บทที่ 12 ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน
นานามองเข้าไปในดวงตาที่ลุกโชนของชายคนนั้น ยากต่อการซ่อนความสับสนที่เกิดขึ้นในหัวใจของเธอ แต่ ปากกลับพ่นคำพูดที่เยือกเย็นออกมา ฉันไม่มีอะไรจะคุย กับคุณ”
ผู้ชายคนนั้นขมวดคิ้ว พลางพูดด้วยเสียงที่ฟังดูมี เสน่ห์ “เธอแน่ใจเหรอว่าไม่มีอะไรจะคุยกับฉัน?”
“ขอโทษด้วยนะคะ ถึงเวลาที่พวกเราจะต้องไปขึ้น เครื่องบินแล้ว” นานาพูดจบก็หันไปพูดกับแป้ง “เธอกลับ ไปเถอะ เดี๋ยวฉันก็จะพาเด็กๆเข้าไปแล้ว”
แป้งเอาฟ้าลูกสาวของนานาวางลง มืออีกข้างหนึ่ง ของนานาก็จูงลมไว้ เธอเตรียมตัวที่จะเดินออกไปจากตรง นี้
“แน่ใจเหรอว่าไม่อยากคุยเรื่องลูกของเรากับฉัน?” ผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ยังคงรั้งไม่ปล่อย
คำพูดนี้ ทำให้ร่างของนานาที่กำลังจับมือกับลูกชาย และลูกสาวอยู่เย็นเยือกลงทันที เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ สีหน้าของเธอซีดลง แสดงออกถึงความกลัว
“มา มี เป็นอะไรเหรอคะ?” ฟ้าหันไปถามคนที่จับมือ
เธอด้วยสีหน้ากังวล
ลมก็หันศีรษะเล็กๆไปทางคุณแม่ของเขา มองกลับ ไปด้านหลังก็เห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ไม่ไกล เขาผละมือออก จากแม่ทันที ร่างเล็กๆเดินมาหาผู้ชายทางด้านหลัง เดิน ไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็กางแขนทั้งสองออก พลางขมวดคิ้ว น้อยๆจนเป็นปมขึ้นมา ยืนขวางทางกั้นไม่ให้ผู้ชายคนนั้น เข้ามาใกล้แม่ของตน ผมไม่อนุญาตให้คุณเข้ามาใกล้มา มีของผม
สีหน้าที่มุ่งมั่นของเด็กชายตัวน้อยรวมถึงบุคลิกและ รูปร่างหน้าตาคล้ายกับชายตรงหน้าอย่างมาก มันเหมือน เป็นการเปิดเผยความจริงที่ถูกปกปิดไว้
สายตาคู่นั้นของทิวเต็มไปด้วยความประหลาดใจและ มีความสุขในเวลาเดียวกัน เด็กชายตัวเล็กคนนี้มองแว๊บ แรกก็รู้เลยว่าเป็นลูกชายของเขา ทั้งรูปร่างและอารมณ์ ของเด็กคนนี้ลักษณะเหมือนกับคนที่บ้านพาทิศ ไม่มีผิด เพี้ยน
เขาย่อตัวลง ส่งยิ้มให้กับร่างเล็กๆตรงหน้า “ฉันไม่ ได้จะทำร้ายแม่ของเธอ ฉันแค่จะมาคุยกับเขาเรื่องเธอกับ น้องสาวของเธอ แล้วก็เรื่องในอดีตของพวกเรา”
นานาได้แต่กัดริมฝีปากบางๆของเธออยู่อย่างนั้น ผู้ชายคนนี้ผีเข้าหรือยังไงกัน? เรื่องราวในอดีตบ้าบอ อะไร? เมื่อก่อนพวกเขาไม่เคยมาเจอกันเลยไม่ใช่เหรอ?นอกจากคืนนั้นคืนเดียว
ในคืนนั้น เขาก็ไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ
เธอหันหลังกลับไปพูดกับแป้ง แป้ง เธอช่วยดูแล เด็กๆแทนฉันก่อนนะ ฉันกับผู้ชายคนนี้มีเรื่องต้องคุยกัน”
แป้งจึงรีบเข้ามาจูงมือพาเด็กๆไปนั่งพักตรงเก้าอี้ที่ ห่างออกไปราวๆหนึ่งร้อยเมตร
เด็กน้อยทั้งสองคนก็ยังหันกลับมามอง ตั้งหน้าตั้งตา รอคอยให้แด็ดดี้กับมามพูดคุยกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด สำหรับพวกเขา
ทิวมองตามร่างของเด็กน้อยทั้งสองคนที่ถูกพาเดิน ออกไปทางอีกทางหนึ่ง ความประหลาดใจที่ค้างคาอยู่ใน ใจของเขาก็ยังไม่คงไม่เลือนลาง เขานึกไม่ถึงจริงๆว่าอยู่ ดีๆเขาก็มีลูกน้อยถึงสองคน
สายตาของเขาก็ยังคงจับจ้องร่างน้อยทั้งสองที่ออก ไปไกลแล้ว ทันใดนั้นเสียงของนานาก็ทำลายความคิด ทุกอย่างลง เธอแสดงสีหน้าที่เย็นชากับผู้ชายตรงหน้า พร้อมกับคำพูดที่เยือกเย็นว่า “คุณอยากจะคุยอะไรกับฉัน ก็รีบคุยเถอะ เวลาของฉันเหลือไม่มากแล้ว”
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของทิวเหมือนกันที่ได้มองร่าง กายบางๆนี้ในระยะประชิด ใบหน้าเล็กๆที่เต็มไปด้วยความ งดงาม ดวงตาคู่นั้นที่แฝงด้วยรังสีแห่งความโกรธ แต่ก็ยัง เปล่งประกายสวยงามเสมอ
เด็กๆเป็นลูกของฉันใช่ไหมผู้ชายคนนั้นเอ่ยปาก ถามเธออย่างตรงไปตรงมา ดวงตาอันเฉียบคมของเขา จ้องมายังเธออย่างต้องการคำตอบที่เป็นความจริง
นานามองไปยังเขาและหัวเราะออกมาอย่างขบขัน “ คุณคงเข้าใจผิดแล้ว ฉันกับคุณ เราสองคนไม่เคยรู้จักกัน มาก่อน คุณหยุดคิดว่าเด็กที่โตมาแล้วหน้าเหมือนคุณจะ เป็นลูกของคุณได้แล้ว” »
อยากจะบ้าตายจริงๆ เพราะหน้าตาของลูกชายที่ คล้ายกับเขามากนั่นแหละที่ทำให้เธอหนักใจเป็นอย่าง มาก
“เธอแน่ใจเหรอว่าเราไม่เคยเจอกันมาก่อน?ทิวส่ง รอยยิ้มที่ยากจะคาดเดา
“ฉันแน่ใจ แน่ใจมากๆเพื่อลูกๆของเธอนานายังคง ยืนกรานในคำตอบของตัวเอง
* เธอกล้ามากเลยนะ เมื่อห้าปีก่อนเธอลักหลับฉันตอนนี้ยังจะมาขโมยลูกของฉันไปอีกเหรอ”
นานาเงียบไปสักครู่ แล้วกลับมาโต้ตอบว่า “ ห้าปี ก่อนอะไรกัน ฉันกับคุณเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คุณเป็น ใครฉันยังไม่รู้เลย”
ดวงตาคมกริบกับน้ำเสียงเย็นชาของทิวทำให้เธอตื่น ตระหนกเล็กน้อย เราสองคนรู้จักหรือไม่รู้จักกัน เธอรู้อยู่ แก่ใจ เรารู้จักกันที่ไหน รู้จักกันอย่างไร ใจเธอก็รู้ดี จะให้ พูดถึงคืนนั้นก็ได้นะว่าเรารู้จักกันยังไง ลึกซึ้งขนาดไหน”
สมองของนานาขาวโพลนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำ พูดจากปากของทิว มันเป็นไปได้ยังไงกัน? เขารู้ได้ยังไง กันว่าผู้หญิงเมื่อห้าปีก่อนในคืนนั้นเป็นเธอ?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ