บทที่ 63 เด่นสะดุดตา

เธอเป็นพนักงานของๆฟิว ไม่ใช่แฟนของฟิวสัก

หน่อย!

“เฮ้ย ฟิว ปล่อยฉัน” นานาสั่ง

ผู้จัดการเหมยที่อยู่ข้างๆตกใจ เพราะว่านิสัยของ วนั้นเย็นชาสุดๆ คนธรรมดาไม่กล้าไปยุ่งกับเขาเลย อีก อย่าง นานายังสั่งเธอ และเรียกชื่อเขาสะขนาดนั้น

ฟิวไม่ยอมปล่อย

นานาโดนเขาจับมือไว้แล้วเดินเข้าไปในงาน ทีมงาน รีบขึ้นไปต้อนรับเขา “คุณฟิว เชิญทางนี้ครับ

ได้ยินเสียงกรี๊ดจากสาวๆข้างๆ “โอ้ย!หล่อมากเลย

“ไม่คิดว่าจะสูงขนาดนี้ เอะ คนที่เขาจับมือด้วย

ใคร?”

นานาใช้แรงทั้งหมดกว่าจะดึงมือออกมาจากมือของ ฟิว เธอหันไปมอง ทิวกำลังยืนคุยอะไรกับคนในงานอยู่

ใบหน้าที่ดูดี ทำให้ผู้ชายที่อยู่ข้างๆแถวนั้นรัศมีดับไป

หมดเลย
ในงานนี้ น่าจะมีแค่ฟิวทีพอจะเทียบกับเขาได้

เห็นพวกข้าราชการเดินมา นานาเลยเดินถอยหลัง อย่างอัตโนมัติ

หลังจากนั้น พวกข้าราชการก็เดินมาคุยกับฟิวอย่าง เคารพ “คุณชายฟิว เราดีใจมากที่คุณมาร่วมงานนี้

“ถูกเชิญมางานนี้ ผมก็ดีใจเช่นกันครับ ฟิวพูดพร้อม

รอยยิ้ม

และตอนนี้ ทิวก็กำลังเดินมาทางนี้ คนที่เพิ่งต้อ นรับฟิวรีบหันไปต้อนรับเขาทันที “คุณทิว ยินดีต้อนรับนะ ครับ เชิญทางนี้เลยครับ

ทิวรู้ว่านานาอยู่ข้างๆ แต่สายตาของเขาเหมือนไม่รู้ จักนานาเลย ไม่ได้มองเธอเลยด้วยซ้ำ

นานาคิดในใจ ตอนนี้ทิวเป็นคนสำคัญของงานนี้ จะ

มาสนใจคนธรรมดาแบบเธอได้ไง เสียหน้าเปล่าๆ

ใช่สิ เธอก็รู้ ว่าทิวหน่ะไม่ได้สนใจหรือใส่ใจเธอ แม้แต่นิดเลย

สิ่งที่แปลกกว่านี้คือ เวลาที่ทิวและฟิวยืนอยู่ด้วยกัน และหลาย ๆ เมืองต่างคนต่างไม่อยากพูด
แต่สองคนนี้ โดดเด่นในหมู่คนมาก

นานารู้สึกว่าเขาสองคนมีความคล้ายกันนิดๆ เธอมอง ข้างหลังของพวกเขาสองคน ฟิวเตี้ยกว่าทิวประมาณครึ่ง นิ้ว แต่สำหรับคนธรรมดา ส่วนสูง183คือสูงมากแล้ว

“เดี๋ยวงานก็จะเริ่มแล้วนะครับ ตอนนี้ ให้ทั้งสองท่าน ตามผมมานะครับ ชายคนหนึ่งเดินมาพูด

“ผมพาหญิงถือพานของฉันไปได้ไหมครับ?”ฟิว

“ได้ครับ”

ฟิวหันไปบอกนานา “ตามฉันมา

นานาหงุดหงิดนิดหนึ่ง ในงานก็มีหญิงถือพานให้ แล้ว ทำไมต้องเรียกเธอไปด้วย?นานาได้แต่เดินตามฟิว

ไปแบบหงุดหงิด

ทิวเดินอยู่ข้างหน้าของเธอ สีหน้าอันเย็นชาของทิว คนมากมายในงานนี้ ต่างมองมาทางเขา

ตอนที่เดินมาใกล้ประตู แสงอาทิตย์ส่องมาที่หน้า ของเขา ทำให้ยิ่งดูดีและหล่อเข้าไปใหญ่
ตอนที่นานาจ้องทิวอยู่ เธอไม่รู้ว่าฟิวที่อยู่ข้างๆก็ กำลังจ้องมองทิวอยู่เหมือนกัน สายตาที่มองทิว มีความ โกรธแค้นซ้อนอยู่

เป็นลูกของชายคนนั้นเหมือนกัน แต่ทำไมทิวถึงดู โดดเด่น แต่เขากลับต้องใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อ ที่จะได้มาออกงานนี้

ไม่ยุติธรรมเลย

ระหว่างที่ของทิวและฟิว มีที่ของอีกคนขึ้นอยู่ นานา รับพานที่ใส่กรรไกรไป

ตอนนี้ เสียงของพิธีกรเสียงดังฟังชัดมาก และข้าง หน้าเต็มไปด้วยนักข่าวที่ถ่ายรูป เสียงชัตเตอร์ดังแชะๆ จน เอามาร้องเป็นเพลงได้เลย

นี่เป็นงานที่ดังไปทั่วเมือง พอที่จะทำให้ทุกคนสนใจ เพราะวันนี้มีคนสองคนที่ทุกคนต่างตั้งตารออยู่

คนหนึ่งเป็นราชาด้านธุรกิจ อีกคนหนึ่งคือดาราที่โด่ง ดังทั่ววงการ แค่สายตาของพวกเขาหรือสีหน้าของพวก เขาก็ทำเป็นข่าวดังได้

นานายืนอยู่หลังของฟิว แต่สายตาของเธอก็ยังคงจ้องมองมาทางทิว

ยังไงนี่ก็เป็นพ่อของลูกเธอ

ใบหน้าที่ดูดี ไม่มีข้อเสียแม้แต่นิดหนึ่ง เสื้อสูทที่ไม่มี รอยยับ ชายคนนี้ หล่อดูดี ทำให้แสดงอาทิตย์ยังต้องดับ เพราะความหล่อของเขา

แล้วนานาก็หันไปมองฟิว พวกเขาสองคนมีใบหน้า ที่คล้านกันมาก และมีเสน่ห์เหมือนกัน แน่ใจหรอว่าเขา ไม่ใช่พี่น้องกัน!

นานาคิดว่าพวกเขาสองคนน่าจะเป็นพี่น้องกันซะดี

กว่า

เสียงของพิธีกรดังมาก พิธีกรกำลังพูดคำอวยพร และตอน12โมงตรง เธอให้ทุกคนหยิบกรรไกรที่อยู่ข้าง

หลัง เริ่มตัดริบบิ้น

นานาจับพานไว้แน่นๆให้ฟิวหยิบกรรไกรไป และ

ตอนนี้ นานารู้สึกถึงสายตาที่เลวร้ายกำลังจ้องมองมาทาง เธอ เป็นทิวนี้เอง ทิวหันหลังไปหยิบกรรไกร สายตาของ เขากวาดมาเห็นนานา เขาเอาแต่จ้องนานา

นานาคิดในใจ กรรไกรที่ทิวถือเหมือนจะไม่ได้เอามาตัดริบบิ้น แต่เหมือนจะเอามาตัดคอต่างหาก

ให้ตายสิ กฎนี้เธอเป็นคนตั้งเองไม่ใช่หรอ?

ไม่ยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่า ตอนนี้เธอจะมางานนี้กับฟิว ทิวก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะว่าอะไรอยู่

แล้วนิ?

ฉีก!

ทุกคนตัดริบบิ้นพร้อมกัน และเสียงปรบมือดังสนั่น

ลั่นงานเลย

อยู่ถ่ายรูปสักสองสามนาที เห็นแค่ทิววางกรรไกร และมองนานาแล้วเดินจากไป ตอนที่ฟิวมองเธอ เธอก็

กำลังเหม่อลอย

“เหม่อลอยอะไรอยู่เนี่ย!”ฟิวยักคิ้วแล้วถาม

“เดี๋ยวเรากลับบริษัทเลยใช่ไหม?”นานาถาม เพราะ

ว่าเธอไม่อยากเจอทิวอีกแล้ว

“น่าจะมีงานกินเลี้ยงนะ เดี๋ยวฉันดูว่าปฏิเสธได้ ไหม” ฟิวพูดจบ เห็นทิวกำลังคุยกับผู้จัดงานอยู่ เขายิ้มมุม ปากแล้วจับมือนานาเดินไปทางที่ทิวอยู่
“เฮ้ย! นายอย่ามาจับมือฉันมั่วได้ไหม วันนี้นักข่าว เยอะ ฉันไม่อยากเป็นชาวลือกับนายนานาพูดด้วยความ หงุดหงิด

ฟิวส่งสัญญาณให้ผู้จัดการเหมยที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้ว เดินจับมือไปกับนานา ตอนที่ใกล้ถึงที่ทิวอยู่ ฟิวเปลี่ยน จากจับมือเป็นท่าโอบเอวแทน

ตอนแรกสายตาของทิวที่กำลังมองผู้จัดงานที่คุย ด้วยอยู่ แต่ตอนนี้สายตาของทิวมองมาที่ชายหญิงคู่นั้นที่ เดินผ่านไป

ดูออกเลยว่าทิวกำลังโมโห แม้กระทั่งผู้จัดงานที่ กำลังคุยกับทิวยังรู้สึกได้เลย

และผู้จัดการเหมยที่คอยสังเกตอยู่ข้างหลัง รู้เลยว่า

ทิวสนใจมานาจริงๆ

นานาโมโหมาก ทำไมฟิวต้องมาแตะต้องตัวเธอ

ด้วย?พอออกจากงาน ไปถึงที่ลานจอดรถ เธอก็รีบถอย ออกมา แล้วเดือนฟิวแบบโมโหว่า “ฟิว ถ้านายยังทำแบ บนี้อีก ฉันจะไม่ทำงานนี้ละนะ