ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 85 ให้ตายสิ เขาก็อยู่ด้วย



บทที่ 85 ให้ตายสิ เขาก็อยู่ด้วย

“ฉัน…” นานาไม่รู้ว่าจะแนะนำตัวอย่างไรดี

ฟิวโอบเอวของเธอให้เข้ามาใกล้กับเขา “คุณไม่ได้ดู ข่าวเหรอ? เธอเป็นแฟนใหม่ของผมน่ะ

คุณมนต์ถึงได้มองสำรวจนานาอย่างละเอียด เธอดู ข่าวบันเทิงอยู่แล้ว และติดตามข่าวของฟิวเป็นพิเศษ แล้ว เธอก็ทำตาโตขึ้นมาด้วยความตกใจ “เธอคือผู้หญิงที่เป็น ข่าวกับคุณเหรอ? พวกคุณไม่น่าจะคบกันจริง ๆ หรอก”

ฟิวกระตุกยิ้มออกมา “เป็นเรื่องจริง” พูดจบ เขาก็ จูงมือนานาเดินไปทางโซนอาหารบุฟเฟต์

” คุณมนต์ยืนกระทืบเท้าส่งเสียงเรียกเขาอยู่ ด้านหลังอย่างไม่พอใจ

แล้วฟิวก็จูงมือนานาไปข้างหน้าโดยที่ไม่ได้สนใจเธอ

เลย

“นี่! คุณมนต์นั่นเป็นใครเหรอ!” นานาถามด้วยความ สงสัย ดูเหมือนว่าเธอกับฟิวจะต้องมีเบื้องหลังอะไรบาง อย่างแน่ ๆ

“แฟนคลับของฉันน่ะ แต่ว่าเธอเป็นประเภทที่ฐานะ ทางบ้านดีก็เท่านั้น!” ฟิวเอ่ยปากบอกกับเธอ
“เธอมีฐานะอะไรเหรอ!

“คุณพ่อของเธอใหญ่ในสังคมการเมืองน่ะ เอาเป็น ว่าเธอสามารถหาโอกาสมาเจอกับฉันได้เสมอ” ฟิวพูด อย่างจนปัญญา

นานามองเขาด้วยความสงสารและเห็นใจเขาเป็น ดารามีชื่อเสียงนี่เนอะ เมื่อเจอกับแฟนคลับที่มีฐานะดีมา ตามตอแย เขาก็ไม่มีทางเลี่ยงจริง ๆ

“พวกเราไปหาอะไรทานกันก่อนเถอะ ปกติงานเลี้ยง พวกนี้ฉันก็แค่เข้ามาปรากฏตัวในงานเฉย ๆ น่ะ” ฟิวหันไป ยิ้มให้เธอ

“แล้วทำไมนายถึงถูกเชิญมาที่งานแบบนี้ได้ล่ะ? นายเป็นคนในวงการบันเทิง” นานาถามด้วยความสงสัย

ฟิวกระตุกยิ้ม เขาพูดออกมาอย่างมีลับลมคมใน “ฉัน ยังมีฐานะทางการเมืองด้วยนะ

“หา!” นานารู้สึกประหลาดใจ แต่ฟิวก็ไม่อยากจะพูด

อะไรมาก “เธออย่าดูถูกอาชีพของฉันล่ะ”

นานาหลุดหัวเราะออกมา “ฉันจะกล้าไปดูถูกนายได้ไงล่ะ!”

จากนั้น ทั้งสองก็อยู่ที่โซนอาหารบุฟเฟต์ นานาหิว แล้วก็เลยเริ่มเลือกตักอาหารที่เธอชอบมาทาน

บริเวณหน้าทางเข้าด้านล่าง รถเก๋งเบนท์ลี่ย์สีดำ หยุดจอดลง บอดี้การ์ดทั้งสองคนลงมาจากรถแล้วไปห้าม รปภ. ที่กำลังจะเข้ามาช่วยเปิดประตูให้ แล้วรปภ. ก็ก้าว ถอยกลับไป

ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเขาจะรู้เลยว่าคนที่มานั้นไม่ใช่แขก ระดับธรรมดา แต่เป็นคนใหญ่คนโตนั่นเอง

จากนั้นก็มีชายหนุ่มก้าวลงมาจากรถ เขาสวมใส่ชุด สูทสีทึบ รูปร่างของเขาดูสูงสง่างามมาก ภายใต้แสงไฟที่ สาดส่องมา เขาดูดีราวกับรูปปั้นที่ถูกจิตรกรแกะสลักอย่าง ประณีต ร่างกายของเขามีราศีจับไปทั่วทั้งตัว เว้นเพียงแต่ ดวงตาคู่นั้นของเขาที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นแผ่ออกมา จนทำให้คนรอบข้างไม่กล้าเข้าไปใกล้

รปภ. เมื่อเห็นก็รู้เลยว่าเขาคือคุณทิวคุณชายใหญ่ ของตระกูลพาทิศนั่นเอง

ไม่แปลกเลยที่ห้ามไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้ตัว
“สวัสดีครับคุณชายทิว” รปภ. ทักทายเขาอย่างมี

มารยาท

ทิวพยักหน้าช้า ๆ อย่างสง่างามและมีมารยาท แต่ว่า ดวงตาคู่นั้นที่ดูเหมือนว่าไร้ความรู้สึกของเขากลับทำให้ คนที่ได้มองก็เกิดความเคารพนับถือเขา เขาเดินเข้าไปใน ห้องโถงใหญ่ด้วยสายตาเรียบนิ่งโดยมีบอดี้การ์ดทั้งสอง คอยคุ้มครองความปลอยภัยอยู่

ชั้นสิบ

ฐานะของทิวแม้แต่ รปภ. ที่กำลังตรวจสอบความ ปลอดภัยอย่างเข้มงวดก็ต้องยอมปล่อยเขาไปโดยที่ไม่ ได้แตะต้องอะไร จะมีใครไม่รู้จักเขาอีกล่ะ? แต่ว่าที่ทิวมา ร่วมงานในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะว่ามาทักทายและพูดเขากับ แขกท่านอื่น ๆ เขามีเป้าหมายอย่างชัดเจน เขามาเพราะ แขกท่านหนึ่ง นั่นก็คือคุณโอดินสันที่เขาอยากจะเจอมา โดยตลอดแต่ไม่มีโอกาสได้เจอเลยสักครั้ง เพราะว่าทิวมี โครงการหนึ่งที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติอยู่ที่ประเทศยูเครน และคุณโอดินสันก็คือคนที่ใช้พื้นที่ตรงนั้นอยู่ เขาไปเที่ยว รอบโลกเพิ่งจะกลับมา ยังไม่มีแผนการเดินทางที่แน่นอน และคืนนี้เขาก็ได้หาโอกาสที่จะได้เจอกับเขาสักที

“คุณทิว มาแล้วเหรอครับ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ” เมื่อแขกในงานเห็นว่าเขามาต่างก็เอ่ยทักทายเขา ด้วยความเคารพนับถือ แค่ได้ปรากฏตัวตรงหน้าทำทีไป ทักทายเขา ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว

ขณะนั้นเอง ในตอนที่ทิวกำลังมองหาคุณโอดินสัน อยู่นั้น ก็มีเสียงหนึ่งเรียกเขาเอาไว้ “ทิว คุณก็มาด้วยเหรอ คะ”

ทิวหันกลับไปมองเห็นว่านาราก็อยู่ที่นี่ด้วย งานเลี้ยง รวมตัวนักการเมืองและนักธุรกิจระดับสูงแบบนี้ ก็คงขาด ตระกูลสีธะของพวกเธอไปไม่ได้สินะ

“คุณลุง” ทิวเอ่ยปากพูดทักทายออกมาอย่างเรียบ ๆ

“ทิว หลังจากงานหมั้นในตอนนั้น พวกเราก็ไม่ได้เจอ กันอีกเลยนะ ฉันอยากหาโอกาสไปคุยกับนายเรื่องงาน แต่งงานของนายและนาราตั้งนานแล้ว” วัฒพูดออกมา อย่างตั้งใจ

ทิวขมวดคิ้ว แววตาของเขาส่งประกายความเย็นชา ออกมา “ตอนนี้ผมไม่มีเวลาครับ ขอคุยด้วยวันหลังได้

ไหมครับ”

วัฒรีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “โอเค นายไปทำธุระก่อนเถอะ”

วัฒมองดูแผ่นหลังที่สง่าของทิวถูกเชิญขึ้นไปยังชั้น สอง เขาก็กำหมัดแน่นอย่างไม่ตั้งใจ เขาไม่มีทางปล่อย ลูกเขยอย่างทิวให้หลุดมือไปได้หรอก ต่อไปในอนาคตถ้า ตระกูลสีธะอยากจะยืนหยัดต่อไปอย่างยาวนานนั้น ก็ต้อง พึ่งพาคนที่มีความสามารถทางด้านธุรกิจแบบนี้อย่างทิว

แล้วที่สำคัญ บริษัทที่แข็งแกร่งอย่างบริษัทพาทิศนั้น ก็เป็นหลักฐานที่มั่นคงให้พึ่งพิงได้ วัฒอยากจะกลายเป็น บุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการธุรกิจ แล้วถ้าเขาอยาก ทำความฝันนี้ให้เป็นจริงได้นั้น เขาจำเป็นต้องพึ่งพาให้ทิว ช่วยสนับสนุนและดันเขาขึ้นไป

วันนี้ที่ชั้นสองก็มีงานเลี้ยงเล็ก ๆ อยู่ แต่ถ้าฐานะไม่ ใหญ่มากพอก็ไม่สามารถเข้าไปได้ คนที่เข้าไปได้นั้นมี ประมาณไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ

นานาและฟิวเดินออกมาจากโซนอาหารบุฟเฟต์ ทั้ง สองคนอิ่มมากแล้ว และทันใดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งเรียกฟิว เอาไว้

“ฟิว ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย” ผู้ชายที่ดูน่าเกรงขาม อายุราว ๆ สี่สิบกว่า ๆ เรียกเขาเอาไว้
ฟิวอึ้งไปเล็กน้อยแล้วหันไปพูดกับนานาว่า “เธอ ออกไปรอฉันข้างนอกก่อน เดี๋ยวฉันไปหาเธอเอง”

นานาพยักหน้าอย่างรู้จังหวะ เธอก้าวเดินเข้าไปใน ห้องโถง ในใจคิดว่าผู้ชายคนนั้นน่าจะเป็นญาติของฟิว สินะ! ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เรียกเขาอย่างสนิทแบบนั้นหรอก

นานารู้สึกเบื่อ ๆ เลยเดินออกมาก่อน ในตอนที่มี พนักงานคนหนึ่งโน้มตัวลงยื่นถาดเครื่องดื่มให้เธอ เธอ ก็หยิบแชมเปญมาแก้วหนึ่ง แล้วกำไว้ในมืออย่างยาก ลำบาก อย่างไรแล้วเธอก็ไม่คุ้นชินกับงานแบบนี้เลย

ถึงแม้ว่าภายนอกเธอจะแต่งตัวอย่างสวยหรู แต่ว่าใน ใจของเธอกลับปรับตัวไม่ได้เลย

เมื่อนานาเดินมาตรงมุมหนึ่งของห้องโถง เธอถึงได้ มองเห็นว่ามีแขกคุยกันอยู่ที่บริเวณข้าง ๆ เสาชั้นสอง เธอ

ได้แต่เงยหน้าขึ้นไปมอง

ทันใดนั้นเอง เธอมองเห็นทิวและผู้ชายชาวต่างชาติ คนหนึ่งกำลังคุยกันอยู่ ร่างกายของชาวตะวันออกของเขา ดูดีกว่าร่างกายของชาวตะวันตกเสียอีก

นานาอึ้งจนนิ่งไปพักหนึ่งจากนั้นจิตใต้สำนึกของเธอก็สั่งให้เธอไปหลบอยู่ด้านหลังดันเสา

แต่ทิวที่อยู่มุมสูงสามารถมองลงมาเห็นบรรยากาศใน ห้องโถงชั้นล่างได้อย่างชัดเจน เขาเห็นนานาตั้งแต่ตอนที่ เธอหยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาเขย่าอย่างมั่ว ๆ แล้ว

ชุดกระโปรงสีชมพูนัดที่เธอสวมใส่อยู่ ภายใต้แสงไฟ ที่สาดส่องลงมานั้น ช่วยขับให้ผิวพรรณของเธอดูขาวผ่อง เป็นประกายระยิบระยับ ใบหน้าที่อ่อนวัยและบริสุทธิ์ของ เธอทำให้เขายากที่จะผละสายตาออกไปจากเธอได้

เขาก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะมาเจอเธอในสถานที่ แบบนี้ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? หรือ ว่าเธอจ้องจามาจับผู้ชายคนไหนอีก?

ทิวส่งเสียงทักทายแขกข้าง ๆ อย่างเคร่งขรึม เขา ก้าวลงบันไดมาอย่างสง่างาม นานาหลบเขาอยู่ที่หลังเสา เธอคิดในใจว่า ทิวยังไม่น่าจะเห็นเธอหรอก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ