ลูกชายจอมซนกับคุณพ่อประทาน

บทที่ 209 โจรปล้น



บทที่ 209 โจรปล้น

นานาอยากจะดูหนังดีๆแต่ว่ารำคาญคนข้างๆมาก เลย ทำให้เธอดูหนังได้ไม่สะดวกและตอนที่อยู่ในโรงหนัง หัวใจของเธอก็สับสนวุ่นวายไปด้วย

ผู้ชายคนนี้ไม่แย่งป๊อบคอร์นไปก็แย่งชานมเธอไปกิน

พอออกจากโรงหนังก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว เวลา กลางคืนของเดือนแปด บนท้องฟ้ามีดวงดาวระยิบ ระยับสว่างไสวเต็มไปหมด และในเวลานี้ เวลาครึกครื้น สนุกสนานตอนกลางคืนในตัวเมืองเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และ บนถนนที่เต็มไปด้วยไฟสีแดงเปรียบเสมือนเต็มไปด้วย บรรยากาศที่อบอุ่น

นานาเห็นว่าเวลาก็ดึกมากแล้ว เธอมองไปทางผู้ชาย คนนี้และพูดว่า “พวกเรากลับกันเถอะ!

“ฉันเริ่มหิวแล้วล่ะ ไปกินหาของกินกับฉันหน่อย สิ”ทิวพูดขึ้นมา

นานาตกใจไปครู่หนึ่ง แต่เธอก็ไม่มีข้อสงสัยอะไร และพูดว่า“ได้สิ จะไปกินอะไรล่ะ?”

ชีวิตประจำวันของทิวก็มีแต่กินอาหารในร้านอาหาร หรูๆ แต่ ที่นี่คงจะไม่มีร้านอาหารหรูแน่นอน เขารู้ดี
เวลานในร้านอาหารคงไม่มีแขกแล้ว อาจจะมีไม่กี่ โต๊ะ แต่ว่า พนักงงานของที่นี่ดูเหมือนจะไม่มีท่าทางที่ รําคาญอะไรเลย และพนักงานก็ยิ้มต้อนรับตลอดเวลา

นานาสั่งของหวานมากินและชาดอกไม้หนึ่งแก้ว และ ชายตรงหน้าก็สั่งเนื้อสเต๊กมากินกับไวน์แดง นานารู้ว่า ตอนกลางคืนเขาจะกินไม่เยอะ สุดท้ายทิวก็ยังสั่งรังนกให้ นานากิน

มองออกไปนอกหน้าต่างที่ตอนนี้มีแสงไฟระยิบระยับ บนท้องถนนเต็มไปหมดบวกกับบรรยากาศที่น่ามองนั้น

ในร้านอาหารที่มีเสียงดนตรีบรรเลงอยู่ช่างเหมาะกับ บรรยากาศมาก ไวน์ที่วางบนโต๊ะ ทิวเทให้เธอครึ่งแก้ว เขา ยกแก้วไวน์มาชนกับเธอ ท่าทางที่เขายกนั่นช่างสง่างาม มาก ดื่มกับฉันหน่อยสิ

นานารำคาญก็เลยยกขึ้นมาดื่มมันไป ไม่รู้ว่า บรรยากาศแบบนี้เริ่มทำให้คนรู้สึกขี้เกียจขึ้นมา หรือเป็น เพราะบรรยากาศที่สวยงามนี้

นานาสัมผัสได้ถึงรสชาติของไวน์ที่หอมหวาน อาหารของทิวถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ นานากินอาหารของตัว เอง และเห็นชายตรงหน้าที่ใช้มีดและส้อมเหมือนกับผู้ดีมี ชาติตระกูล
เขาตัดเนื้อชิ้นเล็กๆส่งไปให้เธอกิน นานาตกใจสักพัก เธอก็ส่ายหัวไปมาไม่กิน และชายคนนี้ก็มองเธอไปอย่าง บังคับให้เธอกิน

นานาก็เลยต้องกินไป ลองกินเนื้อนี้ดู มันเป็นเนื้อที่ อร่อยมาก ไม่แก่ไม่มันเกินไป

มองดูเธอที่กินลงไป ทิวก็ตัดชิ้นเล็กและส่งเข้าปาก ตัวเองไปอย่างสง่างาม นานา ดื่มรังนกของเธอพร้อมกับ มองชายตรงหน้าอย่างชื่นชม

“เมื่อไหร่จะไปรับเด็กๆเหรอ?”นานาคิดถึงลูกๆ

“ให้พวกเขาอยู่ตรงนั้นเล่นอีกสักพักทิวคิดว่าเขา อยากให้เด็กๆเล่นกับพ่อแม่ของเขาและคุณยายไปก่อน เด็กๆกับคนในครอบครัวมีความรู้สึกดีๆต่อกัน ภายหลังถ้า เขาแต่งงานกับผู้หญิงตรงหน้าก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องอะไร มาขัดใจแล้ว

นานาพยักหน้า กินอาหารตัวเองคนเดียวเงียบๆ จนถึงเวลาเที่ยงคืน

นานาตามทิวลงตึก พอเดินไปถึงรถ ข้างๆก็มีสวนสา ธารณะเล็กๆ และเงียบๆ ทิวมองไปที่เธอและพูดว่า “ไป เดินเล่นกับฉันไหม
นานาตกใจสักครู่ ไม่รู้ว่าทำไม เธอรู้สึกว่าวันนี้เธอจะ เป็นบ้าอยู่แล้ว ผู้ชายคนนี้บ้าหรือเปล่า งั้นเธอก็จะบ้าไป พร้อมกับเขาแล้วกัน

คืนนี้นานาใส่ชุดเดรส พออยู่ใต้แสงจากบนถนน เหมือนกับหญิงสาวจากเทพนิยายที่ตัวมีแสงเปร่งประกาย ออกมา ทิวมองไปที่เธอตลอดเวลา ในสายตาของเขามีออ ร่าออกมาอย่างปิดไม่มิด

นานาเดินไปช้าๆ ในดวงตาของชายคนนี้รู้สึกแปลก เหมือนมีแต่เธอที่อยู่ในสายตาเขา เธอเดินไปอย่างเพลินๆ แต่ไม่รู้ว่าใต้เท้ามีบันไดอยู่ และเธอไม่ทันระวังสุดท้ายก็ ล้มลงทันที

“โอ้ย…”เธอร้องออกมาอย่างตกใจ พึ่งพูดไปและก็ ล้มเลย เธอรู้สึกถึงมีหนึ่งมือมาจับเธอประคองขึ้นมา เธอ หันกลับไปแล้วล้มลงที่อ้อมกอดเขาต่อ ใบหน้าเล็กของ เธอก็เริ่มแดงขึ้นอีก

“เธอเป็นอะไรไหม! เสียงของเขาที่ถามมา

นานาตกใจจนใจหล่นวูบลงไปถึงตาตุ่มเลย ถ้าเบี้ อกี้เขาไม่ได้จับเธอไว้เธอคงล้มลงไปได้อย่างน่าเกลียด แน่นอน เธอส่ายหัวไปมา และมองไปที่ทางบันไดนั้นอย่าง แรง ใครมันมาทำบันไดอยู่ตรงนี้กันเนี่ย!
นานาเหยียบไปที่บันไดนั้น และมือของเธอก็ถูกเขา จับไว้ นานารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาความตกใจของตะกี้ได้หายไป ครึ่งแล้ว

ทั้งสองเดินไปถึงทางที่สงบไม่มีคน ต้นไม้ของที่นี่ สูงมาก สูงจนบังทางเดินบนถนน และบรรยากาศก็น่ากลัว มาก ถ้านานามาเดินที่นี่คนเดียวล่ะก็ เธอคงตกใจกลัวไป แล้ว

แต่ว่า วันนี้ผู้ชายคนนี้อยู่แล้วทำไมเธอถึงรู้สึก ปลอดภัยมาก เธอคิดว่า พอมีเขาอยู่น่าจะไม่มีอันตราย อะไร และเธอเพิ่งคิดแบบนี้เสร็จ ทันใดนั้นก็มีผู้ชายสอง คนเดินเข้ามา พวกเขาเหมือนจะไม่ได้มาเดินเล่นเพราะ การเดินของพวกเขาที่ดูเหมือนรีบ นานารู้สึกถึงเสียงเท้า เดินที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เดินหันไปข้างๆ ชายสองคนด้าน หลังเดินเข้ามาใกล้ พระเจ้า! หรือว่าจะเจอโจรเข้า

เธอจับมือทิวไว้แน่น และมองไปที่เขาอย่างกลัวๆ และสีหน้าของทิวก็เปลี่ยนไปจริงจังขึ้น เขามองไปด้าน หน้าที่มีคนเดินมาสองคน ใจของนานาเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ และถามไปเสียงเบาว่า “ทำไงดี?”

ทิวดึงเธอไปข้างๆและพูดปลอบเธอว่า “อย่ากังวล เลย มีฉันอยู่ทั้งคน”
และตอนนี้ผู้ชายสองคนก็รู้ว่าพวกเขารู้แล้ว พวกเขา ก็เอามีดออกมา คนนึงตะโกนออกมาทางทิวว่า“ถ้ารู้ตัว ก็ส่งกระเป๋าตังพวกแกมา โทรศัพท์ บัตรเครดิตและรหัส ออกมาด้วย ไม่งั้น หึๆ! พวกแกได้เห็นดีแน่

ทิวยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “พวกแกจะเข้ามาพร้อมกัน หรือจะเข้ามาทีละคนล่ะ?”

นานาเห็นมือทุกคนถือมีดไว้อยู่ ในใจก็เริ่มกังวลขึ้น มา เธอตะโกนไปทางพวกโจรว่า “พวกเราไม่มีเงินสัก หน่อย พวกแกไปเถอะ ไม่งั้นฉันจะร้องละนะ

“ถ้าเธอกล้าร้อง พวกเราจะแทงพวกแกสองคนเลย นะหัวหน้าพูดออกมาอย่างโหดๆ

ทิวจับมือนานามาปลอบเธอไปข้างๆนั้นเถอะ

“ทิว ไม่ได้นะ พวกนั้นมีมีดอยู่ใจของนานาตอนนี้ รู้สึกเป็นกังวลมาก เธอยอมที่จะเป็นคนขี้กลัวและหนีไปกับ เขาและไม่ให้เขาดีกับคนพวกนี้

“เชื่อฉันสิ ทิวรู้สึกได้ว่าเธอเป็นห่วงเขา ในใจเขาก็ พอใจมากแล้ว“พี่ครับ อย่าเสียเวลาเลย ผมว่าผู้ชายคนนี้ น่าจะมีเงินอยู่มาก แย่งมาก่อนเถอะครับ โจรคนหนึ่งพูด ออกมา มองดูทิวที่ตอนนี้เหมือนนักธุรกิจ อาจจะมีเงินและรวยมากก็ได้ พวกเขาคงไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ