บทที่ 232 เกิดเรื่องขึ้นกับฟิว
“ดูๆแล้วนายคงยุ่งมากๆ นานายิ้มขึ้นมา แลดูเขาโต เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากแล้ว
ฟิวมองหน้าเธอแล้วพูดว่า “ช่วงนี้เป็นไงบ้าง สบายดี
ไหม?”
“ก็ดีนะนะ!”
“คบกับเขาหรือยัง?” ฟิวถามไปอย่างตรง นานาก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เธอพยักหน้า “อั้ม! คบกัน
แล้ว”
“ยินดีด้วยนะ” ฟิวยิ้ม “ถ้าเธอแต่งงาน จะต้องส่ง ของขวัญชิ้นใหญ่ให้แน่นอน”
“แล้วนายล่ะ? เคยคิดไหมว่า….” นานาเข้าใจความ รู้สึกที่มีพ่อคนหนึ่งอยู่บนโลกนี้ แต่ไม่สามารถอยู่ด้วยกัน ได้
ทิวถอนหายใจ “ตามโชคชะตาเถอะ! ถ้าพระเจ้า อยากให้ฉันกับเขายอมรับกัน ฉันจะไม่ปฏิเสธ ถ้าพระเจ้า ไม่ให้โอกาสนี้กับฉัน ฉันก็ทำอะไรไม่ได้” ฟิวพูดอย่าง หดหู่
บาบาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ถ้าฟ้าได้กลับไป งั้นทิวและแม่ของเขาต้องเป็นคนที่เสียใจที่สุด ตอนนี้ เธอไม่ อยากให้ผู้ชายคนนี้เจ็บปวด
“ถ้ามีเวลาก็พาเด็กๆมาหาฉันนะ” หลังจากที่ฟิวพูด จบ ก็เข้าไปในรถ เตรียมตัวจะจากไป
นานาโบกมือ “ลาก่อน!”
นานากลับมาถึงวิลล่า ทิวไปจัดการเรื่องงานที่บริษัท แล้ว ตอนนี้เธอก็เริ่มอ่านหนังสือมากขึ้นเพื่อเพิ่มความ สามารถ อีกอย่าง ความหมายของพ่อแม่ก็ชัดเจนแล้ว ทั้ง บ้านของพลาธรก็มีแต่เธอคือผู้สืบทอดคนเดียว ถ้าพวก เขาแก่แล้ว ทุกอย่างก็จะถูกส่งมายังมือของเธอ
ดังนั้น นานาไม่สามารถขี้เกียจได้แล้ว เธอต้องเรียน รู้ใหม่ แน่นอนว่าข้างๆเธอยังมีทิวอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วงมาก นัก
ตอนเย็นประมาณ4โมง รถของทิวถูกขับเข้าไปใน สวน พอนานาได้ยินเสียงของรถ เธอก็ยิ้มแล้วเดินออกมา ภายใต้ของแสง ชุดสีขาวที่แสนจะธรรมดาของเธอ ทำให้ ผู้ชายที่ขับรถเข้ามามองไปทางเธอ ทำเอาเขาหัวใจจะ ละลาย
เขารู้สึกว่าเสน่ห์บนตัวของผู้หญิงคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งน่าหลงไหล นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เขาเป็นห่วงมากขึ้น
“กลับมาแล้วนะ!” นานาเดินมาที่ข้างๆเขา ทิวจูงมือ เธอขึ้นมา และโอบกอดไปที่เอวของเขา ดึงเธอเข้ามา ใกล้ๆ นานาหัวใจเต้นแรงมาก ถึงแม้จะสนิทกับผู้ชายคนนี้ มากแล้ว แต่ยังมีอีกขั้นที่ไม่ได้ใกล้ชิด
ทิวก็ไม่รีบร้อน เขารอให้หลังแต่งานแล้วค่อยเป็น ค่อยไป หรือว่า อาจจะมีแค่วินาทีที่สวยงามในงานแต่ง ถึง ทำให้เธอวางทุกอย่างลงได้ มอบทุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้เขา
“ถึงเวลาไปรับลูกแล้ว” นานาอยู่ภายใต้สายตาที่ เร่าร้อนของเขา ก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย
ทิวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วจูบไปที่ปากอันหอมหวาน ของเธอ ทั้งสองก็จูบกันที่กลางสวน นานามีความตื่นเต้น เล็กน้อยจากนั้นก็กอดไปที่ไหล่ของเขา และทำอะไรที่ไม่ คุ้นเคยกับเขา
การจูบที่ร้อนแรง ทำให้หน้าของนานาแดงไปหมด เธอผลักเขา “ไปได้แล้ว!”
ทิวยิ้มแล้วยกมือของเธอขึ้น “ฉันจะเดินเล่นเป็น เพื่อนเธอแล้วค่อยไปรับพวกเขา”
“อื้ม! ฉันก็ควรจะออกกำลังกายซะหน่อย อยู่บ้านทั้ง วันจนขี้เกียจแล้ว” นานาเองก็ชอบการเดินเล่นแบบนี้ และ บ้านก็ไม่ได้ห่างจากโรงเรียนมากนัก เดินซะหน่อย ก็ช่วย ให้ร่างกายแข็งแรงได้
ทิวจูงมือของเธอ และเดินออกจากประตู จากนั้นก็มา ถึงโรงเรียนของเด็กจอมจุ้นทั้งสอง พวกเขาก็เลิกเรียน พอดี พอรับทั้งสองเสร็จ ก็ยังสามารถมดูพวกเขาเดิน กลับอย่างเงียบๆ ได้มองดูเด็กสองคนนั้น ทั้งสองก็รู้สึก สบายใจแล้ว
ระหว่างทางกลับถึงบ้าน ก็ได้รับโทรศัพท์จากบ้านพา ทิศเกี่ยวกับเรื่องข้าวเย็น ทิวก็พาแม่ลูกรีบกลับบ้าน และ ได้ทานข้าวเย็นพอดี
บนโต๊ะอาหาร ขณะที่นานากำลังทานอาหาร โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้นกระทันหัน เธอหยิบขึ้นมาดู คือพี่เหม ยที่ไม่ได้ติดต่อกับเธอนานมาก เธอยิ้มด้วยความเอะใจ พี่ เหมยโทรหารเธอทำไม?
เธอรีบเดินออกจากโต๊ะอาหาร “ฮาโหล พี่เหมย”
“ฮาโหล นานา เกิดเรื่องขึ้นกับฟิวแล้ว!” น้ำเสียง ของพี่เหมยดูเร่งรีบและสับสนวุ่นวายขึ้นมาทันที
“เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรอคะ?” หัวใจนานาจะทะลัก ออกมาแล้ว วันนี้ตอนเธอเจอเขายังดีๆอยู่เลย
“เขาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้คนอยู่ที่โรง พยาบาล กำลังต้องการเลือดด่วนมาก แต่ว่า เขาเป็นเลือด hr ที่ไม่ค่อยได้พบบ่อย จะต้องเป็นญาติพี่น้องเท่านั้นที่จะ บริจาคเลือดได้ เธอให้ทิวมาช่วยเขาได้ไหม? ฉันขอร้อง ล่ะนะ ถ้าเขาไม่มีเลือดแบบนี้ เขาก็ไม่มีชีวิตแล้ว”
สมองของนานาเหมือนระเบิดขึ้นมา สีหน้าซีดลง มือ ที่ถือโทรศัพท์ไว้ก็เกือบจะตก พอทิวเห็น เขาเองก็ตกใจ ไปไม่กี่วินาที “นานา เธอเป็นอะไร?”
“นายคือเลือด hr ใช่ไหม?” นานาจ้องหน้าไปทาง เขา และถามอย่างเร่งรีบ
หลังจากที่ตกใจไปไม่กี่วินาที ทิวก็พยักหน้า “ใช่ ทําไมหรอ?”
“ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุทางรถและเสีย เลือดเป็นจำนวนมาก ตอนนี้กำลังต้องการเลือดแบบนี้ด่วน นายไปกับฉันได้ไหม? เขาต้องการเลือด ไม่งั้น เขาอาจจะ เสียชีวิตได้”
พอพงศ์ได้ยิน ก็รีบตอบกลับว่า “ฉันก็เป็นเลือดแบบนี้ เพื่อนเธอคนไหน? เดี๋ยวฉันจะไปกับเธอ”
นานามองดูพ่อลูกคู่นี้ เธอรีบจนน้ำตาจะไหลแล้ว คน ที่เกิดเรื่องคือฟิวนะ! เธอไม่สามารถยอมให้เขาจากไปต่อ หน้าต่อตาหรอก เธอไม่สามารถยอมรับการจากไปของ เพื่อนได้อีกแล้ว
“ไดค่ะ คุณลุงไปกับหนูเลยค่ะ”
พอทิวเห็นเธอตกใจขนาดนี้ ก็ไม่สนแล้วว่าคือใคร ไม่ ว่าเขาคือใครทิวก็จะช่วย พวกเขาให้เด็กทั้งสองรออยู่ที่ บ้าน แล้วทิวก็ขับรถออกไป พาเธอและพ่อของเขาตรงไป ที่โรงพยาบาง พวกเขารออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน พอนานา พาทั้งสองมาถึง ก็ทำให้พี่เหมยตกใจมาก
และในขณะนี้ นานาก็เห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งยืนรอ อยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน พอเธอหันมามองสองพ่อลูกที่รีบวิ่ง มา สายตาของเธอแสดงให้เห็นเลยว่าเธอตกใจมาก เธอ คิดไม่ถึงว่า เขาคนนั้นที่ไม่ได้เจอมายี่สอบห้าปี ก็ตามมา ด้วย
วินาทีที่ทิวมองไปทางพี่เหมย เขาก็รู้แล้วว่าคนที่เขา ต้องช่วยคือใคร จากนั้นเธอก็หันไปมองนานา “คนที่เกิด อุบัติเหตุคือฟิว?”
ตลอดทางมานานาไม่กล้าที่จะบอกเขา พอตอนนี้ เขากลับทายออก เธอพยักหน้า “ใช่ คือเขา! นายจะยอม ช่วยเขาไหม?”
ทิวในตอนนี้ไม่ได้เข้าใจผิดอะไรแล้ว เขาพยักหน้า หนึ่งที “แน่นอนว่าฉันต้องยอมช่วยอยู่แล้ว”
และในขณะนี้ พงศ์ก็เห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าของเขาก็อึ้งขึ้นมาทันที พอเธอเห็นผู้หญิงคนนี้ ก็ คิดถึงผู้ป่วยที่กำลังรอความช่วยเหลือ เขาทายได้แล้วว่า คือใคร ร่างกายของเขาก็สั่นไปสักพัก
“คนที่บาดเจ็บคือลูกของคุณหรอ?” เขาถามไปทาง ผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นมองเขา แล้วพยักหน้า “ใช่ เป็นลูกของ ฉันเองที่บาดเจ็บ”
“เขาเป็นเลือด hr?”
ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นคลอไปด้วยน้ำตา และแดง ไปหมด “ใช่…”
พงศ์เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว เขามองดูผู้ หญิงคนนี้อย่างไม่มั่นใจ เหมือนกับว่าได้กลับไปยังความผิดที่ทำไว้ตอนยังหนุ่มๆ ในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ผลลัพธ์ บางอย่างแล้ว ที่แท้ ในโลกนี้ เขายังมีลูกอีกคนหนึ่ง
“คุณพยาบาล รีบเอาเลือดของผมไปเถอะครับ จะ เอาเท่าไหร่ก็ได้ ขอแค่สามารถช่วยเด็กคนนี้ก็พอแล้ว” พงศ์พับเสื้อขึ้นแล้วพูดกับพยาบาล “คุณคะ พวกเรา สามารถเอาเลือดของคุณได้แค่400cc “พยาบาลตอบ กลับอย่างจริงจัง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ