ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 169 การพัฒนาอาชีพใหม่



บทที่ 169 การพัฒนาอาชีพใหม่

เวลาผ่านไปจนถึงบ่ายสองโมง นานากินข้าวคนเดียว จนเสร็จ เธอรู้สึกเบื่อเลยไปหาหนังสือหนึ่งเล่มในห้อง หนังสือของทิวดู ดูไปสักพัก โทรศัพท์ของเธอก็ส่งเสียง ดังขึ้นมา เธอหยิบขึ้นมาดู ฟิวโทรมา

นานาจับคาง แล้วมองโทรศัพท์ที่ดังขึ้น คิดถึงทิวที่ ยังอยู่สถานีตำรวจ เธอได้แต่ถอนหายใจ เธอไปหาเขา ไม่ได้แล้วจริงๆ

เสียงกริ่งโทรศัพท์จบลง ในใจของนานารู้สึกผิด ฟิ วดีกับเธอ แต่เธอเห็นเขาเป็นแค่เพื่อน และตอนนี้ การ ข่มขู่ของทิว ทำให้เธอไม่สามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้แล้ว

ยังดี เสียงกริ่งของฟิวไม่ได้ดังขึ้นอีก เดี๋ยวๆเธอก็ นอนดูหนังสือ เดี๋ยวๆก็นั่งดูหนังสือ สรุปคือ ทุกวันเป็น แบบนี้ทำให้เธอรู้สึกเบื่อ เธอรู้สึกว่าตัวเองต้องไปหาอะไร ทําสักหน่อยแล้ว

นานาคิดถึงเมื่อก่อน ในตอนที่เธอกำลังเรียน แต่ว่า ตอนอยู่มัธยมปลาย เพราะความกดดันของการเรียนทำให้ ตัวเองไม่มีงานอดิเรก ตอนนั้น เธอชอบอ่านหนังสือนิยาย แต่คุณแม่กลัวจะส่งผลกระทบต่อการเรียนของเธอ ก็เลย สั่งห้ามเธอ

เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย เธอสบายแล้ว จึงหางานทำติดต่อกัน ทํางานหาเงินเพื่อช่วยครอบครัว ตลอดจนถึง ตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้ยุ่งกับมันเลย นานาหยิบโน๊ตบุ๊คของ ตัวเองออกมา ในสมองของเธอกำลังคิดฉาก ตอนนี้ เรื่อง ที่คนชอบดู ก็คือเรื่องราวของเจ้าชายและซินเดอเรลล่า ไม่ใช่หรอ

นานาพบเว็บไซต์ขนาดใหญ่และเริ่มลงทะเบียนเป็น นักเขียน เธอก็แค่อยากลองดู ความคิดที่รู้สึกว่าชีวิตของ ตนน่าเบื่อมาก จึงอยากลองดู เธอไม่เคยคิดจะอยากดัง หรือมีชื่อเสียงมากมาย

ยังไงก็น่าเบื่อ ในสมองยังมีความคิดอีกมากมาย เขียนออกมา แค่สร้างความจรรโลงใจให้กับตัวเองก็ยังดี

นานาสังเกตโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอกับผู้ชายคนนี้ที่ เป็นเศรษฐีชั้นสูง ทิว มันก็คือหนังดราม่าไม่ใช่หรอ? แล้ว ทำไมไม่เขียนเรื่องราวระหว่างพวกเขาหล่ะ? เดี๋ยวนะ เธอ สามารถบันทึกความก้าวหน้าของเธอและผู้ชายคนนี้ได้ทุก วัน มันก็คือมีข้อมูลที่เท็จจริงอยู่แล้วนี่?

นานารู้สึกดีใจกับความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง อีก อย่าง ยังไงทิวก็อยู่กับเธอ มันก็เหมือนเขียนไดอารี่ทุกวัน แต่เธอก็เพิ่งเริ่ม เขียนอะไรไม่ค่อยเป็น

เพิ่มลูกที่น่ารักของตัวเองเข้าไปเป็นตัวละครด้วย ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เธอจดจำเรื่องราวสนุกๆที่ผ่านมาของ พวกเขาได้อยู่แล้ว

พูดแล้วว่าทำก็คือทำ เธอหยิบสมุดโน๊ตขึ้น แล้วเขียน

อย่างเป็นท่าเป็นทาง เรื่องราวดราม่าเริ่มขึ้นแล้ว…

เวลาผ่านไปประมานห้าโมงเย็น เจ้าเด็กน้อยสองคน กลับบ้านแล้ว เธอถึงจะสังเกตว่า ตัวเองเพิ่งแต่งได้แค่ สองพันตัว ว่าแล้ว งานนี้มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

นานาวางสมุดโน็ตลงข้างๆ เงยหน้าขึ้นเห็นเทวดา น้อยทั้งสองที่กำลังวิ่งเข้ามา เธอรีบก้มตัวลงไปกอดข้าง ละคน

“มามี้…” เสียงที่อ่อนหวานของฟ้าตะโกนขึ้น

นานาหอมแก้มเด็กทั้งสองคนละข้าง เงยหน้าขึ้นอีก ที ก็เห็นร่างที่สูงใหญ่ ร่างของผู้ชายคนนึงที่ดูสง่างามเดิน เข้ามา

นานานึกในใจว่า เมื่อกี้เธอเพิ่งเขียนถึงเขาว่าเป็น ประธานที่มีฤทธิ์มากโมโหร้าย แต่ยังไงผู้ชายคนนี้เหมาะ สมกับการจะเป็นพระเอกของเธอ

ทิวมองเจ้าเด็กน้อยสองคน แล้วหันขึ้นไปมองผู้หญิงของเขา เขาขมวดคิ้วเบาๆด้วยความไม่เข้าใจ

ตอนกลางคืน นานาทําอาหาร เสร็จ ก็ได้ยินเสียง เจ้าเด็กน้อยสองคนเล่นกันอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ท่าทางโต้ เถียงที่น่ารัก เธอกะจะบันทึกตอนกลางคืน

หลังจากที่อาบน้ำให้เจ้าเด็กน้อยเสร็จ ทิวก็เข้าไป ในห้องของพวกเขา เขาเล่านิทานให้เด็กๆฟัง นานาแง้ม ประตูเบาๆแอบส่อง แอบฟังน้ำเสียงของเขาสักพัก เธอก็ กลับห้องนอนไป

เปิดโน๊ตบุ๊คและสมุดโน้ตออก เริ่มไปได้สักพักก็ เขียนได้สามพันตัวแล้ว

เขียนไปเขียนมา นานาเริ่มมีจินตนาการมากขึ้น ปรากฏว่าเธอเขียนนางเอกเป็นพนักงานบริษัทไปแล้ว คราวนี้ เธอคิดเกี่ยวกับแผนกและตำแหน่งของบริษัท ขนาดใหญ่ ก็ต้องปวดหัวอีกแล้ว

นานาตัดสินใจแล้วว่าเขียนผลงานชิ้นแรกของตัวเอง ให้เสร็จ เธอกัดริมฝีปากเบาๆ คิดอยากจะให้ทิวพาเธอไป ที่ บริษัทของเขาในวันพรุ่งนี้ ! ไม่ใช่สิ เธอควรไปที่บริษัท ของเขาเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ในการทำงาน

นี่เหมือนจะสร้างปัญหาให้ตัวเองชัดๆ ? แต่ประสบการณ์ชีวิตก็สำคัญ

นานาเริ่มคิดกว้างขึ้น เธอตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะไป ฝึกงานที่บริษัทของทิว ใช่แล้ว ต้องของานจากผู้ชายคนนี้ ก่อน น่าจะไม่ใช่เรื่องยาก !

คิดได้แบบนี้ เธอก็วางสมุดโน้ตลงข้างๆ เธอทำงาน มาทั้งวัน ใช้สมองไม่หยุดพัก จึงอยากพักผ่อนมากแล้ว นานาทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า

ประตูของเธอ มีช่องเล็กๆที่มีแสงส่องเข้ามา ทิว หายใจเข้าเบาๆ ผู้หญิงคนนี้โกรธหรอ ? จงใจหลบเขา ?

ทิวยังคงแปลกใจ เขาทำดีกับเธอไม่พอหรอ ? ทำไม ถึงตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้สึกอะไรกับเขามากขึ้นเลย

ดูแล้ว ถ้าอยากให้เธอพูดกับเขาว่า ฉันรักเธอ ภายใน หนึ่งเดือนก็ยังยากมาก

หรือว่าเป็นอย่างที่ลูกชายพูด เขาสู้ไม่ไหว?

ทิวกัดริมฝีปาก ได้แต่กลับห้องนอนตัวเอง เมื่อกี้เขา ดูกล้องวงจรสักพัก ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ออกไปไหน

จริงๆแล้ว ตอนนี้ เขาอยากให้เธอออกไป เพราะแบบนี้ เขาก็จะหาข้ออ้างทุกอย่างเพื่อที่จะลงโทษเธอ

เช้าตรู่

นานาถูกนาฬิกาปลุกจนตื่น ตอนนี้สมองของเธอยัง ไม่ตื่นดีนัก เธอรีบรื้อฟื้นความคิดในเมื่อคืนทันที เธอรีบ ล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นก็คันชุดกระโปรงในตู้เสื้อผ้า

ในขณะที่เธอเปิดประตูห้อง ก็เจอทิวที่เพิ่งเปิดประตู ออกมาเช่นกัน

สายตาของทิวมองไปยังการแต่งตัวของเธอ เขาดู ออก ว่าเหมือนเธอจะออกจากบ้าน ทันใดนั้น สีหน้าของ เขาก็เปลี่ยนไปทันที “เธอจะไปไหน ?

นานา ดอกเงยหน้าขึ้น จากนั้น ก็ยิ้มให้เขาแล้วพูด ว่า“ฉันไม่ได้ไปไหนนิ ! ฉันก็แค่อยากถามว่า บริษัทนาย ยังรับคนอยู่หรือเปล่า ?

ทิวขมวดคิ้วทันที “เธอจะไปทำงานที่บริษัทฉัน ?

นานาพยักหน้า ใช่ “ฉันอยู่บ้าน มันน่าเบื่อ ฉันอยาก หาอะไรทำคั่นเวลา บริษัทนายขาดคนไหม ? อยากได้ งานที่สบาย มีวันหยุด แล้วก็เป็นงานที่ได้เงินเดือนปกติ ให้ฉันฝึกงานสามเดือนก่อนก็ได้”
เป้าหมายของเธอ ก็เพื่อจะเข้าไปทำความเข้าใจใน แผนกและตำแหน่งของบริษัทใหญ่ๆ จากนั้นก็เป็นเรื่อง ต่างๆที่เกี่ยวกับการแข่งขันทางธุรกิจเพราะมันเป็นสิ่งที่มี ประโยชน์ต่อการเขียนของเธอ

ทิวกอดอก มองตาที่กระพริบปริบๆของผู้หญิงคน นี้ สีหน้าของเธอแสดงความขอร้อง “เธอแน่ใจหรอว่า ไปทํางานบริษัทของฉัน ? นานามองสีหน้าของเขา ดู เหมือนเขาจะคิดว่าเธอจะขายน้ำใจของเขาอย่างนั้นแหล่ะ เธอจึงรีบพูดขึ้นอย่างใจกล้าว่า “นายไว้ใจได้เลย อยู่ใน บริษัท ฉันจะแกล้งทำเป็นไม่รู้จักนาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ