แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 93 เธอสัญญาเอาไว้ว่าจะทำ อาหารให้ฉันกินนี่



ตอนที่ 93 เธอสัญญาเอาไว้ว่าจะทำ อาหารให้ฉันกินนี่

ขณะอยู่ในรถ หลินเซ่อมองดูอหมินหมิ่นที่เอาแต่จ้องมองออก ไปนอกหน้าต่าง เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “พี่จะ ปล่อยให้พ่อพี่ทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้นะคะ

อวหมินหมิ่นหัวเราะอย่างขมขื่น “ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ เขา กลายเป็นผีพนันเต็มตัวไปแล้ว ฉันได้ยินพ่อบอกว่าจะเลิกเล่น มาตลอดทั้งชีวิตแต่เขาก็ยังเอาแต่สร้างปัญหาได้ทุกวัน ไม่ เป็นไรหรอกนะ ฉันชินแล้วล่ะ

หลินเชื่อเป็นนักแสดงในความดูแลของอวหมินหมิ่นมา โดยตลอดก็จริง แต่ตอนนี้มันแตกต่างไปจากเดิม เพราะตอนนี้ อวหมินหมิ่นคือผู้จัดการส่วนตัวของเธอ พวกเธอจึงได้ใช้เวลา อยู่ด้วยกันเกือบทุกวัน ซึ่งมันทำให้เธอได้รู้เกี่ยวกับพื้นเพ ครอบครัวของอวหมินหมิ่น

หลินเชื่อลูบไหล่ของอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน “มันต้องมี ทางสิคะ”

อวหมินหมิ่นมองหลินเชื่อพลางส่ายหน้า “เว้นเสียแต่ฉันจะ สามารถพาแม่กับน้องชายหนีไปจากที่นี่ได้ ไม่อย่างนั้นก็คง ไม่มีทางอื่นที่จะสลัดพ่อกาฝากนั้นทิ้งได้หรอก
หลินเชื่อพยายามปลอบใจ “ถ้าอย่างนั้นเอาไว้เราค่อย ลองมาหาทางกันดูตอนที่ไปถึงบ้านแล้วก็แล้วกันนะคะ อย่า กังวลไปเลยค่ะ เราต้องคิดออกแน่

ทั้งสองมาถึงบ้านตระกูลภายในเวลาไม่นาน

อวหมินหมุนไม่เคยเห็นสถานที่แห่งนี้มาก่อน จาก ภายนอก เธอมองเห็นการ์ดรักษาความปลอดภัยท่าทางเข้ม งวดและเริ่มคิดว่าการเข้ามาที่นี่ไม่น่าจะใช่ความคิดที่เข้าท่า เธอจึงหันไปหาหลินเชื่อแล้วถามขึ้นว่า “นี่ฉันเข้าไปได้หรือเปล่า นะ บางทีบ้านตระกูลอาจไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้าไป ก็ได้ ใช่มั้ย”

หลินเชื่อตอบ “ฉันไม่คิดแบบนั้นนะคะ….ไม่น่าจะเป็นไร หรอกค่ะ แต่ฉันก็ไม่เคยพาใครมาที่นี่เหมือนกัน”

ที่ประตูทางเข้า การ์ดรักษาความปลอดภัยเพียงแค่มองอ

หมินหมิ่นก่อนจะเอ่ยทักทายหลินเชื่ออย่างสุภาพว่า

“คุณผู้หญิง” หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ทั้งคู่ผ่านเข้าไปได้ โดยดี

อวีหมินหมิ่นนั่งตัวแข็งเมื่อสังเกตเห็นการทักทายอย่าง นอบน้อมนั้น

เธอหันไปหาหลินเชื่อ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

เธอเป็นผู้จัดการส่วนตัวก็จริง แต่เธอก็ไม่ซักไซ้ในเรื่อง ส่วนตัวของนักแสดง เธอจะทำก็ต่อเมื่อมันส่งผลกระทบกับงานเท่านั้น นั่นคือจรรยาบรรณของคนเป็นผู้จัดการส่วนตัว เมื่อทั้งสองพันประตูรั้วเข้ามาด้านใน อ.หมินหมิ่นก็ได้

เห็นบ้านหลังมหึมาและการตกแต่งที่หรูหรางดงาม เธออดพูดกับหลินเชื่อเมื่อเข้ามายืนอยู่กลางห้องนั่งเล่นไม่ ได้ว่า “บ้านเธอนอย่างกับวังเลยนะ

หลินเชื่อตอบ “ค่ะ ตอนแรกๆ ที่เข้ามา ฉันก็เดินหลงอยู่ หลายครั้งเหมือนกัน มันมีทางเลี้ยวเต็มไปหมดเลยน่ะ แรกๆ ก็ ดูเหมือนจะซับซ้อนนะคะ แต่พอผ่านไปสักพักก็คุ้นเคยไปเอง นั่นแหละค่ะ”

อวีหมินหมิ่นว่า “ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่านี่เป็นบ้านของจิ้ง เจ๋อ”

“ทำไมละคะ” หลินเซ่อมองอย่างสงสัย

อวีหมินหมื่นยิ้มและตอบว่า “คนทั่วไปน่ะไม่ได้รับอนุญาต

ให้เข้ามาที่นี่หรอกนะ แต่ฉันน่ะอาศัยบารมีเธอเข้ามาไงล่ะ” หลินเชื่อยิ้ม “อย่างนั้นเหรอคะ ไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่มีคน อาศัยบารมีฉันแบบนี้ด้วย

“แน่ละสิ”

แต่แล้วโทรศัพท์ของอวหมินหมื่นก็ดังขึ้น เธอก้มลงรับ

สาย เป็นสายจากแม่ของเธอนั่นเอง มารดาของอวหมินหมิ่นกำลังให้อยู่ที่ปลายสาย (ได้โปรดช่วยพ่อด้วยเถอะนะ หมุนหมิ่น แค่ช่วยครอบครัวเราได้ มีใครอีกแล้วล่ะ ลองเถอะว่าลูก จะรู้จักใครพอพูดกับเขาได้บ้าง ลูกเขา ลูกเสียใจเหรอ

อหมุนหมิ่นจิกปลายเล็บลงกับฝ่าราวว่าความเจ็บ ปวดนั้นทำให้รู้สึก

ได้ค่ะ หนูจะลองคิด…เธอพูดได้เพียงเท่านี้กับแม่ที่ กำลังสะอึกสะอื้นไห้

เมื่อวางลืมตามองเพดานอันกว้างใหญ่ของบ้านตระกูลและ ทอดถอนใจ

หลินเชื่อพูดขึ้นว่า คะ พวกเขาเถอะ

อวหมินหมิ่นตอบ ตระกูลที่ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้แล้วนั้นหลายแล้ว พูดง่ายๆ คือพวกนั้นไม่ใช่คนดีนั่น แหละ ฉันลองไปคุยกับ

“ไปคืน

ฉันจะพักแรมคืนพ่อฉันจะได้มารังควาน ไม่อย่าห่วงไปเลย ฉันชีวิตทำยังไง ปกป้องตัวเองฉันถนัดนักล่ะ
“ก็ได้ค่ะ”

อวหมินหมิ่น โทรจองห้องโรงแรม ก่อนที่หลินเซ่อจะจัดรถ

ไปส่งเธอถึงที่นั่น

สักครู่ต่อมาโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ชื่อของจิ้งเจ๋อตุด

ขึ้นมาบนหน้าจอ เธอยิ้มก่อนจะกดรับสาย

(เมื่อไหร่เธอจะทำตามสัญญาที่ว่าจะทำอาหารให้ฉันกิน สักทีล่ะ]

เธอเคยคิดว่าเขาแค่พูดเล่นเท่านั้น แต่พอมาตอนนี้ที่เขา

เอ่ยถึงมันขึ้นมา หลินเชื่อก็ชักแน่ใจ

เธอตอบไปว่า “ก็ได้ค่ะ…ฉันจะรอคุณกลับมาแล้วเราจะได้ ไปซื้อของกันก็แล้วกันนะคะ

ได้สิ รอก่อนนะ ฉันใกล้จะถึงแล้ว

เมื่อกู้จิ้งเจ๋อได้ยินว่าเธอจะไปซื้อวัตถุดิบเตรียมทำอาหาร ให้เขา ชายหนุ่มก็แทบจะทนรอให้ถึงบ้านไม่ไหว

เขามาถึงบ้าน ในเวลาอันรวดเร็วและจัดการลากหลินเชื่ออ อกจากบ้านทันที “ไปตลาดกันเถอะ

“คุณจะไปด้วยเหรอคะ”

“ก็ใช่น่ะสิ”

“แต่…” เธอจำได้ถึงสิ่งที่ไม่ฮุ่ยหลิงเตือนเธอเอาไว้เมื่อวัน ก่อน “ออกไปข้างนอกแบบนี้จะไม่อันตรายกับคุณเหรอคะ”
กู้จิ้งเจ๋อมองเธอด้วยความประหลาดใจ “ทำไมเธอถึงพูด แบบนั้นล่ะ”

หญิงสาวตอบ “ก็เมื่อวันก่อน ไม่ยุ่ยหลิงบอกฉันว่ามันเป็น เรื่องอันตรายสำหรับคุณที่จะออกไปไหนต่อไหนตามลำพังนะ

โม่ฮุ่ยหลิงงั้นเหรอ

สีหน้าของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นไม่ค่อยพอใจนัก เขา พูดกับเธอว่า “ฉันจะไปที่ไหนมันก็มีอันตรายทั้งนั้นนั่นแหละ แล้วนั่นแปลว่าฉันจะต้องคอยขังตัวเองอยู่ในกรงเพื่อหลบเลี่ยง อันตรายอย่างนั้นหรือไง ไปกันเถอะ”

เขาพูดพลางจูงมือเธอออกจากบ้านไป

หลินเชื่อยังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่เมื่อมองเห็นสีหน้าเขา แล้ว เธอก็ตัดสินใจที่จะเงียบเอาไว้ เธอก้มลงมองมือใหญ่ที่ กำลังจับจูงมือเธอแล้วก็อยากจะดึงมือหนี แต่ก็ไม่ได้ทำ มือที่ จับเอาไว้นั้นยิ่งดูกระชับแน่นขึ้นกว่าเดิม หลินเชื่อเหลือบไปเห็น สาวใช้ที่กำลังแอบมองอยู่จึงไม่อยากจะดิ้นรนให้เป็นที่ผิด สังเกต

ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ได้แออัดมากนัก หลินเชื่อนึกแปลก ใจดเพราะปกติแล้วที่นี่จะหนาแน่นไปด้วยผู้คนอยู่เป็นนิจ ราวกับว่ามีการทางเดินจนมีผู้คนเพียงน้อยนิดเท่านั้น แถมยัง เดินกันอย่างเป็นระเบียบ
หลินเชื่อผลักรถเข็นไปพลางก้มดูสูตรอาหารที่กู้จิ้งเพื่อ กำหนดให้ แล้วก็รำพึงขึ้นมาอย่างหดหูว่า “ต้องใช้เครื่องปรุง หลายอย่างเสียจริง สูตรอาหารที่ดูยุ่งยากจังเลยนะคะ

ชายหนุ่มถาม “ยุ่งยากเรอะ ก็แค่ส่วนผสมไม่กี่อย่าง นั่นๆ แล้วก็ผัดเท่านั้นเองนะ” เขาบรรจงเลือกเมนูที่ไม่ต้องใช้ของ ราคาแพงมาให้เธอเลยทีเดียว

หลินเชื่อเป็นรถวนไปรอบกองผักชนิดต่างๆ ซูเปอร์ขนาด ใหญ่แห่งนี้ให้ความรู้สึกรื่นรมย์แก่ผู้มาจับจ่าย จนหลินเซ่ออด ยิ้มออกมาอย่างรู้สึกผ่อนคลายไม่ได้

“ฉันเอาอันนี้”

“แล้วก็อันนี้ด้วย”

“อหัวไชเท้าสดดีจัง”

ยิ่งหลินเชื่อสาละวนหยิบของโยนลงรถเข็นมากเท่าไหร่ ทุกอย่างก็ชักจะดูยุ่งเหยิงมากขึ้นเท่านั้น

เธอแทบไม่ได้สนใจรายการส่วนประกอบในสูตรอาหารที่ เขียนเอาไว้เลยสักนิดจิ้งเจ๋อส่ายหน้าอย่างระอาใจ

แต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งเป็นรถมาชนเธอ โดยแรงจนหงายหลังล้มลงหลินเชอร้องเสียงหลง
เธอหันไปมองและได้พบว่าชายคนนั้นเพียงแต่มองหน้า เธอก่อนจะหันหลังเดินหนีไปอย่างเงียบๆ

แต่กู้จิ้งเจ๋อปราดเข้าไปคว้าแขนเขาเอาไว้เสียก่อน

เขาจับแขนอีกฝ่ายแน่นและผลักชายผู้นั้นไปจนติดชั้นวาง สินค้า ทําเอาชายคนดังกล่าวถึงกับช็อกและเริ่มสบถใส่หน้า แต่เมื่อมองเห็นแววตาล้ำลึกของจิ้งเจ๋อแล้ว เขาก็รู้สึกผิดและ รีบหุบปากทันควัน

“ขอโทษภรรยาฉันก่อน” เขาบอก

ชายคนนั้นหันมองหลินเชื่อ แม้จะไม่เต็มใจนัก แต่ด้วย

ความกลัวจิ้งเจ๋อ เขาจึงเอ่ยปากขอโทษเธออย่างพินอบพิเทา

“ขอโทษด้วย ฉันไม่ทันเห็นน่ะ หลินเชื่อกูส้นเท้าเราๆ “ไม่เป็นไร คราวหน้าระวังหน่อยก็

แล้วกัน”

จิ้งเพื่อส่งเสียงเบาๆ ในลำคอก่อนที่จะยอมปล่อยมือ

ชายผู้นั้นผลุบหายไปด้วยความรวดเร็ว หลินเชื่อตั้งท่าที่ จะลุกขึ้นจากพื้นแต่กู้จิ้งเจ๋อกลับย่อตัวลงมาและซ้อนร่างเธอขึ้น ไว้ในอ้อมแขนเสียก่อน

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาพากันมามองด้วยความอิจฉา บุรุษ ร่างสูงที่ทำให้ใครต่อใครที่ได้เห็นนึกหลงใหลในความดูดี

เขาค่อยๆ หย่อนร่างเธอลงในรถเข็น “ขอฉันดูขาเธอ หน่อยสิว่าโอเคหรือเปล่า
หลินเซ่อสั่นหัว ยิ้มและมองหน้าเขา “ฉันไม่เป็นไรค่ะ รถชนไม่แรงนักหรอก ท่าทางของอีตานั่นต่างหากละคะที่น่าโมโห


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ