บทที่ 163 เปิดอกพูดคุยกัน
นานาได้ยินเสียงเย็นชาของชายหนุ่มผ่านมาจาก ปลายสาย อึ้งไปหลายวินาที เธอถามเขาด้วยน้ำเสียง สงสัยว่า “ เมื่อครู่นี้ นายโทรมาหาฉันหรอ ? ”
“ มือถือของเธอเป็นสิ่งของตกแต่งหรือไง ? ” เสียง ชายหนุ่มถามอย่างโมโหทันที
“ขอโทษนะ ! ฉันอาจจะยังอยู่ ไม่ได้ยินเสียงมือถือ ดัง น่าจะเป็นเมื่อคืน ฉันไม่ได้ตั้งใจกดโดนเสียงเบา ขอ ถามว่า นายมีเรื่องอะไรไหม ? ” นานาได้แต่ขอโทษเขา
“ ตอนเย็นไปรับลูกๆกับฉัน
“ นายเลิกงานกลับมาแล้วไปรับไม่ใช่หรอ ?” นานา รู้สึกว่า ก็แค่เรื่องที่ทำแค่สิบกว่านาที เธอไม่ไปก็ได้แล้ว
แต่ว่าเมื่อชายหนุ่มฟังแล้ว คำพูดนี้กลับทำให้ความ โมโหของเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก เขาหัวเราะเสียงเย็น ทำไม ? เธอมีเรื่องที่สำคัญมากกว่าลูกของเธอหรอ ?
นานากัดริมฝีปากล่าง ผู้ชายคนนี้วันนี้ได้ทานยา ระเบิดไปหรือไง ?
“ ไม่มีเรื่องอะไร ก็แค่รู้สึกว่านายรับพวกเขากลับมา ด้วยก็ได้ หากนายไม่รับ ฉันสามารถโทรไปให้รถโรงเรียนส่งกลับมมา ” นานาไม่ค่อยพอใจแล้ว คำพูดของเขาก็ แรงเกินไปไหม !
ทิวที่อยู่ปลายสายยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก ผู้หญิงคนนี้ เพื่อฟิวแม้แต่ลูกก็ไม่สนใจแล้วหรอ ? เขาเอ่ยกัดฟันแน่น ว่า “ ฉันจะไปรับเอง ”
“อั้ม ! ” นานาพูดจบ ก็วางสายไปทันที
ชายหนุ่มที่อยู่ในห้องประชุม ใบหน้าหล่อเหลา เคร่งขรึมคล้ายกับเทียนในฤดูหนาว ทำให้ผู้จัดการทั้ง หลายในห้องประชุมต่างก็ตกใจจนเงียบไปกันหมด ใครกัน ที่แน่มากอย่างนี้ที่ทำให้เจ้านายโมโหได้มากขนาดนี้ และ เจ้านายยังกลั้นความโมโหไว้ไม่ปล่อยระเบิดความโมโห ออกมา ?
ฟังแล้ว น่าจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง !
ทิวสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดเสียงเย็นว่า “ ประชุมต่อ
ในสวนดอกไม้ของบ้านฟิว นานากัดริมฝีปากไว้แน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ผู้ชายที่เมื่อเช้ายังดีๆ อยู่ แล้วโมโหอะไรกัน ? แล้วมาลงบนร่างของเธออีก เธอ ไม่ใช่คนที่เขาจะมาโมโหใส่ได้ง่ายๆ
ตอนที่นานาเดินเข้ามา ฟิวเห็นว่าสีหน้าของเธอไม่ ค่อยดีนัก ถามออกมาอย่างเป็นห่วงเสียงเบา “ คุณเป็น อะไร ? ”
“ อย่าพูดถึงเลย ” นานาเอามือถือเก็บเข้าไปใน กระเป๋าอย่างจนปัญญา เงยหน้าขึ้นมองเขา “ คุณยัง ต้องการให้ฉันช่วยด ทําอะไรไหม ?
* สามารถช่วยผมฝึกบทละครคำพูดไหม ?
* หือ ? ฉันทำได้หรอคะ ? ฉันไม่มีประสบการณ์ใน ด้านนี้นะคะ ! ” นานากังวลขึ้นมาเล็กน้อย
“ คุณก็แค่อ่านคําพูดของนางเอกพวกนั้นก็ได้แล้ว ฟิวยื่นบทละครคำพูดส่วนหนึ่งให้เธอ
นานารับมา นั่งลงตรงหน้าเขา มองลงไปก็ตกใจเล็ก น้อย นี่กลับเป็นบทละครสารภาพรัก นานๆรู้สึกลำบากใจ เล็กน้อย “ จะอ่านจริงๆหรอคะ ?”
“ อ่านสิ ! ”
นานาจึงได้แต่เอาความรู้สึกอย่างในบทละครคำพูด ออกมา อ่านออกมาประโยคแรก “ คิม เราสามารถอยู่ด้วย กันตลอดชีวิตได้ไหม ? ไม่แยกจากกันตลอดชีวิต
ฟิวที่อยู่ตรงหน้าครางออกมาเสียงเบา มุมปากยกยิ้ม ตอบด้วยน้าเสียงทุ้มค่า “ ครับ
นานาอายมาก คำพูดบทนี้เลี่ยนมาก เหมือนกับว่า
พวกเธอกําลังสารภาพรักกันอยู่
“ อ่านลงไปต่อ ” ฟิวเร่งเธอ
นานาจึงได้แต่สูดอากาศเข้าไปลึกๆ อ่านต่อไป “ ค่ะ เราจะเหมือนกับพวกสามีภรรยาที่แก่เฒ่า อยู่ด้วยกันไปจน แก่เฒ่า ไม่แยกจากกันตลอดไป
สายตาของฟิวมีความอ่อนโยนลึกซึ้ง จ้องเธอนิ่ง อย่างจริงจัง ” อืม จะไม่แยกจากกันตลอดชีวิตนี้
นานากลืนน้าลายลงคอ พูดต่อว่า “ แล้วคุณรักฉัน ไหมคะ ? รักมากแค่ไหน ? ”
“ มาก มากจนซึมเข้าไปในวิญญาณ” น้ำเสียงของ ฟิวทมน่าฟัง มีความรู้สึกอย่างกับพูดกับคนรักกันอย่างนั้น
นานากกระดาษบทละครไว้ แก้มแดงขึ้นมาน้อยๆ “ คืนนี้เป็นคืนที่เราอยู่ที่นี่เป็นคืนสุดท้าย ฉันหวังว่าจะอยู่กับ คุณดีๆ ฉันต้องการให้คุณแสดงออกว่าคุณรักฉันมากแค่ ไหน…”
พูดจบ นานาแอบพูดไม่ออก นี่เป็นบทละครที่ใครเป็น คนเขียนกัน เลี่ยนมาก!
ฟิวมองแก้มเล็กๆอมชมพูของเธอ เริ่มหัวเราะออกมา อย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ “ ครับ ผมจะทำให้คุณรู้ว่าผมรักคุณ มากแค่ไหน ”
* หยุด…ฉันไม่อ่านแล้ว” นานาวางบทละครคำพูด ลงข้างๆ แล้วหันไปทางอื่นไม่มองเขา
ฟิวมองสีหน้าลำบากใจของเธอ แล้วหัวเราะออกมา * เป็นอะไร ? นี่ก็แค่คำพูดเท่านั้นเอง คุณคิดจริงหรือ ?
นานาหันไปถลึงตาใส่เขา “ ฉันไม่ได้คิดเป็นเรื่อง จริงสักหน่อย ! ครั้งต่อไป คุณให้ลิลลี่ช่วยฝึกพูดกับคุณ เถอะนะ ! ” พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยว่า “ เย็นนี้ฉัน ต้องกลับบ้านไปทำอาหาร เย็นนี้คุณให้ผู้ช่วยของคุณซื้อ อาหารแล้วห่อเรียบร้อยส่งมาให้คุณเถอะนะ!”
ฟิวกอดอกไว้ พูดอย่างเกียจคร้านว่า “ ไม่ต้อง เย็นนี้ ทานมาม่าก็ได้แล้ว ”
“ ทานมาม่าเยอะเป็นผลร้ายต่อร่างกาย ตอนนี้คุณ ต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์
* ไม่มีวิธีอื่นนี่ นอกจากคุณ ผมไม่ชอบให้คนอื่นมา บ้านของผม ”
“ แล้วครอบครัวของคุณล่ะ ? พ่อของคุณ แม่ของ คุณล่ะ ? ” นานามองเขาแล้วถามอย่างสงสัย เพราะเป็น เพื่อนเขามาก็นับได้ว่านานแล้วเหมือนกัน ก็ไม่เห็นคนใน ครอบครัวเขามาเยี่ยมเขาเลย
” ผมไม่มีพ่อ ผมมีแต่แม่ เธอไม่ค่อยสนใจผมมากนัก ฟิวเอ่ยออกมาประโยคหนึ่งอย่างช้าๆ
นานาเบิกตากว้างน้อยๆ เขาน่าสงสารเหมือนกับเธอ นี่เอง แม้ว่าพ่อของเธอจะเป็นใครเธอรู้ แต่ว่าก็เหมือนกับ ไม่มีพ่อ พ่อที่เย็นชาอย่างนั้น เธอยังไม่อยากจะยอมรับ เลย !
“ ฟิว พ่อของคุณล่ะ เขาจากไปแล้วหรอคะ ? ” นานานั่งลงข้างๆเขา ถามเขาเสียงเบา
ฟิวมองเธอ แล้วส่ายศรีษะ ” เขายังอยู่บนโลกใบนี้ แต่เขามีบ้านมีครอบครัว และผมก็เป็นแค่สิ่งที่เหลือหลัง จากที่เขาเล่นสนุกแค่คืนเดียวเท่านั้นเอง
หัวใจของนานาปวดหนึบขึ้นมาทันที สายตาที่มอง เขามีความสงสารและความเป็นห่วง
“ค สะ ? พูดเรื่องของคุณสิ ! ” ฟิวเองก็สงสัยใน ตัวเธอมากเหมือนกัน แม้จะรู้ว่าเธอกับนารามีความสัมพันธ์ อะไรกันบางอย่าง แต่ยังไม่รู้ว่าพวกเธอมีความสัมพันธ์กัน แบบไหน
นานาเห็นว่าเขาเอ่ยฐานะของตัวเองออกมาตรงๆ แบบนี้ เธอเองก็ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง “ พ่อของฉันก็คือ พ่อของนารา แต่เขาไม่ยอมรับฉันตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งฉัน และแม่ไว้ไม่สนใจ สําหรับฉันแล้ว ฉันไม่ต้องการพ่อแบบนี้
ฟิวมองเธออย่างตกตะลึง “ คุณเป็นลูกสาวของ
วัฒ ?”
วัฒเองก็เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในเมืองเอเหมือน กัน สองปีก่อน วัฒรับการสั่งทำเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่าง จากบริษัทพาทิศ ดังนั้นฟิวเองก็เคยได้ยินมาบ้าง เวลานี้ ได้ยินว่านานาเป็นลูกสาวของเขา เขาอึ้งจริงๆ
“ คุณมองแล้วเกลียดเขามาก ฟิวมองเธออย่าง 33 ปวดใจ เวลานี้ เธอและเขามีความรู้สึกที่น่าสงสารเหมือน กัน
ไม่มีพ่อมาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน ขาดความรักของพ่อ ไป แน่นอนว่านานาน่าสงสารกว่าเขาอีก
พ่อรู้ว่าเธอยังอยู่ในโลกใบนี้ แต่กลับรังเกียจ “ฉัน เกลียดเขา เกลียดเขาที่เย็นชากับแม่ของฉันเมื่อหลายปี ก่อน จริงๆแล้วเขาหวังจะให้แม่ของฉันมีลูกชายอีกหนึ่ง คน น่าเสียดาย คลอดออกมาเป็นลูกผู้หญิง ดังนั้น เขาก็ เลยนับว่าไม่มีฉันลูกสาวคนนี้อยู่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ