ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 155 สิ่งที่คาดไม่ถึง



บทที่ 155 สิ่งที่คาดไม่ถึง

ตอนกลางวันเวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ นานากําลังดู การแสดงครั้งใหญ่อยู่ที่โรงภาพยนตร์ของฟิว การแสดงที่ น่าตื่นตาตื่นใจถูกถ่ายทอดออกมาในโรงภาพยนตร์แห่งนี้

ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นราวกับกำลังอยู่ในโรง ภาพยนตร์ของต่างประเทศยังไงยังงั้นเลยล่ะ ตลอดระยะ เวลาในช่วงเที่ยงที่ผ่านมาเธอนั่นมีแต่ความสุขเป็นอย่าง มาก

ในขณะที่กำลังมีความสุขกับการแสดงครั้งยิ่งใหญ่ ตรงหน้าอยู่นั้น เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงแล้ว นานาจึงรีบไปทำอาหารกลางวันให้ฟิวทาน ถึงแม้ว่าตอน นี้เธอจะไม่ใช่พนักงานของเขาแล้ว แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะ เตรียมอาหารสามมื้อให้เขา

เหตุผลก็เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาเขาได้ช่วยชีวิตของ เธอไว้ เธอรู้สึกประทับใจและซาบซึ้งเป็นอย่างมาก

ในตอนนี้ฟิวกำลังทำงานอยู่ที่ชั้นบนสุดของตึก เพราะในวันพรุ่งนี้ภาพยนตร์ของเขากำลังจะเริ่มฉายเป็น วันแรก ดังนั้นช่วงนี้งานของเขาจึงทั้งยุ่งและเยอะมากๆ

เมื่อนานาเดินลงมาถึงชั้นล่างของตึก เสียงโทรศัพท์ ของเธอก็ดังขึ้นมา เธอมีอาการแปลกใจเล็กน้อยเพราะใน เวลานี้จะมีใครกันที่โทรมาหาเธอ?
เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์สายเรียกเข้าเธอถึง กับยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่ ทำไมทิวถึงโทรมาหาเธอ

ตอนนี้เขาต้องทำงานอยู่ที่บริษัทไม่ใช่เหรอ?

นานากดรับสายโทรเข้าจากทิวด้วยความรู้สึก ประหม่าพอสมควร “ฮัลโหล

“เธออยู่ไหน?”

“ฉัน……ฉันอยู่บ้าน!” นานาพูดโกหกออกไปทันที เพราะผู้ชายคนนี้ราวกับเกิดมาเพื่อเป็นศัตรูกับฟิว ถ้าขึ้น เธอเกิดบอกไปว่าเธออยู่ที่บ้านของฟิว เขาจะต้องไม่พอใจ มากแน่ๆ

“อยู่บ้าน? เธออยู่ส่วนไหนของบ้าน?” เสียงเยือก เย็นของทิวถูกส่งต่อมาผ่านสายโทรศัพท์ ในน้ำเสียงเย็น ยะเยือกนั้นแฝงไปด้วยความโกรธที่เธอเองสัมผัสได้

นานาเสียวสันหลังวาบทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงเย็นชา ของทิว แต่เธอจะทำอะไรได้ล่ะนอกจากพูดโกหกเขาต่อ ไป “ฉันอ่านหนังสืออยู่ในห้อง นายมีอะไรหรือเปล่า?”

และในตอนนั้นเองเธอได้ยินเสียงก้าวเท้าของเขา เธอได้แต่นิ่งฟัง เสียงต่อมาที่เธอได้ยินคือเสียงที่เขากำลังเคาะประตู “อยู่ที่ห้องยังงั้นเหรอ? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ หน้าห้องของเธอ เธออยู่ไหนล่ะ อย่าบอกฉันนะว่าเธอมี ปีกเลยบินหนีไปแล้ว

ที่แท้เขาก็อยู่ที่วิลล่านั่นเอง!

นานารู้สึกราวกับสมองจะระเบิด ใบหน้าเล็กๆของเธอ เริ่มมีสีแดงระเรื่อด้วยความพะวงใจ ความตื่นตระหนกและ ความอึดอัดในคำโกหกของตนเองกำลังทำให้เธอราวกับ คนนําท่วมปาก เธอค่อยๆตั้งสติและตอบเขากลับไปด้วย เสียงที่นุ่มนวลกว่าเดิมเล็กน้อย “ฉันอยู่ข้างนอก แล้ว ทำไมนายถึงไปอยู่ที่บ้านได้ล่ะ! นายไม่ได้อยู่ที่บริษัทเห รอ?”

“เธออยู่ที่บ้านของฟิวใช่ไหม?” น้ำเสียงเย็นของ ผู้ชายคนนี้ราวกับกำลังคาดคั้นเอาคำตอบที่แท้จริงจาก เธอ

นานาจึงไม่กล้าที่จะพูดโกหกเขาต่อไปอีกแล้ว เธอ ตอบกลับเขาอย่างวางฟอร์ม “ก็เมื่อวานนายต่อยฟิวโดยที่ ไม่มีเหตุผล จนมาถึงตอนนี้หน้าของเขาก็ยังบวมอยู่เลย แล้วฉันจะมาดูแลเขาที่บ้านไม่ได้เลยหรือยังไง?”

“ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าฉันไม่ชอบเวลาที่ เธอไปเจอมัน หรือว่าเธอคิดว่าสิ่งที่ฉันพูดมันเป็นเพียงแค่ลมที่พัดผ่านเท่านั้น?” เสียงของชายที่อยู่ปลายสายยังคง ความโกรธและเย็นชา

“ฉันจะไปเจอใคร จะไปเป็นเพื่อนกับใคร มันก็เป็น เรื่องส่วนตัวของฉันไม่ใช่หรอ คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับฉัน” นานาพูดด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งผยองราวกับสิ่งที่เขาห้าม ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องทำ เพราะเธอคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง ที่เขาจะเข้ามาก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเธอเลย

“อีกห้านาทีฉันจะไปถึงที่นั่น เธอเลือกแล้วกันว่าจะ ออกมาเองหรือจะให้ฉันเข้าไปพาเธอออกมา

นานาอยากจะบ้าตายเมื่อได้ยินคำสั่งของเขา เธอได้ แต่ทำใจให้เย็นลงและพยายามพูดดีๆกับผู้ชายที่อยู่ปลาย สาย “นาย…… นายน่ะอย่าเอาแต่ใจตัวเองและเที่ยว ทำตัวไม่มีเหตุผลแบบนี้จะได้ไหม?”

“ไม่ได้!” เสียงเคร่งครึมของผู้ชายปลายสายที่ เหมือนกับกำลังโกรธมากวางสายไปทันทีเมื่อพูดจบ

นานาเองก็มีอารมณ์โกรธไม่น้อยเลย เธอได้แต่กัดริม ฝีปากและก๋าโทรศัพท์มือถือในมืออย่างแน่น ทันใดนั้นก็มี น้ำเสียงเย็นชาจากผู้ชายที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของเธอขึ้น มาขัดความคิดของเธอไว้ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ? เขาจะมาที่ นี่ใช่ไหม?”
นานาพยักหน้าตอบรัวๆ เมื่อเห็นว่าพวกำลังยืนเอามือ วางไว้กับราวบันไดแบบนั้น เธอจึงคิดว่าเขาคงได้ยินคำ พูดที่เธอเพิ่งจะพูดออกไปหมดแล้ว

* ใช่ ตอนนี้เขากำลังมาที่บ้านของคุณ นานา ครุ่นคิดพลางพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด “ฟิว คุณ ต้องออกไปทานข้าวนอกบ้านแล้วล่ะ เพราะฉันอาจจะไม่ ได้ทำอาหารให้คุณทานแล้ว

“คุณไม่ต้องกลัวเขาหรอก” ฟิวก้าวเท้าเข้ามายืนอยู่ ตรงหน้าเธอ เขาพูดพลางสบตากับเธออย่างให้กำลังใจ “ถ้าคุณยินยอม ผมจะช่วยคุณต่อต้านเขาเอง

นานากระพริบตาถี่ๆพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา “ฉันไม่ เคยคิดที่จะต่อต้านเขาเลย เพราะยังไงเขาก็ยังเป็นพ่อ ของลูกฉัน”

“คุณชอบเขาใช่ไหม?” ฟิวจ้องมองมายังเธอด้วย สายตาคมลึก

“ฉันไม่ได้ชอบเขา” นานารีบตอบกลับไปอย่าง รวดเร็ว

ฟิวยกยิ้มขึ้นที่มุมปากราวกับเขาไม่เชื่อในคำพูดของ เธอ “จริงเหรอ?”
“นี่คุณกำลังสงสัยฉันเหรอ?” นานาพูดพลางทำ สีหน้าเศร้า เธอแสดงออกหรอว่าเธอชอบทิว?

ฟิวยิ้มพลางพูดออกมา “ผมเชื่อคุณอยู่แล้ว แต่ผมแค่ คิดว่าเมื่อคนเรารู้สึกไม่ชัดเจนกับความรู้สึกของตนเอง มัน เป็นเรื่องง่ายที่จะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้”

แม้ว่านานาจะยืนกรานในคำตอบของตนเองอย่าง หนักแน่น แต่คำพูดและการกระทำของเธอกลับตรงกัน ข้ามอย่างสิ้นเชิง

ในขณะเดียวกัน บริเวณหน้าประตูบ้านก็มีเสียงรถคัน หนึ่งมาจอดเทียบ นานาได้แต่มองไปยังฟิว “ฉันไปก่อน นะ ถ้าฉันมีเวลาจะมาหาคุณอีก

“นานา แม้ว่าคุณจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับเขา แต่จำไว้ เลยนะ คุณห้ามชอบเขาเด็ดขาด”

ฟิวกำแขนของเธอแน่นและสั่งเธอด้วยน้ำเสียงเข้ม

นานาได้แต่สงสายตาประหลาดใจมองไปยังฟิว ผู้ชายสองคนนี้มันยังไงกันแน่นะ?

พวกเขาคงเป็นศัตรูกันจริงๆ!
นานารู้สึกตลกขึ้นมาเมื่อนึกถึงท่าทีของทั้งฟิวและทิว เมื่อเจอกัน “โอเค งั้นฉันไปก่อนนะ คุณทานข้าวให้ตรง เวลาด้วยล่ะ”

เมื่อเดินมายังรถ เธอเห็นมันเหมือนกับพายุฝนกำลัง ก่อมรสุมอยู่ในตอนนี้

นานารู้สึกใจเต้นโครมครามอย่างทำตัวไม่ถูก ตั้งแต่ เล็กจนโต เธอไม่เคยกลัวใครขนาดนี้มาก่อน เป็นเพราะ อารมณ์ในตอนนี้ของผู้ชายตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกกลัว เวลาที่ได้เผชิญหน้ากับเขา มันเป็นเรื่องยากมากที่จะให้ เธอทำตัวเป็นปกติที่เหมือนกับคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไร เลย

“คุณ……กลับมาทำอะไรเหรอ?” นานาตัดสินใจ รวบรวมความกล้าเอ่ยถามออกไป หรืออาจจะเป็นเพราะ เขาลืมของ?

“ขึ้นรถ” น้ำเสียงออกคำสั่งเยือกเย็นทำให้เธอ ขนลุกชันด้วยความกลัว

นานาพยายามต่อต้านคำสั่งของเขาพร้อมกับเรียก ร้องคำขอของเธอไปยังชายที่นั่งอยู่ในรถ

“ฉันจะกลับบ้าน
เมื่อเห็นคนตรงหน้าไม่มีท่าทีที่จะยินยอมในคำขอ ของเธอ เธอจึงตัดสินใจเดินมุ่งหน้าไปยังทางที่จะกลับไป ยังวิลล่า แต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เธอก็ได้ยินเสียงปิด ประตูรถคันหรูและประตูทางฝั่งคนขับก็ถูกเปิดออกโดยทิว

นานาหันกลับไปมองด้วยความตกใจ พอเห็นว่าผู้ชาย คนนั้นกำลังเดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ เธอก็ได้แต่มองและ กลืนน้ำลายลงไปในคออึกใหญ่ด้วยความกลัวในตัวเขา

“นาย……นายจะทำอะไร?

ชายคนนั้นยกคิ้วแล้วจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เฉียบ คม น้ำเสียงดุดันเย็นเฉียบเอ่ยถามมายังเธอด้วยใบหน้า เรียบสนิท

“เธออยากจะให้ฉันไปพาเธอมาขึ้นรถ หรือเธอจะขึ้น ไปนั่งบนรถเอง?” ในตอนนี้อารมณ์ความโกรธของทิวขึ้น สูงมากกว่าทุกวัน ก็เพราะผู้หญิงตรงหน้าของเขา คนนี้ที่ แอบมาบ้านผู้ชายคนอื่น หนำซ้ำยังแอบมาดูแลผู้ชายคน อื่นอีก

เมื่อวานเขาก็เพิ่งชกหน้ามันไป นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะ เป็นห่วงมันถึงขนาดนี้ ถึงขั้นแอบมาดูแลมันเลยหรอ?

“ฉัน..……..”
“หรือว่า……เธออยากจะให้จูบเธอตรงนี้?” ผู้ชาย ตรงหน้าเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เธอ

นานามีอาการกลัวมากจนใบหน้าของเธอซีดลง ไม่กี่ วินาทีต่อมาเธอจึงตัดสินใจรีบวิ่งไปยังบริเวณที่นั่งข้างคน ขับด้านหน้ารถของเขา เธอเปิดประตูออก แล้วจึงเข้าไป นั่งในรถด้วยความจำยอม

พอเห็นได้เห็นผู้หญิงคนนี้มีท่าทีที่เชื่อฟังเขาขึ้นมา บ้าง ทิวก็ไม่ได้ดีใจมากนัก เพราะถ้าเขาไม่ทำท่าทางจะ คุกคามเธอ เธอก็คงไม่ยอมที่จะเชื่อฟังเขา

เมื่อทั้งเขาและเธอกำลังอยู่ในรถที่เงียบสงัด นานาก็ เอ่ยถามออกมา “นายจะพาฉันไปไหน?”

“กินอาหารกลางวัน เมื่อนานาได้ยินคำตอบของ เขาเธอก็มองไปยังเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายคนนี้ ลงทุนกลับมาที่บ้าน ข่มขู่และคุกคามเธอให้เธอขึ้นรถมา บนรถ เพียงเพื่อที่จะไปทานอาหารกลางวันกับเธอเนี่ย นะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ