แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 60 เขากําลังป้อนอาหารไม่ยหลิง



ตอนที่ 60 เขากําลังป้อนอาหารไม่ยหลิง

หลินเชื่อเดินเข้าไปในบริษัทที่ว่าจ้างเธอโฆษณาพร้อมกับอาห นหมิ่น เธอชวนคุยไปพลางว่า “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่ฉันได้ เป็นนางแบบโฆษณา ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีโอกาสได้ทำงาน โฆษณาด้วย”

อวหมินหมื่นยิ้มแล้วตอบว่า “ตอนนี้เธอกลายเป็นคนมีผล งานแล้วนะ ถึงเวลาที่เธอจะได้เจิดจรัสแล้ว เลิกคิดว่าตัวเอง เป็นแค่ดาราตัวประกอบได้แล้ว เธอเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง เข้า ใจรึเปล่า”

หลินเชื่อว่า “ฉันแค่ยังไม่ค่อยชินน่ะค่ะ ฉันรู้สึกเหมือนทุก อย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากเลย เมื่อสองสามเดือนก่อน ฉันยังไม่มี อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

อวหมินหมิ่นว่า “อาชีพนี้มันก็เป็นแบบนี้แหละ เธอ สามารถโด่งดังได้ในชั่วข้ามคืนถ้าเธอคว้าโอกาสไว้ได้ แต่ถึง ยังไงเธอก็ต้องระวังด้วย ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ก็เป็นเรื่องง่ายที่ จะพลาดด้วยเหมือนกัน ถ้าหากว่ามีอะไรมาถ่วงเวลาและเธอไม่ สามารถมีชื่อเสียงได้เสียทีละก็ ทางบริษัทจะไม่ยอมเสียเงิน ก้อนใหญ่เพื่อรักษาเธอไว้หรอกนะ แถมเธอก็ยังไม่มีเส้นสาย ในสังคมเป็นของตัวเอง ไม่เหมือนพวกดาราที่มีชื่อเสียงมั่นคงแล้ว พวกนั้นถ้าทำอะไรพลาดก็ยังมีโอกาสแก้ตัว แต่ถ้าเป็น เธอ ในช่วงเวลาแบบนี้ เธอจะหาทางกลับมายืนขึ้นอีกครั้งไม่ได้ เลย เข้าใจหรือเปล่า

อวีหมินหมิ่นตั้งใจอบรมหลินเซ่อมากเป็นพิเศษเพราะเธอ เริ่มที่จะรู้สึกว่าหลินเชื่อเองก็เป็นเด็กสาวที่ไม่เลวคนหนึ่งเลยที เดียว

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเชื่อก็พยักหน้ารับค่าอย่างว่าง่าย “ฉันเข้าใจค่ะ”

ขั้นตอนการเซ็นสัญญาโฆษณาผ่านไปอย่างราบรื่น มี เพียงจังหวะที่เดินออกมาเท่านั้นที่หลินเชื่อบังเอิญไปเห็นเซน ร่า ดาราผู้กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้เข้า ที่ด้านนอกบริษัทมี ผู้คนเข้าแถวเรียงรายและพวกเธอก็พากันหันมามองหลินเช่ อกับอวหมินหมิ่นที่กำลังเดินออกมาด้วยสายตาราวกับจะกิน เลือดกินเนื้อ

เซนมิร่าเองก็เพิ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ ทางบริษัททุ่มทุนกับการโปรโมตเธออย่างมาก แต่ทั้งเธอและ หลินเชื่อไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน ภาพที่เห็นจึงทำให้หญิงสาว งุนงงอยู่ไม่น้อย อ.หมินหมิ่นรีบดึงแขนและพาเธอออกไปจาก ตรงนั้นเสีย

อวหมินหมิ่นอธิบายว่า “อย่าไปสนใจเขาเลย เดิมที

โฆษณาชิ้นนี้มันเป็นของเขานะแต่ทางบริษัท เปลี่ยนใจมาเลือก เธอในนาทีสุดท้าย เขาถึงได้โกรธขนาดนั้นไงล่ะ
หลินเซอร้อง “อย่างนี้ก็แปลว่าฉันแย่งงานโฆษณาเขามาน ะสิคะ

อวหมินหมิ่นบอก “ถ้าเป็นในทางเทคนิคก็คงใช่… แต่ สำหรับอาชีพแบบนี้ มันไม่มีหรอกนะไอ้ที่เรียกว่าการขโมยบท นะ มีแต่ความจริงเท่านั้น ทางบริษัทโฆษณาเห็นศักยภาพใน การเติบโตของเธอเพราะเหตุนี้เขาถึงเลือกดาราที่กำลังจะ กลายเป็นดาวรุ่งไงล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ

คืนนั้นหลินเชื่อตามอวหมินหมิ่นออกไปร่วมรับประทาน อาหารค่ำกับคนจากบริษัทโฆษณา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ พวกเขาที่เลือกเธอมาเป็นพรีเซนเตอร์

ขณะอยู่บนรถ หลินเชื่อโทรหาอวหมินหมิ่นเพื่อถามว่าจะ ให้ไปพบที่ไหน

อวหมินหมิ่นตอบ [เธอเข้าไปก่อนได้เลย ที่ห้องสามศูนย์ สอง อีกแป๊บเดียวฉันก็ไปถึงแล้ว

อวหมินหมิ่นยังคงติดแหง็กอยู่ท่ามกลางการจราจรแออัด และเริ่มที่จะเป็นกังวลแล้ว เธอวางสายแล้วมองไปข้างหน้า ภาพของจิ้งหมิงขณะกำลังเดินทางไปเยือนมณฑลอื่นกำลัง ปรากฏอยู่บนหน้าจอขนาดยักษ์ หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะต้องมอง ดูภาพนั้นอย่างไม่อาจถอนสายตา

กู้จิ้งหญิงยืนตัวตรง แต่งกายด้วยชุดสูท เขาดูเป็นธรรมชาติอย่างมากบนหน้าจอโทรทัศน์ สีหน้าเป็นมิตรนั้น ปกปิดความเข้มงวดพิถีพิถันเอาไว้ อวหมินหมื่นนึกถึงถ้อยคำ ต่างๆ ที่ใครต่อใครพากันพูดถึงเขา มีคนพูดว่าเขาเป็น ประธานาธิบดีผู้เอาจริงเอาจังที่เข้ามารับมือกับความสัมพันธ์ ทางการเมืองทั้งภายในแล้วก็ภายนอกประเทศ อีกทั้งเขายัง เป็นผู้นำที่กุมหัวใจของคนจำนวนมากเอาไว้ได้อย่างเหนียว แน่นด้วย

อวหมินหมิ่นละสายตาจากหน้าจอ แต่ในขณะที่สายตา กำลังปรับภาพอยู่นั้นเอง รถที่ขับก็พุ่งเข้าชนรถคันข้าง หน้า…เธอชนท้ายคนอื่นเข้าเสียแล้ว…

“ให้ตายสิ” อวหมินหมิ่นสบถอย่างหัวเสียและรีบก้าวลง จากรถ

ที่ด้านนอก โรงแรมที่นัดพบ หลินเชื่อต่อสายหายหมิน

หมิ่นนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น หลินเชื่อจึงได้แต่เพียงเข้าไปที่ห้อง ส่วนตัวตามหมายเลขห้องที่อวหมินหมิ่นบอกไว้เพียงลำพัง

กระนั้นเมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปในห้อง เธอก็ได้เห็นผู้คน ข้างในนั้นกำลังยืนโงนเงน บ้างก็นอนอยู่กับพื้น บ้างก็ยืนตัว มงอ ทุกคนดูน่าประหลาดมาก และเห็นได้ชัดว่าพวกเขา ไม่ใช่คนที่หลินเชื่อจะต้องมาพบในคืนนี้

หญิงสาวงุนงง เธอหมุนตัวตั้งใจจะก้าวออกไปแต่ใครบาง คนคว้าข้อมือของเธอเอาไว้โดยแรงเสียก่อน…
ที่โถงทางเดินด้านนอก ไม่มีใครพบเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เซน รายืนถือโทรศัพท์พลางกระตุกยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก เธอกรอก เสียงลงไปในโทรศัพท์ว่า “ฉันมาถึงแล้ว หลินลี่ ขอบคุณที่ อุตส่าห์บอกนะว่าหล่อนจะมาที่นี่คืนนี้… ฉันจะจัดหนักชนิดที่ ทําเอาหล่อนกลับออกไปไม่ได้เลยทีเดียวล่ะ

ก่อนที่หลินเชื่อจะทันได้ตั้งตัว เธอก็ได้ยินเสียงตำรวจที่บุก เข้ามา

“ทุกคน หยุด อย่าขยับ วางยาเสพติดในมือลงแล้วยืนหัน หน้าให้ผนังห้องทีละคนนะ

ยาเสพติดงั้นเหรอ

หลินเซ่อเหลียวมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง เมื่อได้ เห็นสิ่งแปลกตาบางอย่างที่กระจายเกลื่อนอยู่ทั่วห้องและผู้คน ประหลาดๆ เหล่านั้น เธอก็เข้าใจได้ในที่สุด ความเย็นยะเยือก แล่นเข้าเกาะกุมหัวใจ

ถ้านักแสดงเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เธอหรือ เขาเหล่านั้นจะต้องเจอกับอะไร

ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยมีตัวอย่างให้เห็นหรอกนะ….

กู้จิ้งเจ๋อกำลังอยู่ที่ออฟฟิศของเขา และไม่อุ้ยหลิง โทรศัพท์เข้ามาขัดจังหวะการทำงานของเขาอีกครั้งแล้ว

ชายหนุ่มเริ่มอุ่นใจ ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา โม่ฮุ่ยหลิง คอยไล่ตามเขาชนิดไม่ลดละและรบกวนการทำงานของเขาเป็นอย่างมาก

เสียงของหล่อนเอ่ยขึ้นว่า จิ้งเจ๋อคะ นี่คุณจะยังไม่กลับมา นอนคืนนี้อีกเหรอคะ

หลังจากวันแรกที่เขาอยู่ค้างด้วย เขาก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี เท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้พอวันที่สองเขาจึงหาข้ออ้างว่างานยุ่งและไม่ ได้ไปที่นั่นอีก

แต่แล้วโม่ฮุ่ยหลิงก็เริ่มกระหน่ำโทรมาไม่หยุดเพื่อถามถึง งานของเขาว่าเป็นอย่างไรจนทำให้เป็นการยากสำหรับเขาที่จะ บอกปัดเธอ

“ยังยุ่งๆ อยู่นิดหน่อยนะ ฮียหลิง ถ้าเธอเบื่อละก็ฉันจะให้ ฉินเฮ่าส่งรถไปรับเธอก็ได้นะ เธอจะได้ไปชอปปิ้ง ฉันสั่งคนให้ ทิ้งเครดิตการ์ดเอาไว้ให้เธอใช้แล้ว หรือถ้าเธออยากจะไป ชอปปิ้งที่ต่างประเทศก็เอาเครื่องบินของตระกูลไปได้เลย มัน จอดว่างอยู่ที่บ้านแน่ะ”

(ฉันไม่ได้ต้องการอย่างนั้นค่ะ จิ้งเจ๋อ เกิดอะไรขึ้นเหรอ คะ นี่คุณเบื่อฉันแล้วเหรอ นี่ฉันตามซื้อคุณมากเกินไปใช่มั้ยคะ คุณพยายามจะไล่ฉันไปให้พ้นๆ เหรอคะ

กู้จิ้งเจ๋อนวดหว่างคิ้ว “เปล่า เธอคิดมากไปเองนะ

ฉินเฮ่ายังคงยืนรออยู่ข้างๆ จิ้งเจ๋อโบกมือและส่ง สัญญาณบอกว่าให้รออีกหน่อยและหันไปพูดกับโม่ฮุ่ยหลิงใน โทรศัพท์ว่า “ฉันจะออกนอกเมืองไปจัดการธุรกิจสักสองสามวัน เด็กหัวใจของโม่ฮุ่ยหลิงยุบแป๊บเมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนั้น

เธอทำได้แต่เพียงรับรักนะคะจิ้งเจ๋อ

โม่ฮุ่ยหลิงไม่อาจกดดันเขามากไปกว่านี้ได้ เธอกลัวเหลือ เกินว่าจิ้งเจ๋อมาก แต่ในขณะเดียวกันให้เธอทิ้งระยะห่างจากเขา ไปเลยทำไม่ได้เหมือนกัน ไม่งั้นจิ้งเจ๋อคงไปอยู่ กับนังแพศยา

เธอทำได้แค่สายโทรศัพท์และครุ่นคิดเธอควรจะทำ อย่างไรดีจึงจะได้ครอบครองเขาโดยสมบูรณ์

เจ๋อจะเดินทางไปต่างประเทศ

ข้างตัวฉินเฮ่ามองเห็นจิ้งเพื่อวางสายโทรศัพท์แล้ว เอ่ยขึ้นว่า “ท่านครับ สนามบินครับ กำหนดเวลาเทคออฟเอาพร้อมกับกองบิน แห่งชาติซึ่งพร้อมจะบินในครึ่งชั่วโมงนี้แล้ว ท่าน ต้องการสนามบินเลยหรือเปล่าครับ

“ตกลง เตรียมตัวได้เลย เราจะสนามบินกัน

จิ้งเจ๋อขึ้นและเดินออกไป

ฉินเฮาถึงหลินเชื่อขึ้นได้ เขาเห็นว่าผู้เป็นเจ้านายไม่ สนใจหญิงสาวมาสองสามแล้ว
“ท่านครับ เราจะต้องแจ้งคุณผู้หญิงให้ทราบหรือเปล่า

ครับ*

สีหน้าของจิ้งเจ๋อหม่นลง

“ไม่ต้องหรอก”

หลินเชอเหรอ

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เธอไม่โทรหาเขาแม้แต่ครั้ง

เดียว

เธอทำหน้าที่และเติมเต็มความรับผิดชอบในฐานะภรรยา ตามสัญญาได้เป็นอย่างดี

ในขณะเดียวกันนั้น…..

ที่กรมตำรวจพิเศษ หลินเชื่อกำลังถูกสอบปากคำในฐานะ ที่เธอเป็นนักแสดง

“สารภาพมาเถอะ หลินเชื่อ ที่นี่คุณไม่ได้เป็นดาราแล้วนะ แต่เป็นอาชญากร อุบายแบบนี้มันใช้กับเราไม่ได้หรอก” เจ้า หน้าที่สืบสวนเขม่นมองเธออย่างข่มขู่ เขาเกลียดพวกดารา ที่สุด ถึงพวกเขาจะดูสูงส่งและมีอำนาจแต่ความจริงแล้วก็ล้วน แต่เป็นตัวปัญหาทั้งสิ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ