ตอนที่ 102 ถ้าฉันไม่หย่าล่ะ
จิ้งเจ๋อมองดูโม่ฮุ่ยหลิงด้วยสีหน้ารังเกียจ “นี่เธอเป็นอะไรกัน แน่ ฮุ่ยหลิง ทำไมถึงได้ก่อความวุ่นวายขึ้นที่นี่
วุ่นวายเหรอ เธอเป็นคนก่อความวุ่นวายงั้นเหรอ
โม่ฮุ่ยหลิงมองเขาอย่างเกรี้ยวกราด “จิ้งเจ๋อ ฉันขอถาม คุณนะคะ ว่าผู้หญิงคนนั้นยังไงกันแน่ ทำไมคุณถึงพาหล่อน มาที่ห้องอาหารของเรา
ชายหนุ่มหันไปมองข้างในห้อง “มันเป็นห้องของเราตั้งแต่ เมื่อไหร่กัน
“ฉัน… โม่ฮียหลิงมองเขาด้วยสีหน้าชวนให้ตกใจอย่างที่สุด “มันต้องเป็นห้องของเราสิคะ ก็เรามาที่นี่กันเป็นประจำนา”
เขาตอบเรียบๆ ว่า “ร้านนี้เป็นร้านโปรดของฉัน นอกจาก เธอแล้ว พี่ชาย น้องชาย และครอบครัวของฉันทุกคนก็มาที่นี่ กันทั้งนั้น เพื่อนๆ ของฉันก็เหมือนกัน
“แต่… เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะตอบแบบนี้ เธอคิดมาตลอด ว่านี่เป็นห้องของเธอและเขาเท่านั้น
เธอมาที่นี่กับเขาเสมอ และเวลาที่เธอมาที่นี่ตามลำพัง พวกเขาก็ให้การต้อนรับเธอเป็นอย่างดี เห็นอยู่ชัดๆ ว่ามันเป็นห้องสำหรับเธอและเขาเท่านั้น แล้วเมื่อได้รู้ว่าเขาพานั่งผู้หญิง แพศยานั้นมาที่นี่ด้วย จะให้เธอทนยอมรับได้ยังไงกันล่ะ
จิ้งเจ๋อมองหน้าไม่ฮุ่ยหลิง “เธอดูสิว่าเธอรบกวนคนอื่น เขาแค่ไหน รีบกลับไปซะเถอะ
แต่หญิงสาวไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ เธอยังไม่ยอมกลับ
หรอก
“ไม่ค่ะ ตอนที่คุณกินอาหารกับเธอ คุณถึงกับหัวเราะออก มาอย่างมีความสุขเสียขนาดนั้น ฉันรู้สึกไม่ดีเลยนะคะ
ชายหนุ่มสูดหายใจยาว พยายามที่จะควบคุมอารมณ์ตัว เองอย่างเต็มที่ ทั้งที่ลึกๆ แล้วเขากำลังเดือดปุด “ฉันมากิน อาหารกับเขา อย่าบอกนะว่าจะยอมให้ฉันกินข้าวไม่ได้นะ
“แต่…” โม่ยุ่ยหลิงกัดฟันกรอด ไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร
แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มมีท่าทีไม่พอใจ เธอก็เริ่มเสียง อ่อนลง “จิ้งเจ๋อคะ วันนี้ฉันพาเพื่อนๆ มากินอาหารด้วย แต่ฉัน ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณกับหล่อนอยู่ด้วยกันแบบนี้ ใครๆ ก็รู้กัน ทั้งนั้นว่าเราเป็นคู่รักกัน พอพวกเขาเห็นคุณมากับหล่อนอย่างนี้ แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนละคะ ในสายตาคนอื่น ฉันอาจจะ กลายเป็นผู้หญิงที่ถูกคุณทิ้งไปแล้วก็ได้…จะให้ฉันเจอกับเรื่อง แบบนี้ได้ยังไงกันคะ”
เขามองหน้าเธอ “ฮุ่ยหลิง…อย่าไปสนใจเลยว่าใครจะคิด ยังไงน่ะ”
“ใช่สิคะ ก็คุณไม่ได้เป็นคนโดนนี่ คุณจะมาสนใจอะไร ล่ะ!” โม่ฮุ่ยหลิงขึ้นเสียงใส่
เขามองหน้าเธอ เธอก็น่าจะบอกพวกเพื่อนๆ ตั้งนานแล้ว นะว่าฉันแต่งงานแล้ว และเราก็ไม่ใช่คู่รักกันอีกต่อไปแล้ว ถ้า เป็นแบบนั้นก็จะได้ไม่มีใครต้องตกใจ แล้วเหตุการณ์วันนี้ก็จะ ไม่ได้กลายเป็นเรื่องตลก ในสายตาใคร
“คุณ…” ไม่ยุ่ยหลิงปั่นป่วนใจไปหมด “คุณบอกว่าเรา ไม่ใช่คนรักกันอีกแล้วงั้นเหรอคะ จิ้งเจ๋อ เรายังเป็นแฟนกันอยู่ นะคะ คุณยังเป็นของฉัน ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวคุณก็ต้องหย่ากับ หล่อน ฉันบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วนี่ว่าฉันจะรอคุณ!
“ใช่ ไม่ช้าก็เร็วเราจะหย่ากัน แต่สำหรับตอนนี้เรายังไม่ ได้หย่า เราใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน และเราจะพูดคุยกันอีกครั้ง เมื่อเวลานั้นมาถึง ฉันบอกเธอไปแล้วไงล่ะ ว่าให้หาผู้ชายคน อื่นเถอะ เธอต้องมองไปที่อนาคตข้างหน้า ไม่มีใครรู้หรอกว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น ตอนที่ฉันแต่งงาน ฉันเองก็ไม่คิดเหมือนกัน
เขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้ใช้วันเวลาเช่นนี้กับหลินเชื่อ
ทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า “หย่า” เขาก็รู้สึกปั่นป่วนหัวใจไป
หมด
เขาไม่อยากคอยเตือนตัวเองว่าวันหนึ่งข้างหน้าเขาจะต้อง หย่า เขากำลังเคยชินกับการใช้ชีวิตร่วมกับหลินเซ่อมากขึ้นทุกที
“คุณไม่คิดเหมือนกันว่าอะไรคะ” ไม่ยุ่ยหลิงถามขึ้น หวาด กลัวในสิ่งที่เขาจะพูดต่อไปเหลือเกิน
แต่แทนที่จะตอบ ชายหนุ่มกลับสูดลมหายใจยาวและพูด ว่า “ฉันไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าเราจะหย่ากันหรือเปล่า และต่อ ให้หย่า ฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าฉันจะหย่าเมื่อไหร่
โม่ฮุ่ยหลิงกัดฟันแน่น “ฉันไม่สนใจว่ามันจะนานแค่ไหน
ฉันจะรอ!”
“ฮุ่ยหลิง!” เขาจ้องหน้าเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “แล้วถ้าฉัน ไม่หย่าล่ะ”
“คุณ” เธอโถมกายเข้าใส่เขา “ถ้าคุณไม่หย่า งั้นฉันก็ขอ ตายดีกว่ายอมเสียคุณไปค่ะ ฉันยอมตายซะดีกว่าที่จะต้องไป จากคุณ จิ้งเจ๋อคะ คุณจะต้องหย่า คุณต้องหย่าค่ะ! ทำไมคุณ ถึงจะไม่หย่าล่ะคะ”
น้ำตาของเธอไหลพรากจนเปียกเสื้อผ้า ทำเอาเขาเริ่มรู้สึก อึดอัด ชายหนุ่มทำได้แค่เพียงยืนดูเธอสะอึกสะอื้นโดยไม่ ผลักไสออกไป
เขาไม่ได้พูดอะไรอีกด้วยนิสัยของเธอดี จิ้งเจ๋อไม่แน่ใจ เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่เขารู้ดีว่าตอนนี้ใจ ของเขากำลังวุ่นวายปั่นป่วนอย่างหนักจนต้องโพล่งคำพูดเหล่า นั้นออกไป
ทว่าเมื่อได้เห็นโม่ฮุ่ยหลิงร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือดแบบนี้ เขาก็เริ่มรู้สึกเสียใจ เพราะสถานการณ์วุ่นวาย เขาเลยพูดออกไปโดยไม่ทันได้ยั้งคิด
ในชั่วขณะนั้นเองที่คำว่า “ไม่หย่า” เริ่มอันตรธานหายไป จากความคิด
“เอาล่ะ หยุดร้องไห้เถอะ ฮุ่ยหลิง
เมื่อได้ยินเสียงเขาเริ่มอ่อนลง โม่ฮุ่ยหลิงก็รู้ได้ว่าเธอยัง คงเป็นคนพิเศษสำหรับเขา หญิงสาวจึงค่อยๆ ถอนสะอื้นและ หยุดร้องไห้ในที่สุด
เธอกับเขาชอบพอกันมาตั้งหลายปี ความรู้สึกนี้จะหมดไป เฉยๆ เพียงเพราะการปรากฏตัวของหลินเชื่อได้อย่างไรกัน
จิ้งเจ๋อพูดว่า “เอาล่ะ เธอไปกินข้าวเถอะ ฉันต้องกลับ แล้ว”
เธอฟังและยอมพยักหน้าแต่โดยดี “อีกไม่กี่วันก็จะถึง
เทศกาลซีซี [1] แล้ว ฉันอยากอยู่กับคุณในวันนั้นนะคะ
“อีกไม่กี่วันจะถึงเทศกาลซีซีแล้วเหรอ
“ใช่ค่ะ”
“แต่ว่าฮุ่ยหลิง ช่วงเทศกาลซีซีตระกูลมักจะเดินทางไป พักผ่อนกันทุกปี ฉันคงอยู่กับเธอด้วยไม่ได้
โม่ฮุ่ยหลิงคิดแล้วก็หัวเสีย ตระกูลบ้านก็ทำเสียเรื่องซะจริงเชียว
“ก็ได้ค่ะ ถ้างั้นคุณต้องชดเชยให้ฉันคราวหน้านะคะ
เมื่อชายหนุ่มกลับไปแล้ว เพื่อนๆ ของไม่ยุ่ยหลิงก็ค่อยๆ โผล่หน้ามาทีละคนสองคน
ทุกคนต่างตกตะลึงที่ได้เห็นผู้หญิงอีกคนยืนอยู่เคียงข้าง จิ้งเจ๋อ
หลังจากที่คอยตามจิ้งเจือชนิดเป็นเงาตามตัวมาหลายปี พวกเธอไม่คิดเลยว่าไม่ฮุ่ยหลิงจะยังฝ่าด่านเข้าสู่ตระกูลไม่ได้ เช่นนี้ ดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่โม่ฮุ่ยหลิงทุ่มเทลงไปจะกลายเป็น เรื่องสูญเปล่าไปเสียแล้วสิ
โม่ฮุ่ยหลิงหันมามองบรรดาเพื่อนสาวแล้วก็ปืนใส่อย่างมี อารมณ์ “พวกเธอมองอะไรกันนะ แม่นั่นเป็นแค่ผู้หญิงแพศยา ที่ทางครอบครัวเขาจัดหามาให้เท่านั้น เขายังรักฉัน รักฉันคน เดียวเท่านั้นด้วย ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะหาทางกำจัดนังมารนั่นเอง ฮี นังนั่นมันก็แค่ของไร้ค่าน่ะ
ชายหนุ่มเดินออกไปนอกร้านและเห็นหลินเชื่อกำลังรออยู่
ในรถด้วยความร้อนใจ
เมื่อเธอเห็นเขาก็รีบถามขึ้นทันทีว่า “คุณช่วยปลอบเธอให้ สงบได้หรือยังคะ
เขาก้าวเข้ามาในรถ “เขาเข้าใจผิดนะ เขาคิดว่าห้องนั้น เป็นของฉันกับเขาเท่านั้น ทั้งที่ความจริงมันไม่ได้มีอะไรพิเศษ ถึงขนาดนั้นเลย ฉันเองก็พาครอบครัวมากินข้าวที่นี่อยู่บ่อยๆ
หลินเซ่อรีบพูดขึ้นว่า “คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายกับฉัน หรอกค่ะ ฉันไม่สนใจหรอก แต่วิธีที่คุณพูดกับเธอน่ะคงทำให้ เธอโกรธมากเลยทีเดียว เธอคิดว่ามันเป็นที่ของเธอ แต่คุณ กลับบอกว่าไม่ใช่
“ก็มันไม่ใช่นี่ แล้วจะให้ฉันพูดว่าอะไรล่ะ
“ ” หลินเชื่อคิด อีตานี่ฉลาดเป็นกรดได้ทุกเรื่องแต่พอ เป็นเรื่องแบบนี้กลับรู้น้อยไปเสียอย่างนั้น ทำไมเขาถึงไม่ เข้าใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์เอาซะเลยนะ
สำหรับโม่ฮุ่ยหลิงที่คบหากับเขามาตลอดระยะเวลาหลาย ปีแบบนี้ ความอดทนของเธอจะต้องสูงมากๆ เลยทีเดียว
หลินเซ่อพูดว่า “ช่างมันเถอะค่ะ เสียเวลาเปล่าๆ ที่จะต้อง มาอธิบายเรื่องความสัมพันธ์กับคนซื่อบื่ออย่างคุณ
กู้จิ้งเจ๋อเองก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันที่เขาจะต้องรีบอธิบาย
สิ่งต่างๆ ให้เธอฟังโดยเร็วแบบนี้
แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้ เขาร้อนใจอยากรีบ บอกเธอให้รู้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นที่พิเศษของเขาและไม่ ฮุ่ยหลิงเลยสักนิดเดียว
และแล้วผู้จัดการภัตตาคารก็เดินออกมาและพูดขึ้นว่า
“คุณครับ ผมอยากจะขอพูดอะไรด้วยสักหน่อย
“อะไร”
“มีบิลค่าอาหารจำนวนมากของคุณผู้หญิงโม่ที่สั่งให้จ่ายภายใต้ชื่อของคุณครับ” ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้จัดการเชื่อมั่น หนักหนาว่าคุณผู้หญิงไม่คือว่าที่คุณนายอย่างแน่นอน เขาจึง ไม่เคยพูดอะไรขึ้นมา
แต่เมื่อได้เห็นจิ้งเจ๋อพาผู้หญิงคนอื่นมาที่นี่เช่นนี้ เขาเอง ก็ชักไม่แน่ใจและเกรงว่าจะกลายเป็นปัญหาขึ้นมาได้ จึงต้อง รีบน่าบิลค่าอาหารทั้งหมดออกมาแสดงให้ชายหนุ่มได้รู้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ