ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 157 ผู้ชายเอาแต่ใจ



บทที่ 157 ผู้ชายเอาแต่ใจ

พอนานาป้อนเขาเสร็จแล้ว เธอก็รีบกลับไปนั่งที่ของ ตัวเองทันที ในสมองเธอนั้นว่างเปล่า พระเจ้า! เธอกล้า ทำท่าทางรักใคร่กับเขาแบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ย

แล้วดูชายตรงหน้าสิ เขาเคี้ยวอาหารอย่างสง่างาม สีหน้าที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ สายตาก็จ้องมองเธอ และยังเผยให้เห็นรอยยิ้มที่แสนจะสดใสอีกด้วย

ใบหน้าเล็กไปของนานาเริ่มแดงขึ้นมา เธอถือถ้วยชา ขึ้นมา ก้มหน้าพร้อมกับดื่มชาไปด้วย

ไม่ช้าอาหารก็ถูกเสิร์ฟมาเพิ่ม ทิวหั่นเนื้อที่อยู่บนจาน ท่าทางที่สง่างามอย่างกับคุณชาย นานาแอบมองเขาไป หลายรอบและก็อยากทำท่าทางให้สง่างามบ้าง พอทาน หมด นานากินจนอิ่มมาก เธอมีอาการเวียนหัวอย่างหนัก ซึ่งเป็นน่าจะมาจากไวน์ที่ดื่มไป ใบหน้าที่ขาวใสเริ่มเป็นสี แดงขึ้นมาเหมือนกับหญิงสาวที่ขี้อาย ทิวพาเธอลงจากตึก ยืนอยู่หน้าลิฟต์และในลิฟต์ก็มีแขกกลุ่มหนึ่งเดินออกมา

นานายังไม่ทันรู้สึกตัวก็มีมือหนึ่งมาจับเอวเธอไว้ ลาก เธอออกมาข้างๆเขา ให้มีที่เดินออกมา

นานาก็เวียนหัวอยู่แล้ว พอเขาลากเธอไปแล้ว เธอก็ ทรงตัวไม่อยู่และไปอยู่ในอ้อมกอดเขาทันที ทิวพาเธอเข้า มาในลิฟต์ นานาผลักเขาออกไปอย่างอารมณ์เสีย
ทิวพูดกับเธอว่า “เดี๋ยวเราไปเดินเที่ยวซื้อของกัน

“ซื้อของอะไร?”นานาถามไปอย่างสงสัย

“ฤดูร้อนแล้ว ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของฤดูร้อนให้ เด็กๆได้แล้ว”

นานาก็คิดได้ นี่ก็จริงอยู่ ลูกๆเหมือนจะสูงขึ้นเหมือน กัน ตอนนี้ในตู้เสื้อผ้าถึงแม้ว่าจะมีเสื้อผ้าเยอะมาก แต่มันก็ เป็นเสื้อแขนยาวหมดเลย เด็กๆต้องการเพิ่มเสื้อผ้าสำหรับ ช่วงฤดูร้อนแล้ว เมื่อเข้าไปนั่งในรถของเขาแล้ว เขามุ่ง หน้าไปยังห้างสรรพสินค้านานาชาติขนาดใหญ่ในบริเวณ ใกล้เคียง พอจอดรถในลานจอดรถแล้ว นานาก็ลงจาก รถ เธอใส่แต่รองเท้าส้นแบนตลอด พอเธอยืนอยู่ตรงหน้า เขาแล้ว เธอสูงถึงแค่ไหล่ของเขา พอเดินไปกับทิวแล้ว ดู เหมือนส่วนสูงที่ถูกบดขยี้ลงมา

ทําอะไรไม่ได้ก็ต้องทนไป พอถึงหน้าลิฟต์ก็มีแขก กลุ่มหนึ่งอัดกันอยู่ข้างใน นานารีบเดินเข้าไปและด้าน หลังของเธอก็มีชายวัยทองยืนอยู่ สายตาของชายวัยทอง มองเธอไปอย่างพิศวาส ทิวเห็นแล้วรีบเอาแขนไปจับเอว เธอไว้ ให้นานาอยู่ในอ้อมกอดของเขา

หลังของเธอแนบชิดอยู่กับหน้าอกที่แข็งแกร่งของ เขา ที่บังเธอจากสายตาของชายพวกนั้น
เวลาเดียวกัน สายตาของเขาก็มองตาขวางไปที่ชาย วัยทองพวกนั้นอย่างโหดๆ ชายพวกนั้นรีบหันหน้าหนี ทันที รู้สึกได้ทันทีว่าชายที่อยู่ตรงหน้านี้จะต่อยเขาได้ทุก เมื่อ นานาอายมากและพอขึ้นไปได้หนึ่งชั้นก็มีผู้หญิงเข้า มาหนึ่งกลุ่ม พวกเธอก็เบียดเข้ามา นานารีบเดินไปข้างๆ เพื่อเว้นที่ให้พวกเธอ หลังของเธอก็แนบชิดกับเขาแบบ ติดกันทั้งร่างกาย เพราะว่าเสื้อผ้าที่ใส่น้อย

เธอก็เลยรู้สึกถึงด้านล่างของผู้ชาย…

นานาอยากเป็นลมมาก ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงทำแบ บนี้เนี่ย? เธอรู้สึกถึงด้านล่างของเขาที่เริ่มร้อนระอุขึ้นทุกที

ในที่สุดก็มาถึงชั้นที่หกคือชั้นเสื้อผ้า นานากับทิวเดิน ออกจากลิฟต์ เธอหันหน้าไปมองตาขวางใส่เขาและเขาก็ รู้อยู่แล้วว่าสายตาที่เธอมองมาเธอหมายจะพูดอะไร เขา พูดอย่างเรียบง่ายว่า “มีอะไรน่าแปลกเหรอ? ฉันก็เป็น ผู้ชายเหมือนกันนะ

นานาถูกกั้นไว้ไม่ให้ได้พูด ก็เลยต้องละสายตาไป เดินไปถึงร้านแรกที่เป็นแบรนด์แฟชั่นเด็ก

เสื้อผ้าของที่นี่เนื้อผ้าดีและยังเป็นแฟชั่นมาก นานา รีบไปเลือกซื้อเสื้อผ้าให้ลูกชายและลูกสาวทันที มีผู้ชาย คนนี้อยู่ทั้งคน เธอก็เลยไม่ต้องกลัวว่าราคาจะแพงเกินไปแล้ว เธอเลือกเสื้อผ้าแบบไม่ได้ดูราคาเลย เลือกแต่เสื้อผ้า ซึ่งเป็นความรู้สึกที่สนุกมาก

นานาเลือกเสื้อผ้าให้ลูกชายลูกสาวมาห้าชุด พอ ถึงเวลาจ่ายเงิน นานาก็มองไปทางเขาทันที เขายื่นบัตร เครดิตสีดำไป พนักงานก็ตกใจมากและมองเขาทันที บัตร เครดิตสีดำแสดงถึงว่าชายคนนี้รวยขนาดไหน

พอซื้อเสร็จร้านหนึ่ง ทิวถือถุงไว้เดินไปที่ร้านแบรนด์ ร้านที่สอง นานาหันไปถามเขาว่า “ยังจะซื้ออยู่ไหม?”

“แน่นอน เธอเข้าไปเลือกเลย

ยังไงก็ซื้อให้เด็กๆอยู่แล้ว นานาก็เลยไม่เกรงใจ เธอ เดินเข้าไปก็เลือกแบบที่ลูกชายลูกสาวใส่ได้ ทิวก็จ่ายเงิน เหมือนเดิม นานารู้สึกว่าพอแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินของ เขา เธอก็ไม่อยากจะใช้อย่างสิ้นเปลืองแบบนี้ และถ้ายัง ไม่พออีกก็ค่อยเพิ่มทีหลังก็ได้

ด้านนี้เป็นเสื้อผ้าเด็ก ถ้าเดินไปข้างหน้าอีกก็จะเป็น ร้านเสื้อผ้าผู้หญิง นานาคิดว่าหลังจากซื้อเสื้อผ้าของลูกๆ เสร็จก็จะกลับเลย

แต่เขาก็เดินหน้าต่อไป นานารีบเดินตามเขาไปและ บอกว่า ไม่ต้องซื้อแล้ว พอแล้วล่ะ”
“ซื้อของเธอด้วยสิ ทิวยักคิ้วขึ้นขณะพูด

นานาตกใจไปแปบนึง แต่ในใจก็ไม่อยากติดค้างเขา แล้ว ก็เลยตอบไปว่า “ฉันมีเสื้อผ้าใส่ ไม่ต้องซื้อก็ได้”

ครั้งก่อนฟิวก็ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ให้แล้วตั้งห้าชุด นั่นก็ พอเธอใส่ตลอดทั้งฤดูร้อนแล้วล่ะ

ทิวรู้อยู่แล้วว่าความหมายที่เธอบอกว่าพอแล้วคือ อะไร ก็คือฟิวซื้อเสื้อผ้าให้เธอแล้ว สีหน้าเขาเริ่มไม่พอใจ ขึ้นมาและพูดว่า “เสื้อผ้าของเธอมันไม่เห็นจะสวยเลย ซื้อ ใหม่เถอะนะ”

นานามองตาโตไปที่เขา เดินไปข้างหน้าเขาอย่างไม่ พอใจ เธอยืดอกมองไปที่เขาและตอบโต้ไปว่าไม่สวย ตรงไหน?”

และเวลานี้ สายตาของทิวก็กวาดมองไปแต่ร้าน เสื้อผ้าด้านหลังและพูดว่า “เข้าไปเลือกสิบชุดเลย เลือก ไม่เสร็จก็ไม่ต้องออกมา

นานามองไปที่ร้านเสื้อผ้าด้านหลัง มันเป็นแบรนด์ แชนแนล เธอตะโกนไปว่า “ฉันไม่มีเงินซื้อมันหรอกนะ”

“ฉันจะซื้อให้เธอเอง เธอเลือกก็พอแล้ว” ทิวพูด
“ไม่เอา”นานาสายหัวปฏิเสธ เธอไม่ต้องการอะไร

จากเขา

เธอรู้ว่าเอาของๆคนอื่นมันไม่ดี อีกอย่าง นั่นก็ไม่ใช่ เงินเธอด้วย

“งั้นฉันก็เลือกให้เองแล้วกัน” พูดจบ ทิวก็เดินเข้าไป ในร้านอย่างสง่างาม

นี่นานารีบตามเข้าไป พนักงานรีบยิ้ม ต้อนรับ ยินดีต้อนรับค่ะ

ทิวก็ไม่อยากเลือก เขามองไปที่พนักงานหญิงและ พูดว่า”เลือกเสื้อผ้าอะไรก็ได้มาสิบชุดให้เธอหน่อยสิ”

พอนานาได้ฟังแล้ว ก็คิดว่าเธอคงขัดเขาไม่ได้แล้ว ล่ะ งั้นเธอก็ต้องเลือกเองอยู่แล้ว! เธอจึงพูดไปว่า “ฉัน เลือกเอง!”

พนักงานข้างๆยิ้มและเดินตามเธอไป เพื่อที่จะช่วย เธอถือเสื้อผ้า

เสื้อผ้าแฟชั่นของผู้หญิงที่นี่มีความเป็นสไตล์ และ แต่ละชิ้นเป็นงานของนักออกแบบชั้นนำ ในเวลาเดียวกัน ราคายังแพงมากอีกด้วย นานาถูกใจเสื้อตัวหนึ่ง เธอหยิบขึ้นมาดู และก็สูดหายใจเข้าลึกๆ สองพันกว่า

แพงกว่าทองซะอีก

นานากัดฟันและคิด ถ้าเขาจะซื้อให้ล่ะก็งั้นเธอก็ไม่ คิดอะไรแล้ว เธอรีบหยิบเสื้อตัวนั้นและยื่นให้พนักงานไป

ต่อมา นานาก็เลือกมาแล้วสิบชุด พนักงานถือมาและ ยกไปไว้ที่โต๊ะติดเงิน และชายที่นั่งรออยู่ที่โซฟาก็ลุกขึ้น มา

“สวัสดีค่ะ ทั้งหมดนี้ก็หนึ่งแสนแปดหมื่นเก้าพันหก ร้อยบาทค่ะ พนักงานบอกจำนวนตัวเลขออกมา ทำไม เอาแค่เสื้อผ้าล่ะ ไม่เอารองเท้ากับกระเป๋าเหรอ? ไปเลือก อีกสิ ทิวสั่งให้นานาไปเลือกอีกที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ