ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 170 ไปทำงานที่บริษัทของเขา



บทที่ 170 ไปทำงานที่บริษัทของเขา

ทวขมวดคิ้วพลางทําท่าครึ่งคิดอย่างหนัก “เธอลอง พูดมา ว่าจุดประสงค์ในการเข้ามาทำงานในบริษัทของ ฉันคืออะไร?”

“ฉันก็แค่อยากทำงานฆ่าเวลาสำหรับเวลาว่างที่น่า เบื่อ” นานาพูดตอบคำถามของทิวอย่างชัดเจน

แต่ผู้ชายตรงหน้าก็ยังไม่วายที่จะไม่ยอมเชื่อในคํ พูดของเธอ เขาใช้สายตาคมกริบจ้องเธอ ทิวไม่มีทางที่จะ เชื่อนานาแน่นอน เพราะว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีท่าทีที่อยากจะ มาทำงานกับเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

เมื่อเห็นว่าทิวยังคงจ้องเธอเขม็งราวกับจะคาดคั้นให้ เธอพูดความจริงออกมา เธอจึงต้องหาวิธีพูดใหม่ให้เขา จับผิดเธอไม่ได้ “โอเค! คือตอนนี้ฉันกำลังเขียนหนังสือ อยู่เล่มหนึ่ง ฉันต้องการประสบการณ์ในการทำงาน ฉัน ก็เลยอยากจะมาทดลองทำงานที่บริษัทของนายแค่นั้น เอง

ทิวถึงกับหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำตอบของ นานา เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่ได้ “เธอ เขียนหนังสืองั้นเหรอ?”

นานาสาวเท้าเข้าไปทุบตีทิวเพื่อให้เขาหยุดขำเธอ “อย่าหัวเราะนะ มันน่าตลกหรือไง ? ตอนที่ฉันอยู่ชั้นมัธยมฉันก็เขียนคอลัมส์ลงในนิตยสารของโรงเรียน ตอน ที่ฉันอยู่ชั้นมัธยมต้น ฉันมักจะส่งจดหมายไปยังนิตยสาร สําหรับเด็กอยู่เสมอ ดังนั้นก็ถือว่าฉันเป็นคนที่มีความ สามารถในด้านการเขียนหนังสืออยู่เหมือนกันแหล่ะ

ในที่สุดเสียงหัวเราะของทิวก็หยุดลง แต่มีเสียง หัวเราะที่สดชื่นดังขึ้นมาแทนที่ ผู้หญิงคนนี้จะน่ารักไปถึง ไหนกันนะ?

ด้วยความหมั่นไส้ที่นานามีต่อทิวทำให้เธอก้าวเท้า เข้าไปใกล้เขาและจัดการกระแทกเท้าลงบนเท้าของเขา อย่างเต็มแรง “ตกลงว่านายจะช่วยฉันไหม ! ฉันก็แค่ อยากไปลองทำงานที่บริษัทของนายดู ฉันไม่เอาเงินเดือน หรอก ตกลงไหม?

ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงชอบดูถูกคนอื่นขนาดนี้นะ น่ารัง เกียจจริงๆ

ทิวจึงหยุดหัวเราะลงและกัดริมฝีปากเซ็กซี่บางๆนั้น ด้วยท่าทางครุ่นคิด “โอเค ฉันจะให้เธอไปทำงานที่บริษัท ก็ได้ แต่ว่าเธอจะต้องเอาสิ่งที่เธอเขียนมาให้ฉันอ่านนะ

“ ไม่ได้!” นานารีบปฏิเสธทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอที่ ทิวยื่นมาให้เธอ เธอจะให้เขาอ่านสิ่งที่เธอเขียนได้ยังไง ล่ะ ในเมื่อเรื่องที่เธอเขียนบทเจ้าชายนั่นมันก็คือเขา ถ้าเขาได้อ่านเขาคงจะหัวเราะเยาะเธอแน่ๆ

ทิวไม่ได้กังวลอะไรอยู่แล้วถ้าเธอจะไม่ยอมให้เขา อ่านสิ่งที่เธอกำลังเขียน เขาจึงจัดการยื่นข้อเสนอข้อใหม่ ให้แก่เธอ “

“งั้นเอาอย่างนี้ดีกว่า ฉันมีข้อเสนอใหม่ให้เธอ

“นายพูดมาเถอะ!”

“ตั้งแต่วันที่ยี่สิบเจ็ดนี้เป็นต้นไป เธอจะต้องมายืน พูดตรงหน้าของฉันทุกวันว่าฉันรักนาย สามคำนี้

นานาถึงกลับหยุดชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอ ของเขา นี่มันข้อเสนอบ้าบออะไรกันเนี่ย?

“นายให้ฉันทำอะไรเนี่ย ? * นานาสบตาทิวด้วย ความงุนงง

“อืม! ถ้าข้อเสนอข้อนี้เธอทำมันไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ งั้นฉันก็คงให้เธอเข้ามาหาแรงบันดาลใจที่นี่ไม่ได้แล้ว ล่ะ”

“โอเค ฉันตกลง!” นานาตอบกลับไปเสียงดังทันที เมื่อเห็นเขามีท่าทีว่าจะเปลี่ยนใจ ข้อเสนอง่ายๆแค่นี้ทำไมเธอจะทำไม่ได้กันล่ะ

เมื่อทิวเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าตกลงรับข้อเสนอที่ ตนเองหยิบยื่นให้แล้ว เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่ง อก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำให้ผู้หญิงคนนี้หลงรักเขา ได้จริงๆ แต่อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกชาย เขากลัว ว่าลูกชายจะหัวเราะเยาะเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมที่จะเสีย ศักดิ์ศรีนี้อย่างเด็ดขาด

พอได้พูดคุยกันเรียบร้อย ทันใดนั้นประตูห้องบาน ใหญ่ก็ถูกเปิดเข้าโดยลูกๆของเขา ปรากฏร่างของเด็ก น้อยสองคนที่สวมชุดอย่างน่ารักเดินเข้ามา

ทิวมีสีหน้าตกใจทันทีเมื่อเห็นหน้าของลูกชายลูกสาว ทั้งสองคน เขากลัวว่าลูกๆจะเข้ามาทันได้ยินข้อเสนอ ระหว่างเขากับนานา มิเช่นนั้นเขาคงอับอายกว่าเดิมที่เป็น อยู่แน่ๆ

“แด๊ดดี้ มามี้ สวัสดีตอนเช้า

“สวัสดีตอนเช้าจ้ะ ต่อไปนี้มาจะไปส่งพวกหนูไป โรงเรียนทุกวันเลยดีไหม?”

“ดีมากๆเลย! มามี้ต่อไปนี้มาจะไปทำงานแล้วใช่

ไหม?”
“ใช่แล้ว มามี้จะไปฝึกงานที่บริษัทของแด๊ดดี้

ลมจ้องพ่อของเขาทันที พลางพูดว่า “แด๊ดดี้ต้อง ดูแลมามี้ให้ดีนะ อย่าปล่อยให้มามี้ถูกแกล้ง

ทิวยิ้มให้กับประโยคคำสั่งของลูกชายตัวน้อย “ได้สิ แด๊ดดี้จะดูแลมามี้อย่างดี”

นานาเงยหน้าขึ้นไปมองทิวทันที เธอมองเขาด้วย สีหน้าหมั่นไส้ เธอไม่ได้ต้องการการดูแลจากเขาซะ หน่อย!

เมื่อส่งลูกๆทั้งสองคนไปโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว นานาจึงนั่งลงในรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับของทิว ในใจก็รู้สึก ตื่นเต้นไปกับการเริ่มงานครั้งแรกในวันนี้ เธอมองไปยัง เขาและเอ่ยถาม “นายจัดการเรื่องของฉันแล้วเหรอ!”

“ถ้าหากเธออยากจะเข้าไปทำงานที่บริษัทของฉัน ฉันแนะนำให้เธอเปลี่ยนชื่อใหม่ “

“ทำไมล่ะ?”

“เพราะว่าตอนนั้นเธอออกข่าวดังกับฉันมากมาย ทุก คนต่างก็รู้ว่าเธอชื่อนานา ฉันไม่อยากให้ชื่อเสียงของฉัน ต้องเสียหาย”
“อ่อ! งั้นก็ทำอย่างที่นายบอก! ฉันต้องไปหาบัตร ประจำตัวปลอมก่อน!”

“ตอนเที่ยงฉันจะให้ผู้ช่วยของฉันเอามันมาให้เธอ ทิวตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบๆ ต่อไปนี้เขาก็จะสามารถแอบ มองเธอได้ง่ายขึ้น เธอก็จะไม่สามารถไปเที่ยวเตร่ที่ไหน ได้อีก วิธีนี้มันก็ไม่เลวเลยนะ

“งั้นฉันยังต้องเตรียมประวัติหรือเอกสารอะไรอีกหรือ

เปล่า”

“ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เธอเอง

“แล้วฉันจะต้องไปทำงานในแผนกไหนเหรอ?”

“ฝ่ายธุรการ

พอนานาได้ฟังเธอก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที ถ้าเธอ ได้ทำงานที่แผนกนี้ เธอก็จะสามารถเขียนนิยายเรื่องซิ นเดอเรลล่าในเมืองที่ทันสมัยกับเจ้าชายผู้แสนเย็นชาได้ อย่างง่ายดายแล้วหล่ะ

พอคิดได้ดังนั้นนานาหันหน้าไปทางเขา ดวงตากลม โตของเธอมองไปยังผู้ชายคนนั้นอย่างระมัดระวัง ถ้าเธอ มองข้ามนิสัยที่ไม่มีเหตุผลของเขาออกไปได้ ผู้ชายคนนี้ก็คงจะเป็นผู้ชายที่อยู่ในอุดมคติในด้านความรักที่สวยงาม ของผู้หญิงคนหนึ่งเลยล่ะ

และเขาก็คงจะเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดคนหนึ่ง!

เธอจ้องมองไปยังใบหน้าของเขา ทั้งตา คิ้วและจมูก ด้วยความภูมิใจ เธอเผลอยิ้มออกมา พลางมองไปยังรูป ร่างกำยำของเขาภายใต้เสื้อสูท จะว่าไปเขาก็เหมือนจะ เป็นเจ้าชายที่อยู่ในความฝันของเธอเหมือนกันนะ

เมื่อรถคันหรูจอดเทียบที่หน้าบริษัท ร่างสูงๆของทิว จัดการเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วลงไปอย่างรวดเร็ว เขามอง ไปยังร่างบางๆของผู้หญิงคนนั้นที่นั่งเหม่อลอยราวกับ ว่าเธอกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ดวงตา จ้องมองมาทางเขา อย่างเหม่อลอยนั้นทำให้เขาทำตัวไม่ถูก

“เธอมองอะไร?” ทิวปรับเสียงให้ทัมและเยือกเย็น นานารีบดึงสติของตัวเองกลับมาพลางส่งยิ้มแห้งๆ ไปยังเขา “ไม่มีอะไร

ทิวไม่เคยได้รับท่าทางรังเกียจจากผู้หญิงทุกคน ที่ผ่านมาในชีวิตของเขา ส่วนใหญ่ผู้หญิงพวกนั้นก็ จะชักชวนทางสายตาให้เขากอดเธอหรือทำอะไรเธอ มากกว่านั้น เขาได้เปิดตัวผู้หญิงที่ใกล้ชิดกับเขาตามโอกาสต่างๆ ในงานเลี้ยง ผู้หญิงพวกนั้นก็ล้วนอยากจะ ใกล้ชิดกับเขาทั้งนั้น

ซึ่งเขาไม่เข้าใจจริงๆว่าผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงไม่อยาก ใช้เวลาอยู่กับเขาเลย

ยิ่งพอได้เห็นเธอจ้องมองเขาขนาดนั้น แถมยัง มองเขาโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แสดงว่าผู้หญิงคนนี้ยังไม่ ตกหลุมรักเขาแน่ๆ

นานาพยายามสลัดความคิดที่เคยอยู่ในหัวออกไป แล้วกลับมาคิดเรื่องราวของตนเอง ซึ่งข้างๆนั้นยังมีร่าง ของทิวที่ยืนอยู่ด้วยอย่างหดหู

เมื่อมาถึงบริเวณที่จอดรถใต้ดินของบริษัท ทิวพา นานาเข้าไปยังลิฟต์ส่วนตัวสำหรับผู้บริหาร ลิฟต์ตัวนี้พา เธอและเขาไปจนถึงห้องทำงานของประธานบริษัท นานา เองเธอก็เคยเข้ามาที่นี่ เธอคิดว่าอาคารของที่นี่สูงมากๆ

นานาเดินตามทิวเข้าไปยังห้องทำงานของเขา ผู้ช่วย จูนก็เข้ามาจัดการรินชาให้เธอทันที

“ขอบคุณค่ะ” นานาพูดกับผู้ช่วยคนสวยของทิวด้วย ความเกรงใจ
ทิวหันไปสั่งกับผู้ช่วยจูนว่า “จัดการทำบัตรประจำตัว ปลอม และประวัติของเธอให้เรียบร้อย จากนั้นทำการส่ง เธอไปทำงานที่แผนกธุรการ

พอผู้ช่วยจูนได้ฟังสิ่งที่ทิวสั่งมานั้น เธอก็สงสัยทันที ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เธอก็แค่มีอาการตกใจนิดหน่อย ทำไมนานาถึงจะมาทำงานที่บริษัทนี้ได้ล่ะ?

“จะให้เธอทำงานในตำแหน่งไหนดี?”

“พนักงานธรรมดาก็พอ จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก

“โอเคค่ะ! ฉันจะจัดการให้เรียบร้อย” ผู้ช่วยจนส่งยิ้ม กว้างแล้วจึงเดินออกไป

นานาเดินไปทางหน้าต่างบานกว้าง เธอมองออกไปก็ เห็นภาพของตึกต่างๆในระดับที่สูงมาก เธอเกิดอาการกลัว เล็กน้อยจึงเดินถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว แต่แผ่นหลังของ เธอกลับชนเข้ากับหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ของทิว นานาหันกลับไปมองเขา ถึงเห็นมือของร่างนี้โอบ เอวคอดของเธอไว้

“เธอกลัวความสูงเหรอ?” ทิวถามออกมาด้วยเสียง เบาหวิว พูดยังไม่ทันขาดคำร่างสูงของผู้ตรงหน้าก็ผลัก เธอออกจากตัวจนเธอตกใจคว้าเอวของเขาเข้าแทน เธอหันไปพูดกับคำด้วยเสียงที่ต่ำมาก “ทิว นายอย่าผลักฉัน นะ”

พอได้เห็นใบหน้าเล็กๆที่มีท่าทางหวาดกลัวแฝงอยู่ ทิวตกตะลึงเป็นอย่างมาก ทั้งสองร่างต่างไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ ต่างฝ่ายต่างกำลังใช้มือกอดอีกฝ่ายไว้อย่างหลวมๆ นานา หน้าแดงขึ้นทันทีเมื่อทิวพยายามกดศีรษะของเธอให้ซุก ลงไปบนหน้าอกของเขา เมื่อเขารู้สึกพอใจที่ได้แกล้งผู้ หญิงคนนี้แล้วเขาจึงปล่อยเธอและเดินไปนั่งลงโซฟาด้วย สีหน้าอมยิ้ม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ