แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 35 กู้จิ้งเจ๋อคะ ขาฉันเจ็บ



ตอนที่ 35 กู้จิ้งเจ๋อคะ ขาฉันเจ็บ

นายแพทย์ประจำตระกูลเข้ามาเปลี่ยนยาให้หลินเซ่อ เมื่อเสร็จ ภารกิจเรียบร้อย หญิงสาวจึงจะนอนพักต่อ แต่เมื่อเธอกลับ เข้าไปในห้องก็ไม่เห็นวี่แววของจิ้งเจอแล้ว

หลินเซ่อเรียกตัวสาวใช้เอาไว้แล้วถามว่า “คุณผู้ชาย ทํางานอยู่เหรอ”

สาวใช้ตอบว่า “คุณผู้ชายอยู่ในห้องทำงานตลอดเลยค่ะ ไม่ได้ออกมาจากห้องเลย

หลินเชื่อนิ่งคิดอยู่เป็นครู่ก่อนจะเลื่อนวีลแชร์ของตัวเองไป

ยังห้องทํางาน

“กู้จิ้งเจ๋อ” เธอเคาะประตูห้องแล้วร้องเรียก “จิ้งเจ๋อ คุณ เป็นอะไรไปนะ คุณโกรธเหรอ”

ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นภายในห้อง

หลินเชอร้องเรียกอีก “ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่ามันจะ ไม่เกิดขึ้นอีกนะ อีกอย่างฉันไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องนี้ด้วยนะ ฉัน เองก็งงเหมือนกันว่ามันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง แล้วคุณยังจะ ให้ฉันทำอะไรได้อีกล่ะ

ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออก
กู้จิ้งเจ๋อมองเธอด้วยใบหน้าเฉยเมยไร้ความรู้สึก “ใคร บอกเธอว่าฉันโกรธ

“เอ่อ ก็ ”

แล้วอยู่ๆ ประตูก็ปิดลง

หลินเซ่อยืนงงที่โดนปิดประตูใส่ “ขนาดนี้แล้ว ยังบอกว่า

ไม่โกรธอีกเหรอ…

อีตา ปากอย่างใจอย่างชัดๆ

เมื่อไม่มีทางเลือก หญิงสาวจึงไถรถวีลแชร์ออกไปและได้ เห็นใครบอกคนกำลังเดินเข้ามาจากด้านนอก

บุคคลนั้นเป็นผู้ชายในวัยราวสามสิบ แต่งกายด้วยชุด สีน้ำเงินตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

เธอไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน สีหน้าของหญิงสาวจึงเต็ม ไปด้วยความฉงน

เมื่อเขาเห็นเธอ เขาก็ส่งยิ้มให้แล้วเดินตรงเข้ามาทันที

“คุณนาย ได้เจอกันสักทีนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก

หลินเชื่อยืนอ เธอยกนิ้วจิ้มที่ตัวเองแล้วถามว่า “คุณรู้จักฉันด้วยเหรอคะ”

“คุณนายก ผมเป็นแพทย์ประจำตัวของคุณ ผมชื่อเงินอ เฉิง คุณเรียกผมว่าหมอเฉินก็ได้ครับ คุณคงจะเคยได้ยินชื่อ ผมจากคุณกู้มาบ้างแล้ว
“เขาไม่เคยพูดถึงเลยค่ะ…” หลินเชื่อว่า

“ ” เฉินอวี่เฉิงยังคงยิ้มจนตาหยีอยู่นั่นเอง เมื่อเอ่ยต่อไป “ไม่เป็นไรหรอกครับ ฮ่าๆ คุณเป็นคนแบบนี้แหละ พวกปาก ร้ายใจดีน่ะ ผมก็ชอบที่เขาเป็นแบบนี้นะครับ

หลินเชื่อไม่เคยรู้ถึงนิสัยข้อนี้เลย

เธอมองดูเฉินอวี่เฉิงอย่างเห็นใจและปลอบอีกฝ่ายว่า “ใช่ ค่ะ จิ้งเจ๋อเป็นพวกนิสัยไม่เหมือนชาวบ้าน แต่ถ้าเริ่มชินแล้วก็ พอจะทนไหวอยู่

เฉินอวี่เฉิงยังคงยิ้มจนหางตายนอยู่เช่นเดิม เขาเป็นคน อารมณ์ดีและมีชีวิตชีวาอย่างมาก “ผมได้ยินเรื่องคุณมาก่อนหน้านี้แล้ว เป็นเกียรติอย่างยิ่ง

ที่ได้พบกับคุณนายกู้ในวันนี้นะครับ อา จริงสิ เกิดอะไรขึ้นกับ

คุณเหรอครับ ทำไมคุณถึงมาอยู่นอกห้องแบบนี้ล่ะ

หลินเซ่อพูดไม่ออก แต่ก็พยายามจะอธิบาย “เขาไม่…เขา เหมือนจะโกรธนะค่ะ”

“หือ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ มีอะไรกันแน่ ช่วยเล่าให้ผมฟัง หน่อยได้มั้ย”

หลินเชื่อยังมีทีท่าลังเล

เมื่ออีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงความไม่มั่นใจของเธอ เฉินอวี่เฉิง จึงเอ่ยขึ้นว่า “ใจเย็นๆ ครับ คุณนาย ผมรู้รายละเอียดทุก อย่างที่เกี่ยวกับคุณ อย่างที่คุณรู้นั่นแหละครับว่าเขาป่วยมาหลายปีแล้ว เพราะฉะนั้นคุณจะเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ผมฟัง อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเล็กน้อยแค่ไหนก็ตามที

เมื่อเขารู้เกี่ยวกับอาการป่วยของจิ้งเพื่อเป็นอย่างดี เขาก็ น่าจะเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางใจของจิ้งเจ๋อมาก ที่สุดสินะ

ด้วยเหตุนี้ หลินเชื่อจะเริ่มเล่าเรื่องราวให้เขาฟัง

เมื่อฟังจบ เฉินอวี่เฉิงก็ระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่น เขา กลอกตา ทําท่าครุ่นคิด

หลินเชื่อถามต่ออย่างอุ่นใจว่า “คุณคิดว่ายังไงละคะ ตอน นี้ฉันควรจะทำยังไงดี ฉันกำลังสงสัยว่าเขาโกรธเพราะว่าเขา เสียใจที่มาแต่งงานกับฉันหรือเปล่า ถ้าเป็นคุณหนูโม่ ปัญหาก็ คงไม่เยอะแบบนี้ ถ้าเป็นคุณหนูโม่ที่อยู่กับเขา มันคงจะดีกว่านี้ ทุกอย่างคงจะราบรื่นแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยแม้แต่น้อย ตอน นี้เขาคงคิดถึงเธอเอามากๆ พอมองหน้าฉัน เขาก็เลยนึกสงสัย ว่ามาแต่งกับยัยจอมก่อเรื่องอย่างฉันทำไมน่ะค่ะ”

เฉินอวี่เฉิงหัวเราะลั่นอีกครั้งแล้วถามว่า “คุณบอกเขาไป แบบนี้เหรอครับ”

หลินเชอมองอีกฝ่าย “ก็แล้วจะให้บอกว่ายังไงล่ะคะ”

เฉินอวี่เฉิงส่ายหน้า “ผมคิดว่าถ้าเขาจะโกรธก็ไม่แปลกนะครับ”

หลินเชอถามอย่างหมดหวัง “ถ้าเขาโกรธแบบนี้ ปกติคุณทำยังไงเขาถึงจะหายโกรธละคะ

เฉินอวี่เฉิงตอบ “ปกติแล้วคนที่มักจะทำให้เขาโกรธก็คือ พวกลูกจ้างทั้งหลาย เท่าที่ผมทราบ ปกติเขาจะเริ่มอารมณ์ดี เมื่อได้ไล่คนพวกนั้นออกนะครับ

“” ไล่เธอออกงั้นเรอะ

นั่นหมายถึงหย่ากันรึเปล่านะ

“แต่ฉันคิดว่าเราคงจะยังหย่ากันไม่ได้ในตอนนี้หรอกนะ คะ” เธอพูดต่อ “แต่ถึงยังไง เรื่องนี้ก็สร้างความลำบากให้เขา ไม่น้อย เขาจะต้องไปอธิบายกับทางครอบครัว แถมคนที่ตก เป็นข่าวลือด้วยคราวนี้ยังเป็นน้องชายของเขาเองอีกต่างหาก แต่ฉันก็คิดวิธีอื่นไม่ออกเหมือนกัน ฉันบอกเขาไปว่าฉันจะไป อธิบายกับครอบครัวของเขาให้เองโดยจะไม่ให้เขาต้องเดือด ร้อนอะไรเลย แล้วฉันก็จะไม่ยอมให้ทางตระกูลกู้รู้ด้วยว่าการ แต่งงานของเราเป็นแค่เรื่องบังหน้า แล้วยังจะมีอะไรนอกเหนือ จากนี้ที่ฉันทำได้อีกเหรอคะ”

เฉินอวี่เฉิงมองหน้าเธออย่างไม่รู้จะตอบอย่างไรดี “คุณ บอกเขาไปแบบนี้เหรอครับ

“ใช่ ใช่ค่ะ บอกแบบตรงไปตรงมาแบบนี้เลยด้วย

เฉินอวี่เฉิงมองเธอด้วยสีหน้าเหมือนคนที่กำลังต้องแบก รับภาระใหญ่หลวง “ผมคิดว่าที่เขาไม่บีบคอคุณจนตายคามือ ไปเสียนี่ก็เท่ากับว่าเขาดีกับคุณมากโขแล้วนะครับ
นี่พูดจริงหรือเปล่าเนี่ย

เฉินอวี่เฉิงพูดต่อไป “คุณนายครับ คุณลองนั่งคิดหาวิธี อื่นต่อไปนะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปดูสามีของคุณสักหน่อยว่า เขาเป็นยังไงบ้าง

“อ้อ…” หลินเชื่อมองอีกฝ่ายเดินหายเข้าไปในห้อง

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ หลินเชื่อตื่นขึ้นจากการสืบ หลับ แต่กู้จิ้งเจ๋อก็ยังคงไม่เข้ามาในห้องนอน

ด้วยความเป็นกังวล หญิงสาวลุกขึ้นแล้วพาตัวเองขึ้นไป นั่งบนรถวีลแชร์ เธอเข็นรถจนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องทำงานอีก ครั้ง

หลินเชื่อเคาะประตูแล้วร้องเรียก “จิ้งเจ๋อ คุณอยู่ในห้อง

หรือเปล่าคะ”

กู้จิ้งเจ๋อไม่ตอบ

หลินเชื่อเริ่มหมดหวังขึ้นมานิดๆ จะยกขาตัวเองขึ้นแล้ว ก้มลงมอง ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว “จิ้งเจ๋อ ฉัน…ฉันเจ็บ ขาค่ะ หมอไปไหนหมดคะ

เพียงอึดใจเดียว ประตูก็ถูกเปิดออกเสียงดังโครมคราม

สายตาของจิ้งเจ๋อหรี่มองมา คิ้วขมวดมุ่น ดวงตาของ เขาเย็นชาเหมือนน้ำแข็งทำให้ชายหนุ่มดูน่ากลัวอย่างบอกไม่
แต่เมื่อเขามองเห็นหลินเซ่อ เขาก็ขยับเข้ามาใกล้เธอก่อน จะถามว่า “เธอเจ็บขาเหรอ”

ทันทีที่เห็นอีกฝ่ายโผล่ออกมา เธอก็รีบยกขาตัวเองขึ้น “ค่ะ อยู่ๆ มันก็เจ็บมากเลย ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทำยัง

ไง”

กู้จิ้งเจ๋อทรุดตัวลงข้างรถวีลแชร์อย่างรวดเร็ว มองดูเธอ หลินเชื่อสวมกางเกงขาสั้น มีผ้าปิดแผลที่ต้นขา ทุกอย่างล้วน ปกติดี

เขาลองเอื้อมมือออกไปกดลงบนต้นขาเธอ “เจ็บตรงนี้เห

รอ”

“ค่ะ ใช่ค่ะ เจ็บมากเลยด้วย

กู้จิ้งเจ๋อเงยหน้าขึ้น เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ชาย หนุ่มหรี่ตาแล้วถามว่า “มันเจ็บจริงๆ ใช่มั้ย

“ก็เจ็บจริงน่ะสิคะ ทำไมคุณถึงไม่เชื่อฉันล่ะ” หลินเชื่อ บงัดเอาทักษะการแสดงทั้งหมดออกมา ทั้งนิ่วหน้า ทั้งกัดริม ฝีปาก “โอ๊ย ไม่นะ นี่เจ็บจะตายอยู่แล้ว”

แน่ละว่าจิ้งเจ๋อมองออกว่าเธอกำลังเสแสร้งและเล่นใหญ่

เกินจริง

สามารถมองเห็นแผลที่มีขนาดใหญ่แล้ว ชายหนุ่มก็อดคิด ไม่ได้ว่า ถึงอย่างไรก็ควรจะไปตรวจให้แน่ใจเสียที่โรงพยาบาลจะดีกว่า ถ้าเกิดเธอเจ็บขึ้นมาจริงๆ

ในหัวใจเขา เขาไม่พร้อมเลยที่จะเสี่ยง

ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงลุกพรวดพราดขึ้นทันทีและสั่งว่า “รออยู่นี่นะ ฉันจะไปจัดการอะไรบางอย่างก่อน แล้วเดี๋ยวเรา จะได้ไปโรงพยาบาลกัน

“ซื้อ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเชื่อก็รู้แล้วว่าเธอคงจะเล่น ใหญ่เกินงามไปแล้ว แต่เมื่อจะออกปากท้วง จิ้งเจ๋อก็ผละเข้า ห้องไปหยิบโทรศัพท์มือถือเสียก่อน เขารีบกดหมายเลขและ ออกคําสั่งบางอย่างที่เธอได้ยินไม่ถนัด เมื่อกลับออกมาเขาก็ บอกว่า “ไปกันเถอะ เราจะออกไปรอกันข้างนอก

เขาเข็นรถวีลแชร์ของเธอออกประตูมาอย่างรวดเร็ว เมื่อ โผล่พ้นตัวบ้านออกมา หลินเชื่อก็รู้สึกได้ถึงลมแรงที่พัด กระหน่ำจนเธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ได้เห็นเฮลิคอปเตอร์ ที่กำลังจะร่อนลงจอดอยู่บนฟ้า ใบพัดขนาดมหึมากำลังกวัด แกว่ง ก่อนจะร่อนลงอย่างช้าๆ บนสนามหญ้าขนาดมหึมา

หลินเชื่อตัวเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที จิ้งเจ๋อก็ปลดเสื้อตัว นอกของเขาออกแล้วคลุมลงบนตัวเธอ ก่อนจะลงมืออุ้มเธอ จากรถวีลแชร์ขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์อย่างรวดเร็ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ