ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 156 ป้อนฉันหน่อย



บทที่ 156 ป้อนฉันหน่อย

นานากัดฟันและพูดตอบโต้ทิวทันที “ฉันจะเลือกร้าน อาหารที่แพงที่สุด”

“ก็แล้วแต่เธอ”

“วันนี้ฉันจะดื่มไวน์หลุยส์ของแบรนด์ที13 หนึ่ง ขวด” นานารู้ว่าทิวมีเงินมากมาย เธอก็แค่อยากจะทำให้ เขารู้สึกรําคาญ

เธอหวังว่าครั้งต่อไปเขาคงจะไม่กล้าพาเธอมาทาน ข้าวอีกแล้ว

“เธอจะดื่มเท่าไหร่ก็ได้ ฉันจะสั่งให้เธอสิบขวดเลย” ผู้ชายคนนั้นยิ้ม

นานารู้สึกหงุดหงิดมากๆเพราะเธอไม่สามารถทำให้ เขารำคาญเธอได้ ผู้ชายคนนี้สามารถคุกคามเธอได้ทุก เมื่อ แต่ทำไมเธอถึงคุกคามเขากลับไม่ได้เลยน่ะ

นานาครุ่นคิดอย่างหนัก เธอไม่รู้ว่าร้านอาหารที่แพง ที่สุดอยู่ที่ไหน เธอได้แต่ยอมแพ้และหันหน้าหนีเมื่อไม่ สามารถต่อกรกับความร้ายกาจของผู้ชายคนนี้ได้ “นาย เลือกร้านอาหารเองเถอะ!”

ทิวแอบลอบยิ้มเมื่อเห็นท่าทางที่ฟืดฟัดของนานาเขาเอนตัวลงพิงกับเบาะอย่างสบายพลางบังคับพวงมา ลับเพื่อเคลื่อนตัวรถไปยังร้านอาหารที่ตนเองต้องการ เขา เหลือบมองร่างบางข้างๆที่เอาแต่เหม่อมองออกไปนอก หน้าต่าง สายตาที่เคยเย็นชาในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยร่อง รอยแห่งความสนใจในตัวผู้หญิงข้างๆ เขารู้สึกชอบมากๆ เวลาผู้หญิงคนนี้ยอมอ่อนข้อให้เขา

เธอทำให้เขารู้สึกราวกับว่าพบเจอเป้าหมายที่ตามหา มานานในชีวิต

“ฉันจะบอกข่าวดีกับเธอหนึ่งเรื่อง ตอนนี้นาราถูกคุม ขังเป็นเวลาหนึ่งเดือน หลังจากคดีลักพาตัวนี้เสร็จสิ้นเธอ อาจจะต้องติดคุกนานถึงสองปี

นานามีอาการตกใจมากเมื่อได้ยินข่าวที่ทิวบอกกับ เธอ นาราถูกจับยังงั้นเหรอ? ทำไมมันไวขนาดนี้ล่ะ? การ ติดคุกสองปีสำหรับผู้หญิงคนนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ เลยนะ!

“นั่นเป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับแล้วล่ะ” นานาตอบ กลับด้วยท่าทีที่ไม่มีแม้แต่ความสงสารผู้หญิงคนนั้น

ทิวเบี่ยงสายตาหันมาจับจ้องผู้หญิงข้างๆด้วยความ เป็นห่วง “ต่อไปถ้าใครมันกล้ามารังแกเธอ เธอต้องบอก ฉัน”
นานา เรื่องของนาราเป็นอย่างดีว่าอะไรเป็นแรง จูงใจให้ผู้หญิงคนนั้นลงมือลักพาตัวเธอ และเธอก็ต้อง ขอบคุณความช่วยเหลือของผู้ชายคนข้างๆนี้มากๆ ถ้าไม่ ได้ความช่วยเหลือจากเขา เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในตอนนี้ เธอจะเป็นอย่างไร

“ขอบคุณนะ” นานานพูดขอบคุณเขาออกไป แต่ ถึงอย่างไรเธอก็ยังตื้นตันในการช่วยเหลือของเขาอยู่ดี

“ฉันไม่ชอบคำขอบคุณที่มันออกมาจากปากสักเท่า ไหร่ ทางที่ดีเธอควรจะทำอะไรที่ทำให้ฉันพอใจเป็นการ ตอบแทนดีกว่านะ” ราวกับบรรยากาศในตอนนี้ช่างเป็นใจ เพราะขณะนี้รถของเขากำลังจอดติดไฟจราจรอยู่ ชายคน นั้นขยับตัวเข้ามาใกล้เธอเล็กน้อย และเผยรอยยิ้มที่ด้าน ล่างของมุมปาก ยามที่ดวงตาของเขาจ้องมองมายังเธอ มันช่างเหมือนกับปีศาจที่กำลังพยายามล่อลวงเด็กผู้หญิง ที่โง่เขลาคนหนึ่งอยู่ยังไงอย่างงั้น

เขากำลังใช้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความเป็น ชายหลอกล่อเธอให้ติดกับดัก

ใบหน้าเล็กๆเกิดอาการเขินอาย แก้มของเธอมีสีแดง ระเรื่อเล็กน้อย เธอค่อยๆขยับใบหน้าให้ห่างจากใบหน้า ของเขา
“ฉันให้ได้แค่คำขอบคุณ ถ้าเป็นอย่างอื่นฉันทำให้ไม่

ได้”

ทิวก็แค่แกล้งแซวเธอเล่นแค่นั้น เขาก็แค่อยากเห็น ใบหน้าเล็กของเธอขึ้นสีชมพูด้วยความเขินแค่นั้นแหละ เขาก็คงไม่มีความกล้ามากพอที่จะใช้ช่วงเวลาในการ ติดไฟจราจรมาทำเรื่องอะไรแบบนั้นได้หรอก

เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว รถยนต์คันหรูของเขาก็เคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็ว ทันที

ทิวยังคงพานานาไปที่ร้านอาหารราคาแพงที่เคยไป ในครั้งนั้น เพราะว่าเขาจำได้ว่าเธอชอบอาหารของที่ร้าน นั้นมาก

นานาเดินเข้าไปในร้านอาหารแห่งนี้ เธอคิดว่าร้าน แห่งนี้คงเป็นร้านอาหารที่แพงที่สุดในเมืองแห่งนี้แล้ว แหละ!

เมื่อเขาและเธอเดินไปถึงโต๊ะที่อยู่บริเวณริมหน้าต่าง ทิวจึงเป็นคนเริ่มสั่งเมนูอาหาร นานาจัดการรินน้ำชาลงใน ถ้วยและให้ทิวเป็นคนสั่งเมนูอาหารที่จะทานในตอนนี้เอง ซึ่งชายหนุ่มตรงหน้าสั่งอาหารทั้งหมดประมาณเกือบสิบ อย่าง
ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นจำนวน อาหารที่เขาสั่ง นี่ผู้ชายคนนี้จะให้เธอกินจนอ้วนเป็นหมู หรืออย่างไรกัน? แค่มากินอาหารกับเขาแค่สองมื้อน้ำหนัก ของเธอก็ขึ้นไปสามสี่กิโลแล้ว!

เอาไวน์แดงที่ฉันเคยสั่งมาให้ด้วย” ทิวหันไปพูด กับพนักงานที่ยืนจดเมนูอาหารอยู่

พอนานาได้ยินเขาสั่งไวน์ เธอก็เกิดอาหารประหม่า ขึ้นมาทันที สิ่งที่เธอเพิ่งพูดไปตอนอยู่ในรถเธอก็แค่พูด ไปเรื่อยไม่ได้อยากจะดื่มจริงๆซักหน่อย

แต่ผู้ชายตรงหน้าคนนี้กลับสั่งมันให้เธอจริงๆ “ไวน์ แดงเมื่อได้เปิดขวดแล้ว เธอควรรีบดื่มมันให้หมด เพราะ หากทิ้งไว้เป็นเวลานานรสชาติของมันจะไม่ดี เพราะฉะนั้น เธอจะต้องรับผิดชอบโดยการดื่มมันให้หมด

นานาได้แต่เบิกตาโพลงพลางรีบเอ่ยคัดค้านเขาใน ทันที “ฉันดื่มไม่หมดหรอก มันเยอะเกินไป

“ฉันเป็นคนขับรถดังนั้นฉันไม่ควรดื่ม” ทิวจัดการยก เหตุผลเพื่อให้ตนเองหลีกเลี่ยงในการรับผิดชอบไวน์ขวด นั้นกับเธอ “เมื่อกี้ใครกันนะที่พูดว่าอยากดื่มไวน์สักหนึ่ง ขวด เธอเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอ?”
นานาไม่สามารถโต้ตอบอะไรผู้ชายคนนี้ได้เลย เธอ คิดว่าการที่เธอได้อยู่กับผู้ชายคนนี้ไม่มีครั้งไหนที่เธอจะ สามารถเอาชนะเขาได้เลยสักครั้งหนึ่ง

ในเวลานั้นเองพนักงานคนเดิมก็นำขวดไวน์แดงเข้า มาเสิร์ฟ กลิ่นที่หอมของไวน์แดงมันชั่งเชิญชวนให้เธอ อยากดื่มมันซะจริงๆ แต่ก็คงไม่ทำให้เธออยากดื่มมันจน หมดทั้งขวดหรอกนะ! เพราะแค่เธอได้ดื่มมันนิดเดียวเธอ ก็เมาแทบแย่แล้ว

ทิวลุกขึ้นยืนพลางหยิบขวดไวน์แดงขึ้นมาเทใส่แก้ว ทรงสูงของเธอครึ่งแก้ว และใส่ในแก้วของตนเองอีกครึ่ง แก้ว “ฉันจะดื่มเป็นเพื่อนเธอครึ่งแก้ว

พอพูดจบเขาก็ยกแก้วขึ้นมา เพื่อขอให้เธอชนแก้ว

กับเขา

นานาก็ได้แต่มองไปที่แก้วทรงสูงนั้นและตัดสินใจ หยิบแก้วขึ้นมาชนกับแก้วของเขา ส่วนทิวนั้นก็ยกแก้วขึ้น ดื่มแล้วเอาแต่จ้องมองไปยังผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่ละ สายตา ภาพของนานาที่กำลังใช้ริมฝีปากสีชมพูหวานนั้น ค่อยๆจิบไวน์แดงจากแก้วทรงสูงอย่างช้าๆ ทำให้ทิวได้แต่ ลอบมองพลางแอบอมยิ้มอยู่คนเดียว
ทิวมองไปยังนานาอย่างชื่นชมเมื่อเห็นว่าเธอทําการ ดื่มไวน์แดงในแก้วที่รินไว้ครึ่งหนึ่งหมดลงไปแล้ว เธอ จัดการรินไวน์แดงนั้นลงในแก้วทรงสูงของเธออีกครั้งและ จิบมันไปเรื่อยๆ

เธอรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้สึกว่าใบหน้า ของเธอเริ่มมีอาการร้อนผะผ่าวขึ้นมาราวกับคนกำลังตก อยู่ในฤทธิ์ของไวน์ แต่ในขณะเดียวกันชายหนุ่มตรงหน้า กลับคิดว่าเวลาที่เธอมีสีหน้าราวกับคนกำลังจะเมานั้นกลับ สวยงามอย่างบอกไม่ถูก ร่างกายภายในกางเกงตัวใหญ่ กลับรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่กำลังขยายตัวอยู่ข้างในเมื่อเห็น ท่าทางที่แสนสวยงามของผู้หญิงตรงหน้า แต่ก่อนความ รู้สึกที่เขามีต่อผู้หญิงตรงหน้านั้นอาจจะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่เขากลับรู้สึกว่าเธอไม่จําเป็นต้องเข้าหาเขาเหมือนผู้ หญิงคนอื่นที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่เธอกลับทำให้หลงใน เสน่ห์ของตัวเธอเองโดยที่เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ราวกับว่าเธอ มีพลังดึงดูดบางอย่างที่อยู่ร่างกายบอบบางนั้นของเธอ

ร่างบางตรงหน้ากำลังทำให้เขาแทบจะทนไม่ได้กับ ความรู้สึกที่อยู่ภายในของตนเอง

ไม่น่าแปลกใจเลยจริงๆว่าทำไมเรื่องราวเมื่อห้าปีก่อน นั้น ยังทำให้เขาไม่สามารถลบเลือนภาพของหญิงสาว ตรงหน้าออกไปจากความคิดได้เลยสักคืน
นานาเงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงของทิวที่ลุกขึ้นยืน และจัดการรินไวน์ใส่แก้วของเธออีกครึ่งแก้ว เธอเริ่ม ครุ่นคิดว่าผู้ชายคนนี้อาจจะกำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่หรือเปล่า หรือว่าเขาจะมอมเธอให้เมา

เมื่อความคิดนั้นผุดขึ้นในสมองทำให้ร่างบางๆนี้ไม่ กล้าที่จะดื่มแก้วไวน์ตรงหน้าต่ออีกเลย ในขณะเดียวกัน พนักงานก็จัดการวางของหวานลงบนโต๊ะซึ่งนานาก็รู้สึก ว่ากำลังหิวอยู่พอดี นานาคิดว่าการที่เธอมาอยู่กับทิวนั้น หลายๆครั้งที่สมองของเธอมักคิดว่าเขากำลังพยายาม ล่อลวงอะไรบางอย่างจากเธอ ทำให้เธอต้องใช้พลังงาน เยอะมากเลยทีเดียวในการคิดหาวิธีต่อต้านเขา

นานาจัดการหยิบเอาขนมหวานที่เพิ่งถูกนำมาวาง ลงบนโต๊ะใส่เข้าปากทันที ตากลมโตเบิกโพลงขึ้นอย่าง สดใสเมื่อได้ลิ้มรสชาติของขนมที่อร่อยถูกใจ

เมนูทุกอย่างที่ทิวสั่งมาวันนี้ล้วนเป็นเมนูที่เขาเห็นว่า เธอชอบและมีความสุขในการกินดั่งเช่นครั้งแรกที่มา เขา จึงจดจำมันและจัดการสั่งมันมาให้เธอ และในวันนี้เธอ คงจะไม่รู้ว่าเมนูทุกอย่างที่เขาสั่งมาเขาล้วนใช้ใจในการ สั่งมันมาให้เธอทั้งหมด

ไม่เพียงแค่นั้นยังมีขนมอีกมากมายที่ถูกนำมาเสิร์ฟ เรื่อยๆ ทุกๆอย่างล้วนเป็นสิ่งที่เธอชอบทาน ซึ่งต่างจากทิวที่ไม่ชอบขนมหวานเลย เขาจึงค่อยๆจิบไวน์แดงและจ้อง มองใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของหญิงสาวตรงหน้าอย่างมีความ สุข

ดูเหมือนกับว่าผู้หญิงตรงหน้าคนนี้จะเป็นสิ่งที่น่า สนใจที่สุดสําหรับเขาแล้ว

ที่จริงแล้วในวันนี้เขาก็ยังไม่อยากกลับมาที่วิลล่า หรอก แต่เพราะสาเหตุอะไรก็ไม่รู้ ในระหว่างที่เขากำลัง เดินลงมายังชั้นล่างของตึก เขาก็มีความคิดที่อยากจะพา นานาออกไปทานข้าวนอกบ้าน เพราะเขากลัวว่าถ้านานา อยู่ที่วิลล่าเพียงคนเดียวเธอคงจะไม่ค่อยหาอะไรทาน และเขาก็อยากจะให้เธอมีน้ำมีนวลขึ้นอีกหน่อย เพราะเขา รู้สึกว่าเธอผอมมากๆ

แต่หลังจากได้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้อยู่ที่บ้านของฟิว ใน ขณะที่เขาอยากจะพาเธอทานอาหารกลางวันแต่เธอกลับ ไปดูแลผู้ชายคนอื่น แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาโกรธเธอได้ ยังไงล่ะ?

อาการโกรธที่ราวกับเธอกำลังทรยศเขา ยิ่งพอได้ รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เคยที่จะให้เขาเข้าไปอยู่ในใจหัวใจ ของเธอเลย

เธอมีความสุขมากใช่ไหมกับการที่ในใจมีผู้ชายอยู่ถึงสามสี่คน?

พอคิดได้ถึงตรงนี้ เขาก็อยากจะให้เธอรับรู้ไว้ว่าเธอ ต้องทําอย่างไร ในใจของเธอจะต้องมีเขาอยู่เพียงคน เดียวเท่านั้น

เธอต้องไม่สามารถมีผู้ชายคนอื่นอีกได้แล้ว

ในขณะที่นานากำลังกินขนมตรงหน้าอย่าง เอร็ดอร่อยอยู่นั้น เธอก็ต้องหยุดชะงักในการกินลงทันที เมื่อรู้สึกถึงสายตาที่กำลังมองเธออย่างนิ่งงันจากผู้ชาย ตรงหน้า เธอยื่นเอาขนมที่อยู่ในมือไปยังบริเวณที่เขานั่ง อยู่ “ฉันแบ่งให้นาย

เธอเข้าใจว่าผู้ชายคนนี้คงกำลังคิดว่าเธอทานเยอะ แน่ๆ พอทิวได้ยินคำชักชวนจากร่างบางๆนี้เขาก็เผยยิ้ม ออกมาทันที “ป้อนฉันหน่อย” สีหน้าของนานาเริ่มแดง ขึ้นทันที เธอลุกขึ้นยืนแล้วจึงหยิบเอาขนมที่ถืออยู่นั้นป้อน ไปยังปากของเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ