บทที่ 13 ลูกชายจอมชนกับคุณพ่อประทาน
เป็นไปไม่ได้หรอก ในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อนในผับมืด มาก ขนาดเธอยังมองหน้าเขาไม่ชัดเลย แล้วเขาเมามาก ขนาดนั้น เขาจะรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนั้นคือเธอ?
ทิวเห็นว่าเธอยังคงทำสีหน้าราวกับคนที่ไม่รู้จักกัน เลย ทำให้เขาก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้ง “เธอยังจะมา ปฏิเสธอีกเหรอ? หรือจะต้องให้ฉันไปถามเรื่องจี้อันนี้กับ
แม่ของเธอ เธอถึงจะรู้จักฉัน?
นานาแสดงอาการตื่นตระหนกทันทีเมื่อได้ยินคำขู่ จากปากของเขา เมื่อห้าปีก่อนในคืนนั้นที่เธอทำจี้ตกลง บนเตียง แล้วเขาก็เก็บมันไว้ยังงั้นหรอ?
“ไม่ใช่ ฉันว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้วแหล่ะ คนที่นอน กับคุณในคืนนั้นคือพี่สาวของฉันเอง ส่วนจี้นั่นฉันคงไม่ ระวังและทำมันตกไว้ที่ผับนั่น” เธอยังคงโกหกด้วยสีหน้า ที่ตื่นตระหนก แม้ว่าใบหน้าของเธอจะแดงระเรื่อจนเป็นที่ สังเกตได้ง่ายก็ตาม
ริมฝีปากหนาที่หยัดเป็นเส้นตรง เหยียดยิ้มเยือกเย็น ออกมาราวกับเยาะเย้ย “เธอคิดว่าฉันโง่จริงๆเหรอ?”
นานาได้แต่สายหน้าไปมา เวลานี้เธอไม่ต้องการให้ เขาโกรธเธอ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณทิว เด็กๆเป็นลูกของ ฉันกับผู้ชายคนอื่นจริงๆนะ ขอให้คุณอย่าเข้าใจผิดกันเลยพวกเราจะต้องรีบไปแล้ว ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ”
ใบหน้าที่เป็นชาของทิวก็จับจ้องมาที่เธอ เขาพูดออก มาว่า “อยากจะพิสูจน์ว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของฉันจริงๆ หรือเปล่า มันง่ายมาก ก็แค่ไปตรวจ DNA ก็รู้แล้ว”
นานาแสดงอาการตกใจออกมาทันที ใบหน้าของเธอ ซีดลง เธอตะโกนออกมาเสียงดังว่า “ไม่ได้”
“ไม่ได้?” ทิวมองเธอด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความ สนุกสนานที่เห็นอาการตื่นตระหนกของเธอ
“เด็กๆเป็นลูกของฉัน พวกเขาเป็นลูกของฉัน” นานาพูดซ้ำๆออกมาราวกับคนที่กำลังเสียสติ นี่มันอะไร กัน คนของบ้านสีธะยังไม่ทันจะมาถึงเลยนะ แต่ผู้ชายคนนี้ ก็ดันมาซะก่อนละ นี่สวรรค์กำลังเล่นตลกอะไรกับเธอกัน?
ฝ่ามือขนาดใหญ่ดึงแขนของเธอเข้ามาประชิดตัว เขายังคงถามซ้ำๆด้วยประโยคที่เย็นชาว่า “เด็กๆเป็นลูก ของฉันใช่ไหม?”
นานาได้แต่กัดริมฝีปาก เธอทำอะไรไม่ได้เลย
ทิวเห็นแบบนั้นจึงค่อยๆยื่นใบหน้าที่มีเสน่ห์เข้ามา ใกล้ๆ จนปลายจมูกของเขาเกือบจะสัมผัสกับใบหน้าของเธอ
การกระทำของผู้ชายตรงหน้ากำลังทำให้หัวใจของ เธอปันป่วนจนอยู่ไม่เป็นสุขเลยทีเดียว
ทิวกัดฟันเตือนเธออีกรั้ง “ทางที่ดี เธออย่าบังคับให้ ฉันพาพวกเขาไปด้วยวิธีอื่นเลยนะ”
นานามีอาการประหม่าเล็กน้อย อยากจะพูดกับเขา เหลือเกินว่า เขาเข้ามาใกล้เธอขนาดนี้ทำไม? เธอจะ ปฏิเสธเขาอย่างไรในเมื่อเขาบีบบังคับเธอทุกทางขนาดนี้ เธอได้แต่หายใจเข้าลึกๆแล้วจึงตัดสินใจพูดออกมาว่าใช่ เด็กๆเป็นลูกของคุณ แต่ว่าฉันเป็นคนเลี้ยงเด็กๆมาตลอด พวกเขาคงรู้แค่ว่าฉันเป็นแม่เพียงคนเดียว ดังนั้นเพื่อให้ เด็กๆคุณควรจะห่างจากพวกเราไว้”
“เธอคิดว่ามีเพียงฉันเท่านั้นเหรอที่เห็นเด็กๆในงาน หมั้น?” คนของบ้านสีธะก็เห็นกันหมดแล้ว หากพวกเขารู้ ว่าเธอมีลูกกับฉัน เธอคิดว่าพวกเขาจะปล่อยเธอกับลูกไป ง่ายๆงั้นเหรอ?”
นานาได้แต่คล้อยตามด้วยหัวใจที่แสนจะเย็นชาของ เธอ สิ่งที่เขาพูดมันไม่ผิดหรอก เพราะนี่ก็เป็นเรื่องที่เธอ กังวลที่สุด ถ้าคนของบ้านสีธะรู้ว่าลูกของเธอยังมีชีวิตอยู่ เขาคงไม่ปล่อยพวกเธอไว้แน่ๆ
“งานหมั้นวันนี้ของฉันกับนาราถูกยกเลิกไปแล้ว ใน สายตาของพวกเขาบัญชีเล่มนี้มีไว้สำหรับเธอ บางทีพวก เขาอาจจะกำลังตามหาเธอกับลูกด้วยความแค้นก็ได้”
นานามีอาการแปลกใจขึ้นมา “ทำไมคุณถึงยกเลิก งานหมั้นกับเขาล่ะ?”
“นั่นมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่จำเป็นต้องบอก กับเธอหรอก ทางที่ดีเธอกับลูกควรมาอยู่กับฉันนะ”
นานาสูดลมหายใจเข้าเบาๆแล้วค่อยๆคลายมือออก จากเขา แล้วจึงถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว มองตรงไปยัง เขาแล้วถามอีกฝ่ายด้วยความกลัวว่า “คุณจะพรากลูกไป จากฉันทำไม??
ทิวได้แต่ส่งสายตาไปมา ในตอนนี้เขายังมีอีกหลาย สิ่งที่คิดจะทำในอนาคต
เขาพึ่งรู้ตัวว่าลูกของเขายังมีชีวิตอยู่เมื่อไม่กี่ชั่วโมง นี้เอง การปรากฏตัวของลูกๆมันกระทันหันมากจนเขายัง ตกใจ แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่เขาสามารถรับปากด้วยใบหน้าที่ แน่วแน่กับเธอได้เลยว่า “ในตอนนี้อย่างน้อยฉันก็อนุญาต ให้เธอได้อยู่กับลูกต่อไปได้และมันจะไม่มีใครที่กล้ามา ทำร้ายพวกเธอได้อย่างแน่นอน”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ