แฟลช แต่งงาน ภรรยา

ตอนที่ 12 โม่ฮุ่ยหลิงมาเยือน



ตอนที่ 12 โม่ฮุ่ยหลิงมาเยือน

หลินเชื่อชะงักไปก่อนจะหันกลับมามองเขา “เรายังต้องอยู่กัน อีกนานค่ะ คุณไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหลินหรอก ฟังแล้วน่า อึดอัดจะตายไป

จิ้งเพื่อชะงักแล้วพยักหน้าในที่สุด “โอเค หลินเชื่อ

เขามองดูเธออย่างมีความหมายเมื่อพูดว่า “เรื่องที่เกิด ขึ้นในวันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต… ปกติแล้วฮุ่ยหลิงไม่ค่อย จะมาที่นี่บ่อยนักหรอก อาจเป็นเพราะเธอยังปรับอารมณ์ไม่ ค่อยได้ดีนัก”

“อ้อ ไม่เป็นไรเลยค่ะ ถึงยังไงฉันก็เข้าใจดีที่เธอโกรธแบบ นั้น ถ้าเป็นฉันก็คงทนไม่ได้ ต้องรีบแจ้นมาสอบสวนคนที่เป็น ศัตรูหัวใจถึงที่แบบนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นฉันเข้าใจดี คุณ เอาเวลาไปใส่ใจเรื่องของเธอเถอะค่ะ”

จิ้งเจ๋อเลิกคิ้ว ขณะที่มองดูหญิงสาวพยายามชี้แจงอย่าง ร้อนรน สายตาของเขาก็ดูจะเคร่งขรึมขึ้นก่อนจะก้มหน้าลงดัง เดิม

วันต่อมา

หลินเชื่อตามอวหมินหมิ่นไปเพื่อออดิชันบทของเธอ อวหมินหมิ่นบอกกับเธออย่างอารมณ์ดีว่า “ซีรีส์โทรทัศน์เรื่องนี้เป็นแนวดราม่าลึกลับเหนือธรรมชาติที่สร้างจากหนังสือ

นิยาย เพราะฉะนั้นเนื้อเรื่องก็เลยแข็งแรงมาก พระเอกของ

เรื่องคือกู้จิ้งอวี่ ส่วนนางเอกคือเฝยหราน บทที่เธอกำลังจะไป

ทดสอบนี่เป็นบทนักแสดงสมทบที่เป็นนักล่าผี นี่เป็นบทที่

สำคัญบทหนึ่งเลยทีเดียวนะ เพราะฉะนั้นถ้าเธอคว้าบทนี้มาได้

มันก็จะดีกับตัวเธอเอง

หลินเชื่อพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้เจ้าตัวจะรู้สึกว่าบท สำคัญแบบนี้มักจะไม่ค่อยตกมาถึงมือ ด้วยเธอไม่ค่อยจะมี โอกาสได้มาออดิชั่นบทแบบนี้เท่าไรนัก ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึง ตั้งตารอที่จะได้เข้ารับการทดสอบเป็นอย่างยิ่ง

“ขอบคุณมากเลยนะคะที่บริษัทอุตส่าห์ให้โอกาสนี้กับฉัน หญิงสาวกล่าว

อวหมินหมิ่นมองดูเธอด้วยสายตาแฝงความหมาย “ไม่ ต้องพูดอะไรแบบนั้นหรอก เธอเองก็พยายามอย่างหนักเพื่อให้ ได้โอกาสนี้เหมือนกัน บอกตามตรงนะ ฉันเองก็ไม่ได้ตั้งความ หวังอะไรกับเธอไว้สูงนัก แต่ในเมื่อเธอก็มาอยู่ที่นี่แล้วก็ขอให้ เธอทําออกมาได้ดีก็แล้วกัน”

หลินเชื่อพยักหน้า “โอเคค่ะ ฉันจะพยายามนะคะพี่อ

หลินเชื่อค่อนข้างคุ้นเคยกับการทดสอบบทในรูปแบบนี้ เธอเลือกสวมชุดกระโปรงสั้นสีฟ้าและแต่งกายอย่างพิถีพิถัน เป็นพิเศษ ทำให้เธอดูสวยสดใสและสะอาดสะอ้าน ยืนรอให้ ถึงคิวตัวเองอย่างใจเย็น
“คนต่อไป หลินเชื่อ

ผู้กำกับและทีมงานได้ยินเสียงเรียกจากข้างในและเริ่ม พลิกดูพอร์ตโฟลิโอของเธอ สำหรับนักแสดงสาว โนเนมแบบนี้ เธอดูมีชีวิตชีวาดีทีเดียว แต่ถึงอย่างไรบทสำคัญแบบนี้ก็มักจะ ไม่ค่อยยอมให้นักแสดงหน้าใหม่ได้เล่นนัก จึงเท่ากับว่าก็เป็น เพียงนักแสดงสาวคนหนึ่งที่นายทุนพยายามขอคิวเพื่อให้ได้มา ร่วมคัดตัวด้วยเท่านั้น

ผู้กำกับคิดอย่างท้อแท้ก่อนจะจุดบุหรี่ขึ้นสูบ

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็ได้เห็นหญิงสาวที่ดูใส ชื่อและจริงใจ เธอก้มศีรษะและโค้งอย่างให้เกียรติ เมื่อเธอเงย หน้าขึ้น เขาก็ได้เห็นใบหน้าของเธอที่ออกจะแดงระเรื่อ ดวงตา ของเธอเหมือนทะเลสาบที่มีวงคลื่นกระเพื่อมอยู่ในนั้นยามแสง ไฟส่องลงมากระทบผิวขาวราวกับกระเบื้องของเธอ ขนตายาว ของเธอทำให้แลเห็นเป็นเงารางๆ อยู่ใต้เปลือกตา ส่วนริม ฝีปากนั้นก็เหมือนกลีบดอกซากุระ ความงามนี้ทำให้ใครต่อ ใครต้องหวั่นไหวด้วยความปรารถนาและอารมณ์ที่ปั่นป่วน หัวใจได้เลยทีเดียว

ในอุตสาหกรรมบันเทิงที่การทำศัลยกรรมพลาสติกกลาย เป็นเรื่องปกติธรรมดา การได้เห็นนักแสดงสาวที่มีค วที่มีความงาม อย่างธรรมชาติโดยแท้เช่นนี้นับเป็นของหายาก

เขารีบก้มลงแล้วพลิกดูพอร์ตโฟลิโอของเธอโดยไว หลินเชื่อ อายุยี่สิบสามปี หญิง เธอนักแสดงหน้าใหม่โดยแท้ บางบทที่เธอได้รับไม่มีชื่อตัวละครเลยด้วยซ้ำ

แต่ถึงอย่างไรความสวยบอบบางของเธอที่ปรากฏให้เห็น อยู่นี้ก็ยากที่จะลืมเลือนได้ลง ทั้งห้องเงียบกริบจนแทบจะได้ยินเสียงเข็มตกกระทบพื้น ความสนใจของทุกคนพุ่งไปยังหญิงสาวที่ดูราวกับกระเบื้อง เคลือบบนเวทีผู้นั้น เธออยู่ในชุดสีฟ้าที่ทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือน

ตกลงไปทะเลสาบและลอยละล่องออกไปอย่างไร้ทางหนี

หลินลี่เองก็มาออดิชันบทนี้ด้วยเช่นกัน เมื่อเธอดึงม่าน ออกและได้เห็นหลินเชื่อยืนอยู่หน้าเวที เธอก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อได้ เป็นปฏิกิริยาที่ทุกคนมี เธออดคิดอย่างขัดเคืองไม่ได้ว่าวันนี้ หลินเช่อดูสวยบาดตาเสียจริง

นี่ยัยเด็กกะโปโล นโตเป็นสาวสวยเฉิดฉายแบบนี้ตั้งแต่ เมื่อไหร่กัน

หลินเชื่อสูดลมหายใจเข้าลึกและเริ่มท่องตามบทพูดที่เธอ

ถือเอาไว้ในมือ เมื่ออ่านจบ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดีนัก

และออกจะไม่มั่นใจเล็กน้อย เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากับทุกคนก็

ยิ่งทำให้เธอยิ่งรู้สึกขัดเขิน ในใจของหญิงสาวเฝ้าคิดว่า ครั้งนี้

เธอก็คงจะทำพังอีกแล้วสินะ แต่ก็นั่นแหละ เธอไม่ได้หวังอะไร

สักหน่อย ช่วงสองสามปีที่เรียนจบจากโรงเรียนการแสดงมานี้

เธอได้ไปเข้าร่วมการทดสอบที่มีบทแบบนี้ตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

เธอชินกับความผิดหวังมาหลายปีแล้วละ

“ผู้กำกับคะ ฉันแสดงจบแล้วค่ะ
“โอเค” ผู้กำกับเอาแต่อ่านพอร์ตโฟลิโอจนแทบไม่ได้มอง

ดูเธอ

หลินเชื่อเดินออกมาเงียบๆ

อวหมินหมิ่นเดินเข้ามาหา โดยไม่ทันตั้งตัวก่อนที่เธอจะได้ ออกไป น้ำเสียงของอีกฝ่ายทั้งยินดีและช็อกไปพร้อมกันเหมือน กับว่าเจ้าตัวเองก็แทบไม่เชื่อ “หลินเชื่อ เธอได้รับเลือกให้เล่น บทคนล่าผีนะ เฉินอี้หัน รีบกลับไปเตรียมตัวให้พร้อม บริษัทจะ จัดเตรียมเรื่องเป็นตัวแทนของเธอในการทำสัญญาเอง

หลินเซ่อคิดว่าเธอหูฝาดจนนิ่งงั้นไม่ได้ตอบอะไรอยู่ครู่

ใหญ่

นี่เธอถูกเลือกงั้นหรือ ช็อกสุดๆ ไปเลย

ในตอนแรกเธอก็ไม่ได้หวังอะไรมากเลย แต่ตอนนี้เธอ รู้สึกราวกับถูกลอตเตอรี่

“ขอบคุณค่ะพี่หมินหมิ่น ฉันจะรีบกลับไปเตรียมตัวให้ดี

อวหมินหมิ่นมองดูเธอด้วยสายตาแปลกความหมายอีก ครั้งก่อนจะยิ้มให้ “โอเคจะ กลับไปเตรียมตัวนะ

เธอไม่คิดว่าเธอจะได้รับเลือกจริงๆ บทนี้เป็นบทสำคัญ มากบทหนึ่ง มีผู้สมัครเข้ามาทดสอบบทมากมาย ในขณะที่เธอ เองเป็นเพียงดาราหน้าใหม่

หลินเชื่ออยู่ในอารมณ์ที่วิเศษอย่างสุดๆ เมื่อกลับถึงบ้าน แต่ทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในตัวบ้าน เธอก็ได้เห็นหญิงสาวผู้หนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาตัวที่กู้จิ้งเจ๋อมักนั่งเป็นประจำ

โม่ฮุ่ยหลิงมาที่นี่จริงๆ

หลินเซ่อคิดในใจว่าถึงแม้เธอจะแต่งงานหลอกๆ กับจิ้ง เจ๋อ แต่การต้องมาเผชิญหน้ากับโม่ฮุ่ยหลิงก็ยังเป็นเรื่องน่า กระอักกระอ่วนอยู่ดี

เธอนึกอยากให้เขาเลือกสถานที่อื่นสำหรับการออกเดท ในวันข้างหน้า เพราะแบบนี้มันน่าอึดอัดเกินไป

แต่ถึงอย่างไร ไม่ยุ่ยหลิงก็มานั่งอยู่อย่างนี้แล้ว หลินเชื่อ จึงกัดฟันยิ้มและทักทายออกไปว่า “สวัสดีค่ะ คุณมาถึงที่นี่เลย เหรอคะ งั้นฉันขอเข้าบ้านก่อนแล้วกันนะคะ เชิญพวกคุณตาม สบาย”

โม่ฮุ่ยหลิงผุดลุกขึ้นและพ่นลมออกทางจมูกอย่างเหยียด หยัน เธอมองดูหลินเชื่อแล้วพูดว่า “ทำไมเธอจะต้องเดินหนี และพยายามหลบเลี่ยงฉันด้วย ยังไงเราก็ต้องเจอหน้ากันไม่ช้า ก็เร็ว”

อะไรกันนี่

หลินเชื่อยืนงง แต่แล้วเธอก็รู้สึกได้ถึงความเย็นชาใน สายตาของโม่ฮุ่ยหลิง มันเด่นชัดมากเสียจนไม่อาจมองข้ามไป ได้

โม่ฮุ่ยหลิงมองหน้าอีกฝ่ายแล้วพูดต่อไปว่า บอกฉันแล้วเมื่อวานนี้ว่าเขาถูกครอบครัวบังคับให้แต่งงาน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอจะใช้เล่ห์กลแบบไหนถึงทำให้ตระกูล เห็นดีเห็นงามกับการแต่งงานครั้งนี้ได้ แต่ฉันก็อยากจะพูดกับ เธอให้ชัดเจนว่า ฉันกับจิ้งเจ๋อรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เราเป็นคู่รัก กันมาแต่เล็กแต่น้อย แล้วเราก็รักกันดีมาโดยตลอด เพราะ ฉะนั้นมารยาของเธอไม่สามารถแยกเราสองคนได้หรอกนะ ฉัน หวังว่าเธอจะเข้าใจว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไร ฉันรู้ว่าจิ้งเพื่อ เป็นคนดี แต่เขาก็มีชื่อเสียงและสูงส่งเกินกว่าที่เธอคิด เพราะ ฉะนั้นจะเป็นการดีที่สุดถ้าเธอเข้าใจว่าเขาเป็นผู้ชายที่อยู่เกิน เอื้อมสําหรับเธอ! ”

ทันใดนั้นเอง ความรู้สึกชื่นชมก็หายวับไปจากสีหน้าของ หลินเชอ

เมื่อเธอพิจารณาดูหญิงสาวผู้งามสง่าตรงหน้า หลินเชื่อก็ หัวเราะออกมาอย่างประชดประชันและพูดว่า “ในเมื่อคุณหนูไม่ เพิ่งบอกออกมาเต็มปากว่าคุณเชื่อมั่นในตัวเขาเต็มที่ ถ้าอย่าง นั้นทำไมคุณถึงยังจำเป็นจะต้องมาบอกฉันเรื่องนี้อีกล่ะคะ คุณ น่าจะสบายใจได้นะคะ คุณหนูโม่ ฉันเองก็ไม่ได้อยากแต่งงาน กับเขาเหมือนกัน มันเป็นอุบัติเหตุโดยแท้ ฉันจะไม่เข้าไปข้อง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกคุณ อย่างที่คุณบอกนั่นแหละค่ะ ว่าพวกคุณเชื่อใจกันและกัน เพราะงั้นฉันก็ขอให้คุณเชื่อใจเขา ต่อไปเถอะ”

เมื่อได้เห็นความไม่แยแสของหลินเชื่อ ใบหน้าของโม่ฮุย หลังก็ยิ่งเกรี้ยวกราดขึ้น “ใช่ ฉันเชื่อในเขา แต่ฉันก็ไม่อาจ เพิกเฉยกับความจริงที่ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมแค่ไหนได้เหมือนกัน มีผู้หญิงมากมายที่สนใจในตัวเขา เธอไม่ใช่คนแรก แล้วก็จะไม่ใช่คนสุดท้ายด้วย คุณหลิน ฉันก็เลยอยากจะเตือน ให้เธอระวังตัวเอาไว้ จึงเจอรักฉันและรักเพียงคนเดียวเท่านั้น เขาไม่มีวันหันไปสนใจผู้หญิงอื่น ถ้าฉันรู้ว่าเธอทำอะไรกับเขา ล่ะก็ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่

หลินเซ่อพ่นลมพริ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ