คุณหญิงโรสรับรู้ถึงความรู้สึกที่ทิวมีให้กับ นานา ปั้นหยาคิดไปมั่ว ไม่เจียมตัวเลย

เธอแปลกใจกับคําพูดของทิว เธอมองไปทางนานา แล้วพูดว่า “คุณนานาคะ คุณชอบสร้อยเส้นนี้หรอคะ? สร้อยเส้นนี้มีความหมายอะไรกับคุณหรอคะ?” นานารู้สึก กดดัน เธอบอกไม่ได้ เธอเลยพยักหน้า “ใช่คะ ฉันชอบ สร้อยเส้นนี้มาก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ