ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 176 ถูกสั่ง



บทที่ 176 ถูกสั่ง

“แล้วเธอตื่นเต้นอะไรกัน?

“นั่นเป็นมือถือที่ฉันเสียไปสามหมื่นหาซื้อมาได้นะ ยังใช้ไม่ถึงครึ่งปีเลยนี่ถึงเป็นสิ่งที่นานาเครียด

“ชอบรุ่นไหนครับ” เสียงผู้ชายที่ทุ้มนั้นดังขึ้นมา

“ฮะ?” นานามองเขาไว้ ไม่รู้ว่าเขากำลังพูดอะไร

“ในเมื่อเป็นเพราะฉันที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอเสียมัน ไป นั้นฉันจะคืนเธอเอง” ทิวควบคุมพวงมาลัยไว้อย่างดู ดี เรื่องที่สามารถจัดการโดยใช้เงินนั้น สำหรับเขาแล้ว ไม่ เคยเป็นปัญหาอยู่แล้ว

นานาตกตะลึงไปกี่วินาที จากนั้น เธอก็รีบส่ายหัว “ช่างเถอะ ฉันไปซื้อเอง นี่ก็ไม่สามรถโทษนายได้ อีกทั้ง เมื่อกี้ฉันทําให้นายตกใจจนเปรกกะทันหัน จนท้ายรถถูก ชน ความเสียหายของรถนายสามารถซื้อมือถือของฉันได้ สิบเครื่องแล้ว”

ทิวดูเธอยังมีเหตุผล เขาเลยมุ่งนั่นเหมือนเดิม “ฉัน จะคืนเธอแน่นอน

“ไม่ต้องจริงๆ นานาสายหัว เธอก็มุ่งมั่นเหมือนกัน

ทำนับไปของเธอบีหนึ่ง ใบหน้าของบธอยังคงเครียดกับมือถือของตัวเอง อาจเป็นเพราะสำหรับหญิงสาวคนนี้ แล้ว เสียมือถือไปเครื่องหนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจนัก

ทิวเคยเห็นมือถือของเธอ ถ้านั้นก็ซื้อให้เหมือเครื่อง เดิมก็ได้แล้วสินะ

นานารีบไปเข้างาน เมื่อเธอมาถึงห้องทํางาน ฟางก็ เดิมมีที่ล๊อกเธอแล้วพูดขึ้น “ทำไมเมื่อวานเธอไม่ลาก็ไป เลยหล่ะ”

“ฉันมีธุระเร่งด่วนค่ะ

“เธอไม่กลัวจะไม่สามรถผ่านช่วงฝึกงานเพียงเวลา หนึ่งเดือนนี้เลยเหรอ?”

“อี้ หวังให้ผ่านสิ” นานายิ้มอย่างแห้งๆ แล้วดึงเธอ เข้ามาพูดขึ้น “ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม”

“ได้”

ผู้หญิงสิงคนที่อายุเรียบเท่ากันนั้น เหมือนมีความ รู้สึกคุ้นเคยเข้ากันได้ดี ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ไปที่ห้องเครื่องดื่มแล้ว นานาดื่มน้ำเปล่าไปแก้วหนึ่ง ก็ รู้สึกมีความหิวบ้างแล้ว แต่ก็ทำได้เพียงอดไว้เพื่อรอเวลา พักทานข้าว
เมื่อกลับไปที่โต๊ะทํางาน บนโต๊ะของเธอก็มีกล่องอยู่ กล่องหนึ่งอย่างแปลกๆ ข้างๆยังมีขนมปังและนม

นานาอึ้งไปกี่วินาที และทีนี้ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอรีบรับขึ้นมา“สวัสดีค่ะ”

“เห็นมือถือและอาหารเช้าหรือยัง? ฝั่งนั้นมีเสียงที่ ตี๋าของผู้ชายดังขึ้นมา

นานาลืมตาโตไว้ แล้วรีบเอามือปิดปาดตัวเอง “นาย เป็นคนให้เหรอ?”

“รีบทานซะ มือถือเป็นรุ่นเดิมที่เธอเคยใช้ ต่อไปก็ ระวังหน่อยนะ” เมื่อชายหนุ่มฝั่งนั้นพูดจบก็ได้วางสายไป

นานสักพักกว่านานาจะปรับตัวกลับมาได้ เป็นรุ่นเดิม ของเธอจริงด้วย เมื่อเธอเปิดเครื่องมา ก็เหมือนกับเครื่อง เดิมของตัวเอง เธอก็มีความตื้นตันวูบหนึ่ง แน่นอนยังตื้น ตันเพราะอาหารเช้ากล่องนั้นแล้วนม

“ว้าว นานาเธอช่างดีจังเลย แฟนเธอส่งมาเห รอ?”ฟางโยกแก้วขึ้นมาแล้วยิ้มอย่างตาหยี

นานาโบกมือ “ไม่ใช่แฟนนะ เป็นเพื่อนคนหนึ่งอ่ะ”
“มือถือใหม่นะ ว้าว เพื่อเธอช่างดีต่อเธอมากเลย ทั้งให้มือถือ ส่งอาหารเช้า เขาก็เป็นคนมนบริษัทเรานา สินะ?”

“ใช่สิ คนในบริษัทเราเอง”

“ฉันเดาว่าเป็นผู้ชาย

“ใช่แล้ว” นานาพยักหน้า แล้วถือกล่องนั้นขึ้นมา ป่ะ เราไปกินที่ห้องเครื่องดื่มด้วยกัน

นานาบกว่าว่างที่แท้ก็ไม่ได้ว่างหมากนัก เพราะเธอ ได้รับการทํางานถ่ายเอกสารให้เพื่อร่วมงานสื่อาทิตย์ และ งานเล็กๆที่ต้องเดินอีกมากมาย ฟางก็เช่นกัน เพิ่งแค่เธอ ชินไปแล้ว แต่นานากัลป์รู้สึกคนพวกนี้ไม่ค่อยจะเป็นมิตร ที่ดีนัก ทั้งๆที่มีเวลานั่งคัยกัน แต่ยังจะมองงานเล็กๆน้อยๆ แบบนี้ให้พวกเธอทำอีก

ในใจเธอรู้สึกโมโหขึ้นบ้าง โดยเฉพาะเธอคิดว่างาน ที่สำคัญของเธอนั้นคือ ดูนิตยสาร คุยเมามอยไปอย่าง เพลิน แต่ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นงานแบบนี้

ยืนตรงหน้าเครื่องปริ้น นานาและฟางกำลังยุ่งกับการ ถ่ายและเรียงเอกสาร ทั้งครึ่งวันนี้ ยุ่งจนไม่มีเวลาแม้แต่จะ ดื่มน้ำ
“ฟาง เขาทำแบบนี้กับเรามันไม่ยุติธรรมเลยนะ เราก็ มีงานของเรานี่นา ทำไมยังต้องช่วยพวกเขาถ่ายเอกสาร ด้วย”

“ถึงแม้จะไม่ใช่งานหลักของเรา แต่ก็เป็นบริษัท เหมือนกันไง ไม่มีอำนาจ และพึ่งจะได้เข้ามา ก็ต้องถูกคน อื่นเอาเปรียบอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”ฟางถอนหายใจ เพราะ เธอก็มาได้เป็นปีหนึ่งแล้ว

แต่พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่ก็เป็นพนักงานเก่าที่อยู่ มาเจ็ดแปดปีแล้ว บางส่วนยังนานกว่านี้สักอีก เนื่องจาก บริษัทพาทิศเป็นสถานที่ที่ทำงานโดยการมาจากคำขอ ร้องของผู้อื่น เลยได้เป็นต่อๆกันมา ฉะนั้นแล้ว ทำงานที่นี่ ก็ช่างเป็นสิ่งที่แฮ้ปปี้อย่างหนึ่ง

“นั่นก็ไม่ได้นะ ถ้าไม่ต่อต้านก็จะถูกเอาเปรียบต่อไป อีกทั้งยังรุนแรงมากขึ้นตามกาลเวลาอีกด้วย

“แล้วจะทำยังไงหล่ะ

“ต้องรายงานหัวหน้า

“หัวหน้าจะไปสนใจอะไรนัก?พวกเขาเพียงต้องการ ให้เราทํางานของเราเองให้เรียบร้อย จะว่าไป พวกเขาก็ มีงานของตัวเอง เราเป็นเพียงพนักงานที่เล็กๆ แค่เปรียบเทียบก็รู้ว่าใครสำคัญกว่ากันแล้ว

นานาหายใจเข้าลึกๆ ขาเธอก็ยืนจนเจ็บแล้ว และ กลิ่นของหมึกก็ทำให้เธอเวียนหัวมาก ไม่สักพัก ฟางและ เธอก็ได้อุ้มเอกสารเป็นก้องใหญ่แล้วเดินไปที่ห้องประชุม แล้วแจกออกไปเป็นชุดๆ

“นี่พวกเธอทำงานกันยังไง?เนื่องจากถ่ายเอกสาร ไม่ตรงเวลา เราต้องเลื่อนเวลาประชุมไปอีก มีความรับผิด ชอบต่องานบ้างไหม?”ผู้หญิงหนึ่งในนั้นพูดด้วยน้ำเสียง โมโห

“ที่แท้พวกเธอควรควรจะจัดการเสร็จก่อนประชุมแล้ว อีกทั้งไม่ได้เป็นงานของเราที่ต้องช่วยเลยด้วยซ้ำนานา โต้กลับไป

“โถๆๆ พึ่งเข้ามา ก็ขี้คร้านไม่อยากทำงานแล้วเหรอ ไง ใครเป็นคนรับพนักงานแบบเธอเข้ามา

“ไม่พูดแล้วนานา เราออกไปกันเถอะฟางรีบถึง นานาออกมา

และด้านหลังก็ได้ดังขึ้นด้วยเสียงที่ล้อ “พนักงาน เล็กคนหนึ่งๆ ยังมีอารมณ์ที่ใหญ่มากนัก ไม่อยากทำแล้ว ละสิ”
นานาถูกฟางดึงกลับไปที่โต๊ะทำงาน แล้วพูดกับ นานาขึ้นมา “นานา เธอก็เก็บไว้ในใจ เธอเถียงเขาไม่ไว้ หรอกนะ”

“ฉันเพียงแค่พูดความจริง

ทีนี้ โทรศัพท์สายในที่โต๊ะฟางก็ดังขึ้นมา เธอรีบรับ “สวัสดีค่ะ”

“ฟาง เรียกคนใหม่คนนั้นด้วย แล้วไปซื้อกาแฟ ข้างๆบริษัทให้เราคนละแก้ว เรามีสิบสองคน พวกเธอเร็ว หน่อย”

“อ้อ ค่ะ…”ฟางตอบไปสั้นๆ แล้วเดินไปตรงหน้า นานา เธอพูดขึ้น “นานา เขาบอกจะเอากาแฟ เรียกเราไป ซื้อให้พวกเขา…”

นานากำลังโมโหอยู่ เมื่อได้ยินคำนี้แล้ว เธอก็อยาก พูดอะไร แต่ฟางก็ดึงเธอขึ้น “ไม่เป็นไรนะ อย่าคิดมาก ความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานสำคัญกว่านะ” นานา เดินลงไปซื้อกาแฟกับฟาง ทั้งสองคนถือกาแฟคนละหก แก้ว เมื่อแจกเรียบร้อยแล้ว ผู้หญิงคนเมื่อกี้ที่ชี้ว่าพวกเธอ คนนั้นก็หยอกล่อขึ้นมา “ครั้งหน้ากาแฟของฉันอย่าใส่ น้ำตาลรู้ไหม?อีกอย่างทำงานให้มันเนี้ยบหน่อย พวกเธอ ที่พึ่งก้าวออกจากประตูโรงเรียน ถ้าไม่ขยันหน่อย ไม่มีบริษัทไหนอยากรับหนอกนะ

นานาทำหน้าปูด ผู้หญิงคนนี้ช่างได้คืบอยากได้ศอก ชะมัดเลยนะ

ฟางก็รีบดึงเธอออกมา เมื่อยุ่งไปแล้วครึ่งวัน มือ ถือนานาดังขึ้นมา เธอมองไปทีหนึ่ง ก็เห็นหมายเลขที่ดู องอาจ นี่มันเป็นเบอร์ของทิวไม่ใช่เหรอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ