แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 53 ปาร์ตี้ปิดกล้อง



ตอนที่ 53 ปาร์ตี้ปิดกล้อง

หลินเซ่อมองหน้าอวหมินหมิ่นอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไรดี

หลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่กับอวหมินหมิ่นมาหลายปี เธอ รู้สึกว่าถึงแม้อหมุนหมิ่นจะชอบทำตัวหัวสูง แต่เธอก็ไม่ใช่คน ไม่น่าคบหาแต่อย่างใด

บางทีอาจเป็นเพราะพวกเธอทั้งสองคนต่างก็เปิดเผย อุปนิสัยที่แท้จริงของตัวเองกันออกมาอย่างตรงไปตรงมา เธอรู้ สึกว่าอวหมินหมื่นไม่เสแสร้งแล้วก็ไม่เคยคิดจะแก้ตัวที่เธอเอง เป็นคนแบบนี้ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่ใช่คนน่ารำคาญ

และถึงแม้ว่าที่ผ่านมาอวหมินหมิ่นจะไม่ได้ดูแลเธอเป็น อย่างดีเท่าไหร่นัก แต่หล่อนก็ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีกับหลินเช่ อด้วยเช่นกัน มันเป็นเพราะว่าหลินเชื่อเป็นเพียงนักแสดงเล็กๆ ที่ยังไม่มีชื่อเสียง ทำให้อวีหมินหมิ่นไม่ได้มีโอกาสที่จะช่วย เหลือดูแลเธอสักเท่าไหร่นัก แต่มาตอนนี้ หลินเชื่อได้ชื่อว่าเป็น ดาวรุ่งดวงใหม่ที่อวหมินหมิ่นจะได้เริ่มเข้ามาเก็บเกี่ยวผล ประโยชน์ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอทั้งสองจึงพัฒนาขึ้น กว่าเดิมอย่างมาก

ไม่ช้าพวกเธอก็มาถึงคลับเฮาส์ของกู้จิ้งอวี่ จากด้านนอก พวกเธอก็รู้ได้ว่านี่ไม่ใช่คลับเฮาส์ธรรมดาทั่วไป แต่มันดูเหมือนรีสอร์ตคลับเฮาส์ที่อัดแน่นไปด้วยสิ่ง อำนวยความสะดวกชนิดเต็มอัตรา ที่ชั้นใต้ดินนั้นเป็นคลับ สำหรับความบันเทิง ส่วนเหนือพื้นดินเป็นโรงแรม พวกเธอ สามารถกิน ร้อง เต้น เล่นเกม และไปที่บาร์เครื่องดื่มได้พร้อม กันในที่เดียว

เมื่อมองจากด้านนอก ตึกสูงหลังนั้นกินพื้นที่เป็นบริเวณ กว้าง ทำให้แลดู ให้ความรู้สึกของความหรูหรามีระดับเป็น อย่างมาก

บรรดาคนจากทีมงานกองถ่ายต่างพากันทยอยมาถึงครั้ง ละสองสามคน พวกเขาต่างแสดงความยินดีแก่กันและร่วม ฉลองการปิดกล้องถ่ายทำซีรี่ส์โทรทัศน์เรื่องนี้

หลินเซ่อพาอวหมินหมิ่นเข้าไปหาที่นั่งตรงบริเวณที่มีคนไม่ แออัดจนเกินไปนัก ทั้งสองนั่งพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ตามสบาย ก่อนที่จะรู้สึกได้ว่าผู้คนรอบข้างเริ่มส่งเสียงอื้ออึงดังไปทั่ว เพราะการมาถึงของกู้จิ้งอวนั่นเอง

หลินเชอรีบยกแขนขึ้นและร่วมผสมโรงตบมือไปด้วย เธอ เห็นจิ้งอวี่กำลังเที่ยวทักทายคนอื่นๆ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา เธอ

สีหน้าของหลินเชื่อเต็มไปด้วยความสับสนไม่แน่ใจ เธอ เฝ้ามองกู้จิ้งอวี่และอดรู้สึกแปลกนิดๆ ไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขา ก็ยังคงเดินมาหาและนั่งลงข้างเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยเป็นปกติ

หลินเซ่อถามว่า “ทำไมคุณถึงมานั่งตรงนี้ละคะ
มีการจัดเตรียมที่นั่งพิเศษเอาไว้ให้สำหรับนักแสดงนำ และบุคคลสำคัญ ในทีมถ่ายทำ แล้วนี่เขาจะมานั่งอยู่ตรงนี้ ทำไมกัน

กู้จิ้งอวี่มองหน้าเธอ “ก็ตรงนี้มันเงียบที่นี่ ฉันชอบที่เงียบๆ ทําไมเหรอ”

“ ” ก็ได้ ถ้าชอบก็ตามใจเถอะ

เป็นครั้งแรกที่อวหมินหมิ่นได้นั่งใกล้ชิดกับดาราระดับซู เปอร์สตาร์ เธอจึงไม่อาจระงับท่าทีตื่นเต้นกระสับกระส่ายเอา ไว้ได้ ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีดาราดังๆ มาร่วมงานมากมาย แต่มีไม่ กี่คนเท่านั้นที่เป็นดาราดังตัวท็อปแบบนี้

กู้จิ้งอวี่หันมาเห็นอวหมินหมิ่น เขาเอียงคอทักทายและส่ง ยิ้มให้ทำเอาอวหมินหมิ่นมีสีหน้าปลื้มปริ่มเป็นที่สุดและรีบฉีก ยิ้มตอบกลับไป

ดาราคนดังเหลือบมองหญิงสาวข้างตัวแล้วเริ่มต้นบท สนทนากับหลินเชื่อต่อ ทำเอาหญิงสาวไม่อาจปฏิเสธได้หรือ บ่ายเบี่ยงได้แม้ว่าจะอยากทำแค่ไหนก็ตาม

ตอนแรกเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก แต่เมื่อได้เห็นสายตา

แปลกๆ หลายคู่ที่พากันมองตรงมาทางเธอเข้า หลินเชื่อก็อดที่ จะรู้สึกอายขึ้นมานิดๆ ไม่ได้ เธออยากจะลุกหนีไปเต็มที่

เมื่อหลินลี่ก้าวเข้ามาในงาน เธอกวาดตามองเพียงครั้ง เดียวก็เห็นจิ้งอวี่ที่กำลังนั่งอยู่ข้างหลินเชื่อ
เป็นเรื่องยากที่จะมองไม่เห็นหลินเชื่อ เพราะทุกคนต่างก็ พากันจับจ้องมาที่เธอกันเป็นตาเดียว แถมยังพูดคุยซุบซิบกัน อย่างออกรสจนเป็นที่สะดุดสายตาอย่างมาก

เธอคิดถึงงานเลี้ยงฉลองหมั้นของตัวเองที่ตระเตรียมมา เป็นอย่างดีจนเธอคิดว่าจะสามารถทำให้ตัวเองได้กลายเป็น ข่าวดังไปอีกหลายวันให้ใครต่อใครได้พูดถึงด้วยความอิจฉา เป็นเพราะข้อความเพียงแค่โพสต์เดียวของกู้จิ้งอวี่เท่านั้นที่ทำ ให้หลินเชื่อได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้เต็มๆ หลินลี่คิดแล้วก็ รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาในหัวอกทีเดียว

แล้วยิ่งระยะนี้นั่งหลินเชื่อก็ยังจะทำด้วยโสโอหังใหญ่แล้ว! ไม่ว่าหล่อนจะไปที่ไหน ก็เอาแต่คอยทำตัวเรียกร้องความ สนใจไม่หยุด

เมื่อมเสียหรานมาถึงงาน ทุกคนก็เริ่มหันไปแสดงความ

ยินดีกับเธอ

หลินเชื่อมองดูเผยหรานด้วยความอิจฉาแล้วกล่าวว่า “ถ้าฉันได้เป็นนักแสดงมีบารมีอย่างพี่เสียหรานบ้างสักวันก็ คงจะเยี่ยมไปเลยนะคะ

ด้านหลังของมู่เผยหรานคือบรรดาผู้ช่วยส่วนตัวและเจ้า หน้าที่อื่นๆ ที่ติดตามเธอมาด้วย เมื่อเข้ามาอยู่ในงาน ทุกคนก็ รับรู้ได้ถึงการขยับตัวไปในทุกที่ของเธอ

กู้จิ้งอวี่เงยหน้าขึ้นและเหลือบมองตามหลินเชื่อ เขายิ้ม และบอกว่า “สักวันเธอก็จะได้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
หลินเซ่อมองหน้าอีกฝ่าย “คุณก็พูดไปเรื่อยนะคะ กว่าจะ ถึงวันนั้นคงอีกนานมากเลยละ

“เชื่อในตัวเอง ความสำเร็จทุกอย่างล้วนต้องค่อยๆ ก้าว ไปทีละก้าว เมื่อก่อนนี้ เผยหรานเองก็เป็นหญิงสาวยากจนที่ ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อข้าวกินด้วยซ้ำ ตัวหล่อนเองก็ไม่คิดเหมือน กันว่าจะมีวันนี้ได้”

“จริงเหรอคะ พี่เผยหรานเนี่ยนะจะเคยมีชีวิตแบบนั้นด้วย

“แน่นอนสิ มีใครเป็นดาราดังมาตั้งแต่เกิดบ้างเล่า

มีสิ! ก็พวกคนที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดทั้งหลายไงล่ะ หลินเชื่อเหลือบตามองกู้จิ้งอวี่ ทั้งเขาและจิ้งเจ๋อนี้แทบจะเรียก ได้ว่าเป็นเทพบุตรมาจุติก็ว่าได้ เป็นที่อิจฉาของใครต่อใครมา ตั้งแต่เกิด

กู้จิ้งอวี่เหมือนจะอ่านความคิดอีกฝ่ายได้ เขาจึงยิ้มและพูด ว่า “เธอคิดว่าขอแค่มีข้าวให้กินตอนเด็กๆ แค่นั้นก็คงมีความ สุขแล้วละสินะ ไม่ว่าใครก็มีปัญหาของตัวเองกันทั้งนั้นนั่น แหละ สมาชิกตระกูลก็เหมือนกัน ในขณะที่เราได้เสพสุขกับ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหลาย เราก็ต้องแบกรับภาระต่างๆ เอาไว้ เต็มสองบ่าด้วย เพราะแบบนี้ไงฉันถึงไม่ขอกลับไปอยู่ที่ คฤหาสน์ตระกูลอีก แล้วดูฉันตอนนี้สิ ทั้งอิสระแล้วก็เสรีออก จะตาย จริงมั้ยล่ะ”

นี่กู้จิ้งเจ๋ออก็มีปัญหากับเขาด้วยงั้นเหรอ
ก็คงจะจริงนั่นแหละ พอลองคิดดูแล้ว เธอก็รู้ได้ตั้งแต่ ความจริงข้อแรกที่ว่าเขาจำเป็นที่จะต้องยอมรับการแต่งงาน ครั้งนี้ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ปรารถนาเลย

ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเห็นใจจิ้งเจ๋อ ถึงแม้ว่าเขาจะดีพร้อมทุก อย่างแต่กลับต้องล้มป่วยด้วยโรคประหลาด และชีวิตที่อิจฉา ของเขาต้องกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะว่าหลินเชื่อ

“เฮ้ นี่ฉันกำลังพูดกับเธออยู่นะ เธอคิดถึงใครอยู่น่ะ” เมื่อ เห็นเธอมีท่าทีใจลอย กู้จิ้งอวี่ก็อดไม่ได้ที่จะบีบจมูกเธอเบาๆ

“โอ๊ย เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้คิดถึงใครทั้งนั้นนั่นแหละ” หลิน เชอรีบตอบอย่างรู้สึกผิดกับตัวเอง

ที่งานเลี้ยงฉลองปิดกล้องนี้ ทุกคนต่างก็มีความสุขและ สนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง เพราะหลังจากการถ่ายทำที่เสร็จ สิ้นลงแล้ว ทุกคนจะได้พัก ในระหว่างที่การทำงานในขั้นตอน หลังจากนั้นจะเริ่มขึ้น และเมื่อเริ่มซีรีส์เริ่มออกอากาศ ทุกคนก็ จะต้องมารวมตัวอีกครั้งเพื่อช่วยกันประชาสัมพันธ์และออกงาน อีเวนต์เพื่อเดินสายโปรโมตต่อไป

ทุกคนต่างพากันดื่มชนิดหัวราน้ำ หลินเชื่อเองไม่ใช่คน คอแข็งเท่าไหร่ เมื่อเธอเดินกลับมาจากการไปเข้าห้องน้ำ เธอ ก็พบว่าทุกคนพากันหายหน้าไปหมด

แม้แต่อหมินหมิ่นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลินเชื่อจึงนั่งดื่มต่อเพียงลำพังคนเดียว จนกระทั่งเธอได้ยินใครบางคนพูดขึ้นทางด้านหลังว่า “ท่านประธานาธิบดีมา ที่นี่จริงๆ นะ”

“ถึงยังไงที่นี่ก็เป็นคลับเฮาส์ของตระกูลกู้นี่เนอะ ท่าน ประธานาธิบดีจะมาที่คลับเฮาส์ของครอบครัวก็ไม่ใช่เรื่อง แปลกอะไร

“ที่นี่ไม่ได้เป็นของจิ้งเจ๋อหรอกเหรอ”

“พวกเขาเป็นพี่น้องกันนี้ ทำไมจะต้องมาแบ่งว่าของใคร เป็นของใครด้วยล่ะ เมื่อเธอไม่เห็นหรอกเหรอ ดูเหมือนว่า เขาจะมาค้างคืนที่โรงแรมข้างบนนั้น ตอนนี้ก็เลยมีการเพิ่ม ระดับการรักษาความปลอดภัยแล้วก็ห้ามคนเข้าออกด้วย

ในจังหวะนั้นเอง กู้จิ้งอวี่ก็เดินกลับมาพอดี หลินเชื่อรีบดึง เขาให้นั่งลงข้างตัวแล้วถามว่า “เมื่อกี้พวกเขาบอกว่าท่าน ประธานาธิบดีเพิ่งมาถึงเหรอคะ เขาเป็นพี่ชายคนโตของ ครอบครัวคุณใช่หรือเปล่า

กู้จิ้งอวพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “ใช่ เขามาแล้วมันแปลก อะไรเหรอ”

“ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ…ครอบครัวของคุณนี่…พี่น้องแต่ละ คนต่างก็เป็นคนสำคัญกันทั้งนั้นเลย

“แล้วเธอชอบหรือเปล่าล่ะ ถ้าเธอชอบ เธอจะเข้ามาร่วม เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลก็ได้นะ ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ฉันรับ ประกันได้ว่าเธอจะรู้สึกถึงชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิมแบบสุดๆเลยละ” กู้จิ้งอวี่พูดพลางยิ้มกริ่ม

หลินเซ่อนึกกลัวว่าจะถูกจับได้ เธอจึงก้มหน้างุด พลางคิด อยู่ในใจด้วยความอายว่า ตอนนี้เธอเองก็ถือว่าเป็นสมาชิก ของตระกูลเข้าไปครึ่งหนึ่งแล้วละนะ…

กู้จิ้งหมิงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาได้สามปีแล้ว คะแนนนิยมของเขานับว่าเป็นไปด้วยดีอย่างเสมอต้นเสมอ ปลาย และได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นไม่ว่า เขาจะไปที่ไหนก็จะมีกลุ่มคนคอยไปรวมตัวกันติดตามไปให้ กำลังใจในทุกที่

หลินเชื่อมองเห็นผู้คนพากันวิ่งออกไปเพื่อดูประธานาธิบดี เธอจึงได้แต่ส่ายหัวก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นมาได้ และรีบหันไป ถามกู้จิ้งอวอย่างร้อนใจ “แล้วนี่พอหายไปไหนเสียละคะ

“พอเหรอ ผู้จัดการของเธอใช่มั้ย ไม่รู้เหมือนกัน แต่จาก ที่ฉันเห็นเมื่อกี้ดูเหมือนว่าหล่อนจะเมานะ เห็นหล่อนเดินโฉนๆ เงินๆ ออกไป แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย” กู้จิ้งอวี่เลิกคิ้วแล้วถาม ต่อ “อ้อ ถ้าหล่อนขึ้นไปข้างบนแล้วบังเอิญไปเจอประธานาธิบดี เข้าละก็ หล่อนได้หมดสนุกแน่ รับรอง

“… ” หลินเชื่อได้แต่เฝ้าพะวงอยู่ในใจ พ่อคงไม่โชคร้าย ขนาดนั้นหรอกน่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ